สั่งอาหารยังไงให้ฝรั่งงง

สั่งอาหารยังไงให้ฝรั่งงง

โดย : เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้

Loading

“อเมริกันคัน” เรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาในบางแง่มุมในอเมริกาที่หลายคนไม่เคยรู้หรือเคยรับรู้มาบ้าง แต่อาจมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจน เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ เจ้าของคอลัมน์ที่เขียนลงในต่วยตูนมาถึง 10 ปี นำมาเขียนเล่าสู่กันฟังแบบสนุกๆ เหมือนการเล่าให้เพื่อนฟัง โดยคงบุคลิก “ต่วยตูน” ดั้งเดิมเอาไว้คือสาระและบันเทิง

เมื่อสองวัฒนธรรมมาปะทะสังสรรค์ภายใต้ชายคาบ้านหลังเดียวกัน อาการชะงักงันทางวัฒนธรรมของคนสองชาติย่อมเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา  แม้สามีอเมริกันเคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยหลายปี    แต่ยังงงงวยทุกหนที่เห็น “ความเป็นไทย” แบบไท๊ย..ไทยที่ไม่เคยปรากฎในคู่มือนำเที่ยวทุกเล่ม

สามีนั้นทึ่งทุกอย่างรอบตัวเมื่อครั้งอยู่เมืองไทย   แต่ที่สนใจที่สุดเห็นจะเป็นหมาขี้เรื้อนนี่แหละ  ตื่นตาตื่นใจกับหมาขี้เรื้อนทั้งในวัดและในตรอกซอกซอยถึงขั้นนั่งยองๆ ถ่ายรูปหมาขี้เรื้อนไปให้เพื่อนดูกันเลยเชียว ในขณะที่เราชินกับหมาจรจัดที่นั่งๆ นอนๆ เกลื่อนซอยเลยไม่เห็นว่าแปลกอะไร

แต่สิ่งที่ทำให้ฝรั่งแปลกใจไปกว่านั้นคือการค้นพบว่าวัดเป็นที่สงเคราะห์หมาแมวจรจัดอีกด้วย  พระจะนำข้าวคลุกเศษอาหารมาเลี้ยงดูทุกวัน  จนหมาขี้เรื้อนหน้าตาผ่องใสอ้วนพีไปตามๆ กัน  เลยทำให้ฝรั่งรู้สึกว่าคนไทยบนผืนแผ่นดินไทยโอบอ้อมอารีที่สุด

นอกจากเรื่องหมาขี้เรื้อน เรื่องอาหารการกินในเมืองไทยนี่แหละที่คือสิ่งมหัศจรรย์ในสายตาฝรั่ง เวลาเข้าร้านอาหารฟาสฟู้ดในอเมริกา อยากจะกินอะไรต้องสั่งตามเมนูเป๊ะ เช่น แฮมเบอร์เกอร์นัมเบอร์ 4 อันประกอบด้วยแฮมเบอร์เกอร์ใส่ชีสสองแผ่น เฟรนซ์ฟราย์ถุงเล็ก 1 ถุงและน้ำอัดลม 1 แก้ว หากอยากได้นักเก็ตก็ต้องสั่งเบอร์ 3 อะไรทำนองนี้ จะสั่งแบบพิสดารเกินกว่านี้ไม่ได้  แต่พอฝรั่งมานั่งร้านอาหารตามสั่งในเมืองไทยปุ๊บ ถึงกับเหงื่อแตก ไม่รู้ว่าต้องสั่งอาหารแบบไหน ทั้งร้านระงมไปด้วยเสียงเหล่านี้

“น้องๆ เอาข้าวราดกะเพราหมูชิ้นนะ ไม่เอาหมูสับ ใส่ถั่วฝักยาว หอมใหญ่เยอะๆ ใส่พริกเม็ดเดียว ไม่ใส่ผงชูรส ไข่ดาวสุกๆ โปะข้าว น้ำแข็งเปล่าแก้วหนึ่ง”

“พี่ เอาก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมูหมึกกุ้งเส้นหมี่ ไม่เอาก้านคะน้า เอาแต่ใบ”

“ เจ๊ เส้นเล็กแห้ง ไม่สด ไม่งอก  ไม่ตับ กากหมูเยอะๆ ไม่ใส่ซีอิ๊ว”

“ข้าวมันไก่ไม่เอาหนัง ไม่เอาเลือด ไม่เอาแตงกวา ใส่ขิงในน้ำจิ้มเยอะๆ”

