ไฮ้ ตั้บๆ สุโค่ยโมจิ

ไฮ้ ตั้บๆ สุโค่ยโมจิ

โดย : Writer from Mars

Loading

นิยายออนไลน์ หลากหลายสไตล์ที่มอบความสนุกๆ ให้กับผู้อ่าน ‘อ่านเอา’ ยังมีคอลัมน์ ‘Opinion เขียนขำๆ’ โดย Writer from Mars นักคิด นักเดินทาง ผู้ที่อยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์และมุมมองของเรื่องราวต่างๆ สารพัดสารพัน ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ยันเรื่องใหญ่ๆ ให้คุณได้ อ่านออนไลน์

…………………………………………………………………………

“…ไอ้สปีดการตีโมจิที่เราเห็น จะเร่งแบบคูณสามคูณสี่

“ไฮ้ ตั้บๆๆๆๆ”

…เหวอๆๆๆ เร็วขนาดนั้นแกชักมือออกทันได้ยังไง!!”

 

ยังอยู่กันที่เมืองนารานะครับ ครั้งที่แล้วผมพูดถึงวัดที่มีกวางน้อยเยอะๆไป อันนั้นคือไฮไลต์ที่ทุกคนที่มาที่นี่ต้องมา ทุกทัวร์ต้องพาคณะมาปล่อย เอ๊ย! พามาเที่ยวที่นี่ เรียกว่าขนคนขึ้นรถบัส มาจอดกันหน้าวัดเลยทีเดียว

นั่นคือครั้งแรกของผมที่มาเที่ยวกับคณะทัวร์ ตอนนั้นที่มามันก็สนุกดีครับ เพราะเราก็ตื่นตาตื่นใจไปกับวัดกับกวางไง แต่หารู้ไม่ว่าเราได้พลาดอะไรบางอย่างไป เรานั่งรถทัวร์ไปถึงหน้าวัดเลย ทำให้ไม่รู้ว่าก่อนถึงวัดมันเป็นอย่างไร ผู้คนเขาอยู่กันแบบไหน เดินจากสถานีรถไฟไปผ่านอะไรบ้าง… มาเที่ยวด้วยตัวเองครั้งต่อมา ผมมาเที่ยวเอง แต่ก็ดันนั่งรถเมล์ไปลงหน้าวัดอีก

ครั้งล่าสุด ผมอยากจะประหยัดเงินสักหน่อยเลยเลือกเดิน ซึ่งใช้เวลาเดินนานประมาณหนึ่งเหมือนกัน แต่ก็ทำให้ไปเจอกับไฮไลต์ใหม่ของผมครับ… ระหว่างทางไปวัด ผมเจอร้านหนึ่ง มีการต่อคิวที่หน้าร้าน ซึ่งก็ปกติของคนที่นี่ ผมไปถึงมีคนต่ออยู่ประมาณหนึ่ง ขายอะไรยังไม่แน่ใจ ไอ้เราก็ไปต่อคิวด้วยความอยากรู้ ตอนแรกก็เงียบๆ แต่สักแป๊บก็รู้คำตอบครับ ร้านนี้เป็นร้านขายโมจิ เพราะลุงแกจะตีโมจิโชว์หน้าร้านเป็นการเรียกลูกค้า พอจะเริ่มคนก็มามุงเยอะขึ้นแบบทันตาเลยนะ พอเอาแป้งลง จะได้ยินเสียง “ไฮ้ ตั้บ ไฮ้ ตั้บ” เป็นการให้เสียงให้เกิดจังหวะๆ ไปเรื่อยๆ เรียกว่าใครเดินผ่านมาละแวกหน้าร้านจะได้ยินเสียงนี้เสียงเดียวเลย

พูดถึงขนมโมจิ เอาจริงๆ ผมเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับขนมโมจิมากนัก เพราะได้ยินและเคยกินมาตั้งแต่เด็กๆ …ขนมโมจิของดีต้องที่นครสวรรค์ไง! สินค้าโอท็อป มีมาหลายปี อันนี้เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้นะว่าขนมญี่ปุ่นมาเป็นขนมหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยไปได้ยังไง แต่แน่นอนว่าไปที่นครสวรรค์ผมไม่เคยได้เห็น “ไฮ้ ตั้บ” แต่ก็มีโมจิให้กิน

