
กานต์ปรียา บทที่ 11 : ความเย็บเยียบแสนร้อนระอุ
โดย : ดารัช
![]()
กานต์ปรียา นิยายสืบสวนดราม่า โดย ดารัช กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความหลงใหล และการล้ำเส้นสู่ Cyberstalking ที่อาจบานปลายเป็นอาชญากรรม เรื่องราวของความสัมพันธ์ซ่อนเร้น การหายตัวไปอย่างปริศนา และเบาะแสที่อาจเปิดเผยความจริงอันมืดดำในโลกออนไลน์ อ่านได้แล้วที่ อ่านเอา www.anowl.co

โต๊ะเครื่องแป้งดัดแปลงจากโต๊ะญี่ปุ่นพับได้ วางกระจกกลมและครีมบำรุงลดริ้วรอย โต๊ะญี่ปุ่นวางข้างเตียงนอนขนาดหกฟุตที่ได้รับตกทอดตอนซื้อบ้านต่อจากเจ้าของคนก่อน ภคินีมักรู้สึกว่าขนาดของเตียงใหญ่เกินไปทำให้ห้องนอนดูแคบ มีที่เหลือแค่ให้วางตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องเขียนเท่านั้น
ภาพที่สะท้อนจากกระจกกลมคือหญิงวัยเลขสี่ หน้าตอบ หางตาตกทำให้ดูแก่กว่าอายุ ยิ่งเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ ภคินีมักรู้สึกแย่เวลาเห็นภาพสะท้อนของตัวเองจากในกระจก สิ่งเดียวที่เธอชอบบนใบหน้าของตัวเองคือลักยิ้มสองข้างเหมือนของพ่อ เป็นมรดกตกทอดที่เธอมีแต่สายฟ้าไม่มี
ภคินีจ้องมองโทรศัพท์มือถือ ขมวดคิ้วมุ่นขณะอ่านข้อความที่ตัวเองเปิดค้างไว้ในโปรแกรมไลน์
ภคินี : สายฟ้า วันพุธหน้ายังนัดกันที่เดิมไหม จะเบี้ยวอีกแล้วเหรอ จะเอาแบบนี้ใช่ไหม
สายฟ้า : โทษที ไม่ว่าง
ภคินี : ช่างเถอะ ต่อไปก็ไม่ต้องติดต่อกันอีก
ข้อความที่เธออ่านเป็นแช็ตล่าสุดที่เธอคุยกับสายฟ้าเมื่อหลายวันก่อน ยิ่งอ่านทวนซ้ำ ก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ
ภคินีมองกระจกอีกครั้ง ใบหน้าตอบดูเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมเธอและน้องชายต่างแม่เข้ากับผู้เป็นพ่อ ผิดแต่สายฟ้าชอบออกกำลังกาย ทำให้ไม่ดูโทรม กลับเสริมให้ใบหน้าของเขาดูมีเอกลักษณ์โดดเด่น
สองพี่น้องใช้ชีวิตต่างกันสุดขั้วราวเส้นขนาน ภคินีทำงานเป็นหัวหน้าแผนกในบริษัทยักษ์ใหญ่ และกำลังเร่งทำผลงานเพื่อเลื่อนตำแหน่ง ส่วนสายฟ้าลอยชายไปวันๆ ด้วยมรดกและเงินประกันชีวิตของพ่อ เขามักบอกว่าออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อหาแรงบันดาลใจสำหรับเขียนนิยาย แต่กลับมีผลงานออกมาไม่กี่เล่ม
แม่ของภคินีเสียชีวิตไปหลายปีก่อนหน้านี้ด้วยโรคหัวใจ หญิงสาวนึกออกว่าแม่ผู้เข้มงวดและเป็นช้างเท้าหน้าของบ้านจะพูดอะไรหากยังมีชีวิตอยู่และได้อ่านพินัยกรรมของพ่อ คงเป็นอะไรทำนองว่า ‘ยกมรดกให้เมียน้อยด้วย งามหน้าไหมล่ะ เจริญไหมล่ะ ตายแล้วยังทำคนอื่นขายขี้หน้า ไม่ประกาศให้ทั่วไปเลยล่ะว่าตัวเองมีเมียมีลูกอยู่แล้ว ยังแอบมีชู้’
บางทีการที่แม่เสียชีวิตไปก่อน โดยไม่เคยรับรู้ว่าสามีของตัวเองนอกใจจวบจนวันตายอาจเป็นเรื่องดีก็ได้
ภคินีเองก็มารับรู้ว่าพ่อมีบ้านเล็กในวันที่ท่านเสีย อุบัติเหตุรถยนต์พรากพ่อที่บอกกับเธอว่าจะไปประชุมต่างประเทศ แต่กลับโดนอัดคาพวงมาลัย โดยมีแม่ของสายฟ้าอม ‘สิ่งนั้น’ ของพ่อคาปากตอนเสียชีวิต
