
กานต์ปรียา บทที่ 12 : ในห้วงเหวลึกสุดหยั่ง
โดย : ดารัช
![]()
กานต์ปรียา นิยายสืบสวนดราม่า โดย ดารัช กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความหลงใหล และการล้ำเส้นสู่ Cyberstalking ที่อาจบานปลายเป็นอาชญากรรม เรื่องราวของความสัมพันธ์ซ่อนเร้น การหายตัวไปอย่างปริศนา และเบาะแสที่อาจเปิดเผยความจริงอันมืดดำในโลกออนไลน์ อ่านได้แล้วที่ อ่านเอา www.anowl.co

หญิงสาวของเขาเหมาะกับโทนสีขาวของร้าน ICARUS
กานต์คิดขณะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ลอบมองคนรักที่กำลังจดจ่อกับโทรศัพท์มือถือ เธอก้มหน้า เน้นแพขนตางอนให้โดดเด่น ปรียาสวมเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกระโปรงยีนส์เหนือเข่า อวดเรียวขาสวย เธอปล่อยผมตรงสยาย มันมักยุ่งเหยิง ขับเน้นความเซ็กซี่ ตอนเธออยู่บนตัวเขา แค่คิดชายหนุ่มก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่
ปรียาวางโทรศัพท์มือถือลง กวาดตามองรอบตัว แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบ ดูจะไถเฟซบุ๊กและส่งอินสตาแกรมตามความเคยชินมากกว่าอย่างอื่น กานต์จ้องเธอ อีกฝ่ายดูเหมือนพยายามหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน แต่เป็นความฟุ้งซ่านเรื่องอะไรกันนะ พักหลังหญิงสาวเหม่อลอยจนเขากังวล กานต์ไล่เช็กว่าปรียาคุยแช็ตกับใคร หรืออัปสเตตัสอะไรที่จะช่วยบอกใบ้เขาได้ไหม แต่ไม่มีเลย มันทำให้เขากังวลแทบบ้า แต่ไม่กล้าถามออกไป ปรียาเคยบอกว่าเธอชอบที่เขารู้ใจโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ถ้ากานต์ถามออกไป หญิงสาวอาจรู้ทันว่าจริงๆ แล้วกานต์ไม่เข้าใจความคิดของเธอเลย ขณะเดียวกัน การได้แต่นั่งมองคนรักหลบไปในโลกที่ตัวเขาเข้าไม่ถึง ทำให้ชายหนุ่มแทบคลั่ง เธอยังชอบเราอยู่ไหม เธอไม่ได้มองว่าเราน่าเบื่อใช่ไหม
เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่
จู่ๆ ความทรงจำในบ้านเด็กกำพร้ารั้วรักที่เคยคิดว่าโดนกาลเวลากลบฝังจนมิดก็ย้อนกลับมา เด็กชายวัยสิบห้า ผิวเข้ม ใบหน้าดุดันยืนประจันหน้าเด็กชายกานต์วัยเก้าขวบ พูดโดยไม่ออกเสียงว่า ‘ไอ้-ตัว-ประ-หลาด’ ในตอนที่เขาขอไปเล่นด้วย ข้างๆ คือลูกัส เด็กชายผิวขาวซีด หน้าตาน่ารัก เพื่อนสนิทของเด็กชายกานต์ก้มหน้างุด ไม่แม้แต่จะสบตากานต์ เด็กชายกานต์ได้แต่ถอยกลับไปนั่งมุมห้อง มองเด็กคนอื่นๆ เล่นกันโดยมีเด็กชายผิวเข้มเป็นหัวโจก ไม่มีใครหันมาชวนเขาแม้แต่คนเดียว ไม่แม้กระทั่งลูกัส…
แม่บุญธรรมของกานต์เองก็มักมองเขาด้วยสายตาห่างเหิน ราวเสียใจที่ตัดสินใจรับกานต์มาอยู่ด้วย…
“กานต์คะ กานต์” ปรียาเขย่าหลังมือเขาเบาๆ
ชายหนุ่มซุกความทรงจำ ล็อกกุญแจขังไม่ให้มันบังอาจเพ่นพ่านออกมาตามใจชอบ แล้วหันไปส่งยิ้มให้อีกฝ่าย
“ปรียาจะเข้าห้องน้ำหน่อย กานต์สั่งอาหารไปก่อนเลยนะคะ” เธอพูด
“ได้ครับ เดี๋ยวผมสั่งเมนูโปรด…”
“ปรียาขอแค่น้ำปั่นค่ะ” เธอมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง ทำนองว่าเรื่องแค่นี้ทำไมดูไม่ออก
กานต์หน้าเจื่อน “ได้ครับ”
หญิงสาวเดินออกไป กานต์มองตามร่างโปร่ง กำหมัดด้วยความหงุดหงิด ห่าเอ๊ย ไม่โพสต์อะไร ไม่แช็ตกับใคร แล้วจะไปตรัสรู้ได้ยังไงล่ะวะ!
เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดอะไรอยู่
เขาสูดลมหายใจ หยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาล็อกอินเข้าเฟซบุ๊ก บางทีปรียาอาจตั้งสเตตัสเป็นนัยๆ ก็ได้ ยังไม่ทันจะกดเข้าโพรไฟล์ของคนรัก ก็เห็นสเตตัสของมาริษาขึ้นนิวฟีด
‘อีกไม่นานก็วันเกิดแม่แล้ว ต้องเตรียมเซอร์ไพร์สซะหน่อย #โพสต์นี้ซ่อนไม่ให้แม่เห็นนะคะ’
กานต์นึกถึงนางมรกต หญิงวัยเกือบห้าสิบ ร่างเล็กท้วม หน้าตาใจดี เขายิ้มเมื่อนึกถึงตอนมาริษาบอกว่าแม่ชวนเขาไปทานข้าวที่บ้าน เพื่อขอบคุณเรื่องที่กานต์ช่วยเหลือตอนทรงภพสะกดรอยตามเธอ แววตาอารีของนางมรกต เป็นแววตาแบบที่กานต์ได้รับจากแม่บุญธรรมของตัวเองน้อยครั้ง กานต์คิดว่าบางทีเขาอาจได้พบคนที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ ทั้งนายจรัสที่ชอบยิงมุกตลกรุ่นลุงให้คนในบ้านได้เฮฮา นางมรกตที่คอยถามกานต์ว่าทำงานเหนื่อยไหม ทานข้าวอร่อยไหม หรือแม้แต่มาริษาที่ชื่นชมและเห็นเขาเป็นฮีโร่ของเธอ
กานต์มองข้อความที่มาริษาโพสต์ กดถูกใจ ยิ้มกริ่ม รู้สึกราวตัวเองเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของเธอ เขาทักแช็ตหาอีกฝ่าย แนะนำร้านเค้กและรายการของขวัญ แล้วแนบสลิปที่โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของหญิงสาวเพื่อช่วยค่าจัดงานและของขวัญ อันที่จริงเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะโอนได้ไหม แต่ลองเสี่ยงกับความคิดที่ว่าคนส่วนมากตั้งเบอร์มือถือตัวเองเป็นบัญชีพร้อมเพย์ มาริษายังไม่อ่านข้อความ กานต์เองก็จบเรื่องแล้ว ในตอนที่กลับไปยังหน้า Home ของเฟซบุ๊ก ก็มีสเตตัสใหม่ของมาริษา
‘บ้าไปแล้ว นี่มันบ้าไปแล้ว นาฬิกาที่ฉันเจอในโรงแรมที่ไปพักเป็นของน้องชายรุ่นพี่ที่ทำงาน รุ่นพี่เลยแจ้งความคนหายและเสริมว่าโรงแรมเซเรเนดอยู่ใกล้ภูเขาในคดีฆ่าหั่นศพ ทางตำรวจเพิ่งแจ้งในทีวีว่าระบุตัวตนเหยื่อได้ และเป็นน้องชายของพี่ที่ทำงานจริงๆ ขนลุกเลย!!!’
