ฝุ่นในสายลม บทที่ 2 : เขี้ยวมา เขี้ยวไป

ฝุ่นในสายลม บทที่ 2 : เขี้ยวมา เขี้ยวไป

โดย : ม.มธุการี

Loading

ฝุ่นในสายลม โดย ม.มธุการี เรื่องราวของลัทธิประหลาดกับความเชื่อของคนที่กระตุ้นสัญชาตญาณนักข่าวของภาวิน เขาจึงแฝงตัวเข้าไปสืบความลับของลัทธินี้ แต่ตัวคนเดียวอาจทำไม่สำเร็จ มีเพียงฝนดาว หญิงสาวที่สูญเสียญาติสนิทไปกับลัทธินี้ที่อาจจะช่วยเขาไขปริศนาอันดำมืดนี้ได้ อ่านนิยายสนุกๆ เรื่องนี้ได้ที่เพจอ่านเอาและเว็บไซต์ anowl.co

https://www.groovebooks.com/blog/นิยายใหม่จาก-groove-next-anowl-ลูกองุ่น-เปิดให้สั่งจอง-25-มี-ค-67/62

นั่งรถกันมาหลายชั่วโมง จนมาถึงโรงแรมที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล ดูจากรูปทรงภายนอกไม่น่าจะได้คะแนนระดับห้าดาวอะไรเลย ถ้าจะได้แค่สองดาวเขายังว่าเป็นไปได้

“ที่นี่น่ะหรือ” ถามเพื่อความแน่ใจ “ทำไมซอมซ่อขนาดนี้ล่ะ”

“อย่าวัดกันที่ภายนอกหัวหน้า นี่แหละห้าดาวขนาดแท้และดั้งเดิมของที่นี่เขา แขกไปใครมาก็ต้องมาพักเพราะเป็นโรงแรมเก่าแก่อยู่มานาน เดิมเจ้าของเป็นเจ้าลาว ลี้ภัยมาตอนสงครามสิ้นสุดใหม่ๆ” กานนรีบบรรยายสรรพคุณ

“สงครามอะไร สงครามเวียดนามรึว่าสงครามสมัยพระเจ้าเหา”

“น่าจะสงครามพระเจ้าเหานะผมว่า”

“สมัยพระเจ้าเหารบกับพระเจ้าเห็บว่างั้นเหอะ“

เช็กอินเข้าโรงแรมและสองลูกน้องก็พาเขาขึ้นลิฟต์ไปห้องชั้นบนสุด

ภาวินเดินตรวจเช็กหาบันไดหนีไฟก่อนอื่นเพื่อความปลอดภัย

“สภาพแบบนี้ไฟลุกลามได้ง่ายมาก กี่รายมาแล้วที่แขกผู้มาพักต้องแปรสถานภาพเป็นหมูหันในชั่วเวลาแค่ข้ามคืน”

“เราเช็กแล้ว ระบบเตือนภัยใช้งานได้ดีค่ะหัวหน้า” น้องใหม่รายงานขณะเดินตามเขาเข้าห้องพัก ลากกระเป๋าใบโตถูลู่ถูกังเข้ามาด้วย

“กระเป๋าใบใหญ่ สงสัยหัวหน้าจะอยู่นาน”

“ก็จนกว่าจะสาวไส้ไอ้ลัทธินี้ออกมาได้ทุกขด เข้าใจยัง”

ภาวินเดินไปเปิดม่านมองออกไปภายนอกซึ่งดูมัวมนในสายตา

“หมอกยังจัดอยู่เลย ตอนเดินมาไม่เห็นมีหมอก”

“ผมว่ากระจกมากกว่าครับหัวหน้า” กานนรูดม่านออกจากกันดังพรืด “เขาคงไม่ค่อยได้ทำความสะอาด”

ภาวินไล่เปิดหน้าต่างทุกบานให้แสงสว่างเข้ามา กลิ่นอับหืนในห้องชวนให้วิงเวียน บ่นไปด้วยว่า

“ห้องห้าดาวประสาอะไรกัน พรมก็สงสัยไม่ได้ซักทำความสะอาดมาแรมปี แบบนี้ดาวเดียวยังไม่อยากจะให้”

“ตามงบประมาณที่หัวหน้าจัดให้มาไงคะ เช่าเป็นอาทิตย์ได้ส่วนลดด้วยนะคะ มีใบเสร็จมาให้เรียบร้อยค่ะ”

ใบเสร็จถูกวางกองบนโต๊ะและภาวินก็ทรุดตัวลงนั่ง อ่านสำรวจทีละใบเพื่อความรอบคอบ สั่งการไปด้วยว่า

“ชงกาแฟมาให้หน่อย”

กานนลากเก้าอี้นั่งตรงข้าม มีน้องใหม่เดินไปเปิดหม้อชงกาแฟอัตโนมัติ ถามมาว่า

“กี่ซองคะหัวหน้า”

