ในยุคนี้ข้อมูลคือเงิน

ในยุคนี้ข้อมูลคือเงิน

โดย : Writer from Mars

Loading

นิยายออนไลน์ หลากหลายสไตล์ที่มอบความสนุกๆ ให้กับผู้อ่าน ‘อ่านเอา’ ยังมีคอลัมน์ ‘Opinion เขียนขำๆ’ โดย Writer from Mars นักคิด นักเดินทาง ผู้ที่อยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์และมุมมองของเรื่องราวต่างๆ สารพัดสารพัน ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ยันเรื่องใหญ่ๆ ให้คุณได้ อ่านออนไลน์

…………………………………………………………………………

สมัครบัตร Citi Ready Credit

ทุกยอดการสมัครจะมีส่วนแบ่งกลับมาสนับสนุนเว็บไซต์อ่านเอาของพวกเรา 🙂

หลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการทำเงินจากการขายข้อมูล สมัยนี้ข้อมูลสำคัญ ยุคนี้คือยุคของข้อมูล อะไรต่างๆ นานา เกี่ยวกับข้อมูล ซึ่งได้ยินผ่านหูอาจจะดูเป็นเรื่องไกลตัวนะครับ น่าจะเหมาะกับพวกที่ทำโครงการใหญ่ๆ ที่ต้องมีข้อมูลลูกค้าเยอะๆ แต่ความจริงแล้วมันใกล้ตัวเรามากกว่านั้นเยอะเลยล่ะ

ลองสังเกตเวลาเดินตามห้างสรรพสินค้าหรือย่านชุมชน ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะบูธเล็กๆ มาคอยนำเสนอสินค้า หรือแจกใบปลิวส่วนลดอะไรก็ว่าไป เราจะสนใจหรือไม่สนใจก็แล้วแต่ แจกใบปลิวนี่บางคนโดนจ้างมาแจกให้จบๆ ไป แจกที 4 ใบก็ไม่รู้ว่ากลัวอ่านในแรกจบแล้วยังไม่พอ อยากอ่านใบที่ 2 ต่อหรืออย่างไร แต่ 4 ใบนี่มันเหมือนกันเป๊ะเลยนะ แล้วเราก็คงไม่ฟิตขนาดเอาไปแจกญาติพี่น้องอีกต่อนึงให้หรอก เต็มที่ก็ดูผ่านๆ แล้วทิ้งลงถังขยะไป ซึ่งนั่นแหละคือวิธีสื่อสารโฆษณาในยุคก่อน มันไม่ค่อยดีเพราะวัดผลอะไรไม่ได้เลย แจกไปหมื่นใบคนอ่านกี่คน คนทิ้งกี่คน คนที่ติดต่อซื้อมาจากใบปลิวมีกี่คนกันแน่ เหมือนปาเงินลงน้ำ หายต๋อมไปเลยจ้า สมัยนี้จึงมีแบบใหม่เข้ามา แยบยลกว่าเดิม