พินัยกรรม รวมทั้งประกันชีวิตของพ่อ จัดสรรมรดกให้เธอและสายฟ้าคนละครึ่ง
ทั้งที่ควรจะเกลียดน้องชายต่างแม่ แต่ภคินีกลับรู้สึกว่าสายฟ้าคือคนที่เข้าใจความรู้สึกของเธอที่สุด ลูกที่พ่อของตัวเองมีโลกสองใบ ความรู้สึกแปลกแยกที่ไม่สามารถอธิบายได้นั้น ยามสบตาน้องชายต่างแม่ ภคินีเหมือนเห็นภาพสะท้อนของตัวเอง
เธอจำครั้งแรกที่เจอกับสายฟ้าได้ ตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ เขามางานศพพ่อโดยสวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้นเผยรอยสักรูปมังกรพันรอบแขนขวา กางเกงยีนส์ขากระบอก ใบหน้าคมคายที่คล้ายพ่อซีดเผือด สายฟ้าสวมนาฬิกาข้อมือหน้าปัดรูปหยดน้ำ สายรัดข้อมือสีเงินโลหะ เป็นนาฬิกาที่พ่อสั่งทำเป็นพิเศษและมอบให้ก่อนท่านจะเสียไม่นานนัก แบบเดียวกับที่ภคินีสวม สายฟ้าไม่คุยกับใคร เขาเพียงแค่ยืนมองภาพหน้าโลงศพของพ่อนิ่ง จุดธูปไหว้ศพเงียบๆ โดยไม่สนใจสายตาของแขกในงานที่ส่วนมากเป็นแขกเหรื่อฝั่งเธอ
น้องชายต่างแม่หันมาสบตาภคินี แววตาอ้างว้างของเขาไม่ต่างอะไรจากดวงตาของเธอยามมองกระจกเลย
ภคินีเจอสายฟ้าอีกครั้งตอนอ่านพินัยกรรมและจัดการเรื่องมรดกของพ่อ น้องชายแทบไม่พูดอะไรกับเธอ ภคินีเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสนทนากับน้องชายที่จู่ๆ ก็โผล่มาอย่างไร ไม่รู้ใครเป็นคนเอ่ยปากก่อน แต่ทุกๆ ครบรอบวันตายของผู้เป็นพ่อ สองพี่น้องมักนัดเจอกัน แม้จะแค่นั่งดื่มด้วยกัน แต่ก็เป็นธรรมเนียมที่ไม่เคยมีใครพลาด
หญิงวัยเลขสี่มองข้อความในช่องแช็ตของน้องชาย คำว่าไม่ว่างของเขาทำให้เธอกังขา
ภคินีสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่าน สายฟ้าอัปสเตตัสในเฟซบุ๊กว่ากำลังเดินทางท่องเที่ยว เขาอาจติดลมกระมัง เธอนิ่วหน้า รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา หลังคุยกันในแช็ตไลน์ครั้งนั้น น้องชายไม่ติดต่อกลับมาเลย ราวกับอีกฝ่ายมองว่าประเพณีของสองพี่น้องเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ
ภคินียันกายลุกขึ้น ความรู้สึกปวดเข่าแล่นปราดจนน้ำตาเล็ด เธอรีบทรุดนั่งบนฟูกนอน สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ ก่นด่าตัวเองที่พรวดพราดลุกขึ้นยืน สายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาข้อมือที่ถอดไว้ก่อนไปอาบน้ำ
“นาฬิกาข้อมือ” เธอพึมพำ เรื่องนี้ก็เป็นอีกอย่างที่เธอติดใจ มาริษา รุ่นน้องในแผนกไปพักที่โรงแรมเซเรเนด และพบนาฬิกาข้อมือตกอยู่ ภาพที่รุ่นน้องส่งมาให้ ดูยังไงก็เหมือนนาฬิกาที่เธอและสายฟ้ามี
มาริษาเล่าว่าไม่กี่วันก่อนมีขโมยขึ้นบ้าน เมมเมอรี่การ์ดของเจ้าหล่อนหายจ้อย ทำให้ไม่สามารถส่งคลิปวิดีโอก่อนตัดต่อมาให้ได้ จึงแคปภาพที่อัปลงช่องยูทูบของตัวเองมาให้