“ขอเข้มๆ หน่อย”

ภาวินเก็บใบเสร็จเข้าแฟ้ม สั่งการต่อว่า

“เรื่องเบี้ยเลี้ยงสำหรับเด็กใหม่ที่มาฝึกงาน ถ้าจ่ายให้เป็นวัน วันละสามร้อยบาท ถ้าเป็นอาทิตย์จะได้ส่วนลดเหลือวีคละพันห้า แต่ถ้าจ่ายเป็นเดือนจะได้ลดมากกว่านั้นอีก”

กานนนั่งทำตาปริบๆ

“นโยบายเดียวกับโรงแรมไง” ภาวินพูดต่อ

“แบบนี้เค้าเรียกว่าเอาเปรียบค่าแรงรึเปล่าคะหัวหน้า” เสียงใสแว่วมา

“นั่นสิครับ มันชักจะยังไงๆ” กานนเสริมต่อ

ภาวินกอดอก

“ก็แค่ทดสอบสมรรถภาพทางด้านไอคิวของพวกเราเท่านั้นเองว่ายังใช้การได้ดีอยู่หรือไม่ จะได้ไม่ถูกใครเขาล้างสมองได้ง่ายๆ”

“เรื่องเงินนี่พวกเราหัวไวมากค่ะ”

เสียงเครื่องต้มอัตโนมัติดังปิ๊งขัดจังหวะการสนทนา จากนั้นกาแฟสามถ้วยก็ถูกเอามาวางเสิร์ฟ

“คือจะต้องมาเบียดเบียนกาแฟที่มีน้อยอยู่แล้ว” ภาวินดุ

“แล้วจะซื้อเป็นขวดมาให้ค่ะ”

“บอกแล้วไงให้ระวังรายจ่าย” ภาวินจิบกาแฟที่รสชาติเหมือนน้ำล้างจาน

“นี่กาแฟหรืออะไร”

“ซองเดียวแบ่งสามแก้วไงคะ เพื่อการประหยัด”

น้ำเสียงประชดแปลกๆ จนภาวินเงียบเสียงไปได้ เปลี่ยนไปคุยเรื่องงานต่อ

“ค่าแรงงานก็จะโอนเงินเข้าบัญชีให้เป็นรายอาทิตย์…”

“ขอเป็นรายวันก่อนได้ไหมคะหัวหน้า” น้องใหม่ขัดจังหวะหน้าเซียวๆ

“ทำไม…ยอบแยบมาก…”

“ต้องเกาะป้ากินค่ะตอนนี้”

“แล้วพ่อแม่หายไปไหน”

“อยู่กรุงเทพหมดค่ะ ฝนต้องมาฝึกงานที่นี่เลยเกาะป้ากินไปก่อน ทางบ้านตัดเงินรายรับทั้งหมดตั้งแต่เรียนจบมา เพราะรู้ว่าต้องอยู่ในการดูแลของหัวหน้างาน กฎหมายแรงงานมาตราหกสิบหก”

ภาวินเงียบไปได้ ไม่แน่ใจว่ามันมีด้วยหรือมาตรานี้ แต่ดูท่าทางจะรู้กฎหมายและอาจจะสู้จนหัวชนฝาเพื่อค่าแรงของตัวเอง เลยตอบกลับไปว่า

“ที่จะโอนให้ทุกอาทิตย์ก็ไม่ใช่อะไร เพื่อประหยัดค่าโอนเงิน ถ้างั้นจะโอนให้ทุกวัน แต่ค่าโอนต้องหักจากค่าแรงก่อน”

“เขี้ยวที่สุด”

“เพื่อความเป็นธรรมกับผู้จ้างแรงงาน จะโอนให้วันละสองร้อยแปดสิบบาท”

“ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำอีกค่ะหัวหน้า ฝนไปขุดดินขนทรายน่าจะดีกว่า”

“ก็แล้วทำไมไม่ไป” ภาวินกอดอกมองหน้า “ก็เพราะเราอยากได้งานสบายไง งานใช้สมองเบาๆ แต่คาดหวังจะได้ค่าแรงมากๆ ถือเป็นการเอาเปรียบแรงงานคนอื่นอย่างวายร้าย แถมยังด้อยค่าคนใช้แรงงานว่าเป็นงานไร้ค่า เงินเดือนถึงได้ต่ำ นี่คือการถูกล้างสมองมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์จนกลายเป็นสิ่งธรรมดาไปกันหมดแล้ว ในฐานะที่เราเป็นนักข่าวและกำลังจะเป็นมืออาชีพต่อไปในวันหน้า ก่อนอื่นต้องหัดล้างสมองตัวเองเสียก่อน เข้าใจรึยัง”

คนถูกเทศนาเงียบไปได้ จิบกาแฟร้อนๆ เพื่อข่มจิตใจ

 



Don`t copy text!