ประโยชน์ของเบียร์ที่เมียไม่รู้
โดย : เจริญขวัญ แพรกทอง
“อเมริกันคัน” เรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาทั้งหมด บางเรื่องเป็นแง่มุมในอเมริกาที่หลายคนไม่เคยรู้หรือเคยรับรู้มาบ้าง แต่อาจมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจน เจริญขวัญ แพรกทอง เจ้าของคอลัมน์ที่เขียนลงในต่วยตูนมาถึง 10 ปี นำมาเขียนเล่าสู่กันฟังแบบสนุกๆ เหมือนการเล่าให้เพื่อนฟัง โดยคงบุคลิก “ต่วยตูน” ดั้งเดิมเอาไว้ คือสาระและบันเทิง
บอกตรงๆ เลยว่าตั้งใจเขียนเพื่อเอาใจท่านสุภาพบุรุษผู้เปรียบเสมือนราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ในบ้าน ส่วนคุณภรรยาหรือก็เปรียบเสมือนนางกวางน้อยผู้ชำเลืองมองราชสีห์ที่ค่อยๆ ควักเงินออกมานับส่งให้นางกวางน้อยทุกสิ้นเดือน เพียงแค่กระแอมกระไอ ราชสีห์ถึงกับสะดุ้งสุดตัว แล้วหลบตานางกวางน้อยเดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรเย็นๆ ดื่มให้คลายความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
ช่วงชีวิตที่เปิดบริษัทประชาสัมพันธ์ของตัวเอง มีลูกค้าบริษัทเบียร์ในอเมริกาจ้างบริษัทพีอาร์ของฉันอย่างครบวงจร นั่นคือโปรโมตเบียร์ยี่ห้อหนึ่งตามสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ภาคภาษาอังกฤษ แล้วต้องเดินสายไปงานโปรโมตเบียร์ด้วยการรินเบียร์แจก งานนี้มิได้นุ่งน้อยห่มน้อยแต่อย่างใด หากแต่ยืนอวดหุ่นบึกบึนเยี่ยงหมีควายแบกลังเบียร์ไปโปรโมตทุกรัฐเหนือจรดใต้ในอเมริกา
จะว่าไปแล้วถือเป็นคราวเคราะห์แท้ๆ ที่ต้องมาทำหน้าที่เดียวกับน้องๆ อ้อนแอ้นนุ่งสั้นรินเบียร์แจก แตกต่างกันตรงที่ว่านางกลางเบียร์คนนี้แก่และปากร้ายที่สุดในโลก การที่มายืนหน้าแก่รินเบียร์แจกได้เพราะในอเมริกาไม่มีใครเอาสาวนุ่งน้อยห่มน้อยมายืนแอ่นไปแอ่นมารินเบียร์เท่าไหร่นัก
การรินเบียร์ตามงานโปรโมตถือเป็นภาระหนักสาหัสเอาการอยู่ เพราะในการออกงานแต่ละหน ต้องแบกลังหรือยกถังเบียร์ที่เรียกว่า Keg ซึ่งหนักกว่าถังแก๊สบ้านเราหลายเท่าตัว ดังนั้นพวกที่รินเบียร์แจกจึงมักเป็นเพศชายหรือไม่ก็สตรีที่เน้นความถึกเป็นหลัก
ในชีวิตการไปออกงานเบียร์เฟสติวัลที่นั่นที่นี่ทั่วอเมริกา ได้เห็นอะไรแปลกหูแปลกตาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เห็นมาเยอะแล้วที่ราชสีห์หันมามองบูธรินเบียร์ในงานด้วยสายตาหวานฉ่ำแต่ลังเล ได้แต่เดินวนไปรอบๆ เป็นเสือติดจั่น จนนางกวางน้อยพยักหน้าให้สัญญาณนั่นแหละ ราชสีห์ถึงเดินองอาจเข้ามาขอชิมเบียร์แก้วแรก… ตามมาด้วยแก้วที่ 2… 3 และ 4
นักปราชญ์ท่านหนึ่งกล่าววาทะเกี่ยวกับการดำรงชีวิตอยู่อย่างมีความสุขเอาไว้อย่างน่าฟังเหลือเกินว่า