ภคินียันกายลุกขึ้นช้าๆ แล้วมาทรุดนั่งบนโต๊ะทำงาน หยิบไอแพดที่วางบนหนังสือออกใหม่แนวระทึกขวัญของสตีเฟ่น คิง มาถือด้วยสองมือ ค้นหาเพจของมาริษาในช่องยูทูบ ใช้เวลาไม่นาน ภาพโพรไฟล์หญิงสาววัยยี่สิบสี่ ผมสีดำเป็นลอนยาว ใบหน้าจิ้มลิ้มราวตุ๊กตา ก็ปรากฏพร้อมช่องวิดีโอแนะนำ
“ทัวร์โรงแรมเซเรเนด” ภคินีพึมพำ ปกติยอดวิวของช่องมาริษานั้นเยอะอยู่แล้วด้วยเนื้อหาที่เป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและคาเฟ่เปิดใหม่ที่เดินทางสะดวกชนิดผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวตามได้ นอกจากนี้ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าอีกฝ่ายหน้าตาน่ารักสดใส
ภคินีแทบไม่ต้องเสียเวลาค้นหาคลิปวิดีโอเจ้าปัญหา เพราะเป็นวิดีโอแนะนำเนื่องจากยอดวิวสูง คลิปดังกล่าวเป็นตอนที่มาริษาพักในโรงแรม เล่นเกมล่าสมบัติ กระทั่งเจอนาฬิกาข้อมือซุกไว้ในหมอน
หญิงสาวเพ่งสายตาไปยังภาพนาฬิกาข้อมือที่เห็นแวบๆ ให้ดูยังไง มันก็คือนาฬิกาแบบเดียวกับที่เธอมี ภคินีลองไล่ไปยังคลิปก่อนหน้า เป็นคลิปตอนมาริษาเดินทางมายังโรงแรม และแวะไปรีวิวร้านขนมที่ตกแต่งด้วยไม้ประดับนานา ให้ความรู้สึกสดชื่นท่ามกลางธรรมชาติ เธอเพียงแค่อยากจะลองดูคลิปเผื่อไว้
ภคินียกมือมากัดเล็บตามความเคยชิน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองกำลังมองหาอะไรอยู่ ในตอนที่ถอดใจและเตรียมปิดคลิป ความรู้สึกเจ็บแปลบจากปลายเล็บทำเอาน้ำตาเล็ด พอก้มดูก็เห็นว่าตัวเองเผลอกัดเล็บเข้ามาในเนื้อจนเลือดไหล
พอเงยหน้ามองจอ เป็นตอนที่มาริษาเดินนำผู้ชมมาทางเคาน์เตอร์เช็กอินของโรงแรม หันมาทางกล้อง ส่งยิ้มหวาน “หลังจากทัวร์ร้านขนมหวานกันแล้ว คลิปหน้าเมอร์รี่จะพาทุกคนมาทัวร์โรงแรมเซเรเนดกันต่อค่ะ อย่างที่แอบกระซิบไว้ว่าเมอร์รี่ได้โปรโมชันส่วนลดค่าที่พักพร้อมอาหารเช้ามา เดี๋ยวท้ายคลิปหน้าจะมีแจกส่วนลดให้ผู้โชคดีแน่นอนค่ะ” จากนั้นเจ้าหล่อนก็มองทางเคาน์เตอร์เช็กอิน ภาพแพนตามหลังของหญิงสาว เห็นพนักงานต้อนรับชายสวมชุดสีขาวเข้ารูปสะอาดสะอ้าน จากนั้นมาริษาก็หันมาส่งยิ้มให้กล้อง ดูสดใสชวนให้ยิ้มตาม
“สำหรับคลิปหน้าจะเป็นวันสบายๆ ในโรงแรมเซเรเนดของเมอร์รี่ค่ะ อดใจรอชมกันไม่นานนะคะ และสำหรับคนที่เพิ่งกดเข้ามาที่ช่องของเมอร์รี่นะคะ ฝากช่วยกันกดไลก์ กดติดตาม กดแจ้งเตือน และแชร์คลิปของวันนี้ด้วยนะคะ แล้วเจอกับเมอร์รี่ที่ช่อง ‘Merry Everyday’ สำหรับวันนี้ เมอร์รี่ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค่า”
คลิปวิดีโอจบลง ภคินีเบิกตาโพลง
เธอรีบกรอคลิปวิดีโอกลับไปช่วงที่มาริษาเดินเข้ามา จ้องมองหน้าจอจนจมูกแทบชนไอแพด กระทั่งเห็นภาพด้านหลังของผู้ชายร่างสูงในชุดเสื้อแขนยาวสีดำหลวมโพรกเผยรอยสักรูปมังกรที่แขนขวา ยีนส์ขากระบอกทรงใหญ่ สวมหมวกบักเก็ตสีดำไม่มีลาย สะพายเป้ ในมือลากกระเป๋าเดินทาง มืออีกข้างยกกระเป๋าถือท่าทางหนัก
ดูจากการแต่งกาย ผู้ชายที่เพิ่งเดินผ่านกล้องไปไวๆ ช่างดูคล้ายน้องชายต่างแม่ของเธอเหลือเกิน!
