ดาราอรุณ บทที่ 8 : จอมโลกีย์แห่งสวรรค์

ดาราอรุณ บทที่ 8 : จอมโลกีย์แห่งสวรรค์

โดย : กฤษณา อโศกสิน

Loading

ดาราอรุณ โดย กฤษณา อโศกสิน เรื่องของ ‘ลมเย็น’ หญิงสาวที่เกิดในช่วงเวลาที่ดาวประกายพรึกปรากฏบนฟากฟ้าและ ‘หิ้ง’ ชายหนุ่มที่โชคชะตาพัดพามาให้ได้ใกล้ชิดกัน…เมื่อดาวศุกร์ ดารายามแรกอรุณได้นำทางความรักให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ดาวศุกร์จึงพาให้ชีวิตของเธอเปล่งประกายไม่ต่างไปจากดาราอรุณและนี่คือนวนิยายที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอ

ชวนให้นายชัดนึกถึงเหตุร้ายที่อาจจะตามมาบางคราบางครั้งในชีวิตอันบานสะพรั่งด้วยการงานอันลูกสาวต้องรับผิดชอบร่วมกับคู่ของหล่อน ซึ่งก็คือดาวเสาร์ 7 ที่มีดาวมฤตยู 0 เล็งยัน

ด้วยว่าการงานนั้นจะต้องก้าวหน้าด้วยเดชาชาญแห่งเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งคงมิใช่กิจการที่เขากำลังย่ำเท้าหากอุดมด้วยความปรีดาดุจดังทุกวันนี้ ณ วันนั้น เขาอาจจะยังมีชีวิตอยู่หรือล่วงลับดับสูญไปแล้วก็เป็นไปได้ แต่ดวงที่แข็งแรงดังเช่นดวงของลมเย็นนี้ จะสามารถสู้รบกับความยากทุกชนิดที่เป็นไป

รับมรดกทุกทางที่เขาจะถ่ายทอดไว้ในฐานะมรดกภูมิปัญญาแห่งกาลก่อน

เพียงแต่…เขาจึงบอกกล่าวแกมสอนสืบไป

“ถ้าเราได้คู่เป็นคนมีเสน่ห์…เราก็ต้องยอมรับว่าเขามี…เมื่อเขามี…ตัวเราก็จำเป็นที่จะต้องมองข้ามไปเสียบ้าง…นะลูกนะ…”

“ไม่มีได้ไหมล่ะคะพ่อ” ลมเย็นน้ำตาคลอขึ้นมาอีกเมื่อนึกถึงอาการกรี๊ดกร๊าดของน้องสาว

เมื่อสักครู่ หล่อนก็ราวกับถูกเข็มเล่มไม่เล็กทิ่มแทง

“ไม่มีคงไม่ได้” นายชัดลดเสียงเบาอย่างปลอบใจ “ทุกอย่างก็ต้องไปตามบุญทำกรรมแต่งนั่นแหละ…เราบังคับได้เป็นบางอย่างที่ไม่ใช่เรื่องหลัก ถ้าเรื่องหลักบังคับไม่ได้…อย่างบางคนเดินทางไปสะเดาะเคราะห์เก้าวัด แต่ขากลับมีอุบัติเหตุรถชนกัน เจ้าตัวที่เพิ่งกลับจากทำบุญกลับตายไปดื้อๆ…นี่ก็ถือว่าบุญส่วนบุญ บาปก็อยู่อีกส่วน ไม่เกี่ยวกันใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเหงาๆ ขณะที่อีกฝ่ายก้มลงดูตัวเลข พลางถอนใจนิดหนึ่ง

เขาเองก็มัวแต่ซาบซึ้งในตำแหน่ง ‘ดาวศุกร์ราชาโชค’ ของลูกคนโต จนลืมนึกไปถึงทุกข์โศกของดวงดาวนี้เช่นกัน

ด้วยว่าไม่มีดาวศุภเคราะห์ดวงใดให้แต่โชคอย่างเดียว มักจะต้องเสียวไส้อยู่เสมอยามดาวทุกดวงเคลื่อนคล้อยลอยเลื่อนไปอยู่ ณ ราศีอื่นที่ทำให้แปรสภาพที่เคยดีไปสู่จุดที่บกพร่องของดาวดวงนั้น

ดาวบาปเคราะห์ก็เช่นกัน…ไม่มีดาวอังคาร เสาร์ ราหู มฤตยูให้แต่เคราะห์กรรมเพียงเท่านั้น วันดีวันงามก็อาจนำความอัศจรรย์ทั้งอุปโภคบริโภค ความรักความใคร่มาสู่เจ้าชะตาได้มากเท่าดาวจันทร์ พุธ ศุกร์ มิผิดไป

