อาหารสันหลังยาว

อาหารสันหลังยาว

โดย : เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้

Loading

“อเมริกันคัน” เรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาในบางแง่มุมในอเมริกาที่หลายคนไม่เคยรู้หรือเคยรับรู้มาบ้าง แต่อาจมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจน เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ เจ้าของคอลัมน์ที่เขียนลงในต่วยตูนมาถึง 10 ปี นำมาเขียนเล่าสู่กันฟังแบบสนุกๆ เหมือนการเล่าให้เพื่อนฟัง โดยคงบุคลิก “ต่วยตูน” ดั้งเดิมเอาไว้คือสาระและบันเทิง

ไม่กี่ปีมานี้ได้ข่าวว่าร้านทาโก้เบลล์มาเปิดสาขาในไทย  หมู่เฮาชาวไทยแห่อุดหนุนคับคั่ง   ทาโก้เบลล์ที่อเมริกานับว่ากากมาก  แต่มั่นใจว่าคนไทยคือสุดยอดฝีมือเรื่องการดัดแปลงรสชาติอาหาร ทาโก้เบลล์ในไทยน่าจะอร่อยกว่าที่นี่  ส่วนอีกร้านที่เปิดสาขาในไทยคือร้านซับเวย์แซนด์วิช  แปลกใจเพราะคิดไม่ถึงว่าคนไทยจะชอบกินแซนด์วิชสัญชาติอเมริกัน

ส่วนมากชาวโลกมักคิดว่าคนอังกฤษน่าจะชอบกินแซนด์วิชมากกว่าอเมริกัน เพราะอเมริกันกินแฮมเบอร์เกอร์ แต่ผิดคาด แซนด์วิชนี่แม้จะถือกำเนิดในอังกฤษก็จริง กลับฮิตในอเมริกาจนกลายเป็นแซนด์วิชแบบอเมริกันไปแล้ว  แถมแตกต่างจากต้นตำรับจนยืนงงในดงขนมปัง

ทั้งแซนด์วิชและแฮมเบอร์เกอร์มีจุดเริ่มต้นมาจากความขี้เกียจ นับเป็นอาหารคนสันหลังยาวที่แท้ทรู หลักๆ คือขนมปังสองแผ่นนั่นแหละ ส่วนตรงกลางออกแบบกันเองว่าจะโปะอะไรใส่ลงไป อย่างไรก็ตามคนประดิษฐ์คิดค้นอาหารชนิดนี้แม้จะขี้เกียจตัวเป็นขน แต่เป็นชนชั้นสูงนะจ๊ะ เพราะมียศถาบรรดาศักดิ์ถึงขั้นท่านเอิร์ล

เหตุเกิดกลางวงไพ่แห่งหนึ่งช่วงศตวรรษที่ 18 บรรดาชนชั้นสูงกำลังจั่วกันอย่างเมามันลืมวันลืมคืน ขุนนางรายหนึ่งชื่อจอห์น มอนตากู หรือเอิร์ลแห่งแซนด์วิชที่ 4 ดันหิวขึ้นมา จะลุกไปก็กลัวเสียเกม เลยบอกให้คนใช้หาอะไรมาให้กินหน่อย แถมต้องกินได้สะดวกมือไม่เปื้อนด้วย เอาล่ะซี้… เจอแบบนี้พ่อครัวหัวป่าก์คงหัวระเบิด สุดท้ายพ่อครัวก็คิดออก แล้วนำไปให้บรรดาขุนนางขาไพ่ทั้งหลาย

อาหารที่พ่อครัวยกมาให้บรรดาขาไพ่ประกอบด้วยขนมปังสองแผ่น สอดไส้เนื้อกับชีส ขาไพ่ผู้หิวโหยคว้ากินหนุบหนับแล้วนึกชม เออ… อร่อยดีนี่หว่า เลยตั้งชื่ออาหารมักง่ายนี้ว่า ‘แซนด์วิช’ ตามชื่อท่านเอิร์ล จนกลายเป็นที่นิยมในหมู่คนชั้นสูงของอังกฤษในเวลาต่อมา

