ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 1 : อุปราชองค์ใหม่ (1)

ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 1 : อุปราชองค์ใหม่ (1)

โดย : พิมพ์อักษรา

Loading

ซ่อนรักในรอยกาล โดย พิมพ์อักษรา กับผลงานนวนิยายแนวอิงประวัติศาสตร์อิงประวัติศาสตร์อ่านง่าย ว่าด้วยทฤษฎีหนึ่งในตำนานประวัติพระนางจามเทวีกับพระสวามีที่แทบไร้หลักฐาน ผ่านเกมการเมืองในอาณาจักรทวารวดี อันมีชายปริศนาแฝงตัวเข้ามาอยู่เบื้องหลังเกมชิงบัลลังก์ครั้งใหญ่นี้ ติดตามได้ในเพจ อ่านเอา และ anowl.co

แสงเรื่อเรืองแห่งทิวากาลฉาบผืนนภาเป็นสีกุหลาบอันคล้ายละลายไปกับสีทองมลังเมลือง ก่อเกิดแสงงดงามประหลาดต้องยอดเจดีย์เรียงรายตลอดจนมหาปราสาทโอ่อ่า เกิดประกายระยิบระยับ ทอดจับผืนน้ำกว้างใหญ่ไพศาลอันแน่นขนัดด้วยขบวนเรือจากนครใกล้เคียงแลต่างถิ่นต่างแดนมากมาย โดยมากเป็นพ่อค้าวาณิชจากทั่วสารทิศ ซึ่งล้วนมีปลายทางอยู่ ณ ลวปุระอันมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์

ตะวันค่อยๆ พ้นเหลี่ยมเขาทีละน้อย จากเนินสูงที่ฤๅษีทั้งสองยืนสังเกตการณ์อยู่นั้น มองเห็นภาพความเคลื่อนไหวทั้งในและนอกกำแพงเมืองตลอดลำน้ำได้เป็นอย่างดี ภาพอันแสดงความยิ่งใหญ่รุ่งเรืองแห่งนครละโว้ ที่ผู้คนล้วนยกย่องขนานนามให้เป็นเพชรยอดมงกุฎแห่งทวารวดี

ว่ากันว่าไม่มีนครใดครองอำนาจในทวารวดีได้ยาวนานแท้จริง ต่างผลัดกันขึ้นครองความรุ่งเรืองไปตามยุคตามกาล…

ทว่าในกาลนี้ ตลอดเจ็ดชั่วคนแห่งการสืบราชบัลลังก์จันทร์เสี้ยวจนถึงรัชสมัยแห่งจักวัติวิราชเจ้า

เป็นยุคทองของละโว้แน่แท้…

“ดูเถิดท่านวาสุเทพ พิธีแต่งตั้งอุปราชนครละโว้นั้นหาใช่งานเล็กน้อยไม่ ทูตานุทูตทั่วแว่นแคว้นในแผ่นดินตลอดทางทะเลล้วนแต่งขบวนกันมายิ่งใหญ่พร้อมหน้า ช่างน่าภูมิใจแทนเจ้าชายกัษษกรยิ่งนักสำหรับเกียรติยศยิ่งใหญ่เช่นนี้” ผู้พูดเป็นชายร่างผอมแห้ง ผิวเนื้อยับย่นอย่างคนชรา หากยังดูกระฉับกระเฉงแข็งแรง แววตาแจ่มใส ส่วนผู้ที่ถูกขานนามวาสุเทพนั้นรูปร่างสูงใหญ่ หลังไหล่หยัดตรงมิงองุ้มดั่งคนเฒ่า มีเพียงผมสีดอกเลาเป็นริ้วข้างขมับใต้ผ้าโพกสีขาวริ้วทองที่บ่งบอกว่าได้ล่วงผ่านวัยกลางคนจนเข้าสู่วัยปลายเนิ่นนานแล้ว

เขาหัวเราะเบาๆ ประกายตารื่นรมย์ไม่แพ้กัน

“แม้มิใช่สายเลือดละโว้แต่กำเนิด หากก็นับเป็นราชบุตรแห่งละโว้โดยชอบธรรม ได้เฉลิมพระยศเป็นอุปราชนั้นก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว อีกทั้งการที่เจ้าเมืองทั้งหลายมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีทรงเกียรตินี้ก็นับเป็นการยอมรับเจ้าชายกัษษกรโดยถ้วนหน้า บัดนี้เขาจักมิใช่เพียงเจ้าชายเล็กๆ จากไชยาอีกแล้ว”

