ใครได้เงินก่อนชนะ เงินออกจากกระเป๋าใครช้าสุด คนนั้นก็ชนะเช่นกัน

ใครได้เงินก่อนชนะ เงินออกจากกระเป๋าใครช้าสุด คนนั้นก็ชนะเช่นกัน

โดย : Writer From Mars

นิยายออนไลน์ หลากหลายสไตล์ที่มอบความสนุกๆ ให้กับผู้อ่าน ‘อ่านเอา’ ยังมีคอลัมน์ ‘Opinion เขียนขำๆ’ โดย Writer from Mars นักคิด นักเดินทาง ผู้ที่อยากจะร่วมแชร์ประสบการณ์และมุมมองของเรื่องราวต่างๆ สารพัดสารพัน ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ ยันเรื่องใหญ่ๆ ให้คุณได้ อ่านออนไลน์

…………………………………………………………………………

 

สมัยผมเริ่มทำงานใหม่ๆ ไม่เคยได้มานั่งคิดเรื่องการไหลของเงินอะไรแบบนี้เลย เราทำงานมาได้รับเงินไปก็จบ จะช้าจะเร็วสุดท้ายเราก็ได้เงินมาอยู่ดี แต่หลังจากทำงานฟรีแลนซ์มากขึ้น ทำบริษัทเอง ลองทำธุรกิจเล็กๆ จับจ่ายของเยอะขึ้น ทำให้สังเกตเห็นความสัมพันธ์อะไรบางอย่างของเวลา และกระแสเงิน

เงินเนี่ย ถ้าวางอยู่นิ่งๆ โดยที่เราไม่ทำอะไรกับมัน ค่าของมันจะลดลงเรื่อยๆ ทุกนาทีตามอัตราเงินเฟ้อ ทุกคนจึงต้องลงทุนเพื่อให้มันได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝากในธนาคาร เรื่องนี้ทุกคนรู้กันดีในทางกลับกัน ถ้าเราทำงานให้ลูกค้ารายหนึ่งแล้ว เขาเครดิตเราสามเดือน นั่นหมายความว่าเงินค่าจ้างที่ตกลงกันไว้ ณ ตอนนี้ เวลาจ่ายจริง ค่ามันจะลดลง แต่ว่างานที่เราให้เขาไปมูลค่ามันไม่ได้ลดลง งานส่งไปแล้วแบบทันที จะให้แฟร์จริงๆ คือต้องยื่นหมูยื่นแมว แต่ทางแก้ก็มีคือ ถ้ารู้ว่าดีลรายนี้จ่ายค่าตอบแทนช้ามาก เราก็คิดราคาให้สูงกว่าที่ควรจะเป็นเพื่อให้สมน้ำสมเนื้อ

แต่อนิจจังสังขารไม่เที่ยง! โลกไม่ได้หมุนง่ายแบบนั้น การแข่งขันมันสูง เราไปขึ้นราคาแต่ดันมีเจ้าที่ให้ราคาถูกกว่าเราแล้วยอมเครดิตด้วย ตายสิครับ ฟันกันเลือดสาด ใครสายป่านยาวก็สบายไปมีเงินหมุน รายเล็กๆ หาเช้ากินค่ำ ก็ตายตั้งแต่สตาร์ทนี่แหละ

สงครามนี้ใครคือผู้ชนะ?

