
คุณหลวงเจ้าขา…ข้ากลัวผี บทที่ 19 : เด็กดื้อต้องโดนอะไรนะ
โดย : พงศกร
คุณหลวงเจ้าขา…ข้ากลัวผี นวนิยายโรแมนติกคอมเมดี้จากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อวิญญาณของแพทย์หญิงยุคปัจจุบันเข้าไปอยู่ในร่างแม่หญิงแห่งกรุงศรีผู้บอบบางที่มีคนหมั่นไส้ทั้งเมือง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติชีวิตของแม่หญิงคนนี้ให้แข็งแกร่ง ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายคนไหน โดยเฉพาะคุณหลวงกำแหงฤทธิรณ หนุ่มหล่อ…อยุธยาคิ้วต์บอยคนนั้น!
จากวัดประดู่กลับมาถึงเรือนได้อย่างไร ดาราเรศจำอะไรไม่ได้เลย เธอหมดสติไม่รู้สึกตัวเพราะจับไข้ เนื้อตัวแม่หญิงดาราร้อนจัดจนถึงขั้นเพ้อ
ในความฝันอันเลือนราง ดาราเรศเห็นพ่อและแม่กอดกันร้องไห้บนเมรุเผาศพของวัดแห่งหนึ่ง ด้านหลังของพ่อกับแม่มีญาติ และเพื่อนจากโรงเรียนมัธยม เพื่อนที่มหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานยืนกันแน่นขนัด ทุกคนแต่งชุดดำ และมีใบหน้าเศร้าหมอง หลายคนน้ำตานองหน้า
…ร่างของเธอในชาติปัจจุบันกำลังถูกเผามอดไหม้…
ความอึดอัดพลุ่งพรวดขึ้นในหน้าอก ดาราเรศอยากจะส่งเสียงบอกให้พ่อแม่และทุกคนรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ แม้จะอยู่ในห้วงอดีต และในร่างของคนอื่นก็ตาม
“แม่จ๋า…พ่อจ๋า” เธอตะโกนเสียงสั่น “หนูอยู่นี่…หนูยังไม่ตาย อย่าเพิ่งเผาหนูนะ…หนูย้อนอดีตกลับมาอยู่สมัยอยุธยา ถ้าเผาหนูแล้ว หนูจะกลับไปยังไงล่ะจ๊ะ…”
ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของดาราเรศ เหมือนเธอกับพวกเขาอยู่กันคนละโลก
ดาราเรศเห็นแม่เข่าอ่อนจนพ่อต้องเขาไปพยุง เธอพยายามผุดลุกจะโผไปหา หากเหมือนกับมีมือแข็งแรงเหนี่ยวรั้งเอาไว้
“ดารา…แม่ดารา…ทำใจดีๆ ไว้นะ”
เสียงนั้นทุ้มนุ่มหู อ้อมกอดอบอุ่นกอดเธอไว้แนบอก ออกหลวงกำแหงฤทธิรณหันไปสั่งนางบ่าวที่กำลังเช็ดตัวให้แม่หญิงดาราด้วยน้ำเสียงเข้ม
“ส่งผ้ามา ข้าเช็ดเอง…เอ็งนี่ยังไงนะนังแหวน ไม่ทันใจเอาเสียเลย”
“แหม คุณหลวงเจ้าขา” แหวนพึมพำ “นี่ก็เช็ดจนมือเป็นระวิงแล้วนะเจ้าคะ”
“ยังจะเถียงอีก” คุณหลวงไม่พอใจ “ส่งผ้ามานี่เลย ขืนชักช้าเมียของข้าเป็นอะไรไปมากกว่านี้ จะสั่งเฆี่ยนเอ็งให้หลังลายเลยทีเดียว”
นางแหวนรีบส่งผ้าให้คุณหลวงมือสั่น คุณหลวงรับไปเช็ดให้เมียด้วยอาการทะนุถนอม สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความกังวล หลังจากเช็ดตัว ไข้เริ่มลด อาการของแม่ดาราก็เริ่มสงบลง เจ้านายของนังแหวนหลับตาพริ้ม ไม่เพ้อเหมือนเมื่อครู่ที่ผ่านมา
“หมอมาหรือยัง” เขาตวาด
“ยังเจ้าค่ะ” นังแหวนตอบเสียงอุบอิบ
“อะไรวะ ทำไมช้าขนาดนี้” คุณหลวงหงุดหงิด
“เพิ่งไปเอง บ่าวว่ายังไม่ทันถึงเรือนหมอเลยนะเจ้าคะ” นังแหวนอดพูดไม่ได้
“นังแหวน” คุณหลวงตวาด “เอ็งนี่เป็นยังไงนะ ชอบขัดคอฉันเสียจริงๆ”
