ฝุ่นในสายลม บทที่ 1 : ลัทธิประหลาด

ฝุ่นในสายลม บทที่ 1 : ลัทธิประหลาด

โดย : ม.มธุการี

Loading

ฝุ่นในสายลม โดย ม.มธุการี เรื่องราวของลัทธิประหลาดกับความเชื่อของคนที่กระตุ้นสัญชาตญาณนักข่าวของภาวิน เขาจึงแฝงตัวเข้าไปสืบความลับของลัทธินี้ แต่ตัวคนเดียวอาจทำไม่สำเร็จ มีเพียงฝนดาว หญิงสาวที่สูญเสียญาติสนิทไปกับลัทธินี้ที่อาจจะช่วยเขาไขปริศนาอันดำมืดนี้ได้ อ่านนิยายสนุกๆ เรื่องนี้ได้ที่เพจอ่านเอาและเว็บไซต์ anowl.co

ภาวินนอนขยับตัวไปมาบนเตียงเล็กแคบเท่าหนูดิ้นตายของรถด่วนสายใต้ที่กำลังมุ่งหน้าไปสู่จุดหมายปลายทาง นั่นก็คือจังหวัดพังงา…

มันเป็นจุดเริ่มต้นที่นักข่าวอิสระนอกสารบบอย่างเขา จะได้เริ่มงานมหกรรมชำแหละขบวนการลวงโลกของลัทธิแปลกประหลาดแห่งหนึ่งที่กำลังถูกจับตามองจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกระแสของสังคม กระแสวัฒนธรรม ตลอดไปจนถึงการเมืองนั่นเลย

ต้นเหตุก็มาจากเมียสุดที่รักของนักการเมืองดังคนหนึ่ง เก็บผ้าเก็บผ่อนหนีสามีไปเข้ากับลัทธิที่ว่านี้ พร้อมทั้งถลุงเงินร่วมสิบล้านของสามีไปซื้อที่ทางบนเกาะแถวนั้น มอบทุกอย่างให้กับเจ้าลัทธิจนหมด ถึงขนาดตกเป็นข่าวโด่งดังลือกระฉ่อนไปทั่วจนถึงระดับอินเตอร์

จนหวั่นเกรงกันว่าลัทธิที่ว่านี้ อาจจะนำความเสื่อมเสียอย่างสาหัสสากรรจ์มาสู่วงการศาสนา …ทำราวกับว่ามันไม่เคยเสื่อมเอาซะเลยว่างั้นเถอะ

จึงตกเป็นหน้าที่ของนักข่าวอย่างเขา ที่จะต้องสืบหาและเอาความจริงมาตีแผ่ให้สาธารณชนได้รับรู้กันเอาไว้ ก่อนที่จะมีใครหลวมตัวตกหลุมพราง พาตัวเข้าไปติดกับดักของลัทธิประหลาดมากไปกว่านี้

สำหรับคนที่ไม่เคยเชื่ออะไรงมงายมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกอย่างเขา กลิ่นสาบสางของลัทธิที่ว่ามันจึงตลบอบอวลอยู่ในดวงวิญญาณ ถึงขนาดอยู่กรุงเทพฯ ไม่ติด เขาจะไม่ปล่อย จนกว่าจะขุดแคะกะเทาะเปลือก เอาความจริงออกมาเผยแผ่ให้จงได้

ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดคือ เจ้าลัทธิที่ว่าคนนี้ นอกจากจะแหกกฎทุกข้อของลัทธิอื่นๆ แล้ว เขาบอกว่าตัวเองมาจากต่างดาว เดินทางมาจากนอกเอกภพ เป็นลูกครึ่งมนุษย์โลกกับมนุษย์ต่างดาว

พ่อของเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว แม่ของเขาเป็นมนุษย์โลก เคยถูกลักพาตัวไปและมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ที่มาจากดาวดวงอื่น จนเกิดตัวเขาขึ้นมา

เขามีหน้าที่ใช้มนุษยโลก ก่อนจะถึงวันโลกาวินาศ ซึ่งกำลังจะเกิดในอีกไม่ช้าไม่นาน

…ใครมันจะบ้าได้ถึงขนาดนั้น…ภาวินนึก

ในฐานะนักข่าว เขาชินชากับความบ้าหลายๆ รูปแบบ จากบรรดาผู้ที่ตั้ง ตัวเป็นเจ้าลัทธิทั้งหลาย

แต่เรื่องที่จะบ้าเกินร้อยในระดับนี้ นานๆ ก็จะโผล่มาให้เห็นสักที และถ้าเขาไม่กระชากหน้ากากจอมขมังเวทจากต่างดาวตนนี้ออกมาให้ประชาชนได้รับรู้กันเอาไว้ คงจะนอนตายตาไม่หลับ…สั่งลูกน้องสองคนให้มารับที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี และนั่งรถต่อไปยังพังงา

กานนเป็นเด็กรุ่นน้องที่ร่วมงานกับเขามาหลายปี ตั้งแต่เปิดเว็บไซต์ในยูทูบ ส่วนฝนดาวเพิ่งเรียนจบมาสดๆ ร้อนๆ และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับฝ่ายนั้น กานนฝากให้ฝนดาวเข้ามาฝึกงานกับเขา และรับเบี้ยเลี้ยงรายวัน เคยเห็นหน้าเห็นตากันก็แต่ทางอินเทอร์เน็ต

