
มิใช่เพียงสบตา..แต่คือการมองไปข้างหน้าในทิศทางเดียวกัน
โดย : เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้
“อเมริกันคัน” เรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาในบางแง่มุมในอเมริกาที่หลายคนไม่เคยรู้หรือเคยรับรู้มาบ้าง แต่อาจมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจน เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ เจ้าของคอลัมน์ที่เขียนลงในต่วยตูนมาถึง 10 ปี นำมาเขียนเล่าสู่กันฟังแบบสนุกๆ เหมือนการเล่าให้เพื่อนฟัง โดยคงบุคลิก “ต่วยตูน” ดั้งเดิมเอาไว้คือสาระและบันเทิง
ความรักและการครองเรือนนั้นเป็นศาสตร์และศิลป์ ที่ไม่มีคำตอบผิดหรือถูกอย่างชัดเจน แต่ละคนแต่ละคู่ต้องเรียนรู้เป็นการเฉพาะตน เพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
แม้ความรักจะเป็นเรื่องสากล แต่หลากหลายนิยาม แตกต่างไปตามวัฒนธรรมและค่านิยมแต่ละประเทศ การแต่งงานในประเทศจีนสมัยโบราณ นอกจากจะมีการคลุมถุงชนผ่านแม่สื่อแล้ว ยังมีค่านิยมเรื่องการรัดเท้า เพื่อว่าเด็กหญิงจะสามารถหาสามีดีๆ และร่ำรวยในอนาคต แต่ค่านิยมนี้หมดไปแล้วในยุคปัจจุบัน
คนอเมริกันนิยมแต่งงานในฤดูใบไม้ผลิ เพราะมีฤดูหนาวยาวนานกว่าประเทศเขตร้อน พอย่างเข้าสู่ใบไม้ผลิ ต้นไม้ผลิใบ นกเริ่มจับคู่ทำรัง ถือเป็นสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นอีกครั้งหนึ่งในรอบปี คนอเมริกันจึงนิยมแต่งงานในฤดูใบไม้ผลิ เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปี
สมัยก่อนหนุ่มสาวอเมริกันมักย้ายออกจากบ้านพ่อแม่หลังเรียนจบมัธยม เพราะบางส่วนไม่ได้เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย หนุ่มสาวคนไหนยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่จะถูกล้อว่าเป็นลูกแหง่ ถือเป็นเรื่องน่าอับอาย จึงอยากมีบ้านหรือมีห้องพักส่วนตัวโดยเร็วที่สุด
ปัจจุบันหนุ่มสาวอเมริกันไม่ได้ย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ทันทีที่อายุครบ 18 ปีหรือจบไฮสคูล เพราะภาวะเศรษฐกิจ แต่จะอยู่กับพ่อแม่จนกว่าตัวเองจะย้ายไปอยู่กับแฟน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
แต่ถ้าอยากสร้างครอบครัวก็จะจัดพิธีแต่งงานขึ้น อาจจะเป็นงานใหญ่บ้างเล็กบ้างหรือไม่มีพิธีกรรมทางศาสนาเลยก็ได้ ตามแต่ความต้องการของคู่รักแต่ละคู่ ฝ่ายชายจะขอหมั้นด้วยแหวนเพชร ตามธรรมเนียมแล้วราคาของแหวนเพชรควรมีราคาเท่ากับเงินเดือนฝ่ายชาย 3 เดือน แต่เรื่องนี้ไม่ได้กำหนดบังคับตายตัว เป็นเพียงประเพณีนิยมปฏิบัติเท่านั้นเอง ขึ้นอยู่กับฝ่ายหญิงด้วยว่าพอใจแหวนแบบไหน หากรักกันมั่นคงจริงใจแล้ว ราคาแหวนคือประเด็นรอง
เมื่อฝ่ายชายซื้อแหวนหมั้นราคาแพงให้ว่าที่เจ้าสาว ก็ถึงตาเจ้าสาวที่ต้องควักกันบ้างล่ะ ฝ่ายเจ้าสาวต้องออกเงินค่าจัดงานแต่งงานทั้งหมด จะว่าไปแล้วก็เหมือนช่วยกันออกเงินนั่นเอง เรื่องนี้แตกต่างจากบ้านเราที่คาดหวังให้เจ้าบ่าวควักกระเป๋าจ่ายทุกอย่างจนหน้าแห้ง
