
ฝุ่นในสายลม บทที่ 36 : เรื่องของกิ่ง
โดย : ม.มธุการี
ฝุ่นในสายลม โดย ม.มธุการี เรื่องราวของลัทธิประหลาดกับความเชื่อของคนที่กระตุ้นสัญชาตญาณนักข่าวของภาวิน เขาจึงแฝงตัวเข้าไปสืบความลับของลัทธินี้ แต่ตัวคนเดียวอาจทำไม่สำเร็จ มีเพียงฝนดาว หญิงสาวที่สูญเสียญาติสนิทไปกับลัทธินี้ที่อาจจะช่วยเขาไขปริศนาอันดำมืดนี้ได้ อ่านนิยายสนุกๆ เรื่องนี้ได้ที่เพจอ่านเอาและเว็บไซต์ anowl.co
ฝนดาวออกจากที่นั่น ก็ดุ่มเดินหาห้องที่เป็นศูนย์รวมของคนที่มีประสบการณ์เจอกับเอเลี่ยนตัวเป็นๆ อย่างน้อยมันก็เป็นอีกโลกหนึ่งเพื่อให้คนเข้ามาสานต่อความฝันของตัวเอง
เข้าไปนั่งฟังเด็กสาวคนหนึ่งที่วัยน่าจะไม่เกิดสิบหกสิบเจ็ด เริ่มต้นก็เล่าเป็นตุเป็นตะถึงสิ่งที่ตัวเองไปเจอมา
“ชื่อกิ่งค่ะ อายุสิบเจ็ดปีนี้ค่ะ บ้านปิ่นอยู่พังงานี่เอง จริงๆ แล้วมนุษย์ต่างดาวเริ่มมาติดต่อกับกิ่ง ตั้งแต่กิ่งอายุได้แค่หกเจ็ดขวบเอง ตอนนั้นกิ่งไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เห็นเป็นตัวเล็กๆ นึกว่าเป็นเด็กข้างบ้านแถวนั้น แต่เขาจะมากันตอนกลางคืนค่ะ หลายคนเลย แล้วพากิ่งเหาะทะลุเพดานห้องออกไปข้างนอก ไปวิ่งเล่นกันบนจานบิน ตอนนั้นไม่รู้ นึกว่าเป็นบ้านบนฟ้า ต่อมาเขาก็หายไปนะคะ กิ่งก็คิดถึงว่าทำไมเพื่อนไม่มาเล่นอีก เพราะกิ่งชอบเหาะไง เขามากันอีกทีกิ่งอายุสิบห้าได้ มาเหมือนเดิมคือพาเราลอยทะลุเพดานบ้านออกไป จากนั้นกิ่งก็ไม่รู้ตัวอีก นึกว่าฝันไปตอนตื่นขึ้นมา เมื่อปีที่แล้วนี่เองเขามากันอีก รอบนี้พากิ่งเข้าไปในจานบินใหญ่มาก ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นจานบินนะคะเพราะกิ่งเคยดูหนัง เขามากันหลายคน มีทั้งตัวใหญ่มากและตัวเล็กๆ ที่หน้าตาเหมือนกันหมดเลย แต่ตัวใหญ่สวมหน้ากากมิดชิดไม่ให้กิ่งเห็นหน้าเห็นตา พวกเขาพากิ่งไปเดินดูหลอดทดลองที่มีแยะมากในนั้น ในหลอดก็มีสัตว์ทดลองอยู่ในนั้น บางหลอดก็เป็นทารกนี่แหละที่เหมือนนอนในท้องแม่ เขาพากิ่งไปดูเด็กทารกในหลอดทดลองอันนึง เป็นคนค่ะ แต่มีหางด้วย เหมือนครึ่งคนครึ่งสัตว์ยังไงไม่รู้ และเขาบอกกิ่งว่า นี่คือลูกเธอนะ”
มีเสียงฮือฮาในห้องเล็กๆ ห้องนั้นดังระงมไปหมด ตามมาด้วยเสียงถามว่า
“เขาพูดภาษาคนเลยเหรอ“
“ไม่ใช่ เหมือนเขาไม่ได้พูดด้วยปาก แต่พูดในใจทำให้กิ่งเข้าใจได้ กิ่งก็ไม่รู้ว่าเขาทำได้ไงเหมือนกันนะ กิ่งก็ตกใจ บอกเขาไปว่า ไม่ใช่ลูกกิ่ง กิ่งไม่เอาๆ จากนั้นกิ่งก็ตกใจตื่น ก็ยังนึกว่าฝันไปทั้งหมดนะคะ จากนั้นกิ่งละเมอฝันร้ายมาตลอด จนแม่ทนไม่ไหว ต้องพาไปหาแม่หมอที่เป็นร่างทรง ดูไปๆ แกก็บอกว่า ลูกร้องหานะ กิ่งไปมีลูกไว้ที่ไหนรึเปล่า แม่แกก็ตกใจ บอกกิ่งมันยังไม่ได้แต่งงานจะมีลูกได้ไง เพิ่งเรียนอยู่มอหกเอง แม่หมอก็บอกว่าไม่รู้ละ สัมผัสได้แบบนี้ กิ่งตกใจมากแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเลย เพราะมันไปตรงกับที่กิ่งฝันเข้าไง แม่เลยพามาที่นี่ เพราะเชื่อว่ากิ่งถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวไป“
มีเสียงฮือฮาตามมายืดยาวหลังจากที่เล่าจบ หน้าตาคนเล่าไม่ได้บอกสักนิดว่ามีพิรุธอะไรหรือพูดโกหก เพราะพูดจาน่าเชื่อเสียจนหล่อนเองก็เชื่อเข้าไปแล้วเต็มเปา