กานต์เบิกตาโพลง ชายหนุ่มถลันไปยังเคาน์เตอร์คิดเงิน วิมล เจ้าของร้านกำลังจดจ่อกับรายการวาไรตี้เกาหลีซับไทยในยูทูป เจ้าหล่อนดูตกใจกับท่าทางของเขา
“เปิดข่าว” ชายหนุ่มหายใจแทบไม่ทัน “เปิดทีวีไปช่องข่าวหน่อยครับ”
วิมลกะพริบตา กานต์ย้ำจนเสียงเกือบเป็นตวาด เจ้าหล่อนจึงหยิบรีโมตมาเปิดโทรทัศน์ นายอธิน ผู้ประกาศข่าวหน้าตี๋สีหน้าคร่ำเคร่ง ขณะอ่านรายงานข่าวในมือ
“ในส่วนของข่าวที่สาธารณชนกำลังให้ความสนใจอย่างหนัก คือคดีฆ่าหั่นศพที่ภูเขาหลังป่าชุมชน ใกล้โรงแรมเปิดใหม่ มีกระแสโจมตีทางทีมสืบสวนอย่างมากมายในโซเชียลทุกช่องทางนะครับ ไม่ว่าจะเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม เพื่อกดดันให้รีบระบุตัวเหยื่อและฆาตกรครับ”
ข่าวตัดภาพไปยังนักข่าวภาคสนาม ที่สำรวจความคิดของประชาชนเกี่ยวกับคดี มีหลากหลายอาชีพตั้งแต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง พนักงานส่งของ พ่อค้าแม่ค้า กลุ่มนักเรียนนักศึกษา ทุกคนพูดไปในทิศทางเดียวกันว่ารู้สึกหวาดกลัวที่ยังไม่รู้ตัวคนที่ก่อคดีอุจฉกรรจ์ขนาดนี้ ทั้งยังแสดงความผิดหวังต่อหน่วยงานสันติบาลที่ยังไม่แม้แต่จะสามารถระบุตัวเหยื่อได้ กานต์เผลอกำหมัดแน่น นึกหงุดหงิดขึ้นมา เขาอุตส่าห์วางแผนซ่อนศพเป็นอย่างดี แต่ตัวเจ้ากี้เจ้าการอย่างมาริษากลับทำให้เรื่องนี้กลายเป็นคดีระดับประเทศไปเสียได้ กานต์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“ช่วงประมาณสิบโมงเช้าของวันนี้ ทางตำรวจออกแถลงว่าสามารถระบุตัวเหยื่อได้แล้วครับ” ภาพตัดมาที่ผู้ประกาศข่าว อธินมองกล้องด้วยท่าทางเหมือนกำลังสบตาผู้ฟัง ก่อนกล่าวต่อ “ทางตำรวจรอผลพิสูจน์ทางดีเอ็นเอ ซึ่งเหยื่อของคดีที่น่าสยดสยองนี้คือนายสายฟ้า บทบูรณ์ อายุสามสิบปีเอ็ด โดยผู้ตายเป็นนักเขียนที่เขียนงานลงเว็บออนไลน์ และมีผลงานพิมพ์รวมเล่มจำนวนหนึ่ง จากสเตตัสในเฟซบุ๊กของเหยื่อระบุว่ากำลังอยู่ในช่วงเดินทางท่องเที่ยว แต่มีจุดสังเกตที่น่าสนใจครับ เวลาล่าสุดที่นายสายฟ้าอัปเดตสเตตัสในเฟซบุ๊ก กับระบุเวลาตายของศพกลับไม่ตรงกัน ทางตำรวจกำลังสืบความคืบหน้าคดีโดยอาศัยช่องโหว่เล็กๆ นี้อยู่ครับ”
