พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 42.1 : สัญญาณจากฟากฟ้า

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 42.1 : สัญญาณจากฟากฟ้า

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

“มังกร…” เชวังอุทานออกมาเบาๆ ขณะที่ทุกคนซึ่งยืนอยู่รอบโต๊ะกลางห้อง ได้แต่จ้องมองพยับฟ้าโพยมดินด้วยความประหลาดใจ เพราะลวดลายบริเวณที่ปักเป็นหุบเขาเลือดมังกรนั้น บัดนี้ปรากฏรูปมังกรตัวหนึ่งกำลังกางปีกบินอยู่บนท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดวงดาวจำนวนมาก

ดวงดาวพวกนั้นเป็นลายที่มีอยู่เดิม เป็นแผนที่ให้เห็นท้องฟ้าของซัมเซว่าแต่ละช่วงของปี จะมีดวงดาวดวงไหนปรากฏให้เห็นบ้าง

แต่มังกรตัวเล็กนี้…เพิ่งมีปรากฏให้เห็น

“มาได้ยังไง” ยังเชนสงสัย “เดิมไม่เคยมีรูปมังกรอยู่ตรงนี้นี่คะย่า”

“นายหญิงของเด็กคนนั้น คงปักเติมเข้ามา” โซเทนพึมพำ

“มันมีความหมายอะไรหรือเปล่านะ” เชวังสังเกตลายผ้าอย่างตั้งใจ

มังกรที่ปรากฏบนผ้ามีรูปลักษณะเหมือนกับพัลเดนมาก ทั้งสีผิว กรงเล็บ ไปจนถึงท่ากางปีกบิน

‘ไอ้ตัวเล็ก’ ของทุกคนกำลังบินไปบนท้องฟ้า มุ่งหน้าไปสู่ดวงดาว และที่มุมหนึ่งของท้องฟ้านั้น นายหญิงปักรูปบุรุษผู้หนึ่งยืนหันหลังสวมกิโมโนสีน้ำเงินเข้ม ลวดลายปักนั้นละเอียดถึงขนาดที่ว่า มีรูปนกกระเรียนสีทองปรากฏอยู่บนกิโมโนผืนที่ชายผู้นั้นสวมด้วย

“เด็กคนนั้นนี่ครับ” ล่องเมฆชี้นิ้วไปที่ด้านหลังของก้อนเมฆ ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะไม่เห็นว่ามีเด็กชายผมทรงกะลาครอบแอบอยู่ เด็กชายมีดวงตาหนึ่งดวงปรากฏให้เห็นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

“เหมือนผีญี่ปุ่นเลยค่ะ” นารีญาผู้ชอบอ่านมังงะการ์ตูนญี่ปุ่นว่า

“ผีญี่ปุ่น…เด็กตาเดียว” ลิ่วลมพึมพำ

นิ้วมือเรียวยาวของเขาแตะลวดลายงดงามบนผืนผ้าด้วยความตื่นตะลึง นึกย้อนไปถึงคืนวันทานาบาตะ ที่เขาขอพรให้ท่านชายโฮชิของรินดารา…ช่วยตามหาน้องชายฝาแฝด

“หรือว่า…”

“หรือว่าอะไร” ล่องเมฆหันมาทางพี่ชาย

“หรือว่าเป็นท่านชายมาช่วยพวกเรา…” ลิ่วลมพึมพำเบาๆ

“ถ้างั้น” ล่องเมฆอ้าปากค้าง เขาหันไปทางโซเทนแล้วถามย้ำว่า “คุณย่าบอกว่านายหญิงของเด็กตาเดียว สวยเหมือนนางฟ้า…แถมยังซ่อมผ้าพวกนี้ได้ภายในเวลารวดเร็ว”

“ใช่” โซเทนพยักหน้า “ปกติกว่าจะปักผ้าที่มีลวดลายละเอียดขนาดนี้ได้สักตารางนิ้วหนึ่ง ก็ใช้เวลาหลายวันแล้ว…แต่นี่…เธอซ่อมทั้งผืนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง”

โซเทนชี้นิ้วไปตามตำแหน่งที่ลายผ้าเคยชำรุด ทุกจุดกลับมาสมบูรณ์สวยงามไม่มีที่ติ ไม่มีร่องรอยว่าครั้งหนึ่งเคยถูกไฟไหม้

“เมียวโจ” ล่องเมฆหันไปทางพี่ชาย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตื้นตัน “ไม่ใช่แค่ท่านชายโฮชิที่ลงมา…แต่เมียวโจโอจิก็มาด้วย”

“คือยังงี้ครับ…” ลิ่วลมหันไปมองหน้าล่องเมฆ ครั้นพอน้องชายพยักหน้าให้ เขาจึงเล่าเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ที่รินดารา พี่สาวของพวกเขาได้ประสบตอนไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นให้ทุกคนฟัง

