
กานต์ปรียา บทที่ 6 : กล่องความทรงจำในดินแดนที่ถูกลืม
โดย : ดารัช
![]()
กานต์ปรียา นิยายสืบสวนดราม่า โดย ดารัช กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความหลงใหล และการล้ำเส้นสู่ Cyberstalking ที่อาจบานปลายเป็นอาชญากรรม เรื่องราวของความสัมพันธ์ซ่อนเร้น การหายตัวไปอย่างปริศนา และเบาะแสที่อาจเปิดเผยความจริงอันมืดดำในโลกออนไลน์ อ่านได้แล้วที่ อ่านเอา www.anowl.co

ขนมหวานเปรียบเหมือนความรัก ทำให้เราเสพติด คลั่งไคล้จนถอนตัวไม่ขึ้น
อักษรสีทองโปรยตัวบนพื้นกระจกหน้าร้าน ‘LOVEHOLIC’ ซึ่งเป็นร้านเบเกอรีเน้นบรรยากาศธรรมชาติ ตกแต่งร้านด้วยไม้ใบสีเขียว บรรยากาศสดชื่นผ่อนคลายไม่ต่างจากคราวก่อนที่มาเยือน
ยามนี้ร้านเพิ่งเปิด ลูกค้ายังไม่แน่นมาก มาริษาสำรวจตัวเองผ่านกระจกเงาแวบหนึ่ง ผมหน้าม้าหวีเรียบ ลอนผมดำยาวทิ้งตัวเงางาม แต่งหน้าบางๆ เน้นความน่ารักอ่อนหวาน รับกับเสื้อแขนตุ๊กตาสีฟ้า กางเกงยีนส์สกินนี่ และรองเท้าผ้าใบสีดำพร้อมเลอะฝุ่น
หญิงสาวควบคุมหัวใจไม่ให้เต้นดังเกินไปนัก แล้วเปิดประตูร้าน ทรุดตัวนั่งตรงข้ามชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว ใบหน้าคมคาย ณัฐนนท์นั่งดูคลิปในโทรศัพท์มือถือเรื่อยเปื่อย ข้างตัวชายหนุ่มเป็นกล้อง DSLR กล้องตัวนี้เป็นของมาริษา เพราะกล้องถ่ายรูปของณัฐนนท์พังและต้องส่งซ่อม
พอนึกถึงตอนที่เขาและเธอตั้งเป้าหมายประหยัดเงินค่าขนมตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย เพื่อซื้อกล้องถ่ายรูปสเปกดีๆ คนละตัว มาริษาก็เผลอยิ้มออกมา
เธอลอบมองหน้าเขา รู้สึกกึ่งจริงกึ่งฝันที่ได้เจอณัฐนนท์อีกครั้งในเวลารวดเร็วขนาดนี้ ไม่กี่วันก่อน เขาเพิ่งมาช่วยเธอถ่ายคลิปเยี่ยมชมโรงแรมเซเรเนด ใจจริงมาริษามีที่ที่อยากไปอีก แต่ตากล้องหนุ่มหล่อของเธอติดงาน จนต้องมานัดเจอกันใหม่อีกครั้ง
หญิงสาวลอบยิ้ม เธอไม่ติดหรอกนะ ให้เจอคนตรงหน้าทุกวันยังได้
“เครื่องดื่มได้แล้วค่ะ” พนักงานเสิร์ฟในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกับกระโปรงคลุมเข่าสีเขียวขี้ม้าวางลาเต้ปั่นและอเมริกาโน่เย็นตรงหน้ามาริษา ตามด้วยขนมปังปิ้งทาเนย ณัฐนนท์คงกะเวลาที่เธอมาถึง แล้วสั่งขนมกับเครื่องดื่มไว้
“วันนี้ต้องเดินขึ้นเนิน เติมพลังก่อนนะ” ณัฐนนท์เงยหน้ามาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ เขาหยิบลาเต้ปั่นไปดื่ม ภาพนั้นทำให้มาริษาหัวเราะคิก
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว
“เมอร์รี่ไม่เคยดื่มกาแฟเลยตั้งแต่เด็กจนมัธยมปลาย มาดื่มตอนปีหนึ่งเพราะดื่มตามพี่นนท์ จำได้ไหมคะ” เธอนึกถึงตอนเจออีกฝ่ายครั้งแรก มาริษาเดินเข้าไปในชมรมถ่ายภาพ เพื่อนที่นัดกันไว้หนีไปเดตกับแฟน แถมในชมรมยังไม่มีใครเลย ขณะกำลังประหม่า ณัฐนนท์เปิดประตูชมรมเข้ามา ในมือหิ้วลาเต้ปั่นมาสองแก้ว พอเห็นเธอก็ยื่นกาแฟให้
“ตอนนั้นพี่กะแต่งภาพรับปริญญาของลูกค้าโต้รุ่ง เลยซื้อกาแฟมาสองแก้ว กะนอนค้างชมรมด้วยเพราะไฟฟรี เพิ่งนึกได้ตอนเห็นเราว่าเป็นวันรับน้องชมรม” ณัฐนนท์หัวเราะเบาๆ ใบหน้านั้นดูน่าหลงใหลจนเธออยากหยุดเวลาไว้แค่ตอนนี้ มาริษายกมือเท้าคาง ลอบมองยิ้มๆ เธอสนิทกับณัฐนนท์เพราะเป็นรุ่นพี่ในชมรม แต่ไปๆ มาๆ เธอกลับไม่อาจละสายตาจากเขา
หญิงสาวและเพื่อนในชมรมเคยทำคลิปวิดีโอลงยูทูบเพื่อโปรโมตกิจกรรมชมรม ณัฐนนท์เห็นยอดไลค์และคอมเมนต์ถึงมาริษาในเชิงบวก จึงยุให้เธอเปิดช่องยูทูบ แถมยังอาสาช่วยเหลือเต็มที่ หญิงสาวทาบทามให้เขาเป็นตากล้องส่วนตัวนับแต่นั้น
การทำงานประจำไปด้วย และเป็นยูทูบเบอร์ไปด้วยนั้นเหนื่อยมาก แต่พอคิดว่าเวลาไปถ่ายทำเพื่ออัปคลิปลงช่อง แล้วจะได้หาเรื่องคุยกับตากล้องกิตติมศักดิ์อย่างณัฐนนท์ มาริษาก็รู้สึกว่าความเหนื่อยของเธอนั้นคุ้มค่า
ณัฐนนท์มองเครื่องดื่มตรงหน้ามาริษา หัวเราะเบาๆ “แล้วดูสิ ตอนนี้ใครกันที่เป็นคอกาแฟจนสั่งแต่อเมริกาโน่เย็นเท่านั้น”
พอรุ่นพี่มองเธอตรงๆ มาริษาก็สะดุ้ง รีบยืดตัวตรง เสหยิบกาแฟมาดื่ม ก่อนถาม “ว่าแต่พี่นนท์โอเคใช่ไหม วันนี้ค่อนข้างสมบุกสมบันนะ”
หญิงสาวบรีฟงานตากล้องส่วนตัว แผนของวันนี้คือการตามหากล่องสมบัติที่ตัวเธอซ่อนไว้สมัยเด็กก่อนย้ายบ้าน
ช่องยูทูบของมาริษาเน้นตระเวนคาเฟ่สวยๆ ที่เหมาะกับการถ่ายรูปช่วงวันหยุด แต่ช่วงนี้คอนเทนต์แนวตามล่าสมบัติ เปิดดูกล่องความทรงจำที่เก็บไว้กำลังเป็นไวรัล มาริษาจึงอยากหยิบมาลองทำดูเพื่อให้ผู้ติดตามได้ชมบรรยากาศใหม่ๆ จะว่าไปคนที่แนะนำคอนเทนต์นี้ให้เธอเป็นแฟนคลับที่ติดตามมาตั้งแต่แรกๆ เจ้าตัวใช้ชื่อว่า Merry MerryMe มีรูปโพรไฟล์เป็นรูปมาริษาประคองแก้วกาแฟ ส่งยิ้มหวานให้กล้อง มักจะคอยทักมาแนะนำคอนเทนต์น่าสนใจ หรือไม่ก็ข้อความให้กำลังใจ
การทำช่องยูทูบกลายเป็นส่วนหนึ่งของมาริษา แม้จะไม่ถึงกับลาออกจากงานมาทำตรงนี้เต็มตัว เพราะงานประจำเองก็มีความมั่นคงระดับหนึ่ง แต่หญิงสาวก็รักช่อง Merry Everyday ของตัวเองมาก
การทำช่องยูทูบเป็นเหมือนดาบสองคมเช่นกัน มาริษาเหมือนคนที่ยืนในที่แจ้ง บางครั้งคำพูดบางคำ หรือการกระทำบางอย่างถูกตีความผิดๆ แต่แฟนคลับที่คอยติดตามเธอ และให้กำลังใจมาตลอดก็เป็นเหมือนพื้นที่ให้หญิงสาวได้หายใจและทำสิ่งที่รักต่อไป