“เอ้อ…เจ้าค่ะๆ” นังแหวนอยู่เป็น รีบผสมโรงกับสามีของเจ้านาย “โอ๊ย…บ่าวไพร่บ้านนี้เป็นอะไรกันไปหมด ชักช้าเสียจริงๆ ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีกนะ ช้าแบบนี้เฆี่ยนมันเลยเจ้าค่ะคุณหลวง เฆี่ยนมันเลย”
“เกินไปละนังแหวน” คุณหลวงพึมพำ “เขาไปรับหมอมารักษาเมียข้า ถึงกับจะต้องเฆี่ยนกันเลยเหรอ”
“ไม่เฆี่ยนก็ไม่เฆี่ยนเจ้าค่ะ เอาที่คุณหลวงสบายใจก็แล้วกัน”
นังแหวนเจอแบบนี้ถึงกับไปไม่เป็น ความกลัดกลุ้มกังวล กลัวว่าเมียจะเป็นอะไรไป ทำให้คุณหลวงคลุ้มดีคลุ้มร้ายได้ถึงเพียงนี้เลยเชียวเรอะ
อะไรจะใจร้อนขนาดนี้ เพิ่งจะส่งเรือไปรับหมอไม่ถึงอึดใจ ไม่ใช่หมอเทวดาสักหน่อย จะได้หายตัวมาได้รวดเร็วทันใจ เสียงเอะอะโวยวายที่เรือนเล็กได้ยินไปถึงเรือนใหญ่ สักพักเดียวคุณหญิงแป้น แม่บัว แม่ใจ และคราวนี้คุณพระขาม เลยพากันยกขบวนมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“เอะอะโวยวายอะไรกันพ่อเข้ม ทุกคนเลยพลอยไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยหรืออย่างไร” คุณหญิงแป้นส่งเสียงนำมาก่อนตัว
“ต๊าย…นั่นศพพี่ดารานี่เจ้าคะ” แม่บัวเห็นร่างของแม่หญิงดารานอนอยู่บนตั่งกลางเรือนก็อุทานด้วยความตกใจ
“ไม่ใช่ศพ” คุณหลวงตวาดน้องสาว “แม่ดาราเพียงแต่สลบไป”
“สลบไป” แม่ใจอ้าปากค้างก่อนจะหันไปสบตากับน้องสามี
ทุกคนที่รายล้อมอยู่ในบริเวณนั้น เมื่อรู้ว่าแม่หญิงดารายังไม่ตายก็มีสีหน้าต่างกันออกไป คุณหญิงแป้น แม่หญิงบัวและแม่หญิงใจเหมือนจะผิดหวัง ขณะที่คุณพระขามดูจะโล่งใจ
“ไปเจอตัวแม่ดาราที่ไหนพ่อเข้ม” มารดาเลี้ยงถาม
“วัดประดู่ขอรับ” คุณหลวงตอบเรียบๆ
“วัดประดู่” แม่บัวและแม่ใจร้องขึ้นพร้อมกัน
“วัดประดู่อยู่ไกลจากจุดเรือล่มมากโข เหตุใดแม่ดาราจึงว่ายไปได้ไกลขนาดนั้น” คุณพระขามเองก็อดสงสัยมิได้
“นั่นสิ” แม่ใจพยักหน้า
“เอ๊….เป็นตะเพียนทอง หรือปลาบู่ทองหรือเปล่านะ พี่ดาราถึงว่ายน้ำเก่งถึงเพียงนี้ ไม่น่าเชื่อเลย ดวงแข็งอะไรขาดนี้ รอดมาได้อีกหนหนึ่งแล้วนะเจ้าคะ” แม่บัวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะร้องโอ๊ยเพราะรู้สึกเหมือนโดนใครตบปาก
“พี่ใจ” แม่บัวหันขวับไปทางพี่สะใภ้ “ตบน้องทำไม”
“ตบแม่บัว อะไร ใครตบ” แม่ใจงง
“ก็พี่ใจไง ตบน้อง ดูสิเจ้าคะคุณแม่” แม่บัวหันไปฟ้องคุณหญิงแป้น ปากของเธอบวมเจ่อ มีเลือดซึมซิบๆ เหมือนโดนคนตบมาจริงๆ
“ตายแล้ว แม่ใจ” คุณหญิงแป้นร้องกรี๊ด “ถือดีอย่างไรมาตบแม่บัว”
“เดี๋ยวนะเจ้าคะ” แม่ใจยังไม่หายงง “ดีฉันไปตบแม่บัวตอนไหน ก็ยืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ ถ้าดีฉันตบทุกคนก็ต้องเห็นสิ”
“พี่ใจนั่นละตบน้อง” แม่บัวร้องไห้โฮ ปากบวมเจ็บระบม “ถ้าไม่ใช่พี่ใจตบ แล้วจะเป็นใครไปได้”
“อ้าว” แม่ใจของขึ้น “พูดอย่างนี้กล่าวหากันชัดๆ ประเดี๋ยวก็ตบเสียจริงๆ หรอก”
“มาเลย” แม่บัวถลกผ้านุ่งเตรียมลุย “นึกว่าพี่ใจมีมือคนเดียวหรืออย่างไร น้องก็มีมือมีตีนเหมือนกัน ตบมาก็ตบไป ม่ะ…เจอกันหน่อย”