จากนั้นก็มีรายอื่นตามมา คนนี้เป็นผู้ชายวัยกลางคนแต่งกายใส่สูทภูมิฐาน
น่าจะเป็นนักธุรกิจและหน้าตาก็ไม่ส่อว่าจะประสาทกินอะไรสักนิด
“เหตุเกิดกับผมเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง ผมหกล้มขาหักต้องไปใส่เฝือกที่โรงพยาบาล พอเอ็กซ์เรย์เสร็จหมอก็บอกว่าผมมีสิ่งแปลกปลอมที่ข้อเท้า เอาภาพเอ็กซ์เรย์ออกมาให้ผมดู มันเหมือนเป็นเศษหินอะไรฝังอยู่ เล็กครับ เล็กมากเท่าปลายนิ้วก้อย ผมก็ยังสงสัยว่ามันเข้าไปได้ยังไง เพราะไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย ก็ตัดสินใจให้หมอผ่าตัดออก ปรากฏว่าหมอใช้เวลาผ่าตัดเป็นชั่วโมงก็เอามันออกมาไม่ได้ เพราะมันฝังกลายเป็นชิ้นเดียวกับเนื้อเยื่อเราไปแล้ว จนต้องตัดเนื้อออกไปทั้งดุ้นและเขาเอาไปเข้าเครื่องตรวจ ปรากฏว่ามันเป็นชิปที่ถูกฝังเอาไว้นานแล้ว เหมือนชิปที่ถูกฝังเอาที่ตัวหมาอะไรแบบนั้น แต่วัสดุที่ทำมันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้บนโลก ผมก็พยายามศึกษาค้นคว้าหาที่มาของมัน จนไปรู้มาว่าเคยมีคนถูกมนุษย์ต่างดาวฝังชิปเอาไว้เพื่อการทดลองอะไรบางอย่าง ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆ ผมเคยฝันเห็นมนุษย์ต่างดาวตลอด ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าน่าจะถูกลักพาตัวไปฝังชิปเข้าตอนนั้นเอง”
“แล้วมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวเองรึเปล่าคะ” ใครคนหนึ่งถาม
“อ๋อ มากเลย เพราะผมไม่แก่เร็วเหมือนคนอื่นๆ เพื่อนฝูงรุ่นเดียวกันอายุ แปดสิบก็ลงโลงกันไปหมดแล้ว แต่นี่ผมยังทำงานได้เหมือนสมัยยังหนุ่มๆ เลย”
มีเสียงฮือฮาตามมายาวเหยียดยิ่งกว่าคนไหนๆ เท่านั้นไม่พอยังงัดโชว์บัตรประชาชนให้ดูได้ด้วย อะไรจะขนาดนั้น…
เด็กสาวคนที่ชื่อกิ่งลุกเดินออกจากที่นั่นและฝนดาวก็ตัดสินใจเดินตามออกมาคุยต่อข้างนอก
“พี่ฟังที่กิ่งเล่าแล้วน่ากลัวมากเลย” ฝนดาวตีสนิท “แล้วกิ่งไม่กลัวหรือคะ”
“กลัวมากเลยพี่ ถึงได้มาที่นี่ไง” อีกฝ่ายคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง “พอเห็นคนอื่นเจอมาเหมือนๆ กิ่งก็เลยเลิกกลัวไป”
ดวงหน้านั้นใสซื่อบริสุทธิ์เสียจนมองไม่เห็นจนนิดเดียวว่าจะสามารถกุเรื่องแบบนั้นขึ้นมาได้ แถมยังไม่มีอาการประสาทหลอนให้เห็นอีกด้วย จริงหรือที่เด็กสาวสวยคนนี้ถูกเอเลี่ยนจากต่างดาวมาหลอกไปแล้วเอาตัวอ่อนฝังใส่ในตัวเรียบร้อยไปแล้ว
“คือกิ่งเชื่อจริงๆ ว่ากิ่งถูกลักพาตัวไป” หล่อนถามย้ำ “แน่ใจหรือว่าไม่ใช่ความฝัน”
“ทีแรกก็คิดว่าฝันนะพี่ แต่พอได้ยินแม่หมอบอกกิ่งเลยเชื่อว่าเด็กในหลอดทดลองนั่นเป็นลูกของกิ่งแน่ เขาต้องมาลักพาตัวเราและเอาไข่เราไปผสมในหลอดทดลองเมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง กิ่งแค่จำไม่ได้ จริงๆ แล้วกิ่งห่วงลูกมากเหมือนกันนะ เพราะยังไงก็เป็นลูกเราแน่ เขาเองก็บอกกิ่งแบบนั้น ดอกเตอร์เอกภพแนะนำให้กิ่งติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวทางโทรจิต ถ้ากิ่งอยากเจอลูกอีก”
“คือกิ่งเจอกับดอกเตอร์มาแล้ว”
“ค่ะ แม่กิ่งเข้าไปขอคำแนะนำ ท่านใจดีมากเลยนะ ใครเดือดร้อนเรื่องอะไรท่านช่วยได้หมด”
“พี่ไม่เคยเห็นดอกเตอร์เลยสักที”