ต่อมามีสาวอังกฤษนางหนึ่งชื่อซาเบธ เลสลี่ นำแซนด์วิชเข้าไปแพร่หลายในอเมริกา โดยสอดไส้แฮม แบบนี้แหละที่ถูกอกถูกใจมะริกันนักหนา  เลยได้รับความนิยมไปทุกหัวระแหง เพราะกินง่าย จนทุกวันนี้อเมริกันทำแซนด์วิชห่อไปกินที่ทำงานเป็นมื้อเที่ยงทุกคน น้อยคนที่จะออกไปหาอะไรกินตามร้านเหมือนคนไทย  ส่วนไส้ในแซนด์วิชก็ตามแต่ชอบ  ตั้งแต่แฮม เนื้ออบ ไก่งวง ไข่ หรือแค่ทาพีนัตบัตเตอร์กับแยมองุ่น ก็อร่อยเหลือหลายแล้ว

แม้ว่าอเมริกันจะนิยมชมชอบแซนด์วิช แต่ชื่อเรียกแซนด์วิชแตกต่างกันในรัฐทางเหนือและรัฐทางใต้  รัฐทางเหนือเรียกแซนด์วิชว่า ‘ซับเวย์’ ส่วนทางใต้เรียกแซนด์วิชว่า ‘โพบอยด์’ แถมแต่ละรัฐยังมีแซนด์วิชเมนูของตัวเอง ล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยเนื้อนมไข่ แตกต่างไปจากแซนด์วิชแบบอังกฤษอย่างสิ้นเชิง

การที่อเมริกันในรัฐทางเหนือเรียกแซนด์วิชว่าซับเวย์ น่าจะมีที่มาจากร้านฟาสต์ฟู้ดซับเวย์ เพราะเจ้าของซับเวย์เป็นคนรัฐคอนเนตทิคัต ตอนแรกเปิดร้านแซนด์วิชตั้งชื่อว่าซับมารีนแซนด์วิช เพราะขนมปังรูปร่างเหมือนเรือดำน้ำ ไปๆ มาๆ เลยกร่อนเสียงเหลือแค่ ‘ซับเวย์’

ร้านนี้พบได้ทั่วไป โดยเฉพาะแถวสถานีรถไฟใต้ดิน พอขึ้นจากสถานีก็ซื้อติดมือไปด้วย คนที่นี่เลยเรียกแซนด์วิชว่าซับเวย์ตามชื่อร้าน แบบที่เราเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บนั่นแหละ

ส่วนอเมริกันรัฐทางใต้เรียกแซนด์วิชว่า ‘โพบอย’ (Po’Boy) มาจากคำว่า Poor Boy หรือเด็กยากจน  เริ่มต้นที่รัฐลุยเซียนา แซนด์วิชโพบอยแบบดั้งเดิมใช้ ‘ขนมปังโพบอย’ ซึ่งเป็นขนมปังฝรั่งเศสแบบท้องถิ่นของนิวออร์ลีนส์ มีลักษณะเด่นคือใช้แป้งน้อยกว่าแต่ใส่น้ำมากกว่าบาแกต สรุปคือกรอบนอกนุ่มใน

ส่วนไส้แซนด์วิชก็หลากหลาย ตั้งแต่เนื้อย่าง แฮม ไส้กรอกเผ็ดแบบฉบับของลุยเซียนา ซึ่งอร่อยมากกระต่าย ไก่ หรือแม้กระทั่งเนื้อจระเข้ย่าง เพราะรัฐนั้นเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำประมาณห้วยหนองคลองบึง จระเข้อาศัยอยู่เพียบ บางทีเดินลากหางไปนอนอ้าปากหวอบนพื้นหญ้าหน้าบ้านหรือสนามกอล์ฟบ่อยๆ จนต้องมีฤดูล่าจระเข้ เพื่อจำกัดจำนวนประชากรพี่เข้

เมืองที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมฝรั่งเศสที่สุดก็คือนิวออร์ลีนนี่เอง นับเป็นจุดกำเนิดของแซนด์วิชโพบอย  คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงอเมริกันดีเพรสชั่นที่เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ตรงกับรัชกาลที่หกในบ้านเรา

