พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 25.1 : อะไรในสายน้ำ

พยับฟ้าโพยมดิน บทที่ 25.1 : อะไรในสายน้ำ

โดย : พงศกร

Loading

พยับฟ้าพโยมดิน นวนิยายจากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อน้องชายฝาแฝดหายตัวไปอย่างลึกลับในหมู่บ้านกลางหุบเขาของภูฏาน เขาจำเป็นต้องทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาก่อนที่จะสายเกินไป เขาต้องยอมรับความช่วยเหลือจากนารีญาหญิงสาวที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่แรกเจอพ่วงไปด้วย เธอคนนี้อาจเป็นคนเดียวที่ไขปริศนาต่างๆ และพาเขาไปพบกับน้องชายได้

ไม่ใช่แต่ลิ่วลมเท่านั้นที่สังเกตเห็นความผิดปกติของทุกคน เชวังเองก็เห็นความผิดปกตินั้นเช่นกัน เขารู้จักอัญญาวีร์มานานหลายปี ไม่เคยเห็นเธอมีท่าทางอยากได้อัญมณีของมีค่าอะไรมากมายเหมือนอย่างในวันนี้

ตอนที่ตกลงคบหาเป็นแฟนกันใหม่ๆ เขาเคยเก็บเงินเดือนเพื่อจะซื้อแหวนเพชรให้หญิงสาว หากอัญญาวีร์ส่ายหน้าปฏิเสธบอกให้เขาเก็บเงินเอาไว้ใช้อย่างอื่น ไม่จำเป็นต้องซื้อของแพงๆ แบบนี้ให้

‘รู้จักกันมาตั้งนาน คุณไม่รู้นิสัยของฉันหรือไง’ อัญญาวีร์เคยบอกเขาเช่นนั้น ‘ไม่รู้หรือว่า…สำหรับฉัน เพชรพลอยหรือของแพงๆ มันไม่สำคัญ ไม่จำเป็นอะไรเลย ถ้าเราจะคบกัน ความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่างหากที่สำคัญที่สุด…จำไว้เลยนะเชวัง ไม่ต้องซื้ออะไรแพงๆ ให้ฉัน แค่คุณดูแลฉัน เราดูแลกัน เลิกงานกลับบ้านมีเวลาได้นั่งกินข้าวด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน แก่เฒ่าไปด้วยกัน…เท่านั้นก็พอแล้ว’

แต่เหตุใด อัญญาวีร์ตรงหน้าของเขา ถึงเปลี่ยนไป

เธอกับหลานสาว รวมถึงลูกน้องของเขา ลุยลงไปในลำธารไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทุกคนก้มเก็บกรวดอัญมณีจนเต็มไม้เต็มมือ และเดินห่างออกไปเรื่อยๆ

“ทุกคน…กลับมา” เชวังตะโกนเรียก ทว่าดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ “ได้เวลาเดินทางกันต่อแล้ว…กลับมาได้แล้ว”

“คุณเชวัง” ลิ่วลมเรียก “ผมว่าท่าทางไม่ดีแล้วนะ”

“นั่นสิ” เชวังเห็นด้วย

เขาเพ่งมองธารน้ำใสกระจ่างตรงหน้า ลิ่วลมเห็นหัวคิ้วของเชวังขมวดมุ่น ก่อนที่เขาจะหยิบถุงมือยางจากเป้ขึ้นมาสวม จากนั้นก็วิ่งไปที่ริมลำธาร คุกเข่าลงแล้วใช้มือช้อนอะไรบางอย่างขึ้นมา

ลิ่วลมวิ่งตามไปติดๆ เขาจ้องมองวัตถุบางอย่างในมือของเชวัง

แรกทีเดียวก็มองไม่เห็นเพราะสิ่งนั้นใสมาก จนกระทั่งเชวังพลิกมือของเขาไปมานั่นละ ประกายแดดที่ส่องลงมาจากเบื้องบน จึงสะท้อนให้เห็นเส้นยาวคล้ายพลาสติกใส พันอยู่ในมือของนายแพทย์วัยกลางคน

“นั่นอะไรครับ” ลิ่วลมถาม “เหมือนสาหร่าย”

“Lunatic Algae” เชวังพึมพำ ลิ่วลมสังเกตเห็นร่องรอยประหวั่นในดวงตาของเขา “มันคือ…สาหร่ายคลุ้มคลั่ง”

“คืออะไรครับ” ลิ่วลมส่ายหน้า “ผมไม่เคยได้ยิน”

“สาหร่ายพิษ ที่ทำให้คนคลุ้มคลั่ง เกิดความโลภอยากได้นั่นนี่” เชวังเสียงแผ่ว “ผมเคยได้ยินปู่กับพ่อพูดถึง เพิ่งเคยเห็นของจริงในวันนี้”

“แสดงว่า…พวกนั้นโดนพิษสาหร่ายหรือครับ” ลิ่วลมมองดูคณะเดินทางที่ยังไม่เลิกเก็บกรวดอัญมณีในลำธาร

“น่าจะเป็นเช่นนั้น” เชวังพยักหน้า “ตามตำราที่เขียนเอาไว้…สาหร่ายพวกนี้มีลำต้นโปร่งแสง ถ้าสังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นเลย…ที่ลำต้นของมันมีตุ่มเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายหนามของกระบองเพชร เวลาเกี่ยวกับแขนขาของคน ตุ่มหนามจะปล่อยสารเคมีออกมา สารเคมีพวกนี้เป็นสารสื่อประสาท มีผลทำให้คนขาดการควบคุมตัวเอง ทำให้ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ไม่สามารถควบคุมกิเลสของตัวเองได้”