มาริษาหยิบสมุดโน้ตกับปากกาวาดแผนที่คร่าวๆ ให้ณัฐนนท์ดู
“เมอร์รี่เคยเล่าให้พี่ฟังใช่ไหมล่ะคะ ว่าตอนเด็กๆ บ้านเมอร์รี่อยู่แถวโรงแรมเซเรเนด แล้วต้องย้ายบ้านเพราะมีนายทุนมาซื้อที่ ตอนแรกเขาทำเป็นอพาร์ตเมนต์ แล้วเพิ่งมาปรับปรุงใหม่เป็นโรงแรม” เธอใช้ด้ามปากกาชี้ตำแหน่งที่พูดถึงแต่ละจุด
ณัฐนนท์พยักหน้า “ก็เลยเอากล่องความทรงจำไปฝังแถวโรงแรมใช่ไหม”
มาริษาพยักหน้า “มันเป็นภูเขาไม่ไกลจากโรงแรมมากค่ะ อยู่หลังป่าชุมชน จากวิวมุมสูงจะเห็นตัวเมืองด้วย แต่คนไม่ค่อยรู้จักเพราะเดินทางลำบาก และมีที่เที่ยวอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมมากกว่า…ตอนขึ้นเขาอาจจะต้องเดินไกลนิดนึงนะคะ เมอร์รี่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจำจุดฝังถูกไหม ตอนนั้นแค่มัธยมต้นเอง”
ใจจริงมาริษาอยากไปขุดกล่องสมบัติตั้งแต่มาโรงแรมรอบก่อน แต่เวลาไม่อำนวย ยังตั้งใจเอาไว้ด้วยซ้ำว่าอาจจะมาใหม่อีกสักกลางเดือนหน้า การที่ณัฐนนท์ทักมาบอกว่าสามารถมาเป็นตากล้องให้ได้จึงทำให้เธอดีใจมาก
เธอนั่งเท้าคางมองรุ่นพี่มหาวิทยาลัย อมยิ้มน้อยๆ
ณัฐนนท์เลิกคิ้ว
“แค่คิดว่าถ้าไม่ได้พี่นนท์ เมอร์รี่คงไม่คิดจะมาเป็นยูทูบเบอร์แน่ๆ”
“อะไรกัน ทั้งหมดเป็นเพราะตัวเมอร์รี่เองต่างหาก พี่แค่ช่วยเป็นตากล้องให้ กับช่วยเรื่องช่องยูทูบบ้างเท่านั้นเอง” อีกฝ่ายผุดรอยยิ้ม มาริษาลอบมอง ‘น่ารักไม่ไหวแล้ว’
“เหม่ออะไรเนี่ย กินๆ เติมพลัง” ณัฐนนท์ป้อนขนมปังให้ มาริษาอ้าปากเคี้ยว พยายามทำท่าทางให้เป็นปกติ เธอไม่อยากให้รุ่นพี่จับได้ว่าตัวเองใจสั่นขนาดไหน
ขนมปังชิ้นสุดท้ายหมดไป มาริษาเช็ดมือกับทิชชู ส่วนรุ่นพี่สะพายกล้องเตรียมพร้อม
ณัฐนนท์กล่าวชวน“งั้นเราไปล่าสมบัติกันเถอะ”
จากลานจอดรถใต้ต้นราชพฤกษ์เดินขึ้นมาถึงจุดชมวิวบนภูเขานั้นไกลพอควร แม้จะแต่งตัวรัดกุม สวมรองเท้าผ้าใบเตรียมพร้อม มาริษาก็ยังเข่าอ่อน เหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก การที่มีณัฐนนท์เดินมาด้วยกัน ทำให้ทางเดินไม่ลำบากจนเกินไป เธอแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ กับเขา เล่าเรื่องพ่อกับแม่ทะเลาะกัน เพราะพ่อแอบเอา ‘ป้าแก่’ ไปซ่อม ‘ป้าแก่’ เป็นรถยนต์คันเก่าบุโรทั่งที่อยู่คู่ครอบครัวเธอมาแสนนาน สภาพไม่น่าขับได้ แต่พ่อยังคงอาลัยอาวรณ์ราวเพื่อนเก่า หลังป้าแก่กลับจากอู่ซ่อมรถได้ไม่กี่วันก็พังอีกรอบ จนโดนแม่ดุเสียยกใหญ่ รถเก่าแก่ของครอบครัวจึงระเห็จจากโรงรถไปจอดเกือบหลังบ้าน เพื่อไม่ให้แม่ขวางหูขวางตากับมันเกินไปนัก