“นาฬิกาข้อมือที่ห้อง 405 ของโรงแรม ตามวันที่ลูกค้าแจ้ง มีคนติดต่อมารับคืนแล้วครับ” เสียงพนักงานต้อนรับของโรงแรมเซเรเนดตอบมาทางปลายสาย
“มารับคืนด้วยตัวเองเหรอคะ เห็นหน้าใช่ไหมคะ คนที่มารับคืนคือเจ้าของนาฬิกาใช่ไหมคะ” ภคินีนั่งบนเตียงนอน มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ไว้ อีกข้างกัดเล็บด้วยความกังวลแปลกๆ ตั้งแต่เห็นภาพด้านหลังของผู้ชายสวมชุดโคร่งตามสไตล์การแต่งตัวของสายฟ้าเมื่อคืน เธอนอนไม่หลับสักงีบ ได้แต่พลิกตัวไปมา พอนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ในโทรศัพท์มือถือบอกเวลาแปดโมงเช้า เธอก็รับติดต่อไปที่โรงแรมเซเรเนดทันที
“เอ่อ อันนี้เป็นความลับส่วนตัวของลูกค้า ทางเราไม่สามารถให้รายละเอียดได้จริงๆ ครับ” พนักงานตอบด้วยน้ำเสียงลำบากใจ
ภคินีสลัดผ้าห่ม เดินไปหยุดหน้าโต๊ะทำงาน มือข้างหนึ่งเสยหน้าม้าที่ปรกตา อีกมือเธอเปิดดูภาพนาฬิกาข้อมือและภาพด้านหลังของผู้ชายตัวสูงที่แคปหน้าจอวิดีโอไว้ มืออีกข้างกัดเล็บ ตกในภวังค์ความคิด
“ฉันติดต่อน้องชายไม่ได้เลยค่ะ” เมื่อคืน ภคินีตัดสินใจโทร.ไลน์หาสายฟ้า แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย พอลองโทร.เข้าเบอร์มือถือ ก็มีข้อความตอบรับอัตโนมัติว่าอีกฝ่ายปิดเครื่อง ภคินีสังหรณ์ใจไม่ดีแปลกๆ เธอและน้องชายไม่ใช่ประเภทติดต่อกันบ่อย แต่เธอก็มั่นใจว่าสายฟ้าไม่ใช่คนแบบที่จะปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือได้ทั้งวันทั้งคืน
“เอ่อ คุณลูกค้าลองติดต่อดูอีกที…”
“น้องชายฉันอาจตกอยู่ในอันตรายค่ะ!” เธอโพล่ง ตัวสั่นเทา ภคินีไม่เรียกตัวเองว่าคนมีเซนส์หรืออะไรทำนองนั้น แต่บางครั้งเธอมักมีลางสังหรณ์แปลกๆ เหมือนตอนพ่อบอกว่าจะไปประชุมต่างประเทศ ในตอนที่ท่านลากกระเป๋าเดินออกจากบ้าน แล้วหันมาขยิบตาให้ ความรู้สึกเย็นยะเยือกผุดพรายไม่หยุด หลังจากนั้นภคินีก็ได้รับสายโทรศัพท์ที่โทร.มาแจ้งว่าพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตพร้อมแม่ของสายฟ้า
ความหวาดกลัวแบบตอนนั้นกำลังหวนกลับมา เป็นความรู้สึกเย็บวาบตรงช่องท้องที่ชวนให้ร้อนใจจนแทบคลั่ง
“ทางเราไม่สามารถบอกข้อมูลได้จริงๆ ครับ แต่ลูกค้าที่ลืมนาฬิกาไว้โทร.มาบอกว่าลืมของและขอให้ส่งของไปที่หอพัก พร้อมบอกรายละเอียดของนาฬิกาถูกต้องครับ ทางเราจึงส่งของคืนไปแล้ว”
“ขอวันที่และเวลาที่เขาโทรมาได้ไหมคะ” ภคินีหยิบปากกาและกระดาษโน้ตเตรียมพร้อม