นั่นก็คือคนที่มีความสามารถในการถือครองเงิน ‘Those who control money’ …เงินจะไปช้าหรือเร็ว หรือจะได้เงินมาช้าหรือเร็ว ถ้าใครควบคุมตรงนี้ได้ คนนั้นชนะ อย่างเช่น เรามีของอยู่ชิ้นหนึ่ง จะเอาไหม? ถ้าอยากได้ก็เอาเงินมาก่อนเลย เราให้เดี๋ยวนั้น จริงๆ มันก็คือการค้าขายทั่วไปนั่นแหละ ทำไมชาวจีนถึงรวย เพราะคนจีนค้าขายเก่งมากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร กระแสเงินสดไหลทุกวัน จะไม่รวยได้ยังไง

แต่นั่นแหละ เหนือฟ้ายังมีฟ้า มีที่สุดกว่าคือ ‘เอาเงินมาก่อน เดี๋ยวไปสั่งของให้นะ รอแป๊บ’ ได้เงินเลยคร้าบแต่ของยังไม่มีให้ หรือที่สมัยนี้คือการขายของออนไลน์ ซึ่งจะมีช่องว่างเป็น time lapse ระหว่างการไหลของเงินกับการที่เราจะได้ของไป ไม่แปลกที่ยุคนี้มันจะทำกำไรอย่างมหาศาล

แต่… เหนือกระดาษยังมีซาลาเปา การทำพรีออร์เดอร์สินค้าจากต่างประเทศ หรือการทำ drop shipping เป็นที่สุดกว่า ถ้าทำดีๆ นี่รวย! เงินมาก่อนเราค่อยจ่าย โหดสุดๆ จับเสือมือเปล่าด้วย แทบไม่ต้องสต๊อกสินค้าอะไรเลย มีคอมพิวเตอร์ตัวเดียวก็สามารถทำได้ (แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกระดิกนิ้วนะครับ สิ่งที่ต้องมีเลยคือความน่าเชื่อถือของคนที่ทำธุรกิจนี้เลยนะ เป็นหัวใจสำคัญ เหมือนธนาคารนั่นแหละ)

ทำไมอยู่ดีๆ ผมนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา คือช่วงนี้ผมสั่งของออนไลน์บ่อยมาก ก็นึกไปว่า… เออ เงินไปอย่างไว… แล้วของล่ะ เมื่อไรจะมา ยิ่งของจากจีนนี่หนัก! คือถูกจริงแหละแต่ ‘ไอ้#@&%’ รอนานเป็นชาติ ไม่รู้เอาขึ้นหลังลาแล้วผ่านมณฑลยูนนาน นานกิง แวะกินหมั่นโถวที่โรงเตี๊ยม แล้วค่อยๆ ย่ำต๊อกลงมาหรือเปล่า

นั่นแหละครับ สินค้าช้าแต่เงินเราไปไวมากจริง ๆ  ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ควรทำด้วยแหละ เว็บชั้นนำระดับโลกอย่าง Amazon หรือ ebay ถือว่าเป็นกฎเหล็กเลยว่าการจ่ายเงินต้องทำให้ง่ายที่สุด ต้องอย่าเยอะ ต้องเอาเงินจากลูกค้าให้ไวที่สุด อย่าไปเผือกเรื่องเขาเยอะ ขอแค่ที่อยู่ส่งของแล้วจ่ายเงินมาก็จบ บางเว็บในไทยยุ่งยากมาก ถามอยู่นั่นแหละ กรอกแล้วกรอกอีก ที่อยู่ เบอร์โทร. วันเกิด ทำอาชีพอะไร อายุเท่าไร จบการศึกษาระดับไหน ชายหรือหญิง จะรู้ไปทำไมนักครับ โอนเงินแล้วยังต้องส่งสลิปยืนยัน ธนาคารอะไร โอนกี่บาท กี่สตางค์ โอนกี่โมง กี่นาที วุ่นวายสุดๆ …ไม่ซื้อละ ที่อื่นเขากรอกบัตรเครดิตรูดปรื๊ด รูดปรื๊ด แต่ตอนนี้มีพร้อมเพย์แล้ว ทุกอย่างมันก็สะดวกขึ้นล่ะนะ

สรุป ใครได้เงินไว ใครถือเงินไว้ได้นานที่สุด ยิ่งถ้าถือไว้ได้ชั่วชีวิต คนนั้นแหละครับรวยจริง

Don`t copy text!