
เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 13 : Adios Motherfucker ลาก่อน ไอ้สาระเลว
โดย : ขวัญอินทร์
เปลือกมุกสีชมพู โดย ขวัญอินทร์ นวนิยายดราม่าเข้มข้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอาจไม่เคยมองเห็นเนื้อแท้ของใครได้เลย ถ้าเราเลือกมองแค่เพียงเปลือก ความสำเร็จ ความล้มเหลว และภาพจำที่ผู้อื่นตีกรอบให้ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใคร เพราะสุดท้ายผลกรรมจะเปิดโปงทุกอย่างไม่ช้าก็เร็ว
วอดก้า จิน เตกีล่า เหล้ารัมขาว บลูคูราเซา โซดามะนาว
ต้นบุญกำลังนั่งหน้ายุ่งเหมือนยุงตีกันต่อหน้าคุณภูวดลผู้เป็นพ่อ แต่ตอนนี้ท่านอยู่ในฐานะเจ้าของ บริษัทภูวดล พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรายงานปัญหาเรื่องบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่เขาไปติดต่อเอาไว้โทร.มายกเลิกสัญญา ทั้งที่กำลังจะเซ็นสัญญากันอีกไม่กี่อาทิตย์นี้แล้ว
“เค้าบอกว่า มีคนยื่นข้อเสนอดีกว่าเรามาก และที่สำคัญเป็นคู่ค้าเก่า เค้าเลยเกรงใจครับ” เขายอมรับว่าตัวเองพลาด พ่อเตือนแล้วว่าให้เลือกบริษัทที่เปิดมาหลายปี ดีกว่าบริษัทที่เน้นสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ยังไม่มีผลงาน ตอนนั้นเขาคิดว่าในเมื่อคอนโดฯ นี้สร้างเพื่อคนรุ่นใหม่ เขาก็อยากสนับสนุนคนรุ่นใหม่บ้าง ไม่ใช่ใช้คอนเน็กชันกันตั้งแต่รุ่นพ่อ
“ก็ยังดีนะต้นที่เราไม่ได้ทำสัญญากับบริษัทนี้ ถ้าลองอีหรอบนี้ ต่อให้ทู่ซี้เซ็นไป วันหน้าก็มีปัญหาอยู่ดี พ่อว่าต้นหาบริษัทอื่น เอาเจ้าที่เราเคยปฏิเสธไปก็ได้”
“ครับ ผมจะพิจารณาดูอีกที” เขายอมทำตามพ่อแม้ไม่เห็นด้วย แค่คิดว่าต้องกลับไปง้อบริษัทที่ตนเองเคยปฏิเสธก็รู้สึกเซ็ง และเสียหน้าจนบอกไม่ถูก
“ต้นลงไปก็ดี ช่วยมุกอันดาหาที่อยู่หน่อยนะ น้องโทรมาบอกว่าย้ายออกจากบ้านหลังนั้นแล้ว”
“ย้ายออกทำไมครับ”
“พ่อก็ไม่รู้ ฟังน้ำเสียงไม่สู้ดี บอกว่าโอนบ้านให้คุณขจีแล้วด้วย ยังไงต้นก็ลองถามๆ น้องหน่อยถ้าน้องยังหาที่อยู่ไม่ได้ ก็ให้มาอยู่คอนโดของพ่อก็ได้”
“ครับ ผมจะไปดูน้องให้” ต้นบุญรับปาก คิดในใจว่าดีเหมือนกันได้ไปดื่มคลายเครียดที่ ‘บาร์จับจิต’ เขาติดตามมุกอันดาผ่านไอจี เข้าไปกดไลก์ คอมเมนต์แซว แชร์ให้ก็บ่อยๆ การได้เห็นความเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันของเธอทำให้เขารู้สึกสนิทกับหญิงสาว
“มุกจะย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ น่ะหรือ” ต้นบุญถามหน้ายุ่ง เมื่อเห็นสภาพห้องนอนของมุกอันดาซึ่งอยู่ด้านหลังร้าน ห้องนี้เดิมของป้อมชัย ตอนหลังเขาย้ายไปอยู่บ้านเดิมของพ่อ ห้องนี้จึงเป็นห้องเก็บของ และตอนนี้เขาก็ให้มุกอันดาอยู่ สภาพห้องมันจึงเก่าๆ
เขากำลังจะไปหาเธอที่บ้านเพื่อถามเรื่องที่พักตามที่พ่อสั่ง แต่ก็ไม่ทันเพราะเธอขนเสื้อผ้ามาที่บาร์หมดแล้ว และยืนยันจะอยู่ที่นี่แม้เขาจะอ้างว่าพ่อเขาไม่เห็นด้วยก็ตาม