โลกทั้งใบหมุนคว้าง กานต์รู้สึกเหมือนพื้นที่ตัวเองยืนถล่มลง พาตัวเขาดิ่งลึกลงไปราวจะหยุดลงที่ห้วงอเวจี
จู่ๆ กานต์ก็นึกถึงตอนเขาปลอมตัวเป็นแฟนคลับชื่อ ‘เพชร-พัชระ’ เพื่อเข้าใกล้สายฟ้า สำหรับนักเขียนหนุ่ม พัชระเป็นเพื่อนรู้ใจ การพูดในสิ่งที่อีกฝ่ายอยากได้ยินเป็นผลจากการเฝ้าสังเกต วิเคราะห์พฤติกรรม สำหรับกานต์ ช่วงเวลาที่เขาเป็นพัชระเทียบได้กับการที่จระเข้ในบึงใหญ่นอนนิ่งให้ใบไม้ทับถม รอจนกวางน้อยตายใจ ดื่มกินน้ำจากริมธาร จากนั้นเขาจึงตวัดหาง รวบตัวเหยื่ออันโอชะลงสู่ผืนน้ำไร้ก้นบึ้ง
ตอนนั้นเป็นบ่ายแก่ๆ เหมือนวันนี้ กานต์นั่งขัดสมาธิในห้องพักที่มีเสื้อผ้ากองเกลื่อนของสายฟ้า เขาเลือกมุมข้างเตียงซึ่งดูจะสกปรกน้อยที่สุด สายฟ้านั่งตรงข้าม สวมเสื้อยืดสีดำตัวโคร่ง กางเกงขาสั้น ในมือถือถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
‘เรื่องสั้นที่ฉันกำลังเขียนเจ๋งใช้ได้เลยใช่ไหม’ สายฟ้ายิ้มจนตาหยี เอามือชี้ต้นฉบับที่กานต์ถืออยู่ จะเรียกว่าต้นฉบับคงไม่ถูกนัก อันที่จริงมันคือลายมือขยุกขยิกที่เขียนพล็อตเรื่องลงในสมุดเยินๆ
กานต์เวอร์ชันพัชระไล่สายตาตามตัวอักษร ‘ตัวเอกฆ่าคนโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นก็ไล่ฆ่าคนเรื่อยๆ สุดท้ายตอนที่วิ่งไล่เหยื่อ กลับมีอุโมงค์มืดไล่หลัง กลืนให้เขาตกลงไปในหุบเหว’ เขาหันมาจ้องคนเขียน
‘เป็นไง เรื่องสั้นเรื่องแรกในรอบหลายปีของฉัน’ นักเขียนหนุ่มคุยฟุ้งถึงงานประกวดเรื่องสั้น ดูเหมือนเจ้าตัวจงใจใช้งานเขียนชิ้นนี้คืนวงการ แต่มันมีอะไรลึกลงไปกว่านั้น กานต์รู้สึกเหมือนไม่ใช่แค่อีกฝ่ายอยากสร้างสรรค์ผลงานดีๆ สักเรื่อง แต่เป็นอะไรที่เจ้าตัวต้องเขียนออกมาให้ได้ โดยมีเส้นชัยเป็นบางสิ่ง
‘ไม่รู้สิ’ เขาตอบเมื่อเห็นสายฟ้ายังจ้องมานิ่ง ‘เหมือนจะแฝงสัญลักษณ์ แต่ไม่ค่อยเข้าใจ หุบเหวสื่อถึงอะไร ดูเป็นแฟนตาซีปนไล่ฆ่า’
