ดาราอรุณ บทที่ 17 : สามหมอในหนึ่งคน
โดย : กฤษณา อโศกสิน
ดาราอรุณ โดย กฤษณา อโศกสิน เรื่องของ ‘ลมเย็น’ หญิงสาวที่เกิดในช่วงเวลาที่ดาวประกายพรึกปรากฏบนฟากฟ้าและ ‘หิ้ง’ ชายหนุ่มที่โชคชะตาพัดพามาให้ได้ใกล้ชิดกัน…เมื่อดาวศุกร์ ดารายามแรกอรุณได้นำทางความรักให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ดาวศุกร์จึงพาให้ชีวิตของเธอเปล่งประกายไม่ต่างไปจากดาราอรุณและนี่คือนวนิยายที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอ
นายชัดมีนวดในเช้าวันนี้ เป็นหญิงวัยไม่เกินเจ็ดสิบปีนามว่าคุณปรียา เธอติดท้ายจักรยานยนต์ลูกชายมาส่งไว้ตั้งแต่แปดโมงครึ่ง ลมเย็นถึงแก่เบิกตากว้างอย่างตกใจ หากก็แกมยินดีที่เธอทำตัวสนิทชิดใกล้ก่อนซื้อขายที่ดิน
“ฉันปวดเมื่อยยังไงไม่ทราบค่ะ…ตั้งแต่เมื่อคืน” เธอบอกยิ้มๆ ขณะนั่งลงบนเก้าอี้รับแขก
น้าเยี่ยมเยือนเพิ่งนำผ้าผืนใหม่มาขึงบนฟูกที่จะปูให้ลูกค้านอนนวดเมื่อสักครู่ กลิ่นสะอาดยังกรุ่นอยู่บนผืนผ้า
“พอดีก็ยังไม่มีใครจองมาเลยฮะ” นายชัดตอบพลางกุลีกุจอเชื้อเชิญ มีลมเย็นเดินตามไปนั่งคอยรับใช้อยู่สุดปลายเตียงใหญ่ที่ด้านหนึ่งเรียงรายด้วยโถสมุนไพร
ทั้งนางยาใจและน้องสาวกินอาหารเช้าพร้อมหน้า เหลือเพียงลมโชยผู้เดียวที่กว่าจะลงจากห้องก็กว่าสิบนาฬิกาทุกวัน ลงมาแล้วก็เข้าไปค้นหากับข้าวกินเองในห้องครัว กินเสร็จก็วานลมเย็นขับรถออกไปส่งตามที่ที่หล่อนนัดหมายบางคนไว้…หากว่าวันใดมีนัด
ครั้นแล้ว คุณปรียาจึงเอนกายลงนอนโดยนายชัดหาผ้าสีน้ำตาลเข้มอีกผืนหนึ่งมาคลุมให้ตั้งแต่ทรวงอกลงไปจนถึงปลายเท้าโดยไม่ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่เจ้าของสถานที่ก็เตรียมไว้สำหรับลูกค้า เนื่องด้วยเธอสวมใส่กางเกงและเสื้อเก่ามาสำหรับนวดโดยเฉพาะ
“คุณชัดนี่สุดยอดจริงๆ เป็นได้ถึงสามหมอ”
นายชัดเพียงแต่ยิ้มในหน้าพลางไต่ถามถึงอาการ
“บ่า ไหล่ ต้นคอค่ะ…คือเวลาว่างของดิฉันก็มักเอาผ้ามาปักมาเย็บทำที่รองจานมั่งรองแก้วมั่ง…ก็ชักจะหลังขดหลังแข็งเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน…เคยค่ะ…เคยไปทำกายภาพที่โรงพยาบาล แต่ไม่ติดใจ…หมอนวดที่เขาเปิดร้านอยู่ใกล้ๆ หมู่บ้านเรานี่ก็เคยนวดมาแล้ว ไม่ติดใจอีกเหมือนกัน เลยมาลองนวดคุณชัดมั่ง ไหนๆ ก็มาดูหมอ มาซื้อที่แล้ว ก็ควรจะมานวดอีกอย่าง ก็ดีเหมือนกัน จะได้ครบ…”
ยังมิทันจะจบประโยค เสียงกริ่งประตูบ้านก็ดังขึ้น
คนที่นอนนวดเมื่อครู่ที่หลับตาบ้างเปิดตาบ้าง รีบเปิดตามองหญิงสาวผู้นั่งอยู่ปลายเท้า หากแต่บัดนี้รีบลุกขึ้นกุลีกุจอลงบันได ขณะกดรีโมทประตูให้แง้มออกเพียงแค่คนก้าวเข้ามาได้
