ฝุ่นในสายลม บทที่ 17 : ศรัทธา

ฝุ่นในสายลม บทที่ 17 : ศรัทธา

โดย : ม.มธุการี

Loading

ฝุ่นในสายลม โดย ม.มธุการี เรื่องราวของลัทธิประหลาดกับความเชื่อของคนที่กระตุ้นสัญชาตญาณนักข่าวของภาวิน เขาจึงแฝงตัวเข้าไปสืบความลับของลัทธินี้ แต่ตัวคนเดียวอาจทำไม่สำเร็จ มีเพียงฝนดาว หญิงสาวที่สูญเสียญาติสนิทไปกับลัทธินี้ที่อาจจะช่วยเขาไขปริศนาอันดำมืดนี้ได้ อ่านนิยายสนุกๆ เรื่องนี้ได้ที่เพจอ่านเอาและเว็บไซต์ anowl.co

 

หลังอาหารค่ำวันนั้นกานนก็เอาโทรศัพท์มือถือที่อัดการสนทนาของผู้คนในลัทธิแห่งนั้นให้ภาวินดู

“ผมแอบถ่ายได้นิดเดียวเพราะที่นั่นเข้มงวดมากเรื่องการเข้าไปถ่ายภาพในนั้น  แต่อัดเสียงคนพูดคุยกันเอาไว้ได้มั่ง  อยากจะให้หัวหน้าได้ดู“

ภาพที่ภาวินเห็นในสายตาคือภาพคนต่อแถวกันยาวเหยียด  บ้างก็จูงลูกจูงหลาน  บ้านก็เข็นรถคนชรามาต่อแถวรอคอย

“เขาคอยอะไรกัน“ ภาวินถามออกไป

“คนมารอรับการรักษาครับ  มีผู้เชี่ยวชาญที่นั่นเปิดศูนย์รักษาคนป่วยทุกโรค ด้วยกรรมวิธีพลังงานจากต่างดาว  พวกนี้จะได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ จากด็อกเตอร์เอกภพ  นัยว่าแกเป็นคนถ่ายทอดความรู้ให้“

“คือหากินกันทุกรูปแบบเลยว่างั้นเถอะ“ ภาวินว่า

“แต่แกก็ไม่ได้เรียกเก็บเงินเก็บทองอะไรนะครับ  ที่สำคัญส่วนใหญ่ คนที่ได้รับการรักษาก็มักจะหายและบอกกันไปปากต่อปาก  ไม่เชื่อหัวหน้าลอง ฟังดู“

ภาวินนั่งฟังไปเรื่อยๆ       ล้วนแล้วแต่เป็นการประกาศสรรพคุณของการรักษาชนิดนี้โดยไม่ต้องพึ่ง กรรมวิธีสมัยใหม่  คงจะเป็นพวกหน้าม้าที่เขาเคยเห็นบ่อยๆตามตลาดนัดทั่วๆไป  บางคนคุยโวเกินบรรทัดฐานของความเป็นจริงก็เอา

“พ่อผมเป็นอัมพาตเดินไม่ได้มาสิบปี  เข้ารับการถ่ายทอดพลังจิตครั้งเดียว เท่านั้นหละ  เดินปร๋อเตะปี้บดังเปรี้ยงปร้าง“

ภาวินหรี่เสียงจากเทปลง

“แล้วแบบนี้ไม่เรียกแหกตากัน  ผู้เฒ่าทั้งหมู่บ้านถึงได้แห่กันมาเข้าแถวไง  เป็นหลักจิตวิทยาว่าด้วยการขายทั้งเพ  แสดงว่าตาด็อกเตอร์คนนี้แกไม่ธรรมดา แล้วมีใครได้เห็นตัวแกกันหรือยัง“

“ยังเลยครับ  ผมลองเรียบเคียถามดูเห็นว่าแกกำลังปฏิบัติธรรมขั้นสูง เพื่อการบรรลุอยู่“