นักเขียนหนุ่มซดน้ำซุปจากถ้วยบะหมี่ ก่อนพูด ‘And if you gaze long into an abyss, the abyss also gazes into you’
‘หากท่านจ้องมองลงไปในหุบเหว หุบเหวก็จะจ้องท่านกลับมาเช่นกัน’ กานต์พึมพำคำแปล ประโยคนี้มาจากหนังสือ Beyond Good and Evil ของเฟรดิช นิชเช่ นักเขียนชาวเยอรมัน เขารู้สึกถึงความเย็นยะเยือกคืบคลานพันรอบตัว เป็นถ้อยคำทรงพลังที่ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสั่นสะท้าน
‘ตอนที่พลั้งมือฆ่าคน ตัวเอกเหมือนกำลังจ้องหุบเหวอยู่ ยิ่งรอดตัวไปได้ง่ายๆ ก็ยิ่งมีโอกาสหลงผิดว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น สร้างโอกาสกระทำซ้ำ สุดท้ายก็แยกดีชั่วไม่ได้ เหมือนโดนหุบเหวกลืนกินนั่นแหละ’
แวบหนึ่ง กานต์นึกถึงนายทรงพล เจ้าของบัญชี Merry MerryMe ที่คอยติดตามมาริษา และเกิดความรู้สึกราวกับว่าตัวเองสนิทกับหญิงสาวจริงๆ แยกแยะระหว่างความจริงและจินตนาการไม่ออก จนก้าวข้ามขอบเขต เป็นสตอล์กเกอร์แอบตามหญิงสาว สำหรับนายทรงพลมันคือความรัก แต่มองผ่านมาริษา คงเป็นความน่าขนลุกกระมัง
เสียงกรีดร้องของปรียาดึงกานต์กลับมายังร้านอาหารแอร์เย็นฉ่ำ รายงานข่าวเปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่นที่เขาไม่ได้ใส่ใจฟัง ชายหนุ่มหันไปตามต้นเสียง ปรียาตาเบิกโพลง ทรุดตัวลงนั่งพับเพียบบนพื้นด้วยท่าทางไร้เรี่ยวแรง ชายหนุ่มถลันไปประคองคนรัก เธอไม่ขืนตัวเลยสักนิด สายตายังคงเพ่งไปที่จอโทรทัศน์ที่ตัดเข้าสู่ช่วงโฆษณา ริมฝีปากแห้งผากพึมพำบางอย่างแผ่วเบาจนกานต์ต้องเงี่ยหูฟัง
“ไม่นะ พี่สายฟ้า ไม่จริง”
แล้วหญิงสาวก็เป็นลมไปในอ้อมกอดของเขา
‘บ้าไปแล้ว นี่มันบ้าไปแล้ว นาฬิกาที่ฉันเจอในโรงแรมที่ไปพักเป็นของน้องชายรุ่นพี่ที่ทำงาน รุ่นพี่เลยแจ้งความคนหายและเสริมว่าโรงแรมเซเรเนดอยู่ใกล้ภูเขาหลังป่าชุมชนในคดีฆ่าหั่นศพ ทางตำรวจเพิ่งแจ้งว่าระบุตัวตนเหยื่อได้ และเป็นน้องชายของพี่ที่ทำงานจริงๆ ขนลุกเลย!!!’