นายชัดจึงบอกคุณปรียา
“หิ้งมามังครับ”
“อ้อ” อีกฝ่ายครึมครางเบาๆ เสียดายหญิงสาวลูกเจ้าของบ้านขึ้นมาครามครัน
นายนั่นน่ะ ใช่เล่นหยอกอยู่เมื่อไหร่ หน้าตาแพรวพรายมีเสน่ห์ เก๋กว่าเปรียวสักเท่าตัว
หากแต่ยังไม่ทันไร ก็มีเสียงดังทางปลายเท้า
“สวัสดีครับ คุณปรียา” เขาเรียกชื่อเธอคล้ายยังแปลกหน้า มิได้ก้าวเข้ามา
สนิทด้วย แต่ก็พนมมือไหว้
“สวัสดี คุณหิ้ง” เธอก็เลยตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้เป็นกันเอง “มาเช้าๆ อย่างนี้ทุกวันหรือคะ”
“ครับ” อีกฝ่ายตอบรับเต็มเสียง “ผมยังว่างๆ อยู่…ก็เลยแวะมาช่วยน้องเย็นนิดหน่อยน่ะฮะ”
“แหม…ดีจังนะคะ…พ่อก็เป็นเพื่อนกัน ลูกก็ยังมาเป็น…เพื่อนกันอีก…สนิทสองสามต่อเลยเชียว”
“ครับ” หิ้งตอบรับเต็มเสียง พลางเดินตามลมเย็นเลี่ยงไปนั่งที่ชุดรับแขกพลางดึงมือหญิงสาวมาดูแหวนที่สวมนิ้วขวา
ขณะที่ลมเย็นเงยหน้าขึ้นสบตาอันมีแต่แสงพราวพริ้งผุดพราย
นางยาใจและน้าเยี่ยมเยือนหลบเข้าหลังบ้านไปแล้ว ได้กลิ่นสมุนไพรหอมกรุ่นราวแกมด้วยลูกจันทน์ ดอกจันทน์
ที่ดินถัดจากตัวบ้านราวร้อยตารางวาที่พ่อลงทุนลงแรงลงสมุนไพรไทยจากคัมภีร์โบราณของพ่อ ก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกที่หาได้ยากในใจหล่อนมาเนิ่นนาน ใบไม้หรือรากไม้ทุกชนิดที่ปลูกอยู่บนเนื้อที่ที่ถัดตัวตึกออกไป ล้วนเป็นราก ลำต้น กิ่งก้าน ใบและดอกที่เมื่อเก็บมาแล้ว พ่อจะต้องกวดขันเรื่องล้างและเช็ดจนปราศจากใยแมงมุม ฝุ่น ฝ้าผงคลี ก่อนนำไปผึ่งจนแห้งสนิท ใส่ครกโขลกพอยับนิดหนึ่ง ครั้นแล้วจึงเกลี่ยตากแดดจนแห้งในแดดเดียว จึงจะเก็บลงโถสำหรับบดผสมเป็นยาผง โดยไม่เคยใช้ใบไม้ที่ร่วงเองตามยถากรรมตามโคนต้นนั่นเลย ด้วยถือว่าเป็นดอกใบอันเสื่อมคุณภาพสิ้นแล้ว
“หอมยาต้มจังเลยเย็น” ชายหนุ่มได้แต่เอนกายเข้าใกล้หญิงสาวพลางกระซิบกระซาบ
ยามเช้าเช่นนี้ เพียงแต่เปลี่ยนจากบ้านตนเองเป็นบ้านหล่อน หิ้งก็มีแต่ความสุขสลับสลอนในอารมณ์
ชมชื่นไปทั้งสิ้นแม้กระทั่งกลิ่นสมุนไพร
“ยาหอมดีพี่หิ้ง” ลมเย็นตอบคำหากแต่เริ่มระวิงระไว
อีกประเดี๋ยวน้องสาวผู้ไม่ไหวหวั่นคำนินทาหรือข้อกล่าวหาใดๆ ก็จะลงมาฉวยข้อมือเขาไป ทิ้งให้ทั้งเขาและหล่อนต้องมองตากันอย่างเหนื่อยหน่าย เนื่องด้วยมิรู้จะทำอย่างไรได้จึงจะไม่ต้องโกรธกัน
