ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 11 : ความหวังสุดท้าย

ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 11 : ความหวังสุดท้าย

โดย : พงศกร

Loading

ดอกฟ้ายาใจ นวนิยายแนวยั่วล้อที่ พงศกร เขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมทั้งแบบรูปเล่มและนำไปเป็นละครโทรทัศน์ แต่หนังสือขาดหายไปนานและมีเสียงเรียกร้องให้นำกลับมาพิมพ์ใหม่เป็นจำนวนมาก สำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่งจึงได้จัดพิมพ์ ‘ดอกฟ้ายาใจ’ อีกครั้ง เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์อ่านเอาและสำนักพิมพ์มาโดยตลอด

ความหวังสุดท้ายของคุณหญิงสายหยุดนั้นอยู่ที่บ่อนพนันของเตี่ยของทินพันธ์ ที่เธอตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะว่าไม่อยากจะบากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากใครอีกแล้ว

เมื่อตกยากอย่างในยามนี้ เพื่อนฝูงที่เคยมี ต่างหลีกลี้หนีหน้า คนที่เคยนับหน้าถือตาล้วนทำเป็นไม่รู้จัก ไปขอพบเพื่อขอยืมเงินก็มีแต่คนรังเกียจ แม้แต่ครอบครัวของอธิบดีอนันต์ที่เป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าสัวทินกร อีกทั้งอนึกบุตรชายที่เป็นคู่หมั้นของกรผกามารศรีก็ยังมาขอถอนหมั้น เพราะคุณอนงค์นาถรังเกียจที่จะต้องมาร่วมแบกรับภาระหนี้สินอีกด้วย

ได้รู้ซึ้งถึงสัจธรรมแห่งชีวิตก็ในยามนี้ มีเงินเขานับเป็นน้อง มีทองเขานับเป็นพี่ ไม่มีเงิน ไม่มีทอง ไม่มีใครเขาอยากนับญาติด้วย เพราะเหตุนี้ คุณหญิงสายหยุดจึงต้องพึ่งตัวเอง เธอตัดสินใจนำเงินหนึ่งพันล้านบาทก้อนสุดท้ายของมรกตพรอพเพอร์ตี้ มาทุ่มเล่นการพนันเพื่อจะได้เงินมาใช้หมุนเวียน

แต่การพนันก็คือการพนัน การพนันไม่เคยให้คุณกับใคร

ไพ่เกมแรกนั้น คุณหญิงสายหยุดเป็นผู้มีชัย เงินหนึ่งพันล้านงอกเงยขึ้นมาเป็นสองพันล้านในชั่วพริบตา หากเธอมีสติและหยุดตนเองเอาไว้เพียงเท่านั้น ทุกอย่างก็คงจะเรียบร้อยดี แต่คุณหญิงสายหยุดเกิดย่ามใจหวังจะได้อีกสักหนึ่งหรือสองพันล้านมาต่อทุน เธอจึงนำเงินสองพันล้านที่มีในมือทุ่มลงไปในวงไพ่จนหมด

เตี่ยของทินพันธ์ได้รับรายงานจากลูกน้องที่คุมบ่อนว่า มีลูกค้ารายหนึ่งทุ่มเงินลงเดิมพันก้อนใหญ่ เสี่ยใหญ่เจ้าของบ่อนได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจเพราะหากพลาดขึ้นมาก็จะต้องสูญเงินก้อนโต จึงโทรศัพท์เรียกให้ทินพันธ์บุตรชายคนโตมาดูแลลูกค้าคนนี้ด้วยตนเอง

ที่จริงทินพันธ์ไม่อยากมาที่บ่อน แต่ฟังจากเตี่ยก็รู้สึกว่าลูกค้ารายนี้เป็นคนสำคัญ ไว้ใจให้ลูกน้องคุมเกมไม่ได้ ต้องอาศัยเซียนระดับมือพระกาฬอย่างเขาเท่านั้น

เมื่อชายหนุ่มมาถึงบ่อนและพบว่าลูกค้าที่เตี่ยว่าที่แท้ก็คือคุณหญิงสายหยุด ทินพันธ์ก็ทำตาโตด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่ามารดาของกรผกามารศรีจะเล่นพนันมือเติบขนาดนี้ แวบหนึ่งเขานึกห่วงว่าหญิงสาวจะรู้เรื่องนี้หรือไม่

แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ไม่มีข้อยกเว้น ในเมื่อลูกค้ามีเงินในมือและต้องการจะเล่นพนัน บ่อนก็ต้องยอม

ทินพันธ์จำต้องยอมให้คุณหญิงแม่ของกรผกามารศรีลงเดิมพันถึงสองพันล้าน และเขานั่งเป็นเจ้ามือเล่นกับคุณหญิงในเกมครั้งนี้

แต่แล้วเมื่อเปิดไพ่ในมือขึ้นมา คุณหญิงสายหยุดก็ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อไพ่ในมือของทินพันธ์นั้นเหนือกว่า

เงินสองพันล้านที่เพิ่งได้มาละลายหายไปในพริบตา!