“เขาหาใช่เจ้าชายเล็กๆ แต่ไหนแต่ไร ต้องสำคัญแลมีดีพอตัว มิเช่นนั้นศรีวิชัยมิส่งเขามาหรอก แล้วดูเถิด ครานี้ทางนั้นก็แต่งขบวนทูตแลทัพมายิ่งใหญ่มิน้อยหน้าผู้ใด สมศักดิ์ศรีเจ้าชายแห่งไชยายิ่งนัก”

“เป็นการประกาศศักดาให้ทุกแว่นแคว้นยำเกรง ว่าศรีวิชัยกับละโว้มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น แลเพิ่มหนุนบารมีให้เจ้าชายกัษษกรยิ่งขึ้น” วาสุเทพฤๅษีมองขบวนเรือยาวเหยียดจากแคว้นไชยาที่เพิ่งเทียบท่าด้วยแววตาครุ่นคิด “แต่ก็ดีเหมือนกัน หากผู้ใดคิดปองร้ายกำจัดเจ้าชายกัษษกร จักต้องคิดให้หนัก เพราะเท่ากับประกาศศึกกับศรีวิชัย นับว่าเดินหมากได้ชาญฉลาดนัก”

“นั่นสิหนอ…” สุกกทันตฤๅษีถอนหายใจ เบือนหน้าไปทางขบวนทูตานุทูตจากจันเสนที่เพิ่งผ่านเข้าประตูเมืองทางตะวันตก และคณะชาวอู่ทองที่แต่งขบวนเอิกเกริกรอท่าทางประตูทิศใต้

“ด้วยตำแหน่งอุปราชนั้นช่างล่อตาบาดใจ นับว่ายังดีที่เจ้าชายพระองค์อื่นล้วนมิสามารถอ้างสิทธิ์อันชอบธรรมในราชบัลลังก์ได้ ด้วยมิได้สืบสายสันตติวงศ์แห่งลวปุระโดยตรงทั้งสิ้น หากกระนั้นก็ยังนับว่ามีสายโลหิตเกี่ยวดองเป็นวงศ์เวหะมากกว่าเจ้าชายจากแดนทะเลใต้อันไกลโพ้นอย่างไชยา ดังนั้นแล้ว สิ่งที่เจ้าชายกัษษกรต้องการคือกำลังเสริมบารมีที่มั่นคงแข็งแกร่งเช่นนี้แล”

“ราชันพวกเรานั้นช่างอาภัพนัก มีพระชายามากมาย ทว่ากลับไร้โอรสสืบบัลลังก์แม้แต่องค์เดียว แล้วดูพระธิดาเล่า เพียบเป็นโขยง” ฤๅษีวาสุเทพโคลงศีรษะ “ท่านสุกกทันตะ ในฐานะที่ท่านพำนักในละโว้มายาวนานกว่าข้า พอตอบได้หรือไม่เล่า ว่าเพราะเหตุใดพระเจ้าจักวัติถึงมิเลือกพระญาติชายสักพระองค์ดำรงตำแหน่งอุปราชแทน อย่างน้อยก็ยังอยู่ในวงศ์ทวารวดี”

“ท่านอย่าทำลองภูมิข้าหน่อยเลย ในเมื่อพวกเรานักบวชจากชมพูทวีป เป็นผู้ถวายคำสอนระบบการปกครองแก่บรรดากษัตริย์ใหญ่น้อยมานับไม่ถ้วน เหตุใดท่านจักมิทราบได้เล่า” ฤๅษีร่างผอมหันมายิ้มรู้เท่าทันสหายจากปาฏลีบุตรผู้เติบโตและร่ำเรียนมาด้วยกัน ก่อนค่อยลองแยกจาริกไปตามวิถีตน แล้วกลับมาพบเจอกันอีกคราในดินแดนสุวรรณภูมิ “ก็เพราะเจ้าชายเหล่านั้นสืบเชื้อสายจากนครที่เรียกตนว่าเครือญาติแต่แท้จริงมิได้นับถือรักใคร่กันอย่างไรเล่า แคว้นจันเสนก็ดี ศรีเทพ อู่ทอง มิใช่รอวันเถลิงอำนาจรุ่งเรืองในละโว้ สร้างสมกำลังแลบารมีเพื่อพวกพ้องฝั่งตนหรอกหรือ ไม่ว่าแคว้นใดเมืองใดก็ต้องการเป็นใหญ่ในทวารวดีทั้งสิ้น หาได้สมัครสมานสามัคคีกันไม่ แต่พร้อมที่จะหักหลังช่วงชิงอำนาจในราชบัลลังก์ได้ทุกเมื่อ ด้วยประการฉะนี้แล พระเจ้าจักวัติวิราชจึงดำริว่า สู้หาเลือดขัตติยะที่ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับละโว้มาเลี้ยงดูอุ้มชูเป็นรัชทายาท จากนั้นให้อภิเษกกับเจ้าหญิงที่สืบสายโลหิตโดยตรงจากพระองค์ยังจะควบคุมได้ง่ายกว่า ทั้งยังได้ชื่อว่ารักษาเลือดบริสุทธิ์ละโว้อย่างน้อยก็ตั้งครึ่ง แต่จักกล่าวเช่นนั้นก็เสมือนดูแคลนเจ้าชายกัษษกรเกินไป อย่างไรพระองค์ก็เป็นลูกศิษย์ที่ข้ารักแลภาคภูมิใจยิ่งนัก”

