สาปแสงรัก บทที่ 11 : หยุดเถอะลูก

สาปแสงรัก บทที่ 11 : หยุดเถอะลูก

โดย : ตวงทิพย์ ยุวชิต

Loading

สาปแสงรัก โดย ตวงทิพย์ ยุวชิต เรื่องรักของผู้ชายธรรมดาที่ต้องคำสาปที่ว่า เมื่อพบรักแท้จะพบแต่ความทุกข์ทรมานไม่รู้จักจบสิ้น “อานุภาพ” ชายที่ไม่มีพลังอำนาจเหมือนชื่อของเขาเลย แถมยังไม่มีของวิเศษ เวทย์มนตร์คาถา แล้วเขาจะเอาอะไรไปสู้กับแรงอาฆาตพยาบาทที่สาปส่งข้ามภพข้ามชาติได้ ติดตามเอาใจช่วยเขาได้ในอ่านเอา anowl.co

พี่อ้าย…เลิกทำเถอะ ทำไปก็มีแต่เสียกับเสีย” อนุชร้องขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายพยายามจะเริ่มปั้นพระพุทธรูปแต่ไม่ไปถึงไหนเลย

นับตั้งแต่ฝันถึงเรื่องการส่งเพลงยาวและคำมั่นสัญญา อานุภาพก็ไม่สามารถลบเรื่องราวของแสงและแม่เดือนออกจากความทรงจำได้เลย เขาเฝ้าแต่คิดว่าถ้าหากเขากับนวลดารารักกันมากขนาดนี้ในชาติก่อน แล้วทำไมในชาตินี้เขาถึงทรมานทุกครั้งที่ส่งความรักถึงเธอแม้แค่ทางสายตา อานุภาพคิดถึงคำพูดของอาประณตที่บอกว่าสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตพยาบาทอันแรงกล้า เขาต้องรู้ให้ได้ว่าแรงอาฆาตนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร และใครที่เป็นคนสาปส่งเขา ความคิดนี้รบกวนการทำงานของเขามาก เขารู้และพยายามจะแก้ไขมันอยู่

“พี่ก็แค่ไม่มีสมาธิน่ะ”

“ครึ่งวันแล้วยังขึ้นรูปไม่ได้เลยเนี่ยนะ พี่อ้ายเคยเป็นอย่างนี้ที่ไหนล่ะ หยุดเลย” น้องสาวไม่ได้พูดแต่ปาก แต่มาฉุดมือไว้ด้วย “พอๆ เชื่อนุช”

พี่ชายจำต้องยอมหยุดมือ แล้วเอาผ้าเปียกห่มปูนที่ผสมเตรียมปั้นไว้

“เป็นอะไรไปล่ะโยม ศิลปินไม่มีอารมณ์สร้างสรรค์งานรึ” หลวงพ่อนิลที่ผ่านมาตรวจงานทักขึ้น

“ใจผมไม่สงบเลยครับหลวงพ่อ” อานุภาพบอกตามตรง

“อะไรรบกวนจิตใจโยมล่ะ” หลวงพ่อนั่งลงบนแผ่นหินข้างลานที่ทำไว้ให้พระสงฆ์นั่งปฏิบัติธรรม อานุภาพก็ขยับไปนั่งบนลานหินตรงหน้าท่าน

“คราวก่อนหลวงพ่อบอกผมว่าผมมีสัญญาเก่าเป็นช่างจึงมาทำงานนี้ได้ ผมมีคำถามคาใจเกี่ยวกับสัญญาครับ ผมอยากรู้ว่าสัญญาที่เราเคยให้ไว้ในชาติปางก่อนจะติดตามเรามาด้วยไหมครับ ผมหมายถึงคำมั่นสัญญาน่ะครับหลวงพ่อ”

หลวงพ่อนิลยิ้มน้อยๆ แล้วตอบว่า “มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคนที่เอ่ยคำสัญญานั้นมีจิตที่ตั้งมั่นเพียงใด ถ้าหากจิตตั้งมั่น แน่วแน่ แรงคำสัญญาก็เข้มข้น มีผลข้ามภพข้ามชาติได้”

อานุภาพพยักหน้าว่าเข้าใจ แล้วถามต่อไปอีก “แล้วถ้าหากในชาติก่อนเราทำผิดสัญญา พอมาในชาตินี้ เราจะแก้ไขอะไรได้หรือไม่ครับ”

“มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่เราให้คำมั่นสัญญาต่อเขา หากเขายอมให้อภัยไม่ถือสา กรรมนั้นอาจจะส่งผลน้อยหน่อย หากเขาอาฆาตแค้น ผู้ที่สัญญาก็อาจจะต้องรับทุกข์หนัก ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูว่าความผิดที่ทำนั้นมันหนักหน่วงแค่ไหนด้วยนะโยม”

“แล้วเราจะทราบได้ยังไงครับว่าคนที่อาฆาตแค้นเราคือใคร และเราทำผิดอะไรเขาถึงแค้น”

“ถ้าหากมนุษย์ทุกคนรู้เรื่องทุกเรื่องในภพชาติก่อน โลกนี้คงจะวุ่นวายนะโยมนะ”

“หลวงพ่อช่วยชี้แนะผมด้วยเถอะครับ”

“เรื่องบางเรื่องขึ้นกับบุญกรรมและเวลาที่เหมาะสมนะโยม”

อานุภาพฟังคำของหลวงพ่อนิลแล้วก็ทดท้อใจ เรื่องสาเหตุของความทุกข์ทรมานนี้เป็นเรื่องที่เขาคาดเดาไปเองทั้งสิ้น เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งใดหรือใครเป็นผู้ที่ทำให้เรื่องเป็นไปแบบนี้ แล้วเขาจะไปขอขมาให้ผู้นั้นยกโทษให้เขาได้อย่างไร