“พอได้แล้ว” คุณหลวงเข้มอดรนทนไม่ไหว เมียของเขาจับไข้ไม่ได้สติ แทนที่ทุกคนจะช่วยเหลือกัน กลับมาทะเลาะกันดังลั่นเรือน “ถ้าไม่ได้มาช่วยอะไรกระผม ก็กลับกันไปเสีย”
“พ่อเข้ม…” ท่าทางของคุณพระขามเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง หากน้องชายของเขาโบกมือและพึมพำว่า
“พี่ขามพาเมียพี่ พาคุณแม่และแม่บัวกลับไปเสีย ก่อนที่กระผมจะทนไม่ไหว”
“เอ้อ…” คุณหญิงแป้นยังไม่อยากกลับ เพราะยังไม่รู้รายละเอียดเรื่องแม่หญิงดารา หากบุตรชายคนโตของเธอเอ่ยเสียงเข้มว่า
“กลับกันได้แล้วทุกคน”
โดยไม่รอคำตอบ ออกพระพินิจธรรมลากแขนมารดาของเขาและน้องสาวให้กลับไปที่เรือนใหญ่ด้วยกัน โดยมีแม่ใจเดินหน้าคว่ำตามไปติดๆ…
และถ้าใครจะสามารถมองเห็นวิญญาณได้เหมือนอย่างดาราเรศละก็ คงจะเห็นร่างเลือนรางของเด็กผมจุกและหญิงสาวผมยาวห่มสไบกำลังหัวเราะให้แก่กันในเงามืดของเรือนไทยหลังนั้น…
เกือบครึ่งชั่วโมงโน่นละ ทนายหน้าหอที่ออกหลวงหนุ่มส่งไปรับหมอพัน จึงเดินทางมาถึงเรือน
หมอพันเป็นหมอเชลยศักดิ์ ปลูกเรือนอยู่แถววัดประดู่ ตอนนี้กำลังรักษาอาการป่วยของออกญาโชดึกอยู่ด้วย ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่รู้ใครเป็นใคร ออกหลวงกำแหงฤทธิรณไม่ไว้ใจหมอผู้ใดในพระนคร ยกเว้นหมอพันเพียงผู้เดียว
“แม่ดาราเป็นอย่างไรบ้างหมอ” ออกหลวงหนุ่มเฝ้ามองหมอตรวจเมียตัวเองไม่ห่าง
ตลอดเวลาที่หมอพันตรวจแม่หญิงดารา หญิงสาวยังไม่ได้สติ ดวงหน้างดงามของเธอแดงก่ำด้วยพิษไข้ เนื้อตัวยังรุมอยู่ หากไม่มีอาการเพ้อแล้ว
“เป็นไข้ธรรมดา ไม่เป็นไรมากดอกคุณหลวง แช่อยู่ในน้ำนานก็อย่างนี้ละ” หมอพันว่า “กินยาที่ฉันจัดไว้ให้ครบสามวันก็หาย”
“ขอบใจพ่อหมอมากนะขอรับ” สุ้มเสียงของคุณหลวงเกรงใจ ความร้อนใจทำให้เขาไม่อยากรอจนถึงเช้า สั่งให้ทนายหน้าหอไปพาตัวหมอพันมาให้ได้
ตอนแรกหมอพันก็ไม่อยากมา เพราะถูกตามตัวกลางดึกนั้นดูไม่น่าไว้ใจ หมอพันไม่แน่ใจว่าจะถูกหลอกไปปล้นหรือเปล่า ครั้นพอรู้ว่าผู้ไข้เป็นธิดาของเจ้าคุณโชดึกฯ ก็รีบจัดล่วมยาและลงเรือมาด้วยอย่างรวดเร็ว
“จริงสิขอรับ” ตอนเดินไปส่งหมอที่ท่าน้ำ ออกหลวงหนุ่มก็นึกขึ้นได้ “ท่านเจ้าคุณโชดึก พ่อตาของกระผม อาการเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“อาการดีขึ้นมาก” หมอพันลดเสียงลงพอให้ได้ยินกันแค่สองคน “แต่ท่านเจ้าคุณยังไม่อยากให้ใครรู้ ท่านว่าจะอาศัยช่วงเวลานี้สืบว่าใครวางยาท่านกันแน่”
“ท่านเจ้าคุณสงสัยผู้ใดเป็นพิเศษหรือไม่ขอรับ” คุณหลวงถาม
“อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ” หมอพันส่ายหน้า “แต่เท่าที่ได้คุยกัน ดูเหมือนท่านจะสงสัยพวกญี่ปุ่น”
“พวกญี่ปุ่นอีกแล้วหรือ” คุณหลวงนิ่วหน้า นึกลำดับเหตุการณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ตั้งแต่ผีปอบฆ่าคนล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ออกญาโชดึกราชเศรษฐีถูกวางยา และคนร้ายลงมือลอบสังหารตัวเขา…ทั้งหมดนี้ดูจะเป็นเรื่องเดียวกันได้จริงๆ เสียด้วย…
เขาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้กลับไปกลับมาในใจ ออกญานคเรศฤๅไชย เจ้านายของเขาเองก็สงสัยอยู่เช่นกัน แต่เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่มีหลักฐานก็คงทำอะไรไม่ได้มากนัก สิ่งเดียวที่ทำได้ในเวลานี้ก็คือต้องจับตามองทุกความเคลื่อนไหวของพวกญี่ปุ่น และระมัดระวังทุกฝีก้าวให้มากที่สุด..
“ไม่ได้ ฉันไม่ให้ไป”
ทันทีที่เมียของเขาฟื้นคืนสติในเช้าวันต่อมา แม่หญิงดาราก็ลุกขึ้นแต่งตัวเพื่อจะไปเปิดร้านขายของที่ป่าผ้าตามปกติ
“แม่ดาราเพิ่งจะหายไข้ ยังกินยาหมอไม่ครบเลย จะไปทำงานได้อย่างไรกัน”
“ได้แล้ว หายแล้ว แข็งแรงแล้ว” ดาราเรศกระโดดโหยงเหยง ทำท่าออกกำลังกายให้ออกหลวงหนุ่มดู “นี่ไงเจ้าคะ ฮึบ ฮึบ หนึ่ง สอง สาม สี่”
“หยุดเลย” ออกหลวงหนุ่มส่ายหน้า “ฉันไม่ให้ไป”
“ฉันจะไป” ดาราเรศลอยหน้าลอยตา “คุณหลวงไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉัน”
“ทำไมจะห้ามไม่ได้” เขาเถียง “ในเมื่อฉันเป็นผัวหล่อน”
“ผัวแต่ในนาม” ดาราเรศว่า
“งั้นฉันก็จะเป็นผัวจริงๆ เสียตอนนี้เลย ดีไหม” ออกหลวงทำท่าจะถอดเสื้อ
“ว๊าย” ดาราเรศร้องเสียงลั่น ถอยหลังกรุดไปจนติดผนัง ไม่นึกว่าสามีจะหื่นแต่เช้า “จะบ้าเหรอคุณหลวง”
“ไม่บ้า” คุณหลวงย่างสามขุม “หุ หุ หุ…บ่นดีนักว่าเราเป็นผัวเมียในนาม คราวนี้ละจะได้เลิกบ่นเสียที”
“ไม่ ไม่ ไม่” ดาราเรศร้องเสียงดัง “อย่าเข้ามานะ”
“ดื้อนักใช่ไหม ดื้อนักต้องโดนแบบนี้” คุณหลวงคว้าร่างบางมากอด จมูกโด่งๆ ของเขาดอมดมไปทั่วร่างของดาราเรศ ไรหนวดเหนือริมฝีปากทำให้เธอจั๊กจี้จนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ
“ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ” ดาราเรศยังไม่หายใจสั่น หากต้องทำน้ำเสียงจริงจังเพื่อให้คุณหลวงหยุด เธอยกมือขึ้นผลักอกของเขาและบอกว่า “ปล่อยฉันก่อน อย่าเพิ่งซุกซนตอนนี้ ให้ฉันไปทำงานเถอะนะเจ้าคะคุณหลวง…ฉันต้องไปสืบข่าว”
“สืบข่าวอะไร” ออกหลวงกำแหงฤทธิรณนิ่วหน้า
“ญี่ปุ่นเจ้าค่ะ” ดาราเรศเอ่ยหนักแน่น
“ฉันไม่ให้ไป” คุณหลวงส่ายหน้า “มันอันตรายมากนะแม่ดารา เธอเพิ่งพ้นจากความตายมา ฉัน…ไม่อยากให้เธอต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงอีก”
“แต่มันเป็นทางเดียวที่จะได้หลักฐานนะเจ้าคะ” ดาราเรศเชื่อในวิธีการของตัวเอง “อยู่ที่ป่าผ้า ผู้คนมากมายหลากหลายเชื้อชาติ ถ้าจะสืบก็ต้องเริ่มต้นสืบที่นั่นละ”
“แต่…” คุณหลวงลังเล
“คุณหลวงเจ้าขา” ดาราเรศทำเสียงอ้อน “เราต้องช่วยกันนะเจ้าคะ หากญี่ปุ่นมีแผนการก่อกบฎจริงๆ ทุกคนก็ไม่ควรอยู่เฉยไม่ใช่หรือเจ้าคะ ถึงฉันจะเป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ช่วยคุณหลวงได้…คุณหลวงก็สืบวิธีของคุณหลวง ฉันก็มีวิธีของฉัน ได้ข้อมูลอะไรมา เราค่อยมาเล่าสู่กันฟัง แบบนี้ตกลงไหมเจ้าคะ”