คุณหญิงสายหยุดหน้ามืดตาลาย ใจสั่นเหมือนจะเป็นลม เพราะเงินก้อนสุดท้ายของมรกตพรอพเพอร์ตี้กลายเป็นอากาศธาตุไปเสียแล้ว

เธอเอื้อมมือไปเกาะขอบโต๊ะเอาไว้จนแน่น ใจสั่น เหงื่อกาฬแตกพลั่กจนต้องหยิบเอายาอมใต้ลิ้นแก้โรคหัวใจขึ้นมาอมอย่างรวดเร็ว

“จะทำยังไงดี”

คุณหญิงรำพึงกับตนเอง นึกถึงพนักงานทั้งบริษัทที่จะไม่มีเงินเดือนกิน และเลยนึกไปถึงตนเองกับบุตรสาวที่จะต้องลำบากลำบน ยังจะบ้านหลังใหญ่ที่ต้องใช้เงินในการดูแลรักษานั่นอีก

บ้านหลังใหญ่!

คุณหญิงสายหยุดนึกถึงคฤหาสน์มรกตขึ้นมาได้ในทันทีนั้น…

ถึงเงินจะหมด แต่บ้านและที่ดินยังมีนี่นา

กรผกามารศรี…คุณหญิงสายหยุดนึกถึงดวงหน้านวลงามของบุตรสาว พึมพำในใจว่า แม่จำเป็นนะลูก ไม่อยากทำเช่นนี้เลย แต่ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว

คฤหาสน์ของตระกูลมรกตตั้งอยู่ในทำเลทอง มูลค่าเฉพาะที่ดินก็นับพันล้านแล้ว ยังจะบ้านหลังใหญ่และทรัพย์สินในบ้านอีก มันเพียงพอที่จะใช้ต่อทุนเอาสองพันล้านที่หลุดลอยไปแล้วกลับคืนมา

“คุณทินพันธ์คะ…” คุณหญิงสายหยุดเสนอทินพันธ์ด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว “ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะขอเล่นกับคุณอีกสักหนึ่งเกม”

“อะไรนะครับคุณหญิง” ทินพันธ์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง เงินหมดแล้วคุณหญิงยังจะเล่นอีกหรือ “คุณหญิงไม่มีเงินแล้วนี่ครับ”

“แต่ฉันยังมีบ้าน มีที่ดิน” คุณหญิงรีบเสนอ “รู้จักใช่ไหมคะ คฤหาสน์มรกต…ฉันขอเดิมพันด้วยบ้านและที่ดินของคฤหาสน์มรกต”

“คิดดีแล้วหรือครับ” ทินพันธ์พยายามยับยั้ง แต่ก็พยักหน้าให้ลูกน้องสับไพ่ในมือแจกให้มารดาของกรผกามารศรีตามที่เธอต้องการ “ถ้าคุณหญิงแพ้อีกคราวนี้ จะไม่มีอะไรเหลือเลยนะ”

“ฉันคิดดีแล้ว”

คุณหญิงสายหยุดเม้มริมฝีปากแน่น นึกถึงเจ้าสัวทินกรผู้เป็นสามีขณะเปิดไพ่ในมือ

หน้าไพ่ที่ออกมานั้น ทำให้คุณหญิงถึงกับอึ้ง เพราะแต้มต่ำมาก ดูแล้วไม่มีโอกาสชนะเลยสักนิด หัวใจของเธอเต้นแรงขณะกรีดร้องออกมา

“แก…” คุณหญิงสายหยุดขว้างไพ่ในมือทิ้ง และชี้นิ้วสั่นระริกไปที่ทินพันธ์ “ไอ้ขี้โกง…แกโกงไพ่ฉันหรือเปล่า พวกแกมีแต่พวกขี้โกงทั้งนั้น…เอาใหม่ เล่นใหม่ แจกไพ่ใหม่”

“อ้าว คุณหญิง” ทินพันธ์ชักไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ตอนแรกก็คิดจะสงสารอยู่หรอก แต่พอเห็นท่าทางเอะอะโวยวายอาละวาดของคุณหญิงก็เลยเลิกคิดสงสาร “พูดเป็นเล่นขายของ ผมถามแล้วนะว่าคุณหญิงจะเล่นหรือเปล่า เกมนี้คุณหญิงก็ตกลงเล่น แล้วจะมาโกงกันหรือไงครับ”

“ฉันไม่รู้ ฉันกลับละ ถือว่าตะกี้นี้ฉันไม่ได้ตกลงด้วยก็แล้วกัน”