ช่วงที่คนไทยนิยมแต่งงานมากสุดคือหน้าหนาว ตั้งแต่พฤศจิกายนเป็นต้นมา ส่วนมากเลือกแต่งงานวันศุกร์ เพื่อให้พ้องเสียงกับคำว่า ‘สุข’ อย่านึกว่าฝรั่งไม่มีเรื่องแบบนี้ คนอเมริกันนิยมแต่งงานในเดือนมิถุนายน นอกจากอากาศไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไปแล้ว ยังแต่งเพราะเอาเคล็ดเรื่องชื่อ เพราะ June มาจากพระนาม Juno เทพีแห่งการแต่งงานตามความเชื่อของโรมันโบราณ ส่วนเดือนพฤษภาคมนั้นไม่เป็นที่นิยม เพราะถือเป็นช่วงที่พวกนอกศาสนาจัดงานฉลองจึงไม่เหมาะจะเริ่มต้นชีวิตคู่ในทัศนะของชาวคริสต์
ความเชื่อเรื่องการเลือกวันแต่งงานของฝรั่งสมัยโบราณมีอยู่ว่า หากแต่งงานวันจันทร์จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง แต่งงานวันอังคารจะทำให้ร่ำรวยมีฐานะ ใครแต่งงานวันพุธนั้นสุดประเสริฐ ส่วนวันที่ไม่ควรแต่งงานเลยคือ พฤหัสบดี วันศุกร์ และวันเสาร์ แต่ปัจจุบันคงไม่มีใครเชื่อเรื่องพวกนี้แล้ว นอกจากยึดฤกษ์สะดวกตามใจชอบ
ชุดเจ้าสาวสีขาวมาจากความเชื่อว่าสีขาวคือสีแห่งความสุขและการเลือกคู่ครองที่ถูกต้อง โดยเชื่อกันมาตั้งแต่ยุคกรีก ต่อมาเจ้าหญิงและเชื้อพระวงศ์ทางยุโรปเป็นผู้นำแฟชั่นชุดเจ้าสาวสีขาวในพระราชพิธีอภิเษกสมรสจึงทำให้ชุดเจ้าสาวสีขาวเป็นที่นิยมต่อมา ก่อนหน้านั้นเจ้าสาวจะใส่ชุดแต่งงานสีอะไรก็ได้
ความเชื่อเรื่องชุดแต่งงานยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มีการกำหนดให้เจ้าสาวหาของมาประกอบชุดเจ้าสาวสี่อย่างคือ ของเก่า ของใหม่ ของที่มีสีฟ้า และของที่ขอยืมมา โดยมีคำอธิบายประกอบว่า ‘ของเก่า’ หมายถึงของส่วนตัวของแม่ให้ลูกสาวในวันแต่งงาน เพื่อเป็นการเตือนสติให้รู้จักครองเรือนโดยใช้หลักเหตุผลเป็นที่ตั้ง
ส่วน ‘ของใหม่’ จะเป็นอะไรก็ได้ แต่ให้มีความหมายโยงไปถึงชีวิตคู่หลังแต่งงาน หมายถึงการมองไปข้างหน้าในทิศทางเดียวกัน ‘ของยืม’ จะต้องเป็นของที่ขอยืมมาจากผู้หญิงที่มีชีวิตคู่ราบรื่น โดยให้เจ้าสาวยืมใช้ในงานแต่งงาน เพื่อเตือนใจว่าควรมีต้นแบบในการครองชีวิตคู่อย่างไร
สิ่งของอย่างสุดท้ายคือ ‘ของสีฟ้า’ การกำหนดสิ่งของสีฟ้าชุดแต่งงานมาจากความเชื่อและประเพณีของคนสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือสาวโรมันเชื่อว่าการสวมชุดแต่งงานระบายขอบกระโปรงสีฟ้าเป็นการแสดงความรัก ความนอบน้อม และความจงรักภักดีต่อว่าที่สามี ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือพวกคริสตศาสนิกชนที่เชื่อว่าสีฟ้าคือตัวแทนความเป็นพรหมจรรย์แห่งพระแม่มารี ส่วนมากแล้วนิยมใช้ผ้าเช็ดหน้าสีฟ้ามาประดับชุดแต่งงาน
วันแต่งงานถือเป็นวันสำคัญในชีวิต นอกจากคู่บ่าวสาว ยังเป็นความปลาบปลื้มใจของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย ซึ่งพ่อแม่ปักดอกไม้ที่อกเสื้อในวันแต่งงานแสดงตัวว่าเป็นคนในครอบครัวของบ่าวสาว
หน้าที่พ่อในวันแต่งงานคือต้องเป็นคนนำเจ้าสาวเข้ามาในโบสถ์หรือสถานที่จัดงานเพื่อส่งมอบความรักต่อให้เจ้าบ่าว เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการทางศาสนา จะต้องเต้นรำกับเจ้าสาว ส่วนเจ้าบ่าวจะเต้นรำกับแม่ของตนเป็นการประเดิม จากนั้นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวถึงเต้นรำกันเป็นการฉลองสมรส
การเดินคล้องแขนเจ้าสาวและการเต้นรำกับลูกๆ ของตนในงานแต่งงาน ถือเป็นธรรมเนียมนิยมของอเมริกา บางคู่ถึงกับน้ำตาไหลพรากด้วยความซาบซึ้งในช่วงเวลาแสนสุขนี้