บริเวณจุดชมวิว มีศาลาเล็กๆ ตั้งอยู่ สภาพทรุดโทรมไปตามเวลา มีเศษใบไม้เกลื่อนพื้น จากตัวศาลา พอมองลงไปเป็นวิวบ้านเรือนเล็กจิ๋วเหมือนบ้านตุ๊กตาสลับกับสีเขียวของต้นไม้ สายลมพัดเอื่อย โอบไล้ทิวทัศน์ตรงหน้า บ้านเรือนเยอะขึ้นกว่าที่เธอจำได้ แต่ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจจากการชมวิวตัวเมืองจากมุมสูงแทบไม่ต่างจากตอนเป็นเด็ก
พอหายเหนื่อยแล้ว มาริษาหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดกล้องหน้าเช็กภาพลักษณ์ของตัวเอง แล้วเข้าเพจเฟซบุ๊กเพื่อเริ่มไลฟ์สด
“แถ่นแท้น! เดินมาถึงจุดชมวิวแล้วค่า” มาริษาส่งยิ้มให้โทรศัพท์มือถือ ผายมือให้ผู้ชมมองเห็นทิวทัศน์นอกศาลา โดยมีณัฐนนท์แบกกล้อง DSLR ตามมา พอเห็นรุ่นพี่รูปร่างสูงใหญ่มีเหงื่อเกาะเต็มหน้า แถมยังหอบเล็กน้อย เธอก็อดขำขึ้นมาไม่ได้
Merry MerryMe : เมอร์รี่สวยจังเลยครับ
หลินหลิน มัสลิน : กรี๊ส พี่นนท์หล่อมากค่า
มาริษาไล่อ่านคอมเมนต์ของแฟนคลับ พยายามไล่ตอบคำถามแต่ละคน “คุณ Merry MerryMe ขอบคุณนะค้า วันนี้เมอร์รี่มาแถวโรงแรมเซเรเนด แถวโรงแรมมีภูเขา ตอนเด็กๆ เมอร์รี่เคยเอากล่องความทรงจำมาซ่อน เลยจะมาขุดดูความทรงจำค่ะ ต้องขอบคุณคุณ Merry MerryMe ที่ช่วยแนะนำคอนเทนต์นี้เลย ส่วนน้องหลินหลิน เดี๋ยวบอกพี่นนท์ให้นะคะ”
พอณัฐนนท์เดินมาพักเหนื่อยข้างๆ มาริษาก็แพนกล้องมือถือที่กำลังไลฟ์สดไปหาชายหนุ่ม รุ่นพี่เอามือบังกล้อง สีหน้าเขินอายของเขาทำเอาเธอใจเต้นรัว หญิงสาวจงใจไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กไปด้วย และอัดคลิปด้วยกล้อง DSLR สำหรับไว้ลงในยูทูบไปด้วยเพื่อตัดต่อทำคลิปวิดีโอลงยูทูบในภายหลัง
รุ่นพี่บิดขี้เกียจ “ว่าแต่บนภูเขานี่วิวดีนะ”
“ใช่แล้วค่ะ” มาริษาแพนกล้องมือถือไลฟ์ภาพทิวทัศน์เมืองที่มองเห็นจากศาลาชมวิว “แต่ก่อนที่นี่เป็นที่โปรดของเมอร์รี่เลยค่ะ แต่ตอนหลังไม่มีใครมา เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่มีชื่อเสียง แถมเดินทางสะดวกกว่า”
“กลายเป็นที่ที่ถูกลืมไปเลยนะ” คนข้างตัวเสริม
“งั้นเมอร์รี่ตั้งชื่อตอนในยูทูบว่ากล่องความทรงจำในดินแดนที่ถูกลืมดีไหมนะ”
“ว่าแต่พอจะคุ้นๆ ไหมว่าฝังสมบัติไว้ตรงไหน” ณัฐนนท์ถาม ในมือเขายังมีจอบขุดดินและพลั่วเตรียมพร้อม
หญิงสาวยื่นโทรศัพท์มือถือให้รุ่นพี่เป็นคนถ่ายไลฟ์ พอชายหนุ่มวางสัมภาระเรียบร้อย เธอก็เดินนำชายหนุ่มมายังต้นราชพฤกษ์สูงใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขา ไม่ไกลจากศาลาชมวิวนัก
“น่าจะแถวใต้ต้นไม้นะคะ” หญิงสาวเอียงคอ หันมามองผู้ชมในไลฟ์ ยิ้มเผล่ “เอาละค่ะทุกคน ได้เวลาที่พี่นนท์จะโชว์พลังกล้ามจากการเข้ายิมแล้วค่ะ”
