ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 30 : ลาสต์บอส

ดอกฟ้ายาใจ บทที่ 30 : ลาสต์บอส

โดย : พงศกร

Loading

ดอกฟ้ายาใจ นวนิยายแนวยั่วล้อที่ พงศกร เขียนเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ได้รับความนิยมทั้งแบบรูปเล่มและนำไปเป็นละครโทรทัศน์ แต่หนังสือขาดหายไปนานและมีเสียงเรียกร้องให้นำกลับมาพิมพ์ใหม่เป็นจำนวนมาก สำนักพิมพ์กรู๊ฟพับลิชชิ่งจึงได้จัดพิมพ์ ‘ดอกฟ้ายาใจ’ อีกครั้ง เพื่อแทนคำขอบคุณแฟนๆ ที่ติดตามเว็บไซต์อ่านเอาและสำนักพิมพ์มาโดยตลอด

ทันใดนั้นเอง เสียงปืนนัดหนึ่งก็ดังขึ้นจากหน้าต่างห้องของโรงแรมแห่งนั้นพร้อมกับนายตำรวจหนุ่มคนหนึ่งล้มคว่ำลง ขณะที่นายตำรวจที่เหลือ ทินพันธ์ เก่ง และทุกคนที่ร่วมเดินทางมาพร้อมกับรถ ต่างพากันหมอบราบลงกับพื้นเพื่อความปลอดภัย

“คุณแม่ขา…ช่วยลูกด้วย”

เสียงกรีดร้องของกรผกามารศรีดังมาจากภายในห้องนั้น ขณะที่ธงชาติโผล่หน้าออกมาพร้อมกับถือปืนจ่อศีรษะของกรผกามารศรี

“พวกมึงถอยออกไป ถ้าไม่อยากให้ข้าระเบิดสมองนังคนนี้”

“อาธงชาติ” คุณนายกิมเฮียงตกตะลึง

“ธงชาติ…นี่ฝีมือของนายเองน่ะหรือ” ทินพันธ์เองก็ตกตะลึงไม่แพ้ผู้เป็นมารดา ด้วยไม่คิดว่าที่แท้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวกรผกามารศรีก็คือเพื่อนของเขา พี่ชายของวิกกี้นั่นเอง

“เออสิวะ ไอ้เพื่อนหน้าโง่” ธงชาติแหงนหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดังลั่น “นึกไม่ถึงใช่ไหมล่ะ ช่วยไม่ได้ ข้าจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพื่อกำจัดนังกรผกามารศรีให้พ้นไป ความรักของนายกับวิกกี้จะได้สมหวังอย่างไรล่ะ”

“ไม่มีทางหรอกธงชาติ” ทินพันธ์ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถึงจะไม่มีกรผกามารศรี ฉันก็ไม่ได้รักวิกกี้อย่างแฟน แต่ฉันรักวิกกี้เหมือนกับเป็นน้องสาวต่างหาก”

“ดี…งั้นกูจะฆ่าอีนังนี่ให้ตายไปเสียเลย” ธงชาติเลือดขึ้นหน้า

“ปล่อยตัวคุณกรผกามารศรีเดี๋ยวนี้นะ” สารวัตรอาคมตะโกนสั่ง “อย่าทำร้ายเธอเด็ดขาด มอบตัวเสียดีๆ ความผิดจะได้ผ่อนจากหนักเป็นเบา”

“ไม่มีทาง” ธงชาติมีสีหน้าเคร่งเครียด “ขืนกูปล่อยอีนังนี่ พวกมึงก็ยิงกูน่ะสิ ไม่ปล่อยโว้ย…นอกจากพวกมึงจะจัดการตามที่กูสั่งให้เรียบร้อยเสียก่อน”

“ใจเย็นๆ นะธงชาติ” ทินพันธ์ช่วยตำรวจเกลี้ยกล่อมคนร้ายอีกแรงหนึ่ง “อยากได้อะไรบอกมาสิ พวกเราจะได้จัดให้”

“อย่างแรก กูขอรถไปส่งที่ชายแดน” ธงชาติตะโกนตอบลงมาจากห้องพักท่ามกลางเสียงกรีดร้องของกรผกามารศรี

“ช่วยกรผกาด้วยค่าาาาาาา…ช่วยกรผกาด้วยยยยยยยย”