แต่ละจานล้วนมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ไม่เหมือนอาหารฝรั่งที่ต้องสั่งตามเมนูเท่านั้น แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเวลาร้องสั่งเบียร์ เด็กเสิร์ฟจะบรรจงยกขวดเบียร์เย็นเป็นวุ้นมาให้ที่โต๊ะ  แต่คนไทยยังกินเบียร์ใส่น้ำแข็งอย่างปรีเปรมทุกคนไป ฝรั่งเห็นแล้วแตกตื่นถึงขั้นร้องหาพระเจ้ากันเลยทีเดียว  เพราะแตกต่างจากธรรมเนียมการกินดื่มที่เมืองนอกที่สุด ไม่มีฝรั่งคนไหนกินเบียร์ใส่น้ำแข็ง จำได้ว่าช่วงที่สามีอยู่เมืองไทยและยังไม่ได้แต่งงานกัน  บ่นร้อนและกระหายน้ำมาก   อยากดื่มโค้กเย็นๆ ระหว่างเดินเล่นที่สวนจตุจักร ฉันเลยจัดการสั่งให้แบบคนไทยเต็มที่ว่า

“โค้กสองถุง น้ำแข็งด้วย”

สามีถึงกับปากอ้าตาค้างที่เห็นคนไทยเดินดูดโค้กในถุงพลาสติกไปเดินดูข้าวของไปอย่างหน้าชื่นตาบาน เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแปลกสำหรับฝรั่งอย่างเหลือล้น มิหนำซ้ำหลังดื่มจนเกลี้ยงถุง คนไทยยังควักน้ำแข็งมาเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อยเป็นการตบท้าย

เวลาไปกินตามร้านข้างถนน นอกจากฝรั่งจะขำม้วนกระดาษทิชชู่สีขาวสีชมพูจ๋าที่เราเอามาเช็ดหน้าหรือเช็ดเช็ดจานชามแล้ว เราเองก็ขำฝรั่งเหมือนกันที่กินข้าวกับส้อม ทั้งที่มีทั้งช้อนและส้อมวางไว้ให้อย่างครบครัน อุปกรณ์การกินหลักๆ ของฝรั่งคือมีดกับส้อม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะกินข้าวหรือกินเค้กก็ใช้ส้อมนี่แหละตักกิน  ถึงจะมาเมืองไทยแล้วยังติดนิสัยแบบเดิมๆ อยู่    เวลาสามีชวนเพื่อนฝรั่งมากินข้าวที่บ้าน ร้อยละร้อยล้วนแต่ใช้ส้อมตักข้าวกิน ทั้งๆ ที่ช้อนอยู่ตรงหน้านั่นแหละ ขณะที่คนไทยใช้ช้อนคันเดียวกินทุกอย่างไม่ว่าจะอาหารคาวหรือหวาน มีเรื่องเล่าขำๆ ในหมู่คนไทยในอเมริกาว่า หากอยากรู้ว่าคนไทยคนไหนอยู่เมืองนอกนานเกิน 10 ปี ให้ดูว่าใช้ช้อนหรือส้อมเวลากินขนมเค้ก

การสั่งก๋วยเตี๋ยวของคนไทยคือสุดยอดเคล็ดวิชาสำหรับฝรั่ง เพราะสามารถครีเอทได้ตามใจชอบ จากนั้นปรุงรสด้วยการใส่น้ำตาล  ซึ่งฝรั่งไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใส่น้ำตาลลงในอาหารด้วย (วะ) โดยส่วนตัวแล้วตัวเองเป็นคนกินหวานเลยใส่น้ำตาลลงไปในชามก๋วยเตี๋ยวท่ามกลางอาการปากอ้าตาค้างของฝรั่ง  จนเมื่อแต่งงานกัน  เวลาทำสปาเก็ตตี้กินในบ้านยังแยกเป็นสองส่วนคือ ทำแบบฝรั่งจานหนึ่งใส่ชีสเต็มพิกัดให้สามี ส่วนอีกจานหนึ่งเอามาโรยพริกป่นเผ็ดจี๋ แล้วไม่ลืมกระดกปลายช้อนใส่น้ำตาลไปด้วยนิดๆ สามีเห็นแล้วแทบร้องไห้โฮ บอกว่าทำลายรสชาติแห่งความอิตาเลี่ยนลงอย่างสิ้นเชิง