“น่ากลัวมาก” ลิ่วลมพึมพำ สายตามองดูคณะเดินทางที่เดินห่างไปทุกขณะ “แล้วเราจะทำยังไงดีครับ…พวกเขาเดินไปโน่นแล้ว”

“เราต้องเอาตัวพวกเขากลับมา” เชวังว่า “ปลายลำธารเป็นอะไรก็ไม่รู้…น่ากลัว อันตราย”

“แล้วเราจะลงไปได้เหรอครับ” ลิ่วลมมองลำธารน้ำใสด้วยสายตาเข็ดขยาด “ถ้าลงไปก็อาจจะพลอยโดนพิษสาหร่ายไปด้วย”

ของสวยงามไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป

ใครจะคิดว่าภายใต้ความงดงามของสายน้ำ มีมหันตภัยซ่อนอยู่อย่างลึกเร้น

เคราะห์ดีที่เขาไม่ได้ผลีผลามก้าวลงน้ำไปตั้งแต่แรก…ลิ่วลมนึก…ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นหนึ่งในคนที่ถูกพิษของสาหร่ายประหลาด

“เราต้องกินยาแก้พิษก่อน” เชวังบอกลิ่วลมก่อนจะเหวี่ยงสาหร่ายในมือทิ้งไป

เขาหันไปค้นหาของในเป้เสียงดังกุกกัก ก่อนจะหยิบกล่องพลาสติกใสออกมาใบหนึ่ง ภายในกล่องบรรจุใบไม้แห้งรูปทรงประหลาด

เชวังหยิบใบไม้ออกมาใบหนึ่ง จากนั้นผสมเข้ากับสมุนไพรอีกสองสามอย่าง ใช้เครื่องบดอันเล็กๆ ผสมสมุนไพรทั้งหมดเข้าด้วยกัน

“ป๊อปปี้สีทอง” เชวังเอ่ยเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ “อยู่ที่ไหน”

“นี่ครับ” ลิ่วลมวิ่งไปหยิบเอาป๊อปปี้มาจากเป้ของนารีญา เขาส่งให้กับเชวัง และอีกฝ่ายก็รับไปอย่างทะนุถนอม

เขายกป๊อปปี้ขึ้นเหนือหัว สวดสรรเสริญเทพธิดาเซริงมา และเอ่ยขอบคุณ

“ผมยังนึกว่าพระองค์ประทานป๊อปปี้ทองคำมาทำไม”

“มันคือยาแก้พิษ” ลิ่วลมอ้าปากค้าง

“ในคัมภีร์ยาโบราณกล่าวว่า ป๊อปปี้สีทองคือส่วนประกอบสำคัญที่สุดของยาแก้พิษ…” เชวังมีท่าทางตื่นเต้น “ป๊อปปีสีทองสามารถแก้พิษร้ายได้ทุกอย่าง…ถ้าเอามาผสมเข้ากับสมุนไพรพวกนี้ ก็จะป้องกันพิษของสาหร่ายคลุ้มคลั่งได้”

เชวังใช้ช้อนเล็กๆ บดป๊อปปี้สีทองเข้ากับสมุนไพรตัวอื่นๆ จากนั้นใช้ช้อนตักผงสีเขียวเข้ม ที่มลังเมลืองเจือด้วยสีของทองคำใส่ปาก ก่อนจะส่งให้ลิ่วลมทำตาม

“ทำไมคุณรู้” ลิ่วลมจ้องมองสมุนไพรด้วยสายตาลังเล

“ตระกูลของผมเป็นหมอสมุนไพรสืบต่อกันมาหลายชั่วคน” เชวังเอ่ยเสียงเรียบ “คัมภีร์ยาโบราณของเรามีรายละเอียดหลายอย่าง ที่ตำราแพทย์แผนปัจจุบันไม่เคยอธิบายเอาไว้ รวมถึงสรรพคุณของป๊อปปี้ทองคำนี้ด้วย เอ้า…รีบกินซะ อย่าช้า…เวลาทุกนาทีมีความหมาย เราต้องรีบช่วยพวกเขา แต่การจะลุยน้ำลงไปช่วย เราเองต้องปลอดภัยจากสาหร่ายเสียก่อน”

“เอาก็เอา กินก็กิน” ลิ่วลมพึมพำกับตัวเอง ดูแล้วไม่มีอะไรจะเสียหาย เชวังยังกินได้ แล้วทำไมเขาจะกินไม่ได้

สมุนไพรที่เชวังผสมมีกลิ่นหอมซ่าน เมื่ออยู่ในปากก็ละลายอย่างรวดเร็ว ทิ้งรสชาติหวานหอมติดอยู่ที่ปลายลิ้น

เชวังเก็บผงสมุนไพรที่เหลือใส่ในขวดแก้ว เขาแบ่งยาแก้พิษออกเป็นสองขวด ส่งให้ลิ่วลมหนึ่งขวดและบอกว่า

“เราต้องแยกกันไป ช่วยกัน…หาทางให้พวกนั้นกินยาแก้พิษให้ได้…หลังจากกินยาไปสักพัก พวกเขาจะได้สติ แล้วเราจะได้เดินทางกันต่อ”

“พวกเขาจะยอมกินหรือครับ” ลิ่วลมเห็นท่าทางของพวกที่อยู่ลำธารแล้วเริ่มไม่แน่ใจ

“ดูท่าแล้ว คงไม่มีใครยอมหรอก” เชวังหัวเราะเสียงแผ่วในลำคอ “แต่เราต้องช่วยกัน ถึงจะต้องบังคับเอายากรอกปาก…ก็ต้องทำ”



Don`t copy text!