“ทำไมพี่ถึงรู้สึกเหมือนโดนหลอกมาใช้แรงงานนะ” ณัฐนนท์บ่นอุบ ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอไลฟ์สดต่อ ตัวเขาตั้งโหมดวิดีโอของกล้อง DSLR และวางกล้องในมุมที่จะเห็นมุมใต้ต้นราชพฤกษ์ชัดๆ จากนั้นหยิบจอบและพลั่ว แล้วเริ่มขุดดินท่ามกลางเสียงเชียร์ของมาริษา
“พี่นนท์สู้ๆ พี่นนท์สู้ตาย พี่นนท์ไว้ลาย สู้ตาย สู้ๆ”
“ทั้งหมดก็มีแค่นี้ค่ะ” มาริษาในชุดคนไข้หลวมโพรกกล่าวกระท่อนกระแท่น
“ลองคิดดีๆ นะครับ อะไรก็ได้ เรื่องไม่สำคัญแค่ไหนก็ได้” มนชิต นายตำรวจวัยเลขสี่ หน้าตอบ มีไรหนวดบางๆ ผมยุ่งเป็นรังนก ผิวคล้ำ ในมือถือสมุดบันทึก นั่งตรงเก้าอี้เยี่ยมผู้ป่วยข้างตัวมาริษา อีกคนชื่ออนุวัต เป็นนายตำรวจวัยไล่เลี่ยกันที่ดูจะยศสูงกว่า ผมบาง ร่างเล็ก แต่แววตาจริงจังทำให้ดูน่าเชื่อถือ เห็นแล้วนึกถึงสุนัขพันธุ์บลัดฮาวด์ เจ้าตูบตาลึก หน้าย่น เจ้าตัวนั่งที่ชุดโซฟาสีครีม เอามือกอดอก ทำหน้าครุ่นคิด
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณมากครับ” นายตำรวจบลัดฮาวด์พูดพลางผุดลุกขึ้น ตำรวจผิวคล้ำเลยลุกตาม เขายื่นนามบัตรส่งให้หญิงสาว ในกรณีที่คิดอะไรออกเพิ่มเติม
“ยะ…เหยื่อเป็นใครเหรอคะ” พอถามออกไปด้วยเสียงแหบพร่า ก็สัมผัสถึงรสขมปร่าในปาก อนุวัตตาไว รีบหยิบถุงพลาสติกบนโต๊ะข้างเตียงคนป่วยยื่นให้ มาริษาอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง มีเพียงน้ำดีสีเหลือง นึกถึงตอนณัฐนนท์ขุดดินแล้วเจอมือข้างนั้น
ไม่! เธอไม่อยากนึกถึงอะไรทั้งนั้น!
“ตอนนี้ทางตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกับรายงานแจ้งความคนหาย แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าไหร่” อนุวัตตอบ “แต่ทางตำรวจจะเร่งระบุตัวตนเหยื่อให้เร็วที่สุด เพราะคดีนี้เป็นคดีระทึกขวัญ ผู้คนให้ความสนใจกันมาก”
มาริษาพยักหน้ารับรู้ ส่วนหนึ่งคนที่ทำให้ผู้คนสนใจข่าวการพบชิ้นส่วนศพบนภูเขาคงเพราะไลฟ์สดของเธอที่มีผู้ติดตามเยอะพอควร แถมตัวคดียังน่ากลัว ทำให้ผู้คนพูดถึงในวงกว้าง ก่อนเจอตำรวจทั้งสอง หญิงสาวเช็กทวิตเตอร์ มีคนมาอัปเดตว่าชิ้นส่วนศพฝังกระจายไปทั่วภูเขา ต้องใช้ทีมค้นหาและสุนัขตำรวจกระจายกำลังตามเก็บชิ้นส่วนต่างๆ
“ตอนนี้ สิ่งที่บอกได้ก็คือการที่น้องพบศพเป็นเรื่องที่ฆาตกรคงคิดไม่ถึง ดูจากการเอาชิ้นส่วนมาฝังกระจายทั่วภูเขา แถมตัวสถานที่ที่เลือกก็เป็นที่ที่คนไม่ค่อยเข้าไป” มนชิตกล่าว เอามือลูบไรหนวด “ต้องขอบคุณน้องที่ช่วยให้พบศพเร็วขนาดนี้”