“เหมือนกับเมียนักการเมืองคนนี้เลยค่ะ  กว่าฝนจะเข้าถึงตัวแกได้“ ฝนดาวพูดมั่ง

“เจอมาแล้วหรือ“ ภาวินเริ่มสนใจ

“สัมภาษณ์มาเรียบร้อย  แกชื่อจันทรา  กำลังปฏิบัติธรรมขั้นสูงอยู่เหมือนกัน  ฝนเข้าถึงตัวได้เพราะเป็นคนเอาอาหารไปส่งให้“

ฝนดาวเปิดโทรศัพท์ให้ดู  มีแต่เสียงแต่ไม่มีภาพ

“หนูชื่ออะไรคะ“

“ฝนดาวค่ะ“

“คงเพิ่งจะมาใหม่“

“ฝนมาได้สองวันแล้วค่ะ“

“แล้วเป็นไง  ขอบไหมที่นี่“

“ก็เงียบดีนะคะ“

“ขอบคุณนะที่เอาอาหารมาส่ง“

มีเสียงโขลกขลากดังอยู่ครู่หนึ่งแล้วทุกอย่างก็ถูกตัดขาดเพียงแต่นั้น

ภาวินมองหน้าเด็กแว่นที่ทำตาบ้องแบ๊วอยู่เบื้องหน้า

“แค่นั้น?” เขาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “ใครสัมภาษณ์ใครกันแน่เนี่ย“

หันไปมองหน้ากานน

“เทรนได้แค่นี้เอง?  การสัมภาษณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกซึ่งอาจจะไม่ได้พบ ตัวเขาอีกแล้ว  และสัมภาษณ์มาได้แค่นี้“

“ฝนก็เกรงใจไงคะ  เห็นว่าเขาจะทานข้าวกลางวัน“ พูดอุบอิบ

“ไม่ได้  สัมภาษณ์กันนี่เราจะเกรงใจใครไม่ได้เลย  ต้องบุกทะลวงลูกเดียว เคยเห็นนักข่าวเก่งๆที่ไปไล่สัมภาษณ์คนบ้างไหม  ถามนำก็ต้องเอา  ขนาดฆาตกรใจโหดไม่ยอมเปิดปากพูดกับใครเจอนักข่าวพวกนี้ยังต้องยอมจำนน เคยมีนักข่าวถามฆาตกร  ที่ฆ่าเมียตายเพราะแค้นใช่ไหมที่เมียมีชู้แถมเอาเงินเรา ไปเลี้ยวดูชู้จนอิ่มหมีพีมัน  จนเราแค้นฝังหุ่นต้องฆ่าเมียฝังดินทั้งเป็น…  เท่านั้นแหละฆาตกรหันมาคุยด้วยเป็นต่อยหอย  เห็นรึยังอิทธิพลของการถามชี้นำว่ามันได้ผลยังไงมั่ง  การมอบหมายงานอะไรให้ทำมันจะต้องบรรลุเป้าหมายที่ให้ไว้  ไม่ใช่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปอย่างน่าเสียดาย  งั้นพรุ่งนี้ไปใหม่  ไข่แดงของข่าวทั้งหมดมันอยู่ที่ผู้หญิงคนนี้  กับอีตาด็อกเตอร์นั่นเท่านั้น  พยายามเข้าถึงตัวให้ได้  และหาทางเอาข้อมูลกลับมาให้ได้มากที่สุด  อย่าให้งานนี้มันสูญเปล่า“

ฝนดาวออกจากที่นั่นด้วยความเจ็บใจตัวเอง นี่ขนาดงานชิ้นแรกที่ได้รับหมอบหมายมายังพลาดได้ถึงขนาดนี้  แถมมีเจ้านายที่ชอบสับโขกเข้าอีก เห็นทีจะต้องหาทางย้ายค่ายในเร็ววันก่อนที่จะเป็นลูกไล่ให้เจ้านานแบบนี้จนชั่วชีวิต…

กดดูรายได้ที่เข้ามาก็พบว่ามีการโอนค่าแรงให้สองวัน พร้อมทั้งค่าอาหารอีกสามวัน  รวมทั้งค่าปาท่องโก๋กับกาแฟ  พลอยให้หายขุ่นใจไปได้มั่ง  อย่างน้อยป้าก็มีรายได้เข้ามาอีกร้อยห้าสิบ



Don`t copy text!