คุณแม่ชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อแมรี่ แอนน์ แมนนิ่ง กำลังจะลาจากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย แต่ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป เธอปรารถนาอย่างแรงกล้าอยากไปร่วมงานแต่งงานของไรอัน ลูกชายสุดที่รัก แต่ประเด็นคือโรคมะเร็งร้ายที่ทำให้เธอขยับตัวได้ลำบาก เพียงขยับตัวก็เจ็บปวดแสนสาหัสเพราะมะเร็งลามไปทั่วตัว
แต่แมรี่ยังหวังว่าจะไปเต้นรำกับลูกชายในวันแต่งงานให้ได้ จึงแข็งใจแต่งตัวงดงามที่สุดในชีวิต นั่งรถเข็นไปที่ฟลอร์เต้นรำ จากนั้นรวบรวมพละกำลังทั้งหมดลุกขึ้นจากเก้าอี้รถเข็นเพื่อเต้นรำกับเจ้าบ่าวซึ่งคือลูกชายของเธอเอง และลาจากโลกในอีกสามวันต่อมา
ความรู้สึกอ่อนโยนที่เรียกว่า ‘รัก’ ทำให้โลกนี้สว่างไสวงดงาม ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะตระหนักว่าสิ่งที่สำคัญในชีวิตคืออะไร โลกไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยความเกลียดชัง มีเพียงความรักเท่านั้นที่คือคำตอบส่วนการแต่งงานคือการเติมเต็มความรักให้สมบูรณ์ขึ้นนั่นเอง การแต่งงานไม่ใช่ความสำเร็จของความรัก หากแต่นำไปสู่สิ่งที่งดงามกว่าความรัก เพราะนี่คือก้าวแรกของความเป็นครอบครัว อันเป็นพื้นฐานเบื้องต้นของทุกสังคม
- READ ความเชื่อประหลาดของอเมริกัน
- READ มิใช่เพียงสบตา..แต่คือการมองไปข้างหน้าในทิศทางเดียวกัน
- READ วิวาห์ฮาเฮ
- READ เมื่อชีวิตติดหิมะ
- READ ไปโบสถ์แบบคนบาป
- READ ไอแอมฟอร์มไทยแลนด์..ไม่ใช่ไต้หวัน
- READ โลกสองใบในความต่าง
- READ อินเดียนแดงเผ่าใดล่ะ สู
- READ เรื่องหลอนของเพื่อนบ้านฝรั่ง
- READ ฮอทดอกของฉัน..วันชาติของเธอ
- READ พาววาว..เหลือเพียงรูปเงาบรรพชนอินเดียนแดง
- READ คุณนายไปจ่ายตลาดแต่ไม่มีกระจาดปิดตูด
- READ สั่งอาหารยังไงให้ฝรั่งงง
- READ เมื่อตะวันตกพบตะวันออก..สนุกอย่าบอกใคร
- READ สะใภ้ผีบ้า-แม่ย่า (ฝรั่ง) งก
- READ เพื่อนบ้านแสนบันเทิง
- READ ความตายสีขาว
- READ ชีวิตแสนเศร้าของเจ้าหญิงอินเดียนแดง
- READ ผีบ้านฝรั่ง
- READ เมื่อบางใครโบยบินข้ามสะพานรุ้ง
- READ พี่เจนนี่แอนด์ขี้คันคาก
- READ เรื่องของคนคอแดง
- READ หมาขี้ย้อน
- READ วันที่แม่น้ำกลายเป็นสีเขียว
- READ ผู้ชอบดูการละเล่นเป็นนิสัย
- READ ประธานาธิบดีแสนรักและแสนชัง
- READ เทศกาลคลำไข่
- READ เรื่องของเฮียดำลง (ที่ไม่ใช่พุตตาล)
- READ อย่าลืมทัดดอกไม้ก่อนหอน
- READ พลาดท่าเสียของดี
- READ เมื่ออเมริกันฝันหาคุก
- READ กำแพงขาวดำในเมืองสนธยา
- READ บ้านหลอกผีที่ไม่มีวันสร้างเสร็จ
- READ ขี้หมาพารวย
- READ อาหารสันหลังยาว
- READ โลกนี้ยังมีมนุษย์ถ้ำ
- READ ฮาร์ดไซเดอร์..หอมผลไม้ในฟองเบียร์
- READ อาณานิคมล่องหน
- READ ผู้ปรีชาชาญนั้นผลิตเบียร์
- READ ฤดูหนาวอันยาวนานในเทศกาลแห่งความสุข
- READ อุรังอุตังเฒ่า..เราจะคิดถึงเธอ
- READ มลรัฐวูล์ฟเวอรีน
- READ ประโยชน์ของเบียร์ที่เมียไม่รู้
- READ โลกทับซ้อนของคนสองแผ่นดิน
- READ เมียบังเกิดเกล้า
- READ จับงูบูชาพระเจ้า
- READ ภาษามหาระทวย
- READ อินเดียนแดงที่โลกลืม