มาริษาสะกดกลั้นความรู้สึกอยากอาเจียน พยายามสลัดภาพตอนณัฐนนท์ขุดหลุมหากล่องสมบัติ แต่กลับเจอมือขวาที่มีแค่ข้อมือและนิ้ว แถมยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์เหมือนเพิ่งหั่นออกมาไม่กี่วันก่อน หญิงสาวยังจำกลิ่นสาบพวกนั้นได้
อนุวัตคงคอยสังเกตท่าทีของเธอ เขาสะกิดมนชิต กล่าวทิ้งท้ายว่าหากนึกอะไรออกเพิ่มเติมก็ให้ติดต่อพวกเขาได้
พอตำรวจทั้งสองนายลับสายตา ณัฐนนท์ก็ปราดเข้ามาในห้อง เขาทรุดตัวบนเก้าอี้ข้างคนป่วย “เมอร์รี่ โอเคไหม คนพวกนั้นก็นะ จะรีบสอบปากคำอะไรกันนักกันหนา ให้พักหน่อยก็ไม่ได้ พอฟื้นจากสลบก็รีบแจ้นมาเชียว ทีเรื่องอื่นไม่เห็นไวแบบนี้”
“พ่อกับแม่ล่ะคะ…” เสียงมาริษายังคงแผ่ว เธอพักอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ หายไปไหนนาน พวกท่านย่อมรับรู้
“คุณลุงจรัสกับคุณป้ามรกตแวะมาเยี่ยมรอบนึง แต่ตอนนั้นเมอร์รี่หลับอยู่” สมัยมหาวิทยาลัย เวลามีกิจกรรมชมรม บางครั้งกลุ่มเพื่อนในชมรมจะมาทำงานกันต่อและขอค้างบ้านมาริษาซึ่งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ณัฐนนท์จึงคุ้นเคยกับครอบครัวของเธอเป็นอย่างดี “ไหนจะเรื่องตำรวจมารอสอบปากคำอีก พี่เลยบอกพวกท่านไปแล้วว่าเมอร์รี่ต้องอยู่ให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล แล้วอาสาจะเฝ้าให้น่ะ” ชายหนุ่มลูบผมเธอแผ่วเบา ใจของหญิงสาวเต้นผิดจังหวะไปหน่อยหนึ่ง
“แล้วพี่นนท์ล่ะ โอเคไหมคะ พี่เป็นคนเจอมือนั่น แถมยังโดนสอบปากคำหนักกว่าเมอร์รี่ด้วยซ้ำ”
“สบายมาก” เขายิ้มให้ แต่ใบหน้ายังคงซีดเซียว
“แฟนๆ คงตกใจแย่” ตอนที่เจอมือปริศนา มาริษาปาโทรศัพท์ทิ้ง ณัฐนนท์เป็นคนมากดปิดไลฟ์ จากนั้นก็พาเธอที่สลบเหมือดมาโรงพยาบาล ไหนจะเดินเรื่องแจ้งตำรวจ ให้ปากคำ
“เอาไงดี ให้พี่ไลฟ์ชี้แจงไหม”
มาริษาส่ายหน้า “เดี๋ยวเมอร์รี่ทำเองค่ะ”
“ไหวนะ” แววตาเป็นห่วง อบอุ่นเสียจนมาริษามีความกล้าขึ้นมา หญิงสาวหยักหน้า ยิ้มสดใสให้เขา
พอกดเข้าไปหน้าเพจเฟซบุ๊ก มาริษาเห็นคอมเมนต์แสดงความห่วงใยไม่หวาดไม่ไหว คนที่เธอไม่แม้แต่จะรู้จักตัวจริง กลับปรารถนาดีกับเธอ เป็นห่วงเธอ หญิงสาวรู้สึกอบอุ่น โลกในเพจคือที่หลบภัย เปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ
หญิงสาววางโทรศัพท์ตรงหน้า จัดให้คนดูสามารถเห็นเธอได้ชัด แล้วกดปุ่มไลฟ์สดในเฟซบุ๊ก
“สวัสดีค่ะ เมอร์รี่จากเพจ Merry Everyday เจ้าเก่าคนเดิมเองค่ะ…ใช่แล้วค่ะ คุณ ‘Merry MerryMe’ เมอร์รี่กลับมาแล้วค่ะ คงตกใจแย่เรื่องที่เมอร์รี่ไลฟ์สดไปตอนเช้าใช่ไหมคะ ตอนนี้เมอร์รี่ไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณน้อง ‘หลินหลิน มัสลิน’ ที่เป็นห่วงนะคะ…”