สเตตัสของมาริษามีคนกดถูกใจหลักแสน มีคอมเมนต์ทำนองต่อว่ากระบวนการยุติธรรมที่ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ รวมทั้งแสดงความอกสั่นขวัญหายไปกับเจ้าของโพสต์ เพราะจะว่าไปแล้ว มาริษาก็เป็นคนที่มีเอี่ยวกับเหตุการณ์ แม้จะแค่บังเอิญเจอนาฬิกาของสายฟ้าในโรงแรม แต่กลับเป็นจุดเล็กๆ ที่ทำให้ภคินี พี่สาวต่างแม่ของสายฟ้าเอะใจถึงขั้นแจ้งความ ตำรวจเองคงมืดแปดด้านว่าเหยื่อเป็นใคร ไหนจะโดนสาธารณชนกดดัน พอหัวหน้าของมาริษาไปแจ้งคนหายและแสดงข้อสงสัย เลยลองตรวจสอบดู แล้วก็ บิงโก! สายฟ้าคือเหยื่อในคดีฆ่าหั่นศพจริงๆ
กานต์นึกถึงภคินี…ผู้หญิงผมซอยสั้นแสกซ้ายที่เคยทักไลน์หาสายฟ้าเรื่องที่นัดกันอะไรสักอย่าง แล้วกานต์ที่ยึดมือถือสายฟ้ามาไว้โพสต์สเตตัสต่างๆ ก็ตอบกลับไปว่าไม่ว่าง ไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวจะกัดไม่ปล่อยจนเป็นตัวแปรสำคัญที่ระบุตัวเหยื่ออย่างสายฟ้าได้
ใครจะไปรู้ว่าสุดท้าย สายฟ้ายังคงหมกเม็ด ซ่อนไม้ตายไว้ลอบกัดกานต์ ไม่เคยแพร่งพรายให้กานต์รู้เลยสักนิดว่าตัวเองมีพี่สาวต่างแม่ ขนาดนามสกุลของสายฟ้ายังเป็นนามสกุลทางฝั่งแม่ แล้วเขาจะไปตรัสรู้เรื่องที่พ่อของไอ้เวรนั่นมีโลกสองใบได้ยังไงกัน!
กานต์ไล่อ่านคอมเมนต์วิเคราะห์ฆาตกร มีคนมาคาดเดาถึงแรงจูงใจโน่นนี่ บ้างก็ว่าเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการเงิน ชู้สาว เพราะผู้ตายมีเงินมรดกจากพ่อที่เสียชีวิตอยู่พอควร ไหนจะนิสัยเจ้าชู้ที่อาจไปขัดแข้งขัดขาใครเข้า ยิ่งอ่านยิ่งออกทะเล กานต์ขำจนอยากระเบิดหัวเราะออกมาเสียตรงนี้ ติดอยู่ที่หญิงสาวที่นอนหลับสนิทข้างตัว
กานต์มองสเตตัสของมาริษาอีกครั้ง สาวน้อยที่น่ารักราวตุ๊กตาช่างสรรหาเรื่องชวนปวดหัวให้กานต์เสียเหลือเกิน
แต่เอาเถิด ถึงอย่างไรมาริษาก็เป็นแค่ตัวป่วน ไม่ได้อันตรายอะไร กานต์ฆ่าสายฟ้าและเอาศพไปฝังโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้สองแบบ
ความเป็นไปได้แรกคือไม่มีใครพบศพ ร่างของสายฟ้าจะย่อยสลายและหายไป กานต์จะปลุกนักเขียนหนุ่มให้โลดแล่นในโลกออนไลน์ อัปเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ในฐานะคนที่ลอยชายไปวันๆ ตอนที่วางแผน กานต์คิดว่าสายฟ้าไม่มีญาติที่ไหน แถมด้วยนิสัยชอบขึ้นเหนือล่องใต้ จะหายตัวไปนานๆ ก็คงไม่มีคนเอะใจตามหา ใครจะไปคิดว่าจะมีพี่สาวต่างแม่โผล่มาสาระแน…
กานต์ถอนหายใจ พยายามสงบใจให้เย็นลง