“โยมทำปัจจุบันให้ดีที่สุด แล้วชีวิตของโยมจะดีเอง” หลวงพ่อนิลบอกเพียงเท่านั้นท่านก็ลุกขึ้นเดินจากไป อานุภาพกราบหลวงพ่อ ในใจรู้สึกมืดแปดด้าน

คืนนั้นอานุภาพขอให้อนุชกลับไปพักที่เรือนรับแขก เขาตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่าคืนนี้เขาจะต้องรู้ความจริงให้ได้ ชายหนุ่มตั้งจิตอธิษฐานแล้วเริ่มนั่งสมาธิ หวังจะระลึกชาติอีกครั้งให้ได้

ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งหนาว แม้หนาวจนสั่นอานุภาพก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เขานั่งขัดสมาธิอยู่อย่างนั้นตั้งแต่หัวค่ำจนค่อนรุ่ง นอกจากจะหนาวแล้วเขาก็ยังปวดหัวมาก ถึงกระนั้นอานุภาพก็ไม่ยอมถอย แม้เมื่อเริ่มมีเลือดกำเดาไหลเขาก็ยังไม่ถอนจิตจากการพยายามทำสมาธิ จนเมื่อฟ้าใกล้สางอานุภาพก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นในนิมิต เสียงของอาประณตที่บอกเขาว่า “หยุดเถอะลูก…”

อานุภาพไม่ยอมหยุด เขาตั้งจิตทำสมาธิอีกครั้งก็กลับได้ยินเสียงของหลวงพ่อนิลกล่าวว่า “ทำหน้าที่ปัจจุบันให้ดีที่สุดเถอะโยม”

ประโยคนี้เองที่ทำให้อานุภาพได้คิด เขาถอนจิตออกจากการทำสมาธิแล้ว ตัดสินใจกลับไปพักผ่อนที่เรือนรับแขก เมื่อกินอิ่มนอนหลับแล้ว เขาก็เริ่มลงมือปั้นพระพุทธรูปตามที่คิดฝัน และผลงานก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

 

แม้ว่าอานุภาพจะตั้งใจทำงานเต็มที่ แต่อนุชเข้าใจดีว่าพี่ชายของเธอรู้สึกอย่างไร เธอช่วยงานพี่ชายอยู่ทุกวัน ถึงแม้อานุภาพจะตัดใจเรื่องของนวลดารามาตั้งใจปั้นพระได้ก็จริง แต่ทุกครั้งที่เผลอพี่ชายของเธอก็ซึมเหม่อลอย เธอรู้ว่าที่ผ่านมาเขาพยายามไม่แสดงความรู้สึกอาจเพราะกลัวเธอจะเป็นทุกข์ไปด้วย ยิ่งพี่ชายไม่แสดงน้องสาวยิ่งจับสังเกต เธออยากช่วยผ่อนคลายความทุกข์ของพี่ชาย แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร

แต่แล้วในคืนที่เขาปั้นพระพุทธรูปเสร็จสมบูรณ์ความอดทนของอานุภาพก็สิ้นสุดลง

“พี่จะทำยังไงดีนุช ถ้ามันเป็นอย่างนี้ต่อไปพี่ต้องบ้าตายแน่ นอกจากความฝันคืนนั้น สีหน้าแววตาเธอเมื่อวันก่อนนั้นมันหลอกหลอนพี่มากเลย” อานุภาพทิ้งตัวลงนั่งข้างองค์พระ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างสิ้นหวัง

วันก่อนนั้นที่อานุภาพเอ่ยถึงคือวันที่เขามาทำงานที่วัดเป็นวันแรก อนุชถูกขอร้องให้มาเป็นเพื่อนด้วย เพราะพี่ชายของเธอคิดว่านวลดาราอาจจะเป็นห่วงที่มือของเขายังเจ็บและตามมาดูเขาทำงาน อานุภาพคาดไม่ผิด นวลดารามาดูเขาทำงานจริงๆ เธอถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงว่าเขาเจ็บมืออยู่หรือไม่ อานุภาพต้องแสร้งทำเป็นว่างานยุ่งจนพูดคุยกับเธอไม่ได้ เขาพูดคุยแต่กับน้องสาวจนนวลดารารู้สึกถึงความผิดปกติจึงขอตัวกลับไป อนุชยังจำสายตาแข็งๆ ที่นวลดารามองพี่ชายเธอก่อนจากได้แม่น เธอเป็นคนอื่นยังรู้สึกแย่ขนาดนี้ แล้วพี่ชายเธอจะสะท้านสะเทือนขนาดไหน

“พี่ว่าคุณนวลต้องกลับไปเกลียดพี่เหมือนเดิมแน่ๆ เลย” อานุภาพรำพันต่อไปอีก

“เธอก็คงจะงง เพราะพี่อ้ายกับเธอเพิ่งพูดดีกันเมื่อวันก่อน แล้วอยู่ดีๆ พี่อ้ายก็เห็นเธอเป็นอากาศธาตุไปแบบนั้นน่ะ”

“พี่จะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้แล้ว”

“พี่อ้ายจะทำอะไร”

“วันฉลองพระพี่จะต้องพูดกับเธอ ให้เธอรู้ว่าพี่รู้สึกยังไง”

“แบบนั้นพี่อ้ายจะทนไหวเหรอ”

“พี่จะลองดู ให้มันรู้ไปว่ามันจะเจ็บจนตาย เพราะตอนนี้พี่ก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว”



Don`t copy text!