ท่าทางฝนดาวจะดูคงแก่เรียนและขยันขันแข็งไม่เบา

สังเกตได้จากแว่นสายตาหนาเตอะที่ฝ่ายนั้นสวมอยู่ และการพูดการจาเป็นหลักเป็นฐานน่าเชื่อถือ ท่าทางบอกให้รู้ว่าฝนดาวจะเป็นนักข่าวสาวสายลุยคนหนึ่งที่ใจถึงพึ่งได้ในอนาคต

สั่งกานนให้จองโรงแรมชั้นหนึ่ง ระดับห้าดาว แต่ขอราคาถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ มันจะเป็นบ้านชั่วคราวของเขาตลอดเวลาที่ไปทำข่าวอยู่ที่นั่น…

รถด่วนมาถึงสถานีที่ต้องลงและเขาก็รีบลากกระเป๋าลงจากรถแทบไม่ทัน กานนมายืนรอรับอยู่ก่อนแล้วกับเด็กใหม่และรีบตรงเข้ามายกมือไหว้

“เป็นไงครับหัวหน้า หลับสบายไหมเมื่อคืน”

“สบายบ้าอะไร ที่นอนแข็งโป๊ก นี่ขนาดมาชั้นหนึ่งนะ”

หันไปรับไหว้เด็กใหม่อย่างไม่สนใจอะไรนัก สะดุดใจนิดหนึ่งกับดวงหน้าสดใสไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม ผมยาวเกล้าเอาไว้หลวมๆ ดูยุ่งเหยิงพอๆ กับเสื้อผ้า หน้าตาเหมือนตื่นยังไงก็ลุกมายังงั้น ไม่ต่างอะไรกับกานนที่หน้าตายังไม่หายง่วง

ผมของกานนยาว รวบเป็นจุกอยู่ท้ายทอย ถ้าไร้หนวดเสียอย่างเดียวก็คือผู้หญิงดีๆ นี่เอง เขาส่งกระเป๋าให้ฝ่ายนั้นเดินลากตามหลังมาติดๆ ถามกานนไปถึงโรงแรมที่ให้จองเอาไว้

“ห้าดาวเลยครับ ผมได้ราคาดีเพราะช่วงนี้นักท่องเที่ยวไม่มากนัก ต้องนั่งรถจากที่นี่ไปอีกหลายชั่วโมง โรงแรมอยู่ใกล้กับท่าเรือที่ที่เราจะต้องข้ามไปที่เกาะ มีเรือเร็ววิ่งตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ฝนเขาเป็นคนเข้าไปติดต่อสำรวจเองเลย น่าอยู่ใช่ไหมฝน”  หันไปถามคนที่เดินตามหลังต้อยๆ

“สะอาดสะอ้านน่าอยู่มากเลยค่ะ ห้องอยู่ชั้นเจ็ดเห็นวิวทะเล ฝนกำชับให้เด็กทำความสะอาดอย่างดี ห้องมีเครื่องต้มกาแฟอัตโนมัติ กับไมโครเวฟ เผื่อหัวหน้าอยากจะต้มมาม่ากลางดึก”

ภาวินชะงักไปกับคำพูดประโยคสุดท้าย ชำเลืองมองไปทางด้านหลังแวบหนึ่งก็เห็นเจ้าตัวคนพูดกลั้นหัวเราะคนเดียวจนตาหยี ให้มันได้อย่างนี้…เห็นเราเป็นเพื่อนเล่นรึไงกันวะ

“ยังไงก็อย่าลืมซื้อมาม่าตุนไว้ให้สักลังสองลังด้วยแล้วกัน” เขาทำเสียงเข้มดุ ก่อนจะหันมาคุยเป็นงานเป็นการกับกานนต่อ

“แล้วเขารู้รึเปล่าว่าพวกเราเป็นนักข่าว”

“ความลับสุดยอดตามคำสั่งหัวหน้าคับผม”

“ดีแล้ว เพราะจะให้ใครรู้ไม่ได้เลยนะ ว่าพวกเรามาทำข่าวเพื่อชำแหละลัทธินี้กันอยู่ มันจะเป็นอันตรายได้”

“ขนาดนั้นเลยหรือครับ” กานนชักจะตกใจ

“ก็บอกไว้ล่วงหน้าแล้วไงว่ามันเป็นลัทธิอันตราย ลัทธิทุกลัทธิอันตรายด้วยกันทั้งนั้น สังหารหมู่มากี่ลัทธิแล้วล่ะ ดูญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง ที่อเมริกาก็มี”

“บ้านเรายังไม่เคยปรากฏนี่คะหัวหน้า” คนข้างหลังส่งเสียงแจ๋วกับเขาบ้าง

“อาจจะเป็นรายแรกก็ได้นี่” ตวัดเสียงใส่ ชักไม่ชอบใจคนที่ชอบขัดคอเจ้านายขึ้นมาตงิดๆ “ถ้าใครปอดแหกก็รีบถอนตัวล่วงหน้าได้นะ เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน”

 



Don`t copy text!