ความเป็นไปได้ที่สองคือบังเอิญมีคนพบศพเข้า ซึ่งก็ดันมีจริงๆ กานต์แยกชิ้นส่วนศพของสายฟ้า เอาเสื้อผ้าและของส่วนตัวไปเผา เฉือนเนื้อส่วนที่มีรอยสักรูปมังกรทิ้ง เพื่อให้ยากต่อการระบุตัวศพ และต่อให้ระบุตัวศพได้ ชีวิตส่วนตัวของนายสายฟ้า บทบูรณ์ ก็ดูเป็นเส้นขนานกับนายกานต์ บุณยารักษณ์เสียจนยากจะเชื่อมโยง กานต์ติดต่อกับสายฟ้าในฐานะเพชร-พัชระ ที่เป็นแฟนคลับ เลือกเสื้อผ้าแปลกไปจากที่ตัวเขาในยามปกติจะสวม เปลี่ยนสไตล์การเดิน การพูด นาย พัชระต่างจากนายกานต์โดยสิ้นเชิง และทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวตนปลอมอย่างพัชระเองก็หายวับไปจากโลกเรียบร้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ยากที่จะสาวมาถึงตัวกานต์
การที่มาริษาไปพบศพ หรือเรื่องที่สายฟ้ามีพี่สาวต่างแม่โผล่ขึ้นมาจนช่วยระบุศพได้ไวขึ้น ก็เป็นแค่เรื่องน่าหงุดหงิดเล็กๆ น้อยๆ ที่ชวนให้หัวเสียนิดหน่อยก็เท่านั้น
เขาพิงพนักเบาะฝั่งคนขับ หันไปมองปรียา เธอหลับตา หัวคิ้วย่นหากันราวติดในฝันร้าย เขายิ้มน้อยๆ ปลดเข็มขัดนิรภัย เอี้ยวตัวไปหาเธอ ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งกดตรงหว่างคิ้วให้คลายออก
หลังเห็นข่าวทางโทรทัศน์ คนรักของเขานั่งเงียบมาบนรถตลอดทางกลับบ้านจนผล็อยหลับไป ใบหน้าหวานซึ้งงดงามราวเทพี จนกานต์มองเพลิน ได้แต่จอดรถหน้าคอนโดฯ ของหญิงสาว ไม่กล้าสะกิดปลุก ได้แต่ลอบมองตั้งแต่จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเรียวบาง ไล่ไปจนลำคอระหง
“…” ริมฝีปากแห้งแตกของปรียาขยับ
กานต์เลิกคิ้ว ขยับตัวไปใกล้คนรัก เขาเอาหูจ่อใกล้อีกฝ่าย ตั้งใจฟัง
“พี่สายฟ้า…พี่สายฟ้า…”
มือข้างที่ยันเบาะข้างคนขับบีบแน่น กานต์เผลอขบกรามกรอด ทำไมถึงเป็นสายฟ้าอีกแล้ว ทำไมชื่อนี้ถึงได้ตามมาหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น เขานึกถึงคำพูดเรื่องคนที่โดนหุบเหวไล่ตามของของนักเขียนหนุ่ม ตอนนี้กานต์รู้สึกเหมือนตัวเองโดนจัดวางให้ไปอยู่ในฉากเดียวกับตัวเอกในเรื่องสั้นเรื่องนั้น ระหว่างที่คิดว่าตัวเองคือผู้ชนะและได้ทุกอย่างที่ต้องการไว้ในครอบครอง พอมอบรอบตัวอีกทีก็พบปากทางหุบเหวปรากฏตรงหน้า อ้ากว้าง เตรียมเขมือบเขาไปในคราวเดียว
“กานต์คะ” ปรียาเรียก พอรู้ว่าตัวเองอยู่ในท่าประหลาด กานต์ก็รีบขยับตัวออก
“เหม่ออะไรอยู่คะ ปรียาเรียกตั้งนาน” เธอถาม
เขายกมือลูบใบหน้า ส่งยิ้มให้หญิงสาว “ผมกังวลเรื่องปรียาน่ะครับ ปรียาโอเคไหม หน้าซีดมากเลยนะ ผมนวดให้ไหม ผมนวดเก่งนะ” กานต์ปั้นน้ำเสียงร่าเริง ทั้งยังนวดฝ่ามือให้หญิงสาวเบาๆ
ปรียาเกร็งตัว ดึงมือกลับ “วันนี้ปรียาเหนื่อยมาก อยากพักค่ะ”