“ทำไมพี่ชอบยาไทยโบราณก็ไม่รู้นะ” ชายหนุ่มพึมพำอย่างจริงใจ “ถึงไม่มีที่บ้านเย็น พี่ก็ยังเห็นค่าอยู่ดีจนอยากจะหาทางไหนให้อาชัดทำอะไรสักอย่างที่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ใช่แค่เผยแพร่ทางออนไลน์ ดีไม่ดีก็จะมีมิจฉาชีพเข้ามาสวมรอยจนเกิดเรื่องใหญ่…เลยเรื่องเยอะเข้าไปอีก”
“ใช่ค่ะ…เย็นเองก็กลัว พ่อก็กลัว”
“คือเทคโนโลยีนี่ มันก็เหมือนดาบสองคมใช่ไหมล่ะเย็น” ชายหนุ่มเอ่ยต่อ ทั้งๆ ที่ยามนี้สมองของเขาก็ชักจะหนักขึ้นมาทุกขณะทีละวันทีละคืน ไม่ชื่นบานหรรษาเหมือนวันแรกๆ ที่ได้กลับบ้าน…เขาเองก็แทบจะนึกไม่ออกเหมือนกันว่า มีเรื่องใดบ้างที่โหมเข้ามา กระแทกกระทั้นทีละเรื่องสองเรื่องจนถึงวันนี้ที่รู้สึกงงงัน โดยเฉพาะเรื่องที่มารดามากระซิบกระซาบกับเขาเมื่อเย็นวาน ในมือนางมีถาดเล็กๆ บรรจุอัญมณีสามสี่ชนิดพลางบอก
‘พ่อเราเขาให้แม่ช่วยคัดเอาไปขาย จะได้ช่วยคุณหญิงระวีฉายเรื่องพ่อของลูกเขย’
เลยลุกลามไปได้ถึงเพียงนี้
เพียงหนึ่งชั่วโมง นายชัดก็เสร็จสิ้นการนวดคุณปรียา พลางเชื้อเชิญเธอไปนั่งที่โต๊ะพยากรณ์ หนุ่มสาวจึงกลับมาที่เตียงนวด ลมเย็นดึงผ้าปูที่นอนผืนเก่าออก หิ้งจึงเข้าไปช่วยหล่อนขึงผืนใหม่ให้ตึงแน่น
ลมโชยลงจากชั้นบน โผล่ออกมาเห็นภาพนั้นเข้าพอดี
จึงส่งเสียงวี้ดว้ายออกมา
“พี่หิ้งงง…มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่ส่งข่าวบอกโชยมั่งคะ”
พลางก็ก้าวเข้ามากอดแขนเขาหน้าตาเฉย
ลมเย็นก็เลยถอยหลัง เดินหายไปข้างในที่น้าเยี่ยมเยือนกำลังต้มยา
หน้าหล่อนคงซีดเจื่อนโดยไม่มีทางกลบเกลื่อนใดๆ น้ำในตาซึมซ่านเต็มดวงตากลมโต จะหยดมิหยดแหล่
ขณะที่คุณปรียากำลังตั้งอกตั้งใจฟังคำพยากรณ์ของนายชัดอยู่อย่างจดจ่อ…แม้ได้ยินเต็มหูก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ เพราะเธอเองก็เขม่นหมั่นไส้น้องสาวลมเย็นตั้งแต่วันที่พบกันในร้านอาหารนั้นแล้ว
อะไรจะจริตจะก้านได้ขนาดนั้น
พลอยทำให้นึกถึงลูกสะใภ้ของเธอเองครามครัน
พงาก็มีอาการคล้ายๆ เช่นนี้
เพียงแต่ย่อมเยากว่า
นายชัดเกรงใจคุณปรียา จึงหันไปปราม
“โชย หยุดประเดี๋ยวได้ไหม อย่าพูดแซง พ่อกำลังดูดวง”
เท่านั้นเอง ลูกสาวคนเล็กของผู้มีคุณภาพสารพัด แต่ขัดเกลาลูกมิได้ ก็เอาแต่สะบัดหน้า ลงบันไดไป ไปเดินกอดอกวนเวียนอยู่ข้างโรงรถที่รถยังจอดอยู่ทั้งสองคัน อันเป็นรถส่วนกลาง ลมเย็นถือกุญแจคันหนึ่ง นางยาใจถืออีกคันหนึ่งสำหรับขับไปตลาด รวมทั้งขนพืชสมุนไพร
ไม่มีรถส่วนตัวให้ลมโชย โดยนายชัดอ้างว่า
‘ใครจะมาจ้างโชย ก็ให้เขามารับ นอกนั้นจะไปกะเหินก็ตามใจ’
เบนสายตาจากร่างของลมโชยแล้ว นายชัดจึงบอกคุณปรียา