เรื่องราวของโฮชิโนโอจิ เทพธิดาดาวเดือนเจ็ด – เมียวโจโอจิ  ฮิโตชิ – ปีศาจเด็กชายตาเดียว ยูกิ – นางหิมะ ไปจนถึงฮิเมะ – ลูกนกกระเรียนทองคำ เรื่องราวที่มหัศจรรย์ราวกับนิยาย พรั่งพรูออกจากปากของลิ่วลม ขณะที่ทุกคนฟังแล้ว ได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึง (1)

“ผมออกจะมั่นใจว่า…นายหญิงที่ช่วยเราซ่อมพยับฟ้าโพยมดินก็คือเมียวโจโอจิ คนรักของท่านชายโฮชิ” ลิ่วลมสรุปในตอนท้าย

ดวงตาของเขาจ้องมองดอกอุทุมพรที่ส่งกลิ่นหอมรวยริน นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุดว่าสตรีที่ถือดอกไม้สวรรค์มาเยือนบ้านหลังนี้ ย่อมไม่ใช่สามัญชนคนธรรมดา…

“แสดงว่าเมียวโจโอจิอยากจะสื่ออะไรบางอย่างถึงเรา” โซเทนครุ่นคิด “ท่านจึงปักรูปมังกรเพิ่มเข้ามา”

“หรือว่า…” ยังเชนใจหายวาบ “หรือว่าพัลเดน…กำลังจะตาย”

แม้การเผชิญหน้ากับ Linn Plant จะลงเอยด้วยดี คนร้ายไม่ได้ตัวมังกรไปตามที่มันต้องการ แต่ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านั้นอังเดรส่งข้อมูลอะไรกลับไปที่บริษัทบ้าง ตราบใดที่องค์กรล่าพรรณพืชและสัตว์หายากยังคงอยู่ นั่นหมายความว่าวันหนึ่ง พวกเขาอาจจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง และไม่มีใครรู้ว่าพวกมันจะมาในลักษณะใด พัลเดนจะรอดพ้นจากพวกคนชั่วไปได้นานแค่ไหน

“ไม่หรอกยังเชน ผมกลับไม่คิดอย่างนั้น” ล่องเมฆส่ายหน้า

เขากวาดสายตามองทุกคนแล้วพึมพำว่า “ผมคิดว่าท่านเทพธิดาดาวเดือนเจ็ด…กำลังจะสื่อบอกพวกเราว่า ทางเดียวที่พัลเดนจะปลอดภัย คือต้องเดินทางไปกับท่านชายโฮชิ เหมือนที่ท่านเคยพาฮิเมะ และฮิโตชิไปกับท่าน…”

“หมายความว่า…ฉันกับพัลเดนต้องจากกันอย่างนั้นหรือ” ยังเชนอดใจหายไม่ได้

“ถ้าจริงอย่างที่ล่องเมฆสันนิษฐาน…อาว่าอาจจะดีกว่าก็ได้นะ พัลเดนจะได้ไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยจากกิเลสและความชั่วร้ายของพวกมนุษย์…” เชวังถอนใจยาว ถ้าเป็นอย่างที่ล่องเมฆว่า เขาก็อดจะใจหายไม่ได้เช่นกัน “อีกอย่าง มังกรมีอายุยืนยาวกว่ามนุษย์มากนัก พวกเราเองอีกไม่นานก็ต้องตายจากไปตามวาระ หลังจากพวกเราไม่อยู่…ใครล่ะ ที่จะดูแลพัลเดนต่อจากเรา”

ยังเชนฟังแล้วนิ่งไป…

ดวงตาของเธอที่จ้องมองลวดลายบนผืนผ้า เต็มไปด้วยร่องรอยครุ่นคิด

นารีญาและอัญญาวีร์ถอนใจออกมาเบาๆ พวกเธอรู้ว่าพัลเดนและยังเชนมีความผูกพันกันมาก

“อาคะ” ยังเชนหันไปทางเชวังในที่สุด “ถ้าสิ่งที่พวกเราคิดเป็นความจริง…ท่านชายโฮชิโนโอจิจะรับพัลเดนไปอยู่กับท่านจริงๆ…หนูขอถามพัลเดนก่อนได้ไหมคะ ว่าพัลเดนคิดอย่างไร…”

“ถ้าจะตัดสินใจ ก็ต้องรีบ…อย่าให้เกินพรุ่งนี้นะครับ” ลิ่วลมเอ่ยเสียงหนักแน่น

เรื่องที่เขากำลังจะพูดต่อจากนี้ไป พี่สาวที่ชื่อรินดาราเคยเล่าให้ฟัง ทุกปีเธอจะส่งปฏิทินพิเศษมาให้น้องชาย ทำให้ลิ่วลมรู้ช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งจะว่าไปแล้วก็มีความสอดคล้องกับปฏิทินไทยในสมัยโบราณ

“เพราะพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายที่ประตูสวรรค์จะเปิด ผมว่าถ้าพัลเดนจะไปกับท่านชาย…พรุ่งนี้คือวันที่ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นเราจะต้องรอจนกว่าประตูสวรรค์จะเปิดครั้งต่อไป”

 

เชิงอรรถ : 

(1) เรื่องราวทั้งหมดนี้ อยู่ในนวนิยายเรื่องกลกิโมโน ของ ‘พงศกร’

 



Don`t copy text!