“คือถ้าเลี่ยงได้ เย็นก็อยากจะเลี่ยงซะก่อนไงพ่อ…ขืนรอจนกว่า…” หญิงสาวเปล่งวาจาเสียงเบา

น่าแปลกที่เหงาเศร้าเกือบตลอดวันเมื่อนึกถึงภาพที่ลมโชยบรรเลง

“เราคิดได้ อยากหรือไม่อยากได้ แต่ในความจริงก็อาจจะได้หรือไม่ได้…ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น” พ่อของหล่อนบอกกล่าว

เขาอยู่กับตัวเลขมานาน เลขแต่ละตัวฝังความหมายและเหตุผลดลให้เกิดคำตอบทั้งชอบและมิชอบได้ครบครัน เลขตัวหนึ่งเมื่ออยู่เดี่ยวโดด ก็ทายอย่างหนึ่ง ครั้นมาเข้าคู่กับเลขอีกตัว ก็ต้องทายไปอีกอย่างหนึ่ง

ซึ้งแก่ใจเท่าๆกับหาลายแทงพบเช่นกัน

ดีแล้ว…ที่คืนนี้พ่อลูกมีเวลาคุยกัน

ช่วยให้เขามีนาทีทองดึงเอากล่องดาวพระศุกร์มาเปิดดู

เพื่อให้รู้ว่า โทษแห่งเสน่หาก็ติดสอยห้อยตามมาด้วย

มีผู้ให้คำจำกัดความดาวศุกร์ไว้ว่า

‘จอมโลกีย์แห่งสวรรค์’

 

แต่จะวิตกไปไย ในเมื่อดาวพฤหัส 5 อยู่ในภพศุภะ เป็นเกษตร เป็นมนตรี

หิ้งเกิดวันพฤหัส 5 สถิตราศีธนู

เขาจะได้มรดกจำนวนมากจากพงศ์เผ่าเหล่ากอ นั่นก็คือเพชรพลอยหลากชนิดหลายจำนวนที่ต่างก็ค่อยๆสะสมสืบต่อกันมา…จากรุ่นปู่จนถึงรุ่นหลาน

จะเสียชื่อเสียหายอยู่บ้างก็ตรงที่ดาวศุภะ เสาร์ของเขาเป็นดาวกาลกิณีมาอยู่ที่ราศีมีน เล็งกับราหู 8 ดาวอายุขัย

จึงแทบจะว่าได้ว่า ความ ‘ฟลุค’ ของเขาที่เกี่ยวกับความรักความใคร่ มักให้โทษอย่างคาดไม่ถึงในวันใดวันหนึ่งที่อาจจะนานหรือไม่นานเกินรอ

คือเมื่อถึงปีที่ดาวเสาร์โคจรเป็นกาลกิณีโดยไม่มีทางเลี่ยงได้

จะให้ร้ายเพียงใด ก็สุดแต่จะสัมพันธ์ดาวดี หรือมีดาวใดอื่นยื่นมือเข้ามาช่วย ดังเช่นดาวพุธเดิมที่อยู่ราศีกรกฎ ตรีโกณถึงดาวเสาร์ของเขา

เว้นไว้แต่เป็นปีที่เสาร์เล็งลัคน์ซึ่งก็ผ่านไปแล้วครั้งเขายังอยู่อเมริกาซึ่งนายชัดก็คร้านจะเปิดปฏิทินสืบค้นจนเป็นกังวลไปด้วยกัน

ในที่สุดจึงบอกลมเย็นว่า

“พ่อดูแล้ว…คงไม่กระทบกระเทือนอะไรหนูเท่าไหร่…แม้ว่าเจ้าเรือนลัคน์ของเย็นจะไปอยู่กับเสาร์ จันทร์เสาร์นี่ ทางโหรถือนักหนาว่าจันทร์เศร้า ผู้หญิงมักเป็นม่าย ผู้ชายก็มักจะเศร้าใจเรื่องผู้หญิง” บิดาค่อยๆชี้แจงให้เข้าใจ เนื่องด้วยยังเสียดายชายหนุ่มนามหิ้งค่อนข้างจริงจัง “แต่นี่ดวงลูกกับดวงเขา จันทร์มหาจักรกับเสาร์ไม่แข็งแรง องศาก็ห่างกันมาก ทำให้ไม่มีพิษมีภัยมากมาย”