“รักชีวิต… อย่าคิดสู้เมีย”
เมื่อวาทะนี้หลุดออกมาท่ามกลางวงเบียร์ พลันปรากฎเสียงฮือฮา แล้วผมเป็นกระเซิงยุ่งเหยิงของเหล่าราชสีห์ก็ผงกขึ้นผงกลงอย่างเห็นด้วย จากนั้นมีเสียงอ้อแอ้ตามมาสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า
“เหนือจอมยุทธ…. ยังมีมนุษย์เมีย”
จริงๆ แล้วข้อมูลเกี่ยวกับเบียร์ที่นำมาเล่าล้วนได้มาจากการทำงานรินเบียร์ทั้งสิ้น เพราะการทำงานรินเบียร์เชียร์เบียร์ในอเมริกา ไม่ใช่แค่ไปยืนยิ้มหวานๆ แล้วแอ่นนมตู้มๆ ชนสายตากระทาชายทั้งหลายทั้งปวง แต่ต้องมีเรื่องเล่าตำนานนิทานร้อยแปดไปหลอกล่อต่อล้อต่อเถียงกับบรรดาชายหนุ่มบ้างไม่หนุ่มบ้างที่รายล้อมเข้ามาหาราวสาวสวยประจำตำบล
เมื่อเป็นเช่นนี้ นางรินเบียร์จึงจำเป็นต้องรู้ประวัติของเบียร์และรู้เรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเบียร์ให้เยอะเข้าไว้ จะได้เอาไว้ชวนลูกค้าคุยเรื่อยเจื้อย นักวิชาการที่ศึกษาเรื่องโรคหัวใจพบว่า คนที่ดื่มเบียร์เป็นประจำจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มถึง 40-60 เปอร์เซนต์เชียวนะ แต่นั่นหมายถึงอัตราการดื่มจะต้องไม่เกินครึ่งลิตรต่อวัน ไม่ใช่ดวดวันละลังแบบ 24 ขวด แบบนั้นเผลอๆ ไปสบตาพญายมบาลก่อนแน่นอน
นอกจากนี้เบียร์ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัมพฤกษ์และอัมพาต เพราะสารบางอย่างในเบียร์ ช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตันได้ อีกทั้งยังช่วยลดความดันโลหิต แพทย์ชาวฮอลแลนด์และจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดค้นพบว่า การดื่มเบียร์ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้
เล่ามาถึงตรงนี้ เหล่าราชสีห์เฮกันลั่นบ้าน จนนางกวางน้อยเดินออกมาดูนั่นแหละ บรรดาราชสีห์จึงหลบตาก้มหน้าอ่านต่อ นอกจากนี้ผู้ที่ดื่มเบียร์ยังมีความจำดีกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มเบียร์ แต่ปัญหาคือเวลาดื่มมากๆ แล้วมักจำไม่ได้ค่อยได้ว่ารอยลิปสติกบนเสื้อนี่มาจากผับไหน เรื่องนี้มีความเสี่ยงสูง เพราะอาจจะทำให้โดนนางกวางขวิดได้
ใครนอนไม่หลับกระสับกระส่ายคล้ายจะเป็นลม ไม่ต้องสูดดมยาดมเคี้ยวลูกอมหรือป้ายยาหม่องแต่อย่างใด แต่ให้หันมารินเบียร์ดื่มให้ชื่นมื่นสำราญใจ เพราะสารจากดอกฮ็อพนั้นเป็นเสมือนยานอนหลับตามธรรมชาติและทำให้ประสาทผ่อนคลาย แต่ทั้งนี้ขอให้แน่ใจว่าจ่ายเงินค่าเบียร์ครบถ้วนและไม่ลืมทิปเด็กเสิร์ฟแล้วทุกหน ไม่เช่นนั้นอาจต้องไปนอนกองรวมกับหมาขี้เรื้อนหน้าร้านหลังบาร์เลิกได้