“แต่วันนี้เรานัดกันว่าจะอยู่ด้วยกัน” กานต์ไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงตัวเองแข็งกร้าวและแฝงแววออกคำสั่งขนาดไหน “ผมคิดถึงคุณนะ แล้วเราก็ต่างคนต่างงานยุ่งจนไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน จะเหนื่อยอะไรนักหนา” ไม่พูดเปล่า กานต์ขยับใกล้อีกฝ่าย เขาอยากกอดเธอ อยากทำยิ่งกว่านั้นด้วยซ้ำ
“ปรียาบอกว่าเหนื่อยไงคะ!” หญิงสาวเสียงแข็ง ผลักกานต์ออก แม้จะเป็นแรงของผู้หญิง แต่ปรียาก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีจนกานต์จุก เธอดูตกใจกับแรงผลักของตัวเอง แต่ก็คว้ากระเป๋าถือแล้วเปิดประตูลงจากรถไป
กานต์ถลันตามคนรัก เขาจับมือเธอไว้ แต่ปรียากลับสะบัดมือออกอย่างแรง
“โอ๊ย! บอกว่าเหนื่อย พูดไม่รู้เรื่องหรือไง พี่สายฟ้าไม่เคยบังคับปรียา หรือมาตามตื๊อน่ารำคาญแบบนี้หรอกนะ!”
หญิงสาวพูดจบก็รีบเดินเข้าประตูคอนโดฯ ไปโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง กานต์รู้ว่าถ้าเขารีบตามไป เขาจะสามารถคว้าหญิงสาวไว้ทัน แต่กานต์กลับไร้เรี่ยวแรง เขาเอนตัวพิงประตูรถ มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋าไปเจอกล่องบรรจุสร้อยคอจี้รูปหัวใจแบบที่หญิงสาวชอบใส่ แตกต่างตรงที่เป็นรูปหัวใจคล้องกันสองดวง สลักอักษรย่อ P และ K ตามชื่อจริงของเธอและเขา
กานต์รู้ดีว่าถ้าเขาตามไปและรอคอย หญิงสาวจะเปิดประตูห้อง ขอโทษที่หงุดหงิดใส่ และอาจชวนเขาเข้าห้องด้วยซ้ำ แต่เขาเหนื่อยจนไม่มีแรงทำอะไรแล้ว
- READ กานต์ปรียา บทที่ 15 : หวังให้ความรักสมบูรณ์แบบด้วยรัก
- READ กานต์ปรียา บทที่ 14 : ความรักของคุณ ความรักของผม ความรักของเรา
- READ กานต์ปรียา บทที่ 13 : เด็กชายผู้ไม่เคยเป็นที่รัก
- READ กานต์ปรียา บทที่ 12 : ในห้วงเหวลึกสุดหยั่ง
- READ กานต์ปรียา บทที่ 11 : ความเย็บเยียบแสนร้อนระอุ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 10 : ความสุขชั่วนิรันดร์
- READ กานต์ปรียา บทที่ 9 : ผมให้คุณเป็นที่หนึ่ง
- READ กานต์ปรียา บทที่ 8 : บทเรียนเรื่องจักรวาลที่ชื่อว่าคุณ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 7 : บอกมาว่าคุณรู้สึกอย่างไร
- READ กานต์ปรียา บทที่ 6 : กล่องความทรงจำในดินแดนที่ถูกลืม
- READ กานต์ปรียา บทที่ 5 : คุณรักฉันมากแค่ไหน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 4 : เรื่องทั้งหมดที่ฉันชอบ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 3 : อยากชำแรกเข้าไปในทุกห้วงความคิด
- READ กานต์ปรียา บทที่ 2 : เส้นทางที่ไม่อาจหวนคืน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 1 : อ้อมกอดแนบแน่นราวพยายามกลืนกินอีกฝ่าย