ลมเย็นชอบฟังพ่อบรรยาย จึงนิ่งเพื่อทำความเข้าใจ ขณะนายชัดชี้ให้ดูโดยเปิดปฏิทินที่มีวันเกิดของทั้งเขาและหล่อนมากางพลางชี้ไปตามตัวเลขที่คนไม่รู้โหราศาสตร์จะค่อนเข้าใจยากพอประมาณ

“นี่…เห็นไหม…ในปฏิทินมีรายละเอียดบอกไว้หมด อาทิตย์ขึ้นกี่โมง 06.05 น. แต่หนูเกิด 06.10 น. ดาวประกายพรึกยังไม่ตก ทั้งดาวอาทิตย์กับดาวศุกร์ก็เลยกุมลัคนาลูกไง”

“แล้วดีหรือพ่อ”

“ดีไง ดีมากๆ…คิดดู ใครจะมีดาวกุมลัคน์ตั้ง 4 ดวงเหมือนหนู ถ้าผัวมีกิ๊ก หนูฟาดกะมันแป๊บเดียว ตายเรียบ” พลางบิดาก็หัวเราะเอาใจ ขณะปิดปฏิทินปิดสมุด “เอาละนะ…ไปนอนซะเย็น อย่าคิดมาก…อ้อ…มีอยู่อย่าง หนูน่ะติดจะขี้หึงนะลูกนะ”

“ใช่ค่ะ” ลมเย็นยอมรับอย่างว่าง่าย หากก็พนมมือ เมื่อบิดากล่าวคำสุดท้าย

“อย่าหึงเลยลูก ‘ผู้ชาย’ น่ะเขาจะรักลูกมากทุกคน เชื่อพ่อ”

บ้านทั้งหลังเงียบกริบแล้ว ลมเย็นจึงแยกกับบิดาเข้าห้องส่วนตัว อาบน้ำเสร็จ เอนกายลงนอน พลางหูก็แว่วเสียงของเขาที่แอบทิ้งท้ายไว้

“หวังว่าเย็นคงไม่เห็นเรื่องโชยเป็นเรื่องใหญ่นะครับ”

 

เนื่องด้วยเขาเอง จะนอนหลับก็หาไม่ ได้แต่พลิกกายไปมา…จนกระทั่งในที่สุดต้องลุกขึ้นนั่งห้อยเท้านิ่งๆเพื่อจะคุยกับตนเอง…เพื่อจะถามไถ่…เพื่อจะทำความเข้าใจ คล้ายต้องเรียงลำดับความเป็นมาเป็นไปก่อนหน้านี้ให้เข้าที่ตรงทาง…ก่อนจะก้าวเดินต่อไป

หญิงคนสุดท้ายที่เพิ่งจากมาจะหลุดออกจากชีวิตอย่างถาวรหรือไม่…ก็ตอบได้ทันทีว่าหลุด…ดีแล้วเช่นกันที่เขาผ่านขั้นตอนนั้นมาได้…ดีมากเพียงไหนที่หล่อนหันไปพบว่าชีวิตคู่ที่ดีกว่า คือหล่อนอยากอยู่กับหญิงด้วยกัน แม้จะอันตรายร้ายแรงตรงที่ต่างก็ติดยาเสพติด หล่อนก็ไม่คำนึงถึง…ช่วยให้ความรักของเขา ขาดผึงออกจากกันทันใด

เขาหรือจะทนไหวที่มีคู่รักติดยา

ทันทีที่บินกลับ หิ้งจึงรู้สึกราวเพิ่งตื่นจากหลับแล้วฝันไป

ก้าวแรกที่เท้าสัมผัสแผ่นดินไทย จึงรู้สึกคล้ายกับว่าตนเองได้ชีวิตใหม่คืนมา

เป็นชีวิตที่แสนโสภาน่าสัมผัส

ยิ่งประสบความสำเร็จจากการสอบเข้าที่เขามีคุณภาพเพียงพอจะเลือกได้ ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในตนเอง

หากแต่ไม่นานต่อมา เขาก็ได้ประจันหน้ากับหญิงสาวคนแรกที่ใกล้ลืม แต่ไม่ลืม

เมื่อมาถึงนาทีนี้…ชายหนุ่มก็ได้แต่กดมือถือบนโต๊ะเล็กข้างหัวนอนดูเวลา เที่ยงคืนสิบห้านาทีเข้าไปแล้ว หากเขาก็ยังคงฟุ้งซ่านด้วยภาพเคลื่อนที่ที่อยู่ในม่านตาตลอดวัน…กับนี่…อีกครึ่งคืน…ไม่ห่างหาย

