ฝุ่นในสายลม บทที่ 32 : ดำเนินการต่อ

ฝุ่นในสายลม บทที่ 32 : ดำเนินการต่อ

โดย : ม.มธุการี

Loading

ฝุ่นในสายลม โดย ม.มธุการี เรื่องราวของลัทธิประหลาดกับความเชื่อของคนที่กระตุ้นสัญชาตญาณนักข่าวของภาวิน เขาจึงแฝงตัวเข้าไปสืบความลับของลัทธินี้ แต่ตัวคนเดียวอาจทำไม่สำเร็จ มีเพียงฝนดาว หญิงสาวที่สูญเสียญาติสนิทไปกับลัทธินี้ที่อาจจะช่วยเขาไขปริศนาอันดำมืดนี้ได้ อ่านนิยายสนุกๆ เรื่องนี้ได้ที่เพจอ่านเอาและเว็บไซต์ anowl.co

ภาวินตามติดข่าวคราวของลูกน้องคนสนิทได้จากหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่กำลังตามสืบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน

นัยว่าเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำนายดำรงพี่ชายของฝ่ายนั้นอย่างเคร่งเครียดในฐานะผู้ต้องสงสัย ยิ่งมีการไปเจอมีดกับจอบที่เปื้อนเลือดเกรอะกรังในบ้านด้วยแล้ว นายนั่นก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญไปเลยทีเดียว

แต่ขั้นตอนการตรวจรอยเลือดมันก็ยังไม่จบ เพราะถ้าเกิดไม่ใช่เลือดของกานน คดีนี้ก็ยิ่งจะยาวยืดเยื้ออกไปอีก ตัวเขาเองแค่สงสัยว่าพี่น้องจะมาฆ่ากันตายด้วยเรื่องเพียงแค่นี้เองหรือ ที่สำคัญกานนไม่เคยมีทีท่าว่าเจอปัญหาทางครอบครัวถึงขั้นร้ายแรงจนเสียงานเสียการเลยสักนิด

แวบหนึ่งที่เขาคิดไปถึงเรื่องที่เขากับฝ่ายนั้นเช่าเจ็ตสกีเพื่อตามสืบถึงเบื้องหลังการสร้างสถานการณ์  เกี่ยวกับปรากฏการณ์ยานต่างดาวในท้องทะเล ถ้าเรื่องนี้ถูกแฉออกไปผลกระทบอย่างร้ายแรงจะต้องเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวในย่านนี้อย่างไม่ต้องสงสัย หรือว่านั่นจะเป็นสาเหตุให้กานนต้องถูกปิดปาก

ความที่คร่ำหวอดมานานพอสมควรในเส้นทางสื่อสารมวลชนมันทำให้เขารู้ว่าไม่มีอะไรเลยที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่มีการขัดผลประโยชน์กัน เมื่อนั้นก็จะมีคนตาย  หรือถูกกระทำให้สูญหายชนิดที่จับมือใครดมไม่ได้ด้วย หรือว่าการแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่จะไม่เป็นความลับอีกต่อไปแล้ว และพวกเขาต้องอยู่ในระหว่างอันตรายจากภัยมืดรอบตัวที่ยังมองไม่เห็น…

พนัสโทรถึงเขา  ถามมาก่อนเลยว่า

“โปรเจกต์ต่างดาวของแกไปถึงไหนแล้ว  จับตัวมาลงหม้อแกงได้สักตัวสอง ตัวรึยัง”

“กำลังเดินงานอยู่  น่าจะปิดเกมได้เร็วๆ นี้”

“นี่ฉันกับมลกำลังวางแผนจะมาพักร้อนกันที่นั่นพอดี” เอ่ยไปถึงแฟนจิตแพทย์ที่ทำงานด้วยกัน

“มลเขากำลังสนใจเรื่องมนุษย์ต่างดาวอยู่  เพราะมีคนไข้หลายคนมาให้เขาช่วยเกี่ยวกับเรื่องนี้”

“ก็ดี มาเลย จะมาเมื่อไหร่”

“แล้วจะบอกไปอีกที แต่ตอนนี้แกพักที่ไหน”

“โรงแรมห้าดาว”

“ห้าดาวเชียว  แพงไหม”

“พันกว่า”

“ก็ไม่แพงนี่นะสำหรับห้าดาวที่นั่น”

“ต่ออาทิตย์“ ภาวินเสริม

“ฮ้า จริงหง่ะ  ดาวร้ายซะมากกว่ามั้งงั้น  ประเภทแมลงสาบเดินขบวนกันให้พล่านทั้งคืนรึเปล่า”

“ไม่มี้  อยู่มาหลายคืนแล้ว  ริมทะเล  วิวสวย  เห็นหมอกริมหน้าต่าง”

“หมอกรึว่ากระจกไม่ได้ถู”