มาริษาแจ้งข่าวเรื่องที่พบชิ้นส่วนศพบนเนินเขา และตัวเธอต้องเข้าโรงพยาบาล รวมทั้งขอให้แฟนๆ ไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้เธอปลอดภัยดี และตำรวจก็กำลังสืบคดีฆ่าหั่นศพกันอยู่
“สำหรับวันนี้เมอร์รี่ต้องขอจบไลฟ์ก่อนนะคะ ขอบคุณทุกคนมากเลยที่อยู่เป็นเพื่อนกันจนจบ เดี๋ยวถ้าออกจากโรงพยาบาล จะมีแพลนพาทุกคนไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เหมือนเดิม อย่าลืมคอยติดตามกันทั้งในเพจเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์และช่องยูทูบนะค้า”
หญิงสาวโบกมือ ทำหน้าร่าเริงใส่กล้อง แล้วกดปิด พอสบตาณัฐนนท์ ก็พบว่าอีกฝ่ายทำหน้าเครียด
“มีอะไรเหรอคะ”
“ไลฟ์แบบนี้ดีแล้วจริงเหรอ”
“คะ” เธอทวนคำ “ก็แฟนๆ อาจตกใจนี่คะ”
“ก็ใช่ แต่…” รุ่นพี่ทำหน้ายุ่งยากใจ “ตอนนี้ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ แล้วการที่คนร้ายหั่นศพเอาไปฝังบนภูเขาที่ถูกทิ้งร้าง ก็เพราะไม่อยากให้ใครเจอศพ พี่กลัวว่าคนร้ายจะแค้นที่พวกเราไปเจอ”
ใจหญิงสาวกระตุกวูบ ณัฐนนท์กำลังมองว่าการกระทำของเธอจะกลายเป็นการยั่วยุฆาตกรสินะ
“แหม พี่นนท์ แฟนคลับเมอร์รี่มีแต่คนดีๆ ทั้งนั้น ส่วนไลฟ์ก่อนหน้าพวกเราก็ลบไปแล้ว ไลฟ์แถลงการณ์อันนี้ เดี๋ยวเมอร์รี่จะลบไปด้วยเลยก็ได้ เพราะถือว่าแจ้งแฟนๆ แล้ว” หญิงสาวพยายามมองโลกในแง่ดี แม้ในใจลึกๆ จะกังวลก็ตาม
“อืม เอาตามนั้นเถอะ” ณัฐนนท์ยังคงทำหน้าเครียด เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น “แต่ถึงจะลบไป อาจมีคนอัดไว้…โลกออนไลน์ไวกับอะไรแบบนี้เสียด้วย…”
“โธ่ พี่นนท์ ทำท่าแบบนี้เมอร์รี่กลัวนะคะ” เธอดึงแก้มชายหนุ่มให้ยกเป็นรอยยิ้ม “ยิ้มแบบนี้สิถึงจะหล่อชวนหลง”
รุ่นพี่ยื่นหน้ามาใกล้ เลิกคิ้วยียวน “แล้วหลงมากไหม”
มาริษาหน้าร้อนผ่าว ณัฐนนท์เองก็เหมือนตั้งสติได้ รีบถอยห่างเธอ ก่อนจะกล่าว “เมอร์รี่พักเถอะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน”
เอาอีกแล้ว เข้ามาหาเธอหนึ่งก้าว ถอยหลังกลับสิบก้าว
หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตา เอนตัวนอนตะแคงข้างให้เขา
เหตุผลหนึ่งที่มาริษาไม่เคยเผยความรู้สึกของตัวเองให้ณัฐนนท์รับรู้ เพราะบางครั้งเธอเองก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายมองเธอเป็นมากกว่าแค่รุ่นน้องชมรม แต่ไม่รู้เพราะอะไร ทุกครั้งที่เธอเข้าใกล้หรือเกือบจะเผยความในใจ มาริษามักสัมผัสถึงกำแพงสูงใหญ่ที่ชายหนุ่มจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อกันเธอให้เป็นแค่รุ่นน้องคนสนิท