“พี่คะๆ ไม่ได้จะขายอะไรค่ะ ขอเวลาสักครู่นะ มีของให้ฟรีค่ะ” นี่ไง เปิดแบบนี้เลย เพราะเค้ารู้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบถูกขาย เลยต้องแจ้งก่อน ไม่ได้ขายนะ แถมมีของฟรีมาให้ ไม่ใช่ใบปลิว เป็นพวงกุญแจ อะไรก็ว่าไป  ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขายจริงๆ นั่นแหละ (ณ ตอนนี้) เหมือนมาแนะนำบริการ แล้วแจกของให้อีก โอ้โฮ ใจดีจัง แต่แน่นอน ของฟรีไม่มีในโลก เขาจะขอข้อมูล ชื่อ เบอร์ติดต่อ อีเมล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่ได้คิดมากก็จะให้ข้อมูลไป แต่นั่นหมายความว่าคุณเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและอนุญาตให้เขาติดต่อคุณเมื่อไหร่ก็ได้ ทางไหนก็ได้ โหดร้ายอะ  เมื่อเขาแจกของเรารับของมาแล้ว เขาขอข้อมูลของเรานั่นคือการแลกเปลี่ยนแล้ว ข้อมูลคือเงินในยุคนี้ มันอยู่ที่ว่าคุณตั้งราคาความเป็นส่วนตัวของคุณอยู่ที่เท่าไหร่ ถ้าเขาขอแลกข้อมูลส่วนตัวคุณด้วยพวงกุญแจ นั่นหมายความว่า ชื่อเบอร์โทรศัพท์ และอีเมลของคุณ สนนราคาเท่ากับพวงกุญแจอันหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วบางคนอาจจะไม่ได้ตั้งราคาข้อมูลตัวเองแบบนั้นหรอก แต่เป็นคนที่แข็งแกร่งดุจภูผาต่างหาก ฉันไม่แคร์ เธอจะโทร.มาขายกี่สิบรอบก็ไม่สน ยิงโฆษณาเข้าในเฟซบุ๊กอีกสิบทีก็ไม่ไหวติง ไม่ซื้อซะอย่างใครจะทำไม อันนี้ก็อยู่ที่จิตใจของแต่ละคน

ตอนแรกผมยังไม่ฉุกคิด จนกระทั่งมีวันหนึ่งผมไปซื้อกาแฟร้านหนึ่ง ราคาเต็มแก้วละ 120 บาท (แพงจังคร้าบ) เขาบอกว่าถ้าแชร์เพจร้านเขา จะลด 70 บาท เหลือ 50 บาทนะ โอ้โฮ ควักมือถือแทบไม่ทัน แชร์สิครับ 70 บาท เยอะมากๆ ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้แหละ แต่มีคนหนึ่งเขามาซื้อหลังจากผม เจ้าของร้านก็บอกแบบเดียวกัน ให้แชร์จะลดราคา เค้าบอกว่าไม่เป็นไรครับ จ่ายเต็ม 120 บาท เฮ้ย ทำไมล่ะ แค่แชร์เอง ง่ายๆ แค่นี้ นั่นเป็นเพราะว่าคนเราให้ค่าของความเป็นส่วนตัวไม่เท่ากัน 70 บาทที่เป็นส่วนลดไม่สามารถซื้อพื้นที่ส่วนตัวในโลกออนไลน์ของเขาได้ ต่างจากผม ซึ่งผมปล่อยให้เจ้าของร้านใช้พื้นที่ในเฟซบุ๊กผมโฆษณาร้านของเขาต่อเพื่อนๆ ของผมได้ในราคา 70 บาท ซึ่งมันถูกมากนะพอมาคิดแบบนี้

ซื้อหนังสือที่ www.naiin.com ไม่ว่าเล่มใดก็ตาม

ทุกยอดการสั่งซื้อจะมีส่วนแบ่งกลับมาเพื่อสนับสนุนเว็บไซต์อ่านเอา

ชุมชนแห่งการอ่านของพวกเรา : )