“ขอโทษด้วยนะฮะ…โชยเป็นเด็กเอาแต่ใจ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…ใจเย็นๆ..ของดิฉันก็มี…สักบ้านละคนก็ต้องมีละค่ะ…บ้านไหนไม่มีก็มีบุญ…”
นายชัดก็เลยเปลี่ยนเรื่อง พาเธอเข้าสู่ตัวเลข
“คุณปรียากำลังรอเงิน ผมว่าก็น่าจะตกลงใจได้ราวๆ ปลายเดือนนะฮะ”
“สักวันที่เท่าไหร่ล่ะคะ…ฉันเองก็ร้อนใจจังเหมือนกัน” อีกฝ่ายก็เลยขยายความในใจเกี่ยวกับเส้นทางเดินของเงินที่เธอหวังว่าจะนำมาซื้อที่ดิน “อาจจะไม่ใช่เงินมากมาย แต่ก็มากสำหรับฉันตอนนี้…ที่สามารถจะเอามาใช้ได้…ก็คือฉันเก็บเงินวิธีนี้มานานแล้วไงคะ เคยได้กำไรมากมาแล้วเหมือนกัน แต่พอมาถึงระยะนี้ เศรษฐกิจมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน ก็เลยใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวพอดูน่ะค่ะ”
นายชัดถือเป็นมารยาทของหมอดูที่จะไม่ซักถามเชิงเค้นเอาความนัยจากลูกค้า จึงพยักหน้าพลางตอบ
“แต่โดยพื้นดวงคุณปรียาไม่มีอับจนนะฮะ”
เขาก็เอ่ยเพียงเท่านี้ ไม่อธิบายเลยไปถึงดาวคู่ที่แม้จะดูยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเข้าคู่กับดวงเธอแล้ว เธอเองก็อาจเป็นตัวการให้เขาอายุสั้น
“หรือคะ…แหม…คุณชัดบอกแบบนี้ก็ช่วยให้โล่งอกเหมือนกัน”
“โล่งเถอะฮะ…ผมว่าราววันที่ 31 สิงหา ก็ต้องจบแล้วฮะ…วันนี้ยืนยันได้แน่นอนเลย คุณปรียาจะได้เงินก้อนใหญ่ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำไปครับ คงได้ราววันที่ 26 – 27 นั่นแล้ว…ผมรับรองว่าทุกอย่างจะจบด้วยดี”
อีกฝ่ายก็ได้แต่ยิ้มกว้างเต็มที่ ถามว่า
“แล้วคุณชัดว่า ฉันได้ที่ผืนนั้นมาแล้ว ควรทำประโยชน์อะไรต่อไปถึงจะคุ้มคะ”
“เห็นคุณบอกว่าอยากปลูกโกดังให้เช่าใช่ไหมล่ะฮะ”
“อยากหลายอย่างเหมือนกัน…เห็นคุณชัดปลูกสมุนไพรทำยา…ก็อยากมั่ง…แต่ก็ยังลังเลเพราะไม่ทราบว่าปลูกแล้วจะขายใคร หรือว่าขายคุณชัด…อีกอย่าง…ก็ยังไม่ทราบเลยว่าสมุนไพรนี่ เขาจะนิยมเอามาทำยาได้นานสักแค่ไหน”
“นานนะฮะ” อีกฝ่ายตอบอย่างมั่นใจ พลางหันไปถามหิ้งผู้ท้ายที่สุดก็ต้องทรุดนั่งอยู่ที่ปลายเตียงนวด รอลมเย็นกลับจากหลังบ้าน
ครั้นแล้วจึงจำใจลุกขึ้นมานั่งใกล้ๆ เพื่อตอบคำถามเกี่ยวกับสมุนไพรไทย
“บ้านเราก็มีผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยติดอันดับที่เท่าไหร่…ดูเหมือนจะที่ 7 ของโลกกะเขาเหมือนกันนะฮะ” หิ้งก็เลยเปิดเผยความสนใจของเขา “ผมว่าอาชัดคิดถูกแล้วละฮะที่แบ่งที่อยู่อาศัยไว้ปลูกสมุนไพร ช่วยให้ไม่ต้องสั่งซื้อจากเอเย่นต์ แต่ถ้าอยากได้มาก ก็สั่งได้ง่าย ไม่มีอะไรลำบาก…ถ้าเห็นว่ามีทางผลิตแล้วส่งขายได้ลื่นไหล จะเพิ่มปริมาณการผลิตก็ไม่น่าจะมีอุปสรรคอะไรนะฮะ…เพราะช่วงต่อไปนี้…จะเป็นระยะที่โลกแข่งกันซื้อแข่งกันขาย คนปลูกสมุนไพรก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมากขึ้นมากต่อมากแล้วนะฮะอา”