“พ่อให้มุกไปพักที่คอนโด” เขาบอกเสียงหงุดหงิด ยังไงคุณป้อมก็เป็นผู้ชาย ถึงจะมีภรรยาเป็นผู้ชายก็เถอะ
“ไม่เอาหรอกค่ะ ค่าเช่าคอนโดแพงจะตาย นี่ก็ซื้อโทรศัพท์จนไม่เหลือแล้ว”
มุกอันดาพูดพลางเสยปอยผมที่ยาวปรกหน้า จนเห็นรอยนิ้วมือของฟ้าพราวเป็นปื้นแดงแก้มซีกนั้น
“หน้าไปโดนอะไรมาครับ” ต้นบุญจับปลายคางเพื่อหันหน้าด้านนั้นให้ชัดขึ้น มุกอันดาพยายามหันหน้าหนี เขาจึงจับหน้าเธอไว้ทั้งสองมือ บังคับให้หันมาตรงๆ ก้มลงมองใกล้ๆ จนได้กลิ่นกายของกันและกัน
“เกิดอะไรขึ้น” ต้นบุญถามเหมือนละเมอ สายตาอ่อนวูบเมื่อเห็นดวงตาคู่นั้นมีน้ำตาคลอ
“โดนตบน่ะสิ ถามได้ เป็นรอยสามนิ้ว ชี้ กลาง นาง ไม่เห็นหรือคะ” มุกอันดาแกล้งพูดติดตลก แต่ดวงตาเศร้าจัด สะบัดหน้าหนีอีกครั้งเพื่อไล่อารมณ์อ่อนแอ
“เรื่องอะไร เล่าให้พี่ฟังได้มั้ย มุกไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ มุกยังมีพี่…มีลุงภู” ต้นบุญกุมไหล่ทั้งสองของเธอไว้มั่น ถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่นนุ่มนวลอย่างที่ไม่คิดว่าจะตนเองจะทำได้
มุกอันดาเหมือนทำนบแตก เขื่อนที่กั้นความอ่อนแอพังทลาย เธอพรั่งพรูความรู้สึกผิดทั้งหลายออกมาเริ่มตั้งแต่ทำให้ย่าตาย แล้วยังไม่ช่วยพี่ฟ้าใช้หนี้ จนอาจเป็นต้นเหตุให้พี่สาวต้องขายศักดิ์ศรีตัวเองเช่นนี้
ต้นบุญปล่อยให้เธอพูดจนหนำใจ เขาเพิ่งรู้ว่าเธอว้าเหว่เพียงใด เปลือกนอกที่ดูแข็งแรงของเธอแท้จริงซ่อนความอ่อนแอภายในไว้มิดชิด ทั้งสงสารและน่าชื่นชมในเวลาเดียวกัน
“ขอบคุณนะคะ มุกจิตตกไปหน่อย พี่เลยพลอยจิตตกไปด้วยเลย” มุกอันดาร้องไห้จนหนำใจ ก่อนพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา
“อย่าคิดว่าตัวเองต้องเก่งนักเลย อ่อนแอ ขี้แยบ้างน่ะดีแล้ว คนอื่นจะได้ไม่หมั่นไส้” เขาพูดเสียงดุก็จริงแต่แววตานั้นอบอุ่นจนเธอน้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง
“มุกเซ็นโอนลอยบ้านให้ป้าจีแล้วนะคะ เค้าจะเอาไปทำอะไรก็ช่าง”
“เรานี่วู่วามเหมือนเดิม ต่อให้มุกยกบ้านให้ยังไงฟ้าพราวก็ไม่เปลี่ยนใจแล้วละ แต่การที่มุกย้ายออกมาพี่ก็เห็นด้วยนะ อย่างน้อยก็แสดงจุดยืนตัวเองว่าคิดยังไง”
“เรื่องบ้านนั่นช่างเถอะค่ะ ไม่มีพ่อไม่มีย่าก็ไม่มีอะไรต้องอาลัยอาวรณ์”
เธอก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าที่ย้ายออกจากบ้านนั้นเพราะแคร์ ส.ส.ไกรกับลุงกรณ์ เพราะยังไงป้าจีก็มีพระคุณมากกว่าอยู่แล้ว เธอแค่หวังว่าพี่ฟ้าอาจเปลี่ยนใจ หยุดทุกอย่างแล้วขายบ้านขายตลาดใช้หนี้เพื่อเริ่มต้นใหม่ ดีกว่าเดินไปในเส้นทางนั้น พี่ฟ้าอาจคิดว่าสวยหรูตามที่ป้าจีเป่าหูมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งต่างจากเธอ ที่มีแต่เรื่องมุมมืดของการเมือง ทุกคนต่างแสวงหาอำนาจเพื่อตัวเองกันทั้งนั้น ยอมหักหลังแม้จะเป็นเพื่อนพ้องพี่น้องที่คลานตามกันมา ซึ่งก็ไม่ต่างจากที่พ่อพูดสักคำ