เสียงปลายสายลอบถอนหายใจ ดูจะรู้ว่าคงสู้ลูกตื๊อของเธอไม่ได้ “งั้นผมบอกแค่วันที่และเวลาที่ลูกค้าโทรมาแจ้งว่าลืมของนะครับ…”
ภคินีวางสาย ทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ เพ่งสายตาไปยังกระดาษโน้ตที่บันทึกวันเวลาเอาไว้
มืออันสั่นเทาของภคินีหยิบโทรศัพท์มือถือมาโทร.หาน้องชายอีกครั้ง สายฟ้ายังคงปิดเครื่อง หญิงสาววัยเลขสี่พิมพ์ข้อความค้นหาในยูทูบว่า ‘คดีฆ่าหั่นศพบนภูเขา’ สุ่มเปิดวิดีโอขึ้นมาหนึ่งคลิป
“ต่อไปเป็นความคืบหน้าเรื่องข่าวการพบชิ้นส่วนบุคคลนิรนามที่ภูเขาแถบชานเมืองเมื่ออาทิตย์ก่อนนะครับ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ยูทูบเบอร์และตากล้องไปขุดกล่องความทรงจำบริเวณจุดชมวิว โดยมีการไลฟ์สดผ่านแฟนเพจในเฟซบุ๊ก แต่กลับพบชิ้นส่วนมือซ้ายของบุคคลนิรนาม” ผู้ประกาศข่าวอธิน สบตาผู้ชมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ทางตำรวจกระจายกำลังค้นหาชิ้นส่วนต่างๆ ขยายตัวไปทั่วเนินเขา และพยายามระบุตัวตนของเหยื่อ ล่าสุดได้พบชิ้นส่วนศพจำนวนสี่สิบห้าชิ้น…”
ภคินีกัดเล็บ ข่าวนี้เก่าไป เธอเคยเห็นแวบๆ ว่ามีข่าวสันนิษฐานเวลาตายของเหยื่อแล้ว ภคินีจดเวลาตายของเหยื่อลงสมุด พอไล่ดูคลิปวิดีโอไปเรื่อยๆ ก็เห็นผู้ประกาศข่าวคนเดิมรายงานเรื่องการระบุตัวเหยื่อของทางตำรวจ
“ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวตนของเหยื่อได้ครับ เนื่องจากชิ้นส่วนศพกระจัดกระจายตามจุดต่างๆ” อธินพูด “ไม่พบชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่จะช่วยระบุตัวตนด้วยครับ นอกจากนี้ชิ้นส่วนใบหน้าที่พบบางส่วนมีร่องรอยการทุบทำลายด้วยค้อนก่อนจะเลื่อยหั่นศพด้วยเลื่อยไฟฟ้า ทางตำรวจจะลองเทียบกับฐานข้อมูลคนหาย ถ้ามีความคืบหน้าอย่างไร ผมจะมาแจ้งเป็นระยะนะครับ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ”
คลิปวิดีโอหยุดลง มีคลิปแนะนำจากยูทูบเบอร์คนอื่นที่วิเคราะห์ข่าว แต่ภคินีไม่สนใจ เธอจ้องมองตัวเลขสองบรรทัดบนกระดาษโน้ตเขม็ง
บรรทัดแรก เป็นวันที่และเวลาที่สายฟ้าโทร.ไปแจ้งโรงแรมเซเรเนดให้ส่งนาฬิกาข้อมือกลับไปยังคอนโดฯ ของเขาทางไปรษณีย์
บรรทัดที่สอง เป็นวันที่และเวลาที่คาดการณ์ว่าเหยื่อในคดีฆ่าหั่นศพเสียชีวิต
ภคินีชั่งใจ แล้วหยิบโทรศัพท์มากดเข้าโปรแกรมแช็ตในไลน์ จดเวลาที่ตัวเองสนทนาโต้ตอบกับน้องชายเรื่องวันครอบรอบวันตายของพ่อลงไปบรรทัดที่สาม
