ฝุ่นในสายลม บทที่ 22 : หาย

ฝุ่นในสายลม บทที่ 22 : หาย

โดย : ม.มธุการี

Loading

ฝุ่นในสายลม โดย ม.มธุการี เรื่องราวของลัทธิประหลาดกับความเชื่อของคนที่กระตุ้นสัญชาตญาณนักข่าวของภาวิน เขาจึงแฝงตัวเข้าไปสืบความลับของลัทธินี้ แต่ตัวคนเดียวอาจทำไม่สำเร็จ มีเพียงฝนดาว หญิงสาวที่สูญเสียญาติสนิทไปกับลัทธินี้ที่อาจจะช่วยเขาไขปริศนาอันดำมืดนี้ได้ อ่านนิยายสนุกๆ เรื่องนี้ได้ที่เพจอ่านเอาและเว็บไซต์ anowl.co

 

ภาวินยืนหมุนคว้างอยู่กลางหัอง

กานนหายไปไหนกัน…

ตรวจมองหาเป้กับรองเท้าของอีกฝ่ายก็ไม่พบเช่นกัน หรือว่าฝ่ายนั้นจะตื่นแต่เช้าและกลับไปบ้านแล้ว…

นาฬิกาบอกเวลาตีห้าเศษๆ เลิกม่านดูก็เห็นแสงสว่างรำไรๆ ที่ขอบฟ้า ลองเช็กกล้องที่ติดตั้งเอาไว้ก็ปรากฏว่ากล้องเสียและใช้การไม่ได้ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนนี้ก็ยังทำงานได้ดีอยู่

ตัดสินใจเข้านอนต่อแต่ก็นอนไม่หลับ ความฝันนั้นช่างรบกวนจิตใจเขา มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่     ปรากฏการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาตอนนี้มันหาคำอธิบายอะไรไม่ได้เอาเสียเลย        หรือว่ามันจะเป็นความเครียดและความหมกมุ่นเกี่ยวกับลัทธิอุบาทว์นั่น จนทำให้การทำงานของระบบประสาทเริ่มแปรปรวนไป จนเกิดภาพหลอนในจิตใต้สำนึก และก่อให้เกิดความฝันอันแสนจะแปลกประหลาดคืนแล้วคืนเล่า…

ฝนดาวแวะซื้อปาท่องโก๋กลับไปฝากหัวหน้าที่โรงแรม

แปลกใจที่ไม่เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของกานนจอดอยู่ในที่ที่มันเคยจอด เดาว่าฝ่ายนั้นน่าจะกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นทุกวันที่ผ่านมา

ขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องของเจ้านายและเคาะห้องเรียก ครู่เดียวเจ้าตัวก็หัวหูยุ่งมาเปิดประตู หน้าตาบอกชัดว่าเพิ่งตื่น

“อ้าว ฝนมาปลุกรึเปล่าคะ”

ไม่มีคำตอบแต่แค่พยักหน้าให้หล่อนเดินเข้าไปก่อนที่เขาจะปิดประตูไว้ตามเดิม

“ชงกาแฟให้ด้วย เดี๋ยวจะไปอาบน้ำ เออ ซ่อมกล้องให้ด้วยถ้าซ่อมเป็นนะ”

สั่งเสร็จก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ตามติดมาด้วยเสียงเปิดน้ำซู่ใหญ่ ความที่มันเป็นห้องเดียวทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในทั้งสายตาและการรับรู้ทางเสียง

ฝนดาวรีบเอาปากกาที่แอบจิ๊กไปมาวางคืนเจ้าของ โดยซุกรวมๆ ไว้กับกองกระดาษในแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นก็เปิดกล้องดู ปรากฏว่ามันใช้งานได้ และไม่เห็นมีวี่แววว่าจะเสียที่ตรงไหน

เสียงเปิดน้ำเงียบหายไปและหล่อนก็รีบไปยืนชงกาแฟที่เคาน์เตอร์ เป็นนานกว่าเจ้าของห้องจะออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เรียบร้อย มือหนึ่งใช้ผ้าขนหนูขยี้หัวตัวเองไปมา