“นับแต่นี้ชีวิตเจ้าชายลูกศิษย์ท่านจักไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้อาจไม่มีเจ้าชายพระองค์อื่นคิดปลดอำนาจแย่งชิงตำแหน่งอุปราชแล้ว แต่เขาจักกลายเป็นที่หมายปองของบรรดาเจ้าหญิงทั้งหมดในราชวงศ์ ดูทีจะไม่ได้เห็นศึกชิงนาง น่ากลัวจะเป็นศึกชิงบุรุษเสียมากกว่า”

“ศิษย์เอกของท่านวาสุเทพมิแคล้วต้องลงสนามด้วยน่ะสิ” สุกกทันตฤๅษีหัวเราะในลำคอ เสริมว่า

“เจ้าหญิงชวาลาก็ถือเป็นศิษย์คนหนึ่งของข้าเหมือนกัน เคยได้สั่งสอนอบรมวิชาการคลังการค้าให้อยู่บ้าง ทรงปรีชาสามารถฉลาดเฉลียวเป็นที่ประจักษ์ทั่ว อย่างไรก็ได้เปรียบเจ้าหญิงองค์อื่นๆ”

“ข้ามิเคยอยากให้พระนางต้องอยู่ในวังวนเช่นนั้นเลย” วาสุเทพฤๅษีทอดถอนใจ “หากก็จนใจ ชีวิตพระนางแลเจ้าหญิงทั้งหลายในละโว้ล้วนถูกลิขิตให้ต้องช่วงชิงสถานะอัครมเหสีทั้งนั้น แม้ข้ากับทางรักตมปุระได้อบรมสั่งสอนพระนางให้เพียบพร้อมทุกด้านเหนือกุลนารีใดในราชสำนัก หรือมีวิชาความรู้ฉลาดปราดเปรื่องยิ่งกว่าราชบุรุษบางองค์เสียอีก แต่อย่างไรกฎก็ต้องเป็นกฎ ในแว่นแคว้นแดนนี้ผู้จักเถลิงราชย์ได้จำต้องเป็นบุรุษเท่านั้น”

“ข้าว่าถึงกระนั้นเจ้าหญิงชวาลาก็ยังได้เปรียบพระนางอื่นอยู่ดี” ดาบสร่างเล็กว่า “ทางรักตมปุระก็ ‘เตรียมพร้อม’ มาแต่ไหนแต่ไร หากไม่มีใครเล่นกลตุกติก คบคิดทางร้ายแล้ว ตำแหน่งพระชายาเอกของอุปราชและว่าที่อัครมเหสีกษัตริย์ละโว้ก็ต้องเป็นของพระนางชวาลาอย่างมิต้องสงสัย”

“อืม…” วาสุเทพฤๅษีเคาะไม้เท้ากับพื้นอย่างใช้ความคิด “เพราะอย่างนั้น ข้าถึงยังวางใจกลับแดนเหนือไม่ได้ จนกว่าจะส่งพระนางถึงฝั่งเสียก่อน”

“มินานเกินรอหรอกหนา” สุกกทันตฤๅษีเข้าใจความกังวลของสหายดี “อย่างน้อยในพิธีวันพรุ่งก็น่าจะพอเห็นอันใดอยู่บ้าง”

“เช่นนั้นพวกเราก็รีบกลับเข้าวังกันเถิด ประเดี๋ยวเขาจะสงสัยว่าปุโรหิตทั้งสองหายไปไหน”

“พูดอย่างกับพวกเราสำคัญออกหน้าออกตานักแล” อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอ “เป็นอาจารย์เงียบๆ มิต้องโดดเด่นอันใดย่อมดีที่สุด จะได้ช่วยเหลือเจ้าชายเจ้าหญิงของพวกเราได้เต็มที่ มิมีผู้ใดเพ่งเล็งสงสัย”

 



Don`t copy text!