“เงียบๆ หน่อยได้ไหม เป็นจิ้งหรีดหรือไงวะ แหกปากร้องอยู่ได้ แสบแก้วหูโว้ย” ธงชาติหันไปเอ็ดกรผกามารศรีที่เอาแต่ส่งเสียงร้องกรี๊ดๆ ก่อนจะหันกลับมาทางทินพันธ์และสารวัตรอาคม “อย่างที่สอง…ตำรวจต้องเปิดทางให้กูผ่านข้ามแดนไปได้ เมื่อข้ามแดนไปแล้ว กูถึงจะยอมปล่อยนังนี่”

ธงชาติบอกข้อเสนอที่สอง ที่จริงเขาไม่อยากปล่อยให้กรผกามารศรีรอดไปได้ แต่ในเมื่อสถานการณ์จวนตัวเช่นนี้ หากดึงดันเอาตัวหญิงสาวไปด้วย มีแต่จะถ่วงให้การหนียิ่งยากลำบาก และอาจจะทำให้เขาหนีไม่รอดก็ได้

“ตกลง” สารวัตรอาคมยอมตกลงง่ายๆ ท่ามกลางเสียงโวยวายของเก่งและคุณหญิงสายหยุด

“สารวัตรคะ ไปยอมมันง่ายๆ ได้ยังไงคะเนี่ย มันเป็นผู้ร้ายจับลูกสาวฉันมานะคะ”

“นั่นสิครับ” เก่งรีบสนับสนุน “ยิงถล่มมันเลยดีกว่า”

“จะบ้าหรือไง” สารวัตหนุ่มรูปหล่อหันมาเอ็ดทุกคนให้เงียบเสียง “ขืนทำแบบนั้น กรผกามารศรีจะพลอยแย่ไปด้วยน่ะสิครับ ผมว่าตอนนี้นายธงชาติมันเป็นต่อเพราะมีลูกสาวของคุณหญิงอยู่ในมือ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ควรจะยอมตามใจมันไปก่อน แล้วหาทางช่วยคุณกรผกาออกมาทีหลัง”

“เออ…จริงด้วย สารวัตรฉลาดจริงๆ เลย” เก่งเพิ่งจะนึกออกตามที่สารวัตรว่า

หลังจากที่สารวัตรหนุ่มหันไปซุบซิบกับทินพันธ์เพื่อวางแผนการร่วมกันแล้ว เขาก็หันไปสั่งลูกน้องเสียงดังลั่น บอกให้เตรียมรถไปส่งธงชาติที่ชายแดน

หลังจากที่รออยู่ครู่ใหญ่และรถที่ต้องการเดินทางมาถึงเรียบร้อย ธงชาติก็ฉุดกระชากลากเอาตัวกรผกามารศรีลงมาจากโรงแรม ก่อนจะผลักให้ก้าวขึ้นรถ โดยใช้ร่างบางระหงของหญิงสาวเป็นเครื่องกำบัง หากตำรวจคิดจะวิสามัญฆาตกรรมเขาละก็ คมกระสุนทั้งหลายก็จะต้องถูกร่างของกรผกามารศรีก่อน

สารวัตรอาคม ทินพันธ์ และทุกคนที่แห่กันมาจากกรุงเทพฯ พากันวิ่งขึ้นรถตู้และขับตามรถที่ธงชาติและกรผกามารศรีโดยสารอยู่บนนั้นไปจนถึงตะเข็บชายแดน

ก่อนที่รถจะข้ามชายแดนนั่นเอง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็มาสกัดรถเอาไว้ เพื่อตรวจสอบเอกสารผ่านแดนตามระเบียบราชการ

สารวัตรอาคมเห็นเป็นจังหวะดี จึงชวนให้ทินพันธ์ลงไปด้วยกัน เขาแจ้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองว่า

“ช่วยปล่อยรถคันนี้ไปด้วยครับ”

“ได้สิ” ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกล่าวอย่างรู้กันกับสารวัตรอาคม “แต่ขอให้คนบนรถลงมาเซ็นเอกสารก่อน”

“เอ้า ลงมาได้แล้วนายธงชาติ” สารวัตรอาคมตะโกนบอกคนในรถเสียงดังลั่น

“กูไม่ลง”

ธงชาติตะคอก เขาชอบดูหนังประเภทบู๊ล้างผลาญ ดังนั้นจึงรู้ดีว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นแผนการของตำรวจมากกว่า หากเขาหลงกลลงไปตามที่พวกมันว่า มีหวังเขาต้องโดนรวบตัวแน่ รอให้เข้าเขตประเทศเพื่อนบ้านก่อนเถอะ พวกมันไม่มีทางทำอะไรเขาได้แน่ เพราะทางฝั่งโน้นพวกลูกน้องของเขารออยู่แล้ว