อย่างที่บอก ไม่มีอะไรในโลกนี้ฟรี เฟซบุ๊กที่ใช้กันอยู่นี่ก็ไม่ฟรี คุณเอาข้อมูลส่วนตัวไปแลกเพื่อใช้งาน คนไหนกรอกเยอะคุณก็จ่ายเยอะนั่นแหละ แล้วโฆษณาต่างๆ ก็จะแวะเวียนเข้ามาทักทายตามข้อมูลที่คุณกรอก ตามเพจที่คุณกดไลก์ ตามมือถือรุ่นที่คุณใช้ ตามตำแหน่งที่คุณอยู่ โอ้โฮ ทุกวันนี้เฟซบุ๊กมันรู้จักตัวผมดีมากกว่าใครอื่นใดบนโลกนี้นะเนี่ย บัตรสะสมแต้มนี่ก็อีก สมัครสมาชิกโน่นนี่ ได้สะสมแต้ม เวลาจะจ่ายเงินเขาถามคุณทุกครั้งว่ามีบัตรสะสมมั้ยคะ ผมเคยสงสัย ถามไปว่าสะสมแต้มแล้วได้อะไรครับ ก็จะได้แต้ม เอาไปเป็นส่วนลด นี่คือคำตอบ แต่ส่วนลดบางเจ้าก็โอเคน่าสนใจ แต่บางเจ้านี่โหดมาก 1,000 แต้มลดได้ 10 บาท อะไรแบบนี้ พอเราสะสมแต้ม เขาก็รู้หมดว่าเราซื้ออะไรเยอะ ซื้ออะไรบ่อย นั่นคือเราขายข้อมูลการจับจ่ายใช้สอยของเราไปให้เขา แลกกับแต้มที่มาเป็นส่วนลดนี่แหละ

ผมเคยอ่านหนังสือเล่มนึงของคนญี่ปุ่น เขาบอกว่าให้กลับไปหักบัตรสมาชิกทุกใบที่มี ไม่ต้องเป็นสมาชิกอะไรทั้งนั้น เพราะการสะสมแต้มเพื่อเอาส่วนลดหรือเอาของนั้น มันทำให้เกิดกิเลส บางทีของเหล่านั้นเราไม่ได้อยากจะได้มันจริงๆ หรอก เออ มีประเด็น เป็นแนวคิดที่น่าสนใจนะครับ ใครจะลองเอาไปทำดูก็ได้ แต่ผมมองว่าบางทีมันก็ วิน-วินนะ เราใช้บริการเขาอยู่แล้ว จะ track อะไรก็ทำไปเถอะ ไม่สน มีส่วนลดมาให้ก็โอเค  ขอแค่อย่าโทร.มากวนโน่นนี่เยอะเป็นพอ

หลังจากที่ผมฉุกคิดประเด็นนี้ขึ้นมา ผมใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะครับ พอเวลาเจอคนมาขอข้อมูลเบอร์โทร. อีเมลส่วนตัว บัญชีไลน์ บัญชีเฟซบุ๊ก ส่วนใหญ่ผมจะปฏิเสธทั้งหมด นอกจากจะเป็นสิ่งที่ผมสนใจจริงๆ  ถ้าเอาของมาแลกเพื่อให้กรอกชื่อ เบอร์โทร. แน่นอนผมรู้สึกว่าเบอร์โทร.ผม ความเป็นส่วนตัวของผมมีค่ามากกว่าพวงกุญแจโลโก้ของบริษัทนั้น ผมก็ปฏิเสธง่ายๆ บางทีผมตอบแบบดื้อๆเลยนะ ว่าไม่มีโทรศัพท์มือถือ

ซึ่งเป็นคำตอบที่ดื้อมาก เพราะถ้าเป็นเมื่อสิบปีก่อนเขาอาจจะเชื่อ แต่สมัยนี้ใครเชื่อก็บ้าแล้วละ ฮ่า ฮ่า

***

 

สั่งซื้อ Remember Wrinks

เซรั่มบำรุงผิวที่เป็นมาสก์ได้ในหนึ่งเดียว

ทุกยอดการสั่งซื้อจะมีส่วนแบ่งกลับมาเพื่อสนับสนุนเว็บไซต์อ่านเอา

ชุมชนแห่งการอ่านของพวกเรา : )

สั่งซื้อ 1 หลอดราคา 2,090 บาท คลิกที่นี่  >>>>> https://bit.ly/2UT2G40   

สั่งซื้อเซ็ตประหยัดสุดคุ้ม 3 หลอดราคา 2,940 บาท คลิกที่นี่  >>>>> https://bit.ly/2QFzcY9

อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ คลิกที่นี่ >>>>>>>>>>> http://anowl.co/anowlsabai/remember-wrinks/

Don`t copy text!