นายชัดก็เลยพยักหน้า บอกผู้มาดูดวง
“หิ้งมาจากนอกไม่กี่วัน ก็คิดอยากทำนั่นทำนี่แล้วเหมือนกัน”
คุณปรียาก็เลยจำใจพยักหน้า
ลูกชายเธอไม่สู้จะถูกชะตากับหนุ่มนักเรียนนอกหน้าใหม่
ลมเย็นกลับเข้ามาพร้อมสีหน้าเป็นปกติ จึงค่อนข้างดีใจที่ไม่เห็นลมโชย
แต่ที่ไหนได้ น้องสาวก้าวเข้ามาในห้องพอดี พลางเข้ามาฉุดแขนหิ้ง
“กลางวันนี้ พี่พาโชยเข้าโรงหนังหน่อยได้ไหมคะ…มีหนังแฟนตาซีมาเข้าโรง”
นายชัดก็เลยขัดจังหวะ
“พ่อกำลังจะขอให้หิ้งช่วยอะไรสักอย่าง”
“อะไรอีก” ลูกสาวทำท่ากระเง้ากระงอด
“แล้วจะบอกวันหลัง” บิดามีเลศนัย
- READ ดาราอรุณ บทที่ 32 : เพชรลูก
- READ ดาราอรุณ บทที่ 31 : ‘รู้ใจ’ และ ‘รู้ตัว’
- READ ดาราอรุณ บทที่ 30 : สัญญาณมาแล้ว
- READ ดาราอรุณ บทที่ 29 : ยิ่งกว่านี้ก็ทำได้
- READ ดาราอรุณ บทที่ 28 : อยากได้...เอามาแลก
- READ ดาราอรุณ บทที่ 27 : ใจหนอใจ
- READ ดาราอรุณ บทที่ 26 : รักพี่เหมือน...
- READ ดาราอรุณ บทที่ 25 : เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ
- READ ดาราอรุณ บทที่ 24 : ของของเขา ไม่ใช่ของของเรา
- READ ดาราอรุณ บทที่ 23 : เนื้อคู่...ของคนอื่น
- READ ดาราอรุณ บทที่ 22 : ชีวิตก็เป็นเช่นนี้
- READ ดาราอรุณ บทที่ 21 : ทวงคืน
- READ ดาราอรุณ บทที่ 20 : ทองไม่รู้ร้อน
- READ ดาราอรุณ บทที่ 19 : มิละพยศ
- READ ดาราอรุณ บทที่ 18 : ฤทธิ์เดชของ 27
- READ ดาราอรุณ บทที่ 17 : สามหมอในหนึ่งคน
- READ ดาราอรุณ บทที่ 16 : อยากได้ใคร...เลือกได้เลย
- READ ดาราอรุณ บทที่ 15 : ดาวศุกร์ยาตราเข้ามาพักพิง
- READ ดาราอรุณ บทที่ 14 : ดาวการเงิน
- READ ดาราอรุณ บทที่ 13 : นิยายครอบครัว
- READ ดาราอรุณ บทที่ 12 : ตีตราจอง
- READ ดาราอรุณ บทที่ 11 : ดาวศุกร์...คนขี้หึง
- READ ดาราอรุณ บทที่ 10 : ชะตากรรมกำหนดมาแล้ว
- READ ดาราอรุณ บทที่ 9 : ความเป็นเขา
- READ ดาราอรุณ บทที่ 8 : จอมโลกีย์แห่งสวรรค์
- READ ดาราอรุณ บทที่ 7 : เจ้าเรือนลัคน์
- READ ดาราอรุณ บทที่ 6 : ดาวพระศุกร์
- READ ดาราอรุณ บทที่ 5 : พินทุบาทว์
- READ ดาราอรุณ บทที่ 4 : แสงจันทรา
- READ ดาราอรุณ บทที่ 3 : ศุกร์ราชาโชค
- READ ดาราอรุณ บทที่ 2 : ดาวประกายพรึกและดาวประจำเมือง
- READ ดาราอรุณ บทที่ 1 : พบกันอีกครั้ง