จะทำอย่างไรดี คืนนี้เขาจึงจะนอนหลับ

เบอร์โทรศัพท์และเบอร์ไลน์ก็ยังมิได้แลกกัน…ก็มัวยุ่งๆวุ่นๆตั้งแต่เรื่องซื้อขายที่ แถมยังมีอีกหนึ่งนาง บุตรีคุณหญิง กับอีกหนึ่งอนงค์ น้องของหล่อนเข้ามาขัดบรรยากาศอันน่าจะราบรื่นสุขสงบให้เอะอะอลหม่านไปเสีย จนแทบจะจับต้นชนปลายไม่ได้

เขาก็เลยต้องลุกขึ้นนั่งทอดถอนใจอยู่เช่นนี้อย่างไรเล่า

ในที่สุด ก็จำใจต้องเอนตัวลงนอน

นึกถึงดวงหน้าอิริยาบถของหล่อนไปพลางๆ

สมนามลมเย็น

แลเห็นตนเองกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่นายชัดเมตตาดูดวงให้เขาวันนี้

‘งานที่หิ้งจะเข้าไปทำนี่ก็หนักไม่ใช่เล่นเหมือนกัน…เป็นงานมีปัญหาให้ต้องแก้เรื่อยๆ คือมฤตยุ 0 ของหิ้งอยู่เรือนเสาร์ 7 เป็นเรือนกาลกิณี แต่กาลกิณีไปอยู่ราศีมีนเป็นลาภะ ไม่เป็นไร เพราะเรือนลาภะ 5 เป็นเกษตรที่ราศีธนู ปัญหาทุกชนิดแก้ได้ การเงินก็ดี ไม่ต้องห่วง ห่วงหน่อยเดียว’

ครั้นแล้ว นายชัดก็แกล้งนิ่ง หยุดรอดูทีท่าว่าอีกฝ่ายจะส่งคำถามมาว่ากระไร

‘เรื่องคู่หรือครับอา’ หิ้งจึงต้องหาทางเอาเอง

‘ใช่’ นายชัดก็เลยพยักหน้า ‘บางทีมีคู่แล้วก็ยังมีคนมาวอแว…ทำให้เรื่องไม่มีเกิดมีขึ้น…เลยต้องแก้โซ่กันหลายเส้น’

‘แล้วทำยังไงดีล่ะฮะ’ เขาก็ถามไปอย่างนั้น เพราะจุดมุ่งหมายมิใช่เรื่องนี้

‘เจ้าของดวงก็ต้องหนักแน่นมากๆไงล่ะ’

หากเขากลับนึกถึงภาพของทุกคนที่ผ่านพบกันในวันนี้โดยเฉพาะดวงหน้าของลมเย็น…ผู้กลับมาโดดเด่นในความมืดขณะนี้ ก็ราวจะจับไข้น้อยหนึ่งขึ้นมาได้ในทันใด

ลมเย็น…เหตุไฉนในทันทีที่สบตา แลเห็นโฉมอันจับใจชัดเด่น อารมณ์ของเขาที่กำลังเย็นสบายเหมือนนามของหล่อน กลับพลันร้อนวูบแรงวาบราวกับถูกดูดด้วยกระแสอันลึกลับที่เขามิเคยได้สัมผัสมาก่อน แม้กระทั่งตอนที่ได้รู้จักสาวผมสีน้ำตาลอมทอง ก็มิใช่เช่นนี้

มิใช่อาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายตื่นตา ทั้งนั่งนอนยืนเดิน…ทุกอิริยาบถของหล่อนพลันเลื่อนไหลเข้ามาเป็นส่วนเกินในคำนึงที่ถึงอย่างไรก็สลัดมิได้ปลดไม่ออก

ในที่สุด ก็ต้องลุกขึ้น…เดืนไปเดินมาในความมืด จนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่หน้าต่าง

แลเห็นแสงจากจันทราข้างขึ้นยังคงค้างสว่างอยู่บนฟากฟ้า

ถ้อยคำของนายชัดที่ทำนายดวงชะตาก็มิได้พาดพิงไปถึงลูกคนโตของตนเองแต่อย่างใด

มีแต่ติงเตือนเรื่องที่อยู่นอกเหนือความสนใจทั้งสิ้น

เฮ้อ…แล้วนี่เขาจะหลับต่อไหวหรือไม่

 



Don`t copy text!