ลำดับเวลาเรียงจากบรรทัดที่สอง หนึ่ง แล้วตามด้วยสาม
พบศพปริศนาบนภูเขา…สายฟ้าโทร.แจ้งโรงแรมว่านาฬิกาหาย… ภคินีแช็ตคุยกับสายฟ้าในไลน์…
หญิงสาวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ใช้นิ้วกลางกดบริเวณหัวตาแล้วคลึงเป็นวงกลม วนรอบกระบอกตาสามรอบ จากนั้นปาดมือจากหัวตามาถึงขมับ นวดคลึงขมับเล็กน้อย
พอลืมตามาอีกครั้ง ภคินีจดข้อสรุปสามข้อลงบนกระดาษโน้ต ความรู้สึกเย็นยะเยือกโบยตีจนใจสั่น ในอกร้อนรุ่มไปหมด
‘ข้อสังเกตที่ 1 สายฟ้าเช็กเอาต์จากโรงแรม กล้องของมาริษาถ่ายติดไว้ ต่อมาสายฟ้านึกได้ว่าลืมนาฬิกาข้อมือจึงโทรไปทางโรงแรมเพื่อให้ส่งคืนไปที่คอนโด จากนั้นก็ท่องเที่ยวต่อ
คำถาม ทำไมสายฟ้าใช้เวลานานกว่าจะนึกได้ว่าลืมนาฬิกา อีกอย่าง ทำไมให้ส่งกลับคอนโด ทั้งที่ปกติสวมนาฬิกาตลอด ทำไมไม่ให้ส่งนาฬิกาไปยังที่พักปัจจุบัน ถ้าส่งแบบพัสดุด่วน ไม่เกินสามวันก็น่าจะถึง อีกอย่าง เราไม่อยากเชื่อเลยว่าสายฟ้าจะจงใจไม่มาเจอเราในวันครบรอบวันตายของพ่อจริงๆ’
ภคินีสูดลมหายใจ ก่อนบรรจงเขียนข้อสังเกตที่สองด้วยมือที่สั่นระริก
‘ข้อสังเกตที่สอง คนที่แช็ตไลน์กับเราไม่ใช่สายฟ้าแต่แรกหรือเปล่า
คำถาม ผู้ชายที่เช็กเอาต์จากโรงแรมทำไมถึงสวมเสื้อผ้าของสายฟ้า แล้วใครเป็นคนโทรมาขอรับนาฬิกาข้อมือคืน
ข้อสังเกตที่สาม โรงแรมเซเรเนดใกล้กับจุดพบศพในคดีฆ่าหั่นศพเหลือเกิน…
ดังนั้นเราจึงสงสัยขึ้นมาว่าศพในคดีฆ่าหั่นศพที่เสียชีวิตก่อนเราแช็ตคุยกับสายฟ้า คือศพของใคร’
- READ กานต์ปรียา บทที่ 11 : ความเย็บเยียบแสนร้อนระอุ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 10 : ความสุขชั่วนิรันดร์
- READ กานต์ปรียา บทที่ 9 : ผมให้คุณเป็นที่หนึ่ง
- READ กานต์ปรียา บทที่ 8 : บทเรียนเรื่องจักรวาลที่ชื่อว่าคุณ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 7 : บอกมาว่าคุณรู้สึกอย่างไร
- READ กานต์ปรียา บทที่ 6 : กล่องความทรงจำในดินแดนที่ถูกลืม
- READ กานต์ปรียา บทที่ 5 : คุณรักฉันมากแค่ไหน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 4 : เรื่องทั้งหมดที่ฉันชอบ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 3 : อยากชำแรกเข้าไปในทุกห้วงความคิด
- READ กานต์ปรียา บทที่ 2 : เส้นทางที่ไม่อาจหวนคืน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 1 : อ้อมกอดแนบแน่นราวพยายามกลืนกินอีกฝ่าย