เวลามาเติมน้ำมันในเมืองฝรั่งนี่อย่าได้เหลียวหาเด็กปั๊มให้เมื่อย เพราะเจ้าของรถนั่นแหละต้องลงไปเติมเอง ทุกวันนี้เวลาเติมน้ำมันทีไร ยังโหยหาเด็กปั๊มทุกหน  ออกจากปั๊มแวะร้านอาหาร  เลยได้เห็นความแปลกอีกเรื่องหนึ่ง สาวๆ อเมริกันวางกระเป๋าถือลงบนพื้นทุกคน หรือแม้แต่เวลาไปเข้าห้องน้ำสาวๆ ก็วางกระเป๋าถือกับพื้นห้องน้ำสกปรกนั่นแหละ สร้างความขนพองสยองเกล้าแก่สาวไทยที่ยังไม่ชินกับจริตแบบอเมริกันแบบนี้

บางหนโต๊ะแน่นและไม่มีที่วาง เชื่อว่าสาวไทยเราคงเอากระเป๋าถือวางไว้บนตัก ไม่วางบนพื้นเขลอะๆ อย่างเด็ดขาด แต่ดูเหมือนว่าคนที่นี่ถือเป็นเรื่องปกติที่จะวางกระเป๋าถือแม้แต่แบรนด์เนมทั้งหลายลงกับพื้นร้านอย่างไม่ห่วงว่าจะเปื้อน ถึงจะอยู่ประเทศนี้นานกว่ายี่สิบปี   แต่ไม่อยากวางกระเป๋ากับพื้นอยู่ดี

เราเห็นบางเรื่องเป็นเรื่องปกติสำหรับคนไทย แต่สำหรับฝรั่งแล้วคือความพิสดารพันลึกอย่างแท้จริง ช่วงที่สามียังอยู่เมืองไทย แกเห็นเพื่อนบ้านชาวไทยมุงต้นไม้ข้างบ้านกันยกซอย เลยเดิมเข้าไปดูบ้าง เห็นชายวัยกลางคนร่างสันทัดกำลังถูนิ้วโป้งขึ้นๆ ลงๆ โรยผงขาวๆ ลงไปบนบริเวณที่ถู  ท่าทางคนถูดูตั้งอกตั้งใจมาก พอเห็นฝรั่งทำหน้าสงสัย ชาวบ้านร้านถิ่นก็พยายามอธิบายทันที

“หวย…วี เคา ดีส ลักกี้นัมเบอร์ ยูโน๋ว์”

หลังจากถูไปมาจนเหงื่อไหลไคลย้อย ก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นรอบทิศ  ต่างยกมือไหว้ต้นไม้ปะหลกๆ  ขณะที่ฝรั่งเดินงงออกไปอย่างไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเวลาจะซื้อลอตโต้ก็ซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าแถวบ้าน ไม่มีหรอกคนเอามาเดินเร่ขายพร้อมบอกเลขเด็ดหรือมาขูดหาเอาตามต้นไม้

นอกจากเรื่องถูต้นไม้แล้ว ฝรั่งประทับใจเรื่องคนไทยยืนถวายความเคารพก่อนดูหนังในโรงภาพยนตร์ แม้ว่าคนไทยหลายคนต่อต้านการยืนแสดงความเคารพ แต่เชื่อเถอะว่า หากมาอยู่เมืองนอกนานๆ แล้วมีโอกาสกลับไปดูหนังที่เมืองไทยอีกหน พอเริ่มเพลงสรรเสริญพระบารมีเท่านั้นแหละ น้ำตาคลอทันทีเพราะความคิดถึงแผ่นดินเกิด  ยังจำความรู้สึกนั้นได้ช่วงที่กลับไทยหลังแต่งงาน เพื่อนเก่านัดดูหนัง พอเพลงขึ้น น้ำตาไหลพรากเป็นทางจนเพื่อนแปลกใจ

อย่างไรก็ตามบนความแตกต่างระหว่างตะวันออกและตะวันตกนั้น ล้วนอาศัยการปรับตัวเข้าหากันนั่นเอง โดยอาศัยกาวสมานชื่อความอดทน  ยอมรับทั้งในความเหมือนและความต่าง ค่อยๆ ผสานชีวิตเข้าด้วยกันทีละนิดจนกลายเป็นหนึ่งเดียวในที่สุด

 

Don`t copy text!