ถึงจะไม่ค่อยประสีประสา หากกรผกามารศรีนั้นไม่ใช่คนโง่ อีกทั้งประสบการณ์เลวร้ายทั้งหลายที่ผ่านมานั้นทำให้เธอเริ่มมีไหวพริบ ดังนั้น ขณะที่ตำรวจและธงชาติกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้นเอง หญิงสาวจึงฉวยโอกาสสะบัดมือหลุดจากการเกาะกุมของชายหนุ่มผู้เป็นพี่ชายของวิกกี้ พร้อมกับเตะเข้าที่หน้าแข้งของเขาอย่างแรง

“โอ๊ยยย…” ธงชาติร้องเสียงดังลั่น

โอกาสดีไม่ได้มีมาบ่อยๆ กรผกามารศรีเห็นดังนั้นก็รีบผลักประตูรถตู้ แล้วกระโดดลงมาในทันใด หญิงสาวเห็นว่าตรงนั้นมีตำรวจล้อมรถตู้อยู่เต็มไปหมด ธงชาติคงไม่กล้าทำอะไรหล่อนแน่

หากหญิงสาวประเมินสถานการณ์ผิดพลาดไปอย่างยิ่ง เพราะทันทีที่ธงชาติตั้งตัวได้ เขาก็เหนี่ยวไกปืนในมือทันที

ปัง!

กระสุนจากปลายกระบอกปืนของธงชาติ เจาะเข้าที่กลางหลังของกรผกามารศรีอย่างแม่นยำ จนหญิงสาวที่กำลังวิ่งหนีถลาล้มลงด้วยแรงปะทะอย่างรุนแรงของกระสุนปืน

“ว้าย…ลูกกรผกา” คุณหญิงสายหยุดถึงกับเป็นลมล้มลงไปกองกับพื้น เมื่อเห็นลูกสาวถูกยิงจนเซถลา

“คุณหนูคะ”

แม่นิ่มกรีดร้องด้วยหัวใจที่แหลกสลาย หล่อนกับเก่งรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างของคุณหญิงสายหยุดได้ทันท่วงทีก่อนที่ศีรษะของผู้สูงวัยจะฟาดลงกับพื้น

“น้องผกา…ไอ้เลว หน้าด้านมากๆ แกยิงผู้หญิงทางด้านหลังได้ยังไง” เก่งร้องเสียงดังลั่นด้วยความโกรธแค้น

“ไอ้หยา” คุณนายกิมเฮียงเห็นเลือดแล้วก็หน้าซีดเซียว พลอยจะเป็นลมตามคุณหญิงสายหยุดไปด้วยอีกคนหนึ่ง

ปัง…ปัง…ปัง

เสียงปืนที่กระหน่ำดังขึ้นพร้อมๆ กันในยามนั้น เกิดจากปลายกระบอกปืนของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ยืนรายล้อมรถตู้อยู่ พวกเขาทนไม่ได้ที่เห็นธงชาติยิงผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้จากทางด้านหลัง

สารวัตรอาคมยกมือส่งสัญญาณให้กับลูกน้องตำรวจ ทุกคนกระหน่ำยิงธงชาติ ตัดสินใจกระทำวิสามัญฆาตกรรมจนร่างของชายหนุ่มโชกเลือดและดวงตาเหลือกลาน

ข้างกรผกามารศรีนั้น เมื่อล้มลงไปกองกับพื้น หญิงสาวรู้สึกปวดแปลบที่หลัง พร้อมกันนั้นก็หายใจติดขัด แน่นในหน้าอก หล่อนยกมือเอื้อมไปแตะหลังตามสัญชาตญาณ ก่อนจะเห็นเลือดสดๆ สีแดงฉานที่ไหลทะลักออกมาราวกับน้ำพุ

“เลือด”

พูดได้เพียงเท่านั้น ลมหายใจของกรผกามารศรีก็สะอึกขาดเป็นช่วงๆ ดวงตาของหล่อนพร่าพราย และก่อนที่หญิงสาวร่างผอมบางจะหมดสติไปนั้น หล่อนพอจะจำได้ว่าทินพันธ์รีบวิ่งตรงมาหา พร้อมกับโอบกอดหล่อนด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่งของเขา

“กรผกามารศรี อย่าเป็นอะไรนะ” เขากระซิบบอกกับหล่อนด้วยน้ำเสียงร้าวราน “ผมรักคุณ…คุณอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะครับ”

 



Don`t copy text!