ใครจะไปคิดว่าการดื่มเบียร์ในปริมาณที่พอเหมาะจะมีประโยชน์ต่อร่างกายถึงเพียงนี้ ในเบียร์มีสารโพลีฟีนอยด์ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง โดยดักจับอนุมูลอิสระตัวร้ายออกจากร่างกายและช่วยยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาการของมะเร็ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าท่านราชสีห์ทั้งหลายจะซดเบียร์โฮกๆ แล้วอ้างว่า
“ดื่มเพื่อป้องกันมะเร็งเท่านั้นเองนะจ๊ะ กวางน้อยจ๋า”
อ้างแบบนี้มากๆ ระวังอาจจะกินน้ำพริกไม่ได้ไปอีกหลายวัน เพราะริมฝีปากอาจสัมผัสของแข็งไม่ระบุประเภทและพิกัด แต่โดยมากแล้วมักมาในรูปแบบวิธีการยิงระยะไกลจากในครัวมากระทบได้ง่ายๆ หากวันไหนบรรดาราชสีห์เมาจนล้มคว่ำคลำพื้นจนเอ็นร้อยหวายฉีก ก็ให้ควักเบียร์กระป๋องเย็นๆนั่นแหละ มาประคบเอ็นร้อยหวายโดยพลัน เพราะช่วยบรรเทาอาการอักเสบได้ชะงักนักแล แม้ว่าจะไม่ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์นัก แต่ถือว่าช่วยในการปฐมพยายาลเบื้องต้นได้เยอะมาก เพราะมีคุณสมบัติดุจเดียวกับถุงน้ำแข็งนั่นเอง หรือราชสีห์ท่านใดที่ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว ให้เอาขวดเบียร์เย็นๆ นี่แหละมาคลึงเคล้าตามเนื้อตัวบริเวณที่ปวดเมื่อย นี่ไง เอาไว้อ้างกับนางกวางน้อยได้ว่า ขวดเบียร์เปื้อนเหงื่อหมดแล้ว จะเอาไปให้ใครก็ไม่ได้ คงต้องดื่มเองนะเมียจ๋า
ประโยชน์ของเบียร์ข้อสุดท้ายคือเอาไว้บำรุงผม เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะเคยเห็นโฆษณาหลายชิ้นที่โฆษณาคุณสมบัติของเบียร์ข้อนี้ ความจริงก็คือ คุณสมบัติของเบียร์นั้นช่วยในการบำรุงผมได้จริง ใครที่ผมลีบแบนติดหนังศีรษะ หลังสระผมแล้วให้เทเบียร์ลงบนเส้นผมพอหมาดๆแล้วขยี้ให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก เช็ดให้แห้ง ผมที่แห้งลีบจะมีน้ำหนักจัดทรงง่าย
นางกวางน้อยที่บ้านใช้ไปซ่อมประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน เพราะฝนตกติดต่อกันหลายวันทำให้ตัวล็อกขึ้นสนิมจนเปิดไม่ออก คุณๆ ราชสีห์อย่าตกใจ ก่อนจะเดินไปยังประตูรั้วเหล็กให้เปิดเบียร์กระป๋องแล้วดื่มย้อมใจสักอึกหนึ่งก่อน จากนั้นให้คว้าเบียร์ที่เหลือในกระป๋องราดลงไปบนตัวล็อค
ทิ้งไว้สักครู่ใหญ่ๆ ระหว่างนี้จะนั่งดูมวยหรือนั่งเล่นเฟซบุ๊กไปก่อนก็ได้ แต่ถ้าแอบแชตหญิงแปลกหน้าที่มักเปิดโน่นเปิดนี่ให้ดูฟรี แล้วอาจมีวัตถุลึกลับลอยมาจากครัวด้วยวิถีกระสุนแนวโค้งมาที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ หลังจากทิ้งไว้ครู่ใหญ่ จะเห็นว่าคาร์บอเนตในเบียร์ช่วยละลายสนิมได้ดีทีเดียว คราวนี้แหละรับรองเปิดประตูคล่องปรื๋อเลยเชียว