ตกค่ำพี่ป้อมชวนเขาดื่มเหล้า เลี้ยงต้อนรับมุกอันดา เขาตกลงโดยไม่ลังเล ส่วนหนึ่งเพราะตัวเองก็กำลังเครียดเรื่องงาน คิดว่าได้ดื่มเหล้าก็ดีเหมือนกันเผื่อจะคิดอะไรออก โชคดีวันนี้เป็นวันหยุดของร้าน
บริกรที่ชื่อบอยมาร่วมวงทีหลัง แซวเขาว่าปิดร้านเพื่อเลี้ยงเขาโดยเฉพาะ ตอนแรกพี่ป้อมจะให้มุกอันดาผสมค็อกเทล แต่เขาไม่อยากยุ่งยาก ขอเหล้าแดงราคาถูกก็พอ เขาไม่เน้นดื่มแค่อยากดูนิสัยใจคอของทั้งสองคน ว่าไว้ใจให้มุกอันดาอยู่ที่นี่ได้หรือเปล่า
แรกๆ พี่ป้อมชัยก็เก็บฟอร์ม แต่พอดื่มไปได้ทีแกก็ปล่อยของ กลายเป็นคนพูดเยอะ โดยมีบอยฟังหูห้อย เหมือนฟังพระอาจารย์สั่งสอนลูกศิษย์ ส่วนศิษย์เอกอย่างมุกอันดามีหน้าที่ชงเหล้าแจก เขาสังเกตว่าเธอดื่มน้อย หรือแทบจะไม่ดื่มเลยด้วยซ้ำ คอยบริการทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา สุดท้ายก็เอาเชคเกอร์ออกมาเขย่าจนได้ อ้างว่าอยากลองสูตรใหม่
ยิ่งดึก ยิ่งเมา ยิ่งคุยสนุก เขาฟังพี่ป้อมเล่าเรื่องชีวิต ตั้งแต่สมัยที่นี่เป็นอู่ซ่อมรถ จนกระทั่งมาเป็นบาร์จับจิตทุกวันนี้
“พ่อพี่บังคับให้เรียนช่างยนต์ แต่พี่แอบไปเรียนการโรงแรม เวลาออกจากบ้านพี่ก็ใส่ชุดช่าง พอถึงมหาลัยก็เปลี่ยนชุด จนพ่อจับได้ โกรธจนไล่ออกจากบ้าน พี่ก็ไปทำงานที่ภูเก็ต ทำงานทุกอย่างทั้งเสิร์ฟ ทั้งบาร์น้ำ ส่งตัวเองจนเรียนจบการโรงแรม จนรู้ว่าพ่อป่วยจึงกลับมาบ้าน พ่อตายก็เปลี่ยนอู่ซ่อมเป็นร้านนี้ พี่น้องรุมสาปพี่กันใหญ่ บอกว่าพี่ทำให้พ่อตรอมใจตาย” พี่ป้อมพูดเสร็จก็หัวเราะลั่น แม้ตอนนั้นจะขำไม่ออก
“ไม่ต้องห่วงนะคะ แกเล่าเรื่องนี้ทุกครั้งที่เมา เล่าจนขำ” มุกอันดากระซิบต้นบุญ เมื่อเห็นเขาวางหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเห็นใจหรือหัวเราะตามพี่ป้อมดี
“เฮ้ย คุณไม่ต้องห่วง ไอ้พวกนั้นมันดรามาไปเอง แต่ผมกับพ่อเรารู้ใจกัน ผมนี่นะส่งเงินให้พ่อทุกเดือน ค่ารักษาพยาบาลเอย อะไรเอย เงินจากบาร์เทนเดอร์คนนี้แหละ ผมต้องยืนหยัดในความเป็นผม เพราะผมรู้ว่าถ้าผมเปิดอู่ซ่อมรถ ผมต้องเจ๊ง”
ต้นบุญขอชนแก้วเพื่อแสดงความคารวะ นับถือในความยืนหยัดของเขา
“ไอ้มุกนี่มันศิษย์เอก ผมเจอมันครั้งแรกเหมือนผีเห็นผี…มันหลอกป้าว่าไปเรียนบัญชี แต่ที่ไหนได้มันแอบไปเรียนผสมค็อกเทล”
“อ้าวพี่ป้อม อย่ามาเผากันสิ” มุกอันดาโวยวาย
ต้นบุญลอบมองหญิงสาว ตอนนี้หน้าเธอเริ่มแดงก่ำ ตาปรือฉ่ำชวนมอง รู้สึกแปลกตาแปลกใจกับความรู้สึกที่อบอวลอยู่ภายในใจตน หรือเป็นเพราะบรรยากาศพาไปกันแน่
“ส่วนไอ้นี่ ไอ้บอย จงเป็นบ๋อยต่อไป” ป้อมชัยชี้มาที่บริกรบอย ซึ่งเจ้าตัวทำตาปริบๆ อยากเป็นศิษย์เอกกับเขาบ้าง ทั้งสี่พากันหัวเราะลั่น ต้นบุญเริ่มสนิทใจกับคนทั้งสองจึงทำตัวเป็นกันเองมากขึ้น เขาได้ข้อคิดอะไรบางอย่างจากการได้นั่งคