ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 2 : เลือกคู่ (1)

ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 2 : เลือกคู่ (1)

โดย : พิมพ์อักษรา

Loading

ซ่อนรักในรอยกาล โดย พิมพ์อักษรา กับผลงานนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อ่านง่าย ว่าด้วยทฤษฎีหนึ่งในตำนานประวัติพระนางจามเทวีกับพระสวามีที่แทบไร้หลักฐาน ผ่านเกมการเมืองในอาณาจักรทวารวดี อันมีชายปริศนาแฝงตัวเข้ามาอยู่เบื้องหลังเกมชิงบัลลังก์ครั้งใหญ่นี้ ติดตามได้ในเพจ อ่านเอา และ anowl.co

https://www.groovebooks.com/blog/นิยายใหม่จาก-groove-next-anowl-ลูกองุ่น-เปิดให้สั่งจอง-25-มี-ค-67/62

เจ้าชายกัษษกรผู้บัดนี้เฉลิมพระนามรามราชยังโปรดการเสด็จไปไหนมาไหนเป็นขบวนเล็ก ไม่นิยมความเอิกเกริก ไม่ต้องการเครื่องยศประดับแลทรัพย์สมบัติอื่นใดเพิ่มเติมเกินจำเป็น มิแคล้วพระราชบิดาต้องทรงกำชับกึ่งบังคับให้รับแลนำออกมาแสดงให้สมพระยศเจ้าชายอุปราชลวปุระเสียบ้าง

กระนั้นกัษษกรก็ยังกระดากพระทัย ด้วยทรงเจียมองค์เสมอมาว่ามิได้สืบสายโลหิตเกี่ยวดองกับวงศ์ทวารวดี หากกลับได้รับยกย่องเป็นใหญ่ในละโว้ ข้ามหน้าพระญาติพระวงศ์ทุกพระองค์ ทุกคราที่เสด็จออกสู่ธารกำนัลจึงมักวางองค์เรียบง่าย รับสั่งแต่น้อย ถ่อมองค์กับผู้อื่นเสมอ มิประสงค์ให้เป็นจุดสนใจใดๆ

หลังพระราชพิธีอภิเษกขึ้นเป็นอุปราชรามราช เจ้าชายกัษษกรต้องตระเวนเสด็จสักการะทุกวัดวาอารามในลวปุระเพื่อเป็นสิริมงคลเอาฤกษ์เอาชัย แลเพื่อแสดงตนเป็นพุทธมามกะที่ดี เหมาะสมต่อการขึ้นครองราชย์สืบไปในกาลข้างหน้า

นอกเหนือจากการอ่านเขียนแลทำการค้าอันเป็นเรื่องที่ทรงโปรดปรานอย่างยิ่ง การเสด็จเยี่ยมเยือนอาราม สนทนาธรรม ไปจนถึงปฏิบัติสมาธิเป็นกิจกรรมที่พระองค์เต็มพระทัยทำ มิได้รู้สึกถูกบังคับว่าเป็นหน้าที่ ด้วยทุกคราที่เข้าเขตธรรมจักร จักยังความสงบร่มเย็นสู่หฤทัยได้เสมอ

หลายครั้งทำให้ทรงรู้สึกเสมือนได้กลับมาตุภูมิ ด้วยแทบทุกวัดวาอารามอันงดงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตนในลวปุระล้วนมีกลิ่นอายอย่างไชยาซ่อนอยู่ทั้งสิ้น ทั้งพระพุทธรูป วิหาร สถูป เจดีย์ ไปจนถึงรูปประดับทั้งหลาย

พระเจ้าหริมิตรแห่งไชยาเคยรับสั่งเอาไว้ว่า

‘เจ้ามิใช่เพียงตัวแทนแห่งไชยาเท่านั้นหรอกหนาเขนหลวง เจ้ายังได้มีส่วนนำแสงทองแห่งธรรมสู่ดินแดนที่อาจยังมิรู้แจ้ง ได้ขยายขอบเขตแห่งพุทธศาสนาให้กว้างไกลยิ่งขึ้นอีก’

‘ละโว้เองก็มิใช่ดินแดนมิรู้แจ้งมิใช่หรือพระเจ้าข้า’ ยุวกุมารในกาลนั้นสงสัย ‘กลับขึ้นชื่อว่ารุ่งเรืองในธรรมอย่างยิ่ง เดินไปทางใดไม่มีทางไม่พบอาราม…พระอาจารย์สอนลูกมาเช่นนั้น แลเหล่าพ่อค้าวาณิชทั้งหลายที่เคยล่องเรือค้าขายถึงตอนในแผ่นดินก็ล้วนเล่าขานเช่นเดียวกัน’

‘เจ้าจักทำให้ยิ่งขจรไกลแลมั่นคงขึ้น’

เมื่อครั้งนิราศจากมาตุภูมิมาสู่ ‘บ้านใหม่’ กษัตริย์ไชยาได้ส่งช่างฝีมือแลพระสงฆ์จำนวนมากติดตามมาพระโอรสมาด้วย…ความเป็นศรีวิชัยแลไชยาจึงแสดงตัวซุกซ่อนในทุกร่มเงาศาสนสถานในละโว้

เมื่อเสด็จออกจากอารามแห่งที่สาม คมิกก็ปราดเข้าทูลกระซิบ

“เจ้าหญิงบุณฑรารอเสด็จไปวัดร่มสวรรค์ด้วยพระเจ้าข้า”

“เหตุใดข้ามิทราบมาก่อน”

คนสนิทแสดงสีหน้าที่เจ้าชายกัษษกรเข้าพระทัยดี ว่าหาเป็นเรื่องอื่นใดไปได้ นอกจากเรื่องกลุ่มอำนาจต่างๆ ในราชสำนักเร่งส่งเจ้าหญิงของตนมาให้เห็นหน้าค่าตา ทำคะแนนความดีความชอบ

“เช่นนั้นข้าจักเลี่ยงกลับทางท่าน้ำหลังวัด”

“แต่เจ้าหญิงทรงทราบแล้วว่ากระหม่อมมากราบทูลฝ่าบาท”

“ข้าก็มิได้ให้เจ้าปดองค์หญิง” กัษษกรตรัสเสียงราบเรียบ “ทูลพระนางไปว่าข้าเปลี่ยนใจไม่ไปวัดร่มสวรรค์แล้ว แต่มิต้องขยายความต่อว่าข้าจักไปที่ใด”

“แล้วฝ่าบาทจักเสด็จไปที่ใดหรือพระเจ้าข้า”

ดวงเนตรอุปราชรามราชอ่อนแสงลง

“พบองค์หญิงชวาลา เพลานี้คงเพิ่งเรียนวิชาแผนที่กับพระอาจารย์วาสุเทพเสร็จ”

มหาดเล็กหนุ่มรับคำด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ลำพังเจ้าหญิงบุณฑรานั้นไม่เท่าไร แต่พระชนนีของพระนางต่างหากที่มักทำให้เป็นเรื่องใหญ่

ที่จริงเจ้าชายมิใช่คนดื้อรั้น นับว่าอ่อนน้อมถ่อมตนแลว่าง่ายเสียด้วยซ้ำ ทว่าครั้นเป็นเรื่องอิสตรี ก็กลับทรงขึงขังเป็นตัวของตัวเอง มิยอมโอนอ่อนคล้อยตามราชนารีที่พระเจ้าจักวัติหรือมัณฑนาเทวีทาบทามเปิดทางให้เลยสักพระนางเดียว แม้มิได้ประกาศออกมาโจ่งแจ้ง หากเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่าสายพระเนตรของเจ้าชายกัษษกรมีไว้ทอดมองที่เจ้าหญิงเชื้อสายรักตมปุระอย่างพระนางชวาลาเพียงผู้เดียว

เจ้าหญิงกำลังสนทนากับวาสุเทพฤๅษีอยู่เมื่อเจ้าอุปราชมาถึง เมื่อหันมาเห็นเขา พระนางก็แย้มสรวลกว้าง นัยเนตรสุกใสราวเด็กน้อย…พระทัยกัษษกรเต้นผิดจังหวะขึ้นมาอีกครา

“เจ้าพี่เขนมาพอดีเลย หม่อมฉันทำสำเร็จแล้วเพคะ” พระนางรีบชูแผนที่หนังผืนบางอวดเขา

“เส้นทางค้าขายของละโว้ทั้งหมดที่เจ้าพี่ขยายไว้ร่วมกับของเดิม” ชวาลาสำทับเมื่อเห็นเขายังดูงุนงง “หม่อมฉันทำเทียบกับแผนที่ชัยภูมิเมือง พระอาจารย์ชมว่าทำให้เห็นภาพรวมทั้งหมดได้ดี ต่อไปจักช่วยให้วางแผนการใดๆ ได้ง่ายขึ้น เจ้าพี่ลองทอดพระเนตรดูเถิดเพคะ” พระนางพยักพเยิดอย่างกระตือรือร้น

“นอกจากแคว้นใกล้เคียงตามลุ่มน้ำแต่เดิม เจ้าพี่ขยายไปถึงเมืองท่าหลายแห่ง หม่อมฉันเพิ่มไว้ตรงนี้” ชวาลาใช้ดรรชนีวงรอบจุดแสดงเมืองท่าใหม่

กัษษกรขยับเพ่งมองใกล้ๆ “แล้วนั่น…คูน้ำที่เราเพิ่งขุดเพิ่มเพื่อรองรับการขยายเมือง น้องก็บันทึกลงไปเรียบร้อยแล้วกระนั้นหรือ” ยิ่งพิศ เจ้าชายก็ยิ่งอัศจรรย์ใจ “เพียงพี่พาน้องไปชมเขาขุดคูน้ำทำคันดินตรงกำแพงเมืองเพิ่มเติมอยู่หนเดียว น้องก็จดจำจนบันทึกทำแผนที่ลวปุระทั้งหมดได้เยี่ยงนี้เชียวหรือ”

ลวปุระมีชัยภูมิทำเลอันเหมาะสมต่อการเป็นนครหลวงแลศูนย์กลางการค้าอันรุ่งเรืองร่ำรวย ด้วยตั้งอยู่ติดลำน้ำหลายสายอันไหลไปรวมกับแม่น้ำสายใหญ่อย่างลำน้ำพระแดง (1) แล้วจึงไหลลงสู่ท้องทะเลใต้ มีราชธานีด้านหนึ่งตั้งอยู่ติดลำน้ำละโว้ มีคูน้ำแลคันดินล้อมรอบเพื่อป้องกันน้ำท่วมแลข้าศึกศัตรู อีกทั้งยังง่ายต่อการขยายเมือง โดยเฉพาะเมื่อการค้าทางทะเลเฟื่องฟูขึ้นอย่างก้าวกระโดด พ่อค้าวาณิชไพร่ทาสแรงงาน ไปจนถึงนักแสวงโชคหลั่งไหลเข้านครต่อเนื่องมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ลวปุระเป็นนครอันมั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งจากการเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างแผ่นดินตอนในกับแคว้นทางทะเลใต้ทั้งหลายในแดนมลายู (2)

“วาน้อยมีสิบมือหรือกระไร” กัษษกรครางอย่างนึกทึ่ง “แลปัญญาเจ้าก็ช่างหลักแหลมไม่มีสิ้นสุด ให้เรียนรู้ศาสตร์วิชาอันใดน้องก็ปราดเปรื่องไปเสียทั้งหมดราวกับจะเป็นนักปกครองเช่นนั้นแล พี่ไม่เคยเห็นสตรีใดฉลาดรอบรู้อย่างน้องเลย”

“หม่อมฉันได้อาจารย์ดีนะสิเพคะ” เจ้าหญิงชวาลาแย้มสรวลภาคภูมิใจกึ่งขัดเขิน หันไปทางพระฤๅษี “แลคณาจารย์อีกมากมายที่สั่งสอนให้ความรู้หม่อมฉันอย่างไม่เกี่ยงงอนเห็นว่าเป็นสตรี”

เจ้าชายกัษษกรทรงนึกรู้ว่าอีกเหตุผลหนึ่งเป็นเพราะพระเจ้าจักวัติวิราชปราศจากโอรสผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขแท้จริงแห่งตน แม้จักมีกัษษกรมาเป็นตัวแทนสืบบัลลังก์แล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้ปัญญาเป็นอาวุธแก่สายโลหิตแท้จริงอยู่ดี

แลในบรรดากุลนารีชั้นสูงอันเป็นเชื้อสายพระองค์นั้น แทบไม่มีพระนางใดใฝ่ใจเรียนรู้ศึกษาแลมีพระสติปัญญาเทียบเท่าเจ้าหญิงชวาลาได้เลย

“องค์หญิงจะได้เป็นกำลังสำคัญช่วยเจ้าอุปราชได้เจ้าข้า” ฤๅษีทูลพลางยิ้มเอื้อเอ็นดูทั้งสองขัตติยราชที่ตนอบรมสั่งสอนมากับมือ

“ยิ่งกว่ากำลังสำคัญเสียอีก” กัษษกรรับสั่งแล้วก็ชะงักไป มิใช่ด้วยแววเนตรเก้อเขินของเจ้าหญิงชวาลาเพียงประการเดียว ทว่ากลับสะดุดพระทัยในความคิดที่ว่า…วาน้อยเป็นยิ่งกว่ากำลังสำคัญ

วาน้อยรอบรู้เก่งกาจสามารถไปทุกเรื่อง ประหนึ่งขัตติยราชนักปกครองผู้หนึ่งก็มิปาน

 

เชิงอรรถ : 

(1) แม่น้ำเจ้าพระยายุคโบราณ

(2) บริเวณที่เป็นแหลมมลายูในปัจจุบัน กินพื้นที่ส่วนด้ามขวานของแผนที่ประเทศไทยไปจนถึงประเทศมาเลเซีย

 



Don`t copy text!