“ซ่อมได้ไหมกล้อง”

“ไม่เห็นเสียอะไรนี่คะ”

เขาเอาผ้าขนหนูคล้องคอจากนั้นก็เปิดกล้องดู เช็กไปมาก่อนจะบ่น

“แปลก…”

ฝนดาวเอาถ้วยกาแฟไปตั้งที่โต๊ะและเขาก็หันกลับมาทรุดตัวลงนั่ง จิบกาแฟไปด้วยและสั่งต่อ

“ลองติดต่อกานนให้หน่อยซิ เมื่อกี้โทรไปไม่ติด”

“พี่นนไปตอนไหนคะ” ฝนดาวกดเบอร์โทรศัพท์ของกานนเร็วๆ

“แต่เช้า ตื่นมาไม่เจอเลย” เขาตอบ

ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แต่อย่างใดแม้จะลองดูหลายครั้ง

“พี่นนปิดโทรศัพท์ไว้ค่ะ โทรไม่ติดเลย”

“แปลกนี่” ภาวินกดโทรศัพท์บ้าง จากนั้นก็โยนไว้ที่เดิม สั่งต่อว่า

“ยังไงก่อนไปที่ศูนย์วันนี้ ช่วยไปตามเช็กดูที่บ้านให้หน่อย”

ฝนดาวนั่งสงบเสงี่ยมเตรียมตัวรับคำสั่งที่กำลังจะตามติดมาอีก

“แล้ววันนี้” เจ้านายจิบกาแฟไปด้วย คิ้วขมวดยุ่งและไม่ได้มองหน้าหล่อน อีกมือเปิดแฟ้มอ่านรายการที่เตรียมเขียนเอาไว้แล้ว

“กลับไปที่ศูนย์และประกบตัวคุณจันทราคนนั้นเอาไว้ พยายามหาทางถ่ายภาพมา ถ้าเป็นไปได้ จากนั้นก็เข้าไปสืบเอารายละเอียด พวกที่ทำงานอยู่ที่นั่นว่ามีจำนวนแน่นอนเท่าไหร่ ชีวิตความเป็นอยู่ของสาวก โดยภาพรวมว่าเขากินอยู่กันยังไง มีรายได้เข้าจากทางไหนกันมั่ง กับพยายามตามหาตัวอีตาดอกเตอร์คนนี้ให้เจอ นั่นหน้าที่ของนนเขา แต่เล่นหายไปแบบนี้น่าจะไม่สบายหรือมีอะไร เราก็ทำแทนไปก่อน”

คราวนี้เขาหันมามองหน้าหล่อนนิ่ง ก่อนที่จะพูดต่อ

“จุดใหญ่ใจความสำคัญอยู่ที่คุณจันทราคนนี้ ที่เราจะต้องหาทางช่วยเหลือเขาออกมาจากลัทธินี้ให้ได้เสียก่อน นั่นก็คือการล้างสมองกลับ”

“ทำได้ด้วยหรือคะฝนไม่เข้าใจ มันเป็นยังไงการล้างสมองกลับ”

“ทำไมจะทำไม่ได้ นั่นคือการปรับทัศนคติความคิดความเชื่อของเขา ให้กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริงอีกครั้ง เพราะคนพวกนี้จะถูกล้างสมองทุกเมื่อเชื่อวัน จนเขาลืมไปแล้วว่าความจริงมันคืออะไรกันแน่ และการกลับเข้ามาใช้ชีวิตในสังคมมันเป็นอย่างไร เพราะเท่าๆ ที่ฟังดู เขาถูกครอบงำด้วยความเชื่อผิดๆ ที่มันได้ฝังรากไปแล้ว ถึงขนาดรอให้เจ้าสาวกประกาศถึงวันสิ้นโลก เพื่อที่จะได้ตายไปด้วยกัน ลัทธิแบบนี้มันไม่ใช่เพิ่งจะมี มันมีมานานแล้ว และเกิดขึ้นได้อีกตลอดเวลา หน้าที่ของเราคือต้องช่วยให้เขาตาสว่างขึ้น ก่อนที่มันจะสายเกินไป”



Don`t copy text!