โทรศัพท์มีข้อความแจ้งเตือน หญิงสาวเปิดเข้าไปในเพจเฟซบุ๊ก มีแฟนคลับอินบอกซ์เข้ามามากมายเพื่อแสดงความห่วงใย หญิงสาวไล่ขอบคุณทีละคน จนถึงแฟนคลับที่ใช้ชื่อ ‘Merry MerryMe’ ที่ติดตามเธอตั้งแต่ทำยูทูบแรกๆ แถมยังแนะนำให้มาเปิดเพจในเฟซบุ๊ก มาริษายิ้มน้อยๆ การได้คุยกับอีกฝ่ายให้ความรู้สึกเหมือนคุยกับเพื่อนเก่า
Merry MerryMe : เมอร์รี่ สู้ๆ นะคร้าบ
Merry Everyday : ขอบคุณค่ะ เมอร์รี่ไม่เป็นไรแล้ว เพราะกำลังใจจากทุกคนเลย
Merry MerryMe : โอม กำลังใจก้อนใหญ่ๆ จงไปหาเมอร์รี่สุดที่รักของพี่
Merry Everyday : ได้รับเรียบร้อยค่า
“ไม่ยอมนอนนะเรา” ณัฐนนท์ชะโงกตัวมายึดโทรศัพท์มือถือ ทำหน้าดุ “ที่บอกให้พักคือให้นอนนะ”
“ยุ่ง” เธอทำปากยื่น “เมอร์รี่ตอบแช็ตแฟนๆ อยู่นะ”
“จะตอบทั้งคืนเลยหรือไง” เขาหรี่ตา
มาริษาถอนหายใจ ยันตัวขึ้นนั่ง สารภาพกับอีกฝ่าย “เมอร์รี่กลัวว่าถ้าหลับแล้วจะฝันร้าย”
คนตรงหน้าถอนหายใจแผ่วเบา แววตาเจือความอ่อนโยน “ไม่ฝันร้ายหรอก เชื่อสิ”
“จะให้เชื่อได้ไงคะ”
ณัฐนนท์ยกมือขวาขื้น “เห็นนี่ไหม”
“มือ”
“ไหนๆ ก็ไหนๆ พี่มีเรื่องจะสารภาพ” ชายหนุ่มทำหน้าจริงจัง
“คะ”
“พี่มีพลังพิเศษมาตั้งแต่เด็ก ถ้าจับมือคนที่หลับอยู่ จะเข้าไปในฝันของคนคนนั้น แล้วเนรมิตให้มีแต่ของที่เขาชอบได้”
มาริษาเลิกคิ้ว
“จริงๆ นะ ไม่เชื่อลองหลับดู พี่จะจับมือไว้ไม่ปล่อยเลย แล้วก็จะเข้าไปเนรมิตฝัน เมอร์รี่อยากทำอะไร หรืออยากไปไหนไหม จะให้เสกยูนิคอร์นออกมาในฝันก็ได้นะ”
หญิงสาวหัวเราะพรืด “เมอร์รี่จะเอายูนิคอร์นไปทำอะไรก่อน”
ณัฐนนท์ทำหน้าเหลอหลา “งั้นเอาเป็นอะไรดี”
มาริษาอมยิ้ม นอนลงอย่างว่าง่าย โดยกุมมือวิเศษของคนตรงหน้าไว้ เธอหลับตา กล่าวทั้งรอยยิ้ม “พี่นนท์ก็ลองเสกดูสิ เดาดูว่าในฝันดีของเมอร์รี่ควรมีอะไรบ้าง”
เขาจะรู้ไหมนะ ว่าฝันดีของเธอ จริงๆ แค่มีเขาก็พอแล้ว
- READ กานต์ปรียา บทที่ 9 : ผมให้คุณเป็นที่หนึ่ง
- READ กานต์ปรียา บทที่ 8 : บทเรียนเรื่องจักรวาลที่ชื่อว่าคุณ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 7 : บอกมาว่าคุณรู้สึกอย่างไร
- READ กานต์ปรียา บทที่ 6 : กล่องความทรงจำในดินแดนที่ถูกลืม
- READ กานต์ปรียา บทที่ 5 : คุณรักฉันมากแค่ไหน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 4 : เรื่องทั้งหมดที่ฉันชอบ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 3 : อยากชำแรกเข้าไปในทุกห้วงความคิด
- READ กานต์ปรียา บทที่ 2 : เส้นทางที่ไม่อาจหวนคืน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 1 : อ้อมกอดแนบแน่นราวพยายามกลืนกินอีกฝ่าย