ขนมโมจินครสวรรค์เป็นแป้งห่อกับไส้ถั่ว กัดแล้วจะร่วนๆ หน่อย มีถั่วตกออกจากปาก อันนั้นคือความทรงจำสมัยเด็กๆ พอโตมาขนมโมจิแบบหนึบๆ ก็เริ่มมีให้เห็นตามร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไป เออ… มันก็เย็นๆ หนึบๆ อร่อยดี แต่ผมก็ไม่ได้ถึงกับชอบมากเท่าไร เพราะมันก็คือแป้งกับน้ำตาล

ภาพตัดกลับไปที่ลุงโมจิที่นารา แกก็ยัง “ไฮ้ ตั้บ” อยู่แบบนั้น แต่พอตอนจะจบแกมีท่าไม้ตายว่ะครับ ไอ้สปีดการตีโมจิที่เราเห็น จะเร่งแบบคูณสามคูณสี่ “ไฮ้ ตั้บๆๆๆๆ” …เหวอๆๆๆ เร็วขนาดนั้นแกชักมือออกทันได้ยังไง ผมพยายามมองลงไปที่แป้ง ดูสิว่ามีสีแดงเป็นเลือดปนอยู่รึเปล่า ก็ไม่มี ดูนิ้วลุง นิ้วลุงก็ยังอยู่ครบ ไม่ได้หักไม่ได้งอ แสดงว่าแกเทพจริง ทำมาหลายปี ไม่มีพลาดแบบ… “ไฮ้ ตั้บ… โอ๊ย!” แล้วก็พาไปโรงพยาบาล

เรียกว่านี่เป็นท่าไม้ตายที่เรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกันเลยทีเดียว แบบนี้สิฉากฟินาเลของลุงที่สมบูรณ์แบบ ถึงเวลาที่เรารอคอย โมจิหนึ่งก้อน ราคาร้อยกว่าเยน ตอนแรกผมก็นึกว่ามันจะแพงกว่านั้นนะ แต่เหมือนแกเป็นร้านเก่าแก่ที่ขายมานาน ราคาก็เลยประมาณนี้  

คนขายเอาโมจิห่อด้วยกระดาษบางๆ แล้วส่งให้เราเลย พอรับมาปุ๊บ โอ๊ย อุ่นมากยังกะเพิ่งออกจากเตาอบ และก็นิ่มด้วย  รู้สึกแปลกมากคือปกติเคยกินแต่โมจิอุณหภูมิห้อง กับแบบที่แช่เย็น อันนี้เพิ่งโดนตีเสร็จหมาดๆ จะร้อนก็ไม่แปลกสินะ กัดไปคำแรก โอ้โฮ… อร่อย แป้งนุ่ม ไส้หวานกำลังดี แป้งนี่นุ่มแบบย้อยหนึบๆไหลเต็มปากเลย แป้งกับไส้แทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน เรียกว่าเป็นโมจิที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมาเลยนะ ลืมโมจิที่เคยกินมาทั้งหมดในชีวิตเลย

ว่าแล้วผมก็เดินไปต่อแถวอีกรอบ คราวนี้ไม่ซื้อก้อนเดียวแล้วครับ จัดไปสาม! ของดีๆ มันอยู่ใกล้แค่นี้เอง ครั้งก่อนๆ ที่ผมมานี่แทบไม่ได้เฉียดไปแถวร้านเลย เสียดายมาก เอาชื่อร้านไปหาข้อมูล ปรากฏว่าร้านโมจิแห่งนี้เขาได้รางวัลทีวีแชมเปี้ยนครับ เอาง่ายๆ ว่าเป็นโมโจที่เทพที่สุดในญี่ปุ่นในช่วงเวลาหนึ่งก็ได้

นั่นทำให้ผมกลับมาคิดว่า ครั้งต่อไปเวลาไปเที่ยวที่ไหน ผมจะพยายามเดินให้มากขึ้น เพราะบางครั้งอะไรที่อยู่ระหว่างทางมันน่าสนใจกว่าจุดหมายที่เราต้องการจะไปให้ถึงเสียอีก และแน่นอนว่าครั้งต่อไปที่ผมไปนารา จุดหมายสำคัญจะไม่ใช่วัดสวนกวางอีกแล้ว แต่จะเป็นร้านโมจิที่อยู่ก่อนถึงวัดนี่แหละ

หนึบๆ สุโก้ย ไฮ้ ตั้บ ไฮ้ ตั้บ

Don`t copy text!