“เหมือนกัน  แต่ราคานี้หาได้ที่ไหน”

“งั้นจองให้หน่อย”

“มาเมื่อไหร่”

“อาทิตย์ที่จะถึงนี่  ขับรถไปกันเอง”

“เออ   จะรีบจองเอาไว้ให้  จะอยู่นานแค่ไหน”

“สองอาทิตย์พอ  มลเขาอยากเข้าไปปฏิบัติธรรมที่เกาะนั้น  เห็นว่าน่าสนใจมากไม่ใช่เหรอ  คนไข้เขามาเล่าให้ฟัง”

“เรื่องแหกตากันทั้งนั้น”

“รู้ได้ไง”

“รู้ละกัน  ถึงเมื่อไหร่จะเล่าให้ฟัง”

มีเสียงเคาะประคูห้องและภาวินก็ดูเวลา

“สงสัยลูกน้องกลับมาแล้ว”

“เออ  แล้วไงจะโทรไปอีกทีว่าพร้อมจะเดินทางไปเมื่อไหร่”

วางสายจากพนัสและเดินไปเปิดประตู ฝนดาวยืนอยู่ที่นั่นและชูถุงพลาสติกส่งให้เขา

“ดีเอ็นเอของดอกเตอร์ค่ะ ฝนเก็บมาได้”

ภาวินเดินกลับเข้าห้องพักและเปิดดูสิ่งของในถุงนั้นไปด้วย

“แก้วน้ำ” เขาว่า

“น้ำผลไม้ที่ดอกเตอร์เพิ่งดื่มมาสดๆ ร้อนๆ ค่ะ  ฝนเอาไปเสิร์ฟให้ถึงมือ”

“คือเจอกันมาแล้ว” ภาวินทรุดตัวลงนั่ง  วางถุงไว้บนโต๊ะ

“เจอแต่มือค่ะ  แกเอื้อมออกมาหยิบถ้วยที่ฝนไปวางไว้ในช่องใส่อาหาร”

“แล้วรู้ได้ไงว่ามือแก  แน่ใจนะว่าไม่ใช่มือผู้หญิง”

“มือเหี่ยวแบบนั้นน่าจะใช่แกแน่  แม่ครัวบอกฝนว่าแกอยู่คนเดียว และจะไม่ไปไหน  อาหารคือน้ำผลไม้อย่างเดียว  ฝนใส่ถุงมือเก็บแก้วน้ำมา  รับรองไม่มีดีเอ็นเอของฝนปนเปื้อนแน่”

“จะส่งแก้วไปให้เพื่อนช่วยเหลือเรื่องตรวจหาดีเอ็นเอ  ไม่นานน่าจะรู้ผล  จะได้รู้กันไปเสียทีว่าแกเป็นใครกันแน่ เป็นมนุษย์อย่างเราหรือไม่ใช่”

ภาวินมองหาอาหารที่ลูกน้องนำมาบริการ  ก็เห็นเป็นอาหารกล่องหน้าตาเดิมๆ

“กะเพราไก่ไข่ดาวค่ะ”

“เปลี่ยนมั่งได้มั้ยวันหลัง” ภาวินถามขณะเปิดกล่องดู

“ราคาถูกที่สุดแล้วถ้าจะเอาให้ครบสารอาหารทุกหมวดหมู่  ไม่งั้นต้องสั่งกับสองอย่างเพิ่มราคาอีกเท่าตัว”

หยิบโทรศัพท์ออกมากดเครื่องคิดเลขและคิดเลขให้ดูพร้อมกันไปด้วย

“คือถ้าหัวหน้าจะเอาแกงไก่ไข่พะโล้ก็จะได้สารอาหารเท่ากัน  แต่ต้องเพิ่มราคาเป็นเจ็ดสิบห้าบาท  หรือถ้าจะเอาบวบผัดไข่ก็จะได้กับแค่อย่างเดียวในราคาเดิมแต่เราขาดทุน”

ภาวินเคี้ยวอาหารช้าลง  มองตามนิ้วที่จิ้มเครื่องคิดเลขไปมา

“แต่ถ้าหัวหน้าอยากกินอยู่อย่างประหยัดที่สุดสงสัยคงต้องพึ่งมาม่าแล้วละค่ะ ฝนจะซื้อมาทิ้งไว้ให้เป็นลังๆ เลย  ต้มกินเองทำง่าย  เขามีมิโครวาให้ในห้อง”

“เขาเรียกไมโครเวฟ”

“ภาษาอิตาเลี่ยนค่ะ  เปลี่ยนใจเกิดเบื่ออาหารขึ้นมาก็บอกฝนได้นะคะ”

มองลูกน้องที่หันมานั่งกินตัวกลมไม่พูดไม่จาอีก จริงหรือที่เขาเหลือแค่ลูกสมุนเพียงคนเดียวแล้วนับแต่นี้…

 



Don`t copy text!