กรรมกรในนิวออร์ลีนประท้วงหยุดงานราวปี 1929 ร้านในนิวออร์ลีนชื่อร้านพี่น้องมาร์ติน เลยทำแซนด์วิชให้กรรมกรเหล่านั้น  สาเหตุที่เรียกว่า ‘โพบอย’ หรือ ‘พัวร์บอย’ เพราะทุกครั้งที่กรรมกรที่ประท้วงพุ่งตรงมาที่ร้าน เจ้าของร้านจะร้องบอกกันว่า

“แน่ะ… มาอีกคนแล้ว ไอ้เด็กโซ”

นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนในนิวออร์ลีนก็เรียกแซนด์วิชชนิดนี้ว่า ‘พัวร์บอย’ แต่ด้วยการออกเสียงที่มีลักษณะเฉพาะเลยกลายเป็น ‘โพบอย’

รัฐติดมหาสมุทรฝั่งตะวันออกหรืออีสต์โคสต์มีเมนูเด็ดคือล็อบสเตอร์โรล ฟังแล้วเหมือนว่าจะเอาล็อบสเตอร์มาม้วน แต่จริงๆ แล้วนี่คือผลิตผลของชาวอีสต์โคสต์ ถือกำเนิดในเมืองมิลด์ฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัตในปี 1929 เอาลอบสเตอร์มาเป็นไส้แซนด์วิช ราคาก็สาหัสตามราคาลอบสเตอร์ล่ะนะ ด้วยความสดของลอบสเตอร์ ใส่แค่เนย น้ำมะนาว เกลือ พริกไทย มายองเนสก็อร่อยล้ำแล้ว กินพร้อมเฟรนช์ฟรายกับแตงกวาดอง

แซนด์วิชในอเมริกามีเพียบ แต่เลือกนำมาเล่าสู่กันฟังเฉพาะที่มีต้นกำเนิดในอเมริกาเท่านั้น หากเทียบกับแซนด์วิชแบบอังกฤษนับว่าห่างกันลิบลับ เพราะแซนด์วิชอเมริกันอุดมด้วยเนื้อนมไข่ แต่หนักสุดเห็นจะเป็นแซนด์วิชที่เรียกว่า ‘แด้กวูด’

จริงๆ แล้วแด้กวูดเป็นชื่อตัวการ์ตูนยอดนิยม เป็นหนุ่มที่มีเมียผมทองสะสวยชื่อนางบรอนดี้ นางบรอนดี้ทำอาหารเก่งมาก แต่กระนั้นยังมีอาหารเหลือในตู้เย็นทุกวัน แด้กวูดไปทำงาน เลยต้องทำแซนด์วิชห่อไปกินตอนเที่ยง จึงรวบทุกอย่างในตู้เย็นมาโปะเป็นแซนด์วิชหลายชั้น

คำนี้เลยกลายเป็นคำเรียกแซนด์วิชแบบล้างตู้เย็นที่โปะทุกสิ่งอย่างเข้าด้วยกันว่าแซนด์วิชแด้กวูด  จากนั้นร้านต่างๆ ก็เริ่มทำแซนด์วิชแด้กวูดออกมาขาย เรียกว่ากินทีอิ่มทั้งวัน เพราะเครื่องแน่นมากทุกสิ่งอย่าง

sloppy joe

แต่ที่เป็นผลิตผลของอเมริกาแบบขวัญใจคนยาก เห็นจะเป็นแซนด์วิชที่เรียกว่า ‘สลอบปี้โจ’ สมัยก่อนนับเป็นอาหารแนวล้างตู้เย็นอีกหนึ่งเมนู ทำมาจากเนื้อสับเหลือๆ ที่ไม่สามารถเอามาปั้นเป็นแฮมเบอร์เกอร์ ใส่หม้อตั้งไฟ สับหัวใหญ่ใส่ลงไปผัดให้เข้ากัน เทซอสมะเขือเทศกับวู้สเตอร์ซอสลงไป

ไอ้สองซอสนี้คือของที่ต้องมีติดครัวอเมริกัน แบบเดียวกับน้ำปลาและซอสถั่วเหลืองบ้านเรานั่นเอง ใส่เครื่องเทศตามใจชอบ พริกไทย เกลือ ใครใส่น้ำตาลนิดหน่อยก็ไม่ว่ากัน เท่านี้เอง โปะลงบนขนมปังกลมๆ แบบขนมปังแฮมเบอร์เกอร์ เท่านี้ก็อร่อยล้ำแล้ว

 

Don`t copy text!