“ท่านไม่ออกมาหรอก ถ้าใครอยากเจอต้องทำเรื่องเสนอไป แล้วท่านจะให้เข้าพบ ท่านบอกกิ่งว่าเอเลี่ยนสื่อสารถึงกับเราได้ตลอดเวลา แต่เราต้องตั้งสมาธิ นั่นแหละ กิ่งถึงอยากติดต่อเพื่อขอพบลูกบ้าง”
“เอางี้ ถ้ากิ่งติดต่อได้เมื่อไหร่ให้โทรเล่าให้พี่ฟังมั่งได้ไหม”
“พี่อยากรู้ไปทำไมล่ะคะ” เด็กสาวแปลกใจ
“เพราะพี่กำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ พี่เป็นสมาชิกที่นี่เหมือนกัน”
“ก็ได้ค่ะ” เด็กสาวส่งโทรศัพท์ให้ฝนดาวและหล่อนก็รีบรับไปกดเบอร์โทรตัวเองส่งให้ เรื่องร้อนที่ต้องติดตาม ข่าวสำคัญที่คงไม่ตกลงไปหน้าตักของนักข่าวคนไหนได้ง่ายๆ…
ภาวินแวะส่งของที่ไปรษณีย์แต่เช้า ประทับตราเร่งด่วนเพื่อไปถึงมือพนัสโดยเร็วที่สุด
นี่คือตะปูดอกสุดท้ายที่จะตอกฝาโลงศพดอกเตอร์คนนั้นชนิดที่ไม่ต้องมาผุดมาเกิดเห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย ยิ่งมีโอกาสได้ติดตามข่าวนักการเมืองชื่อดังคนนั้นกับบุตรสาว เขาก็ยิ่งซึมซับถึงความรักใคร่ผูกพันในครอบครัวของอีกฝ่าย ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าอิทธิพลการล้างสมองของลัทธิอุบาทว์เหล่านี้ได้ทำลายสายสัมพันธ์คนครอบครัวชนิดไม่ยอมให้หลงเหลืออะไรเลยได้ถึงขนาดนั้น
แวะเข้าตลาดที่อยู่ไม่ห่างไกลกันนัก มันเป็นชุมชนริมทะเลที่ทุกหนแห่งดูจะเดินถึงกันได้ เริ่มมีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆผุดขึ้นที่โน่นที่นี่ บ่งบอกชัดว่ามันกำลังจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในอีกไม่นานนัก โดยอาศัยข่าวลือจอมปลอมเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและยานอวกาศที่ขึ้นมาผลุบโผล่กลางทะเล อีกไม่นานความจริงทั้งหลายจะถูกเขาตีแผ่ออกไปให้สาธาณชนได้รับรู้ รวมทั้งลัทธิอุบาทว์นั่นด้วย วันที่เขาอยากให้ทุกคนได้ตาสว่างกันเสียทีกับสิ่งลวงโลกทั้งหลายแหล่ที่กำลังบ่มเพาะขึ้นทีละเล็กละน้อยในชุมชนแห่งนี้
แวะไปที่ร้านขายข้าวแกงในย่านนั้นที่ตั้งแผงเรียงรายเป็นตับ อาหารแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่น่ากินด้วยสนนราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อ ทุกอย่างถุงละสิบบาทและไม่มีอะไรที่เกินกว่านั้น แต่ละอย่างก็เต็มไปด้วยเนื้อหนัง มังสาและไม่ได้มีแต่ผัก
กว้านซื้อไปสิบถุงและข้าวอีกต่างหาก อยากดูหน้าเด็กแว่นที่ซื้อกับข้าว วันละร้อยและไม่ได้อะไรเลยนอกจากกะเพราไก่ไข่ดาว
ชาวบ้านเกาะกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับการหายตัวไปของกานนที่ยังไร้ร่องรอย คุยกันเสียงดังพอที่จะให้เขาจับใจความสำคัญได้บ้าง
“ตำรวจออกมาบอกแล้วว่ามีดกับจอบที่เขายึดไปตรวจมันไม่ใช่เลือดคนแต่เป็นเลือดสัตว์ ศพในไร่ก็หาไม่เจอ แสดงว่าไม่ใช่ไอ้รงแน่สิถ้างั้น“
“ไม่ใช่ไอ้รงแล้วจะเป็นใคร ก็มันนั่นแหละที่ขู่ไอ้นนมาตลอด จนมันอยู่บ้านไม่ได้ มันกลับมาเที่ยวนี้เลยหาทางเก็บมันเสียเลย เพราะไปรู้ความลับเรื่องที่เขาจะมายึดไร่กับบ้าน” เสียงหนึ่งขัดขึ้นมา
“ใช่ เพราะมันติดยาไง มันก็ยอมรับกับตำรวจแล้วว่าจำอะไรไม่ได้ คนเมายาจำอะไรได้มั่งวะขอถามหน่อย” อีกเสียงหนึ่งเป็นแรงหนุน
“มันเป็นพี่น้องคลานตามกันมา จะฆ่าแกงกันลงหรอ กูว่าไม่ใช่มัน ต้องเป็นคนอื่นแน่”