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 30 : ขึ้นพระบาทกันไหมจ๊ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 29 : จ็อกๆ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 28 : รมณ์เสีย !
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 27 : ฤทธิ์รักไก่แช่เหล้า
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 26 : ผีผมจุกแย่แล้ว
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 25 : น้ำมนต์ของแม่หญิงดารา
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 24 : สะใภ้สารพัดพิษ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 23 : ฟาดมาฟาดกลับ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 22 : ความวัวยังไม่ทันจะหาย ความควายมาอีกแล้วเจ้าค่ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 21 : บุกบ้านญี่ปุ่น
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 20 : แม่หญิงผู้มีศัตรูทั่วพระนคร
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 19 : เด็กดื้อต้องโดนอะไรนะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 18 : ทุกอย่างในโลกใบนี้ไม่มีบังเอิญ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 17 : เมียข้าอยู่ไหน
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 16 : ลอบทำร้าย
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 15 : คนนั้นก็น่าจะใช่ คนนี้ก็อาจจะใช่ แล้วใครกันล่ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 14 : น้ำปรุงขวดพิเศษ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 13 : แม่หญิงนาตาชา
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 12 : เมียข้าใครอย่าแตะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 11 : ออกญาโชดึกราชเศรษฐี
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 10 : สนธิสัญญาผีกับคน
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 9 : จ๊ะเอ๋
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 8 : คุณหลวงเจ้าขา...ฉันกลัวเจ้าค่ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 7 : เดบิ้วต์แล้วก็ต้องไปต่อให้สุดสิเจ้าคะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 6 : ไม่เคยกินละสิ ของอร่อยแบบนี้ !
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 5 : ปะทะคุณหญิงแม่
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 4 : ได้เวลาเดบิ้วต์
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 3 : เมียในเงามืด
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 2 : แม่หญิงผู้นี้ มีศึกรอบด้าน
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 1 : ย้อนเวลา...มันไม่ได้มีแต่ในนิยายเหรอ