คุณหญิงสายหยุดควักกระเป๋าสะพายขึ้นมาถือไว้ในมือ คิดจะเดินกลับเฉยๆ หากลูกน้องของทินพันธ์รีบปราดเข้าไปประกบ

“เดี๋ยวสิครับ” น้ำเสียงของทินพันธ์เหี้ยมเกรียม “จะชักดาบกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอครับ…ผมว่าคุณหญิงนัดมาเลยดีกว่า ว่าจะไปโอนบ้านและที่ดินให้วันไหน”

“ฉันไม่โอน” คุณหญิงสายหยุดมองดูชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ด้วยสายตาเหยียดหยาม “ฉันไม่รู้เรื่อง”

“อย่าทำเป็นไขสือคุณหญิงสายหยุด คุณหญิงคงไม่รู้สินะครับว่าทุกอย่างในห้องนี้มีโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายเอาไว้หมด” ทินพันธ์พยักหน้าให้โชติผู้เป็นลูกน้องคนสนิท “ลองฉายตัวอย่างให้คุณหญิงดูสักหน่อยสิ”

โชติเดินไปยังเสาที่อยู่ข้างประตู กดปุ่มสีขาว จากนั้นจอภาพยนตร์ก็เลื่อนลงมาจากเพดานช้าๆ พร้อมกันนั้นแสงจากกล้องฉายก็ส่องจับบนจอ ก่อนที่เครื่องเล่นเทปจะฉายภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่ใหญ่

คุณหญิงสายหยุดมองเห็นภาพตัวเองในนั้น มือข้างหนึ่งถือไพ่ในมือ ทรงผม ดวงหน้า เครื่องแต่งกาย ดูยังไงก็ไม่มีผิดเพี้ยน เสียงที่เธอกำลังใช้บ้านและที่ดินเป็นเดิมพันกับผู้ชายร่างสูงที่อยู่ตรงหน้านั้นดังฟังชัด ทั้งภาพและเสียงชัดเจนจนไม่มีคำอธิบายอื่นใด

คุณหญิงแม่ของกรผกามารศรีถึงกับหน้าซีด เข่าอ่อน สิ้นเรี่ยวแรงจนต้องทรุดกายลงนั่งทันใด

“เห็นชัดเจนแล้วใช่ไหมครับ” ทินพันธ์พูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ “คุณหญิงเป็นคนเดิมพันด้วยบ้านและที่ดินเอง ทั้งที่ผมก็ได้เตือนเอาไว้แล้ว คุณหญิงอย่าโยกโย้ นัดวันโอนบ้านให้ผมเลยดีกว่า ไม่อย่างนั้นถ้าภาพจากโทรทัศน์วงจรปิดชุดนี้เผยแพร่ออกไปละก็ คุณหญิงจะเสียหายมากกว่านี้หลายเท่า”

“แก…” คุณหญิงสายหยุดรู้สึกแน่นหน้าอกจนต้องหายใจทางปาก “แกขู่ฉัน”

“ผมไม่ได้ขู่” ทินพันธ์ยังคงยิ้มเยือกเย็น “คนอย่างผมพูดจริงทำจริง ถ้าคุณหญิงโยกโย้ละก็ พรุ่งนี้ขึ้นหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งทุกฉบับแน่”

“ฉัน…ฉัน…” เมื่อเห็นว่าต้องโอนบ้านและที่ดินให้กับชายหนุ่มลูกชายเจ้าของบ่อนแน่ๆ แล้ว คุณหญิงก็น้ำตาไหลพราก “โอนบ้านให้แกไป แล้ว…แล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหน ทั้งบ้าน ทั้งบริษัท…ฉันไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ขอเวลาฉันสักนิดได้ไหมคะ”

“ได้สิครับ แต่ผมว่าผมมีทางเลือกที่ดีกว่าให้คุณหญิง” ทินพันธ์ค่อยๆ พูดอย่างใจเย็น “ถ้าคุณหญิงตกลงตามนี้ ไม่เพียงแต่ผมจะคืนบ้านและที่ดินให้คุณหญิง…แต่ผมจะคืนสองพันล้านบาทให้อีกด้วย”

“ทางเลือก” คุณหญิงสายหยุดตาโต รู้สึกมีความหวังเรืองรอง “อะไรคะ บอกฉันมาสิคุณทินพันธ์”

“ให้กรผกามารศรีแต่งงานกับผม” ทินพันธ์บอกข้อเสนอของเขาด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง เขารักหญิงสาวคนนั้นตั้งแต่แรกพบ

น่าเสียดายที่เธอหัวสูง ชอบดูถูกคนที่ต่ำต้อยกว่า

แต่มาบัดนี้ คนที่ต่ำต้อยกว่ากำลังจะได้ครอบครองคฤหาสน์มรกตและทรัพย์สมบัติทุกอย่างของเธอ

กรผกามารศรี…แม่ดอกฟ้ายาใจ!

 



Don`t copy text!