“ตอนนี้เห็นว่าตำรวจพุ่งเป้าไปที่อื่นแล้ว เขากำลังตามรอยกล้องวงจรปิดอยู่ กับตามสัญญาณโทรศัพท์ เห็นว่ามันไปพักที่โรงแรมริมทะเลก่อนที่จะหายตัวไป ไม่นานกูว่าตำรวจตามรอยเจอแน่”
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 36 : เรื่องของกิ่ง
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 35 : คุณจันทรา
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 34 : ความฝัน
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 33 : ไร้ร่องรอย
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 32 : ดำเนินการต่อ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 31 : ศรัทธา
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 30 : ในความคุ้นเคย
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 29 : ร่องรอยของกานน
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 28 : ผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 27 : ข้อสันนิษฐาน
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 26 : อำพราง
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 25 : เรื่องของเมย
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 24 : เรื่องของจิม
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 23 : ฝุ่นในสายลม
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 22 : หาย
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 21 : พลังมืด
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 20 : ศูนย์ปฏิบัติธรรมเอกภพ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 19 : คุณจันทรา
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 18 : พลังของลัทธิ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 17 : ศรัทธา
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 16 : เรื่องประหลาดในพื้นที่
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 15 : จิตกับกาย
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 14 : แฝงตัว
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 13 : เงาในกล้อง
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 12 : ลักพา
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 11 : เรือลึกลับ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 10 : แสงไฟกลางทะเล
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 9 : ค่ำคืนบนเกาะ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 8 : ผีเจ้าที่
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 7 : อาคันตุกะยามวิกาล
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 6 : กำเนิดเจ้าลัทธิ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 5 : ดอกเตอร์เอกภพ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 4 : เกาะประหลาด
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 3 : กฏสามข้อ
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 2 : เขี้ยวมา เขี้ยวไป
- READ ฝุ่นในสายลม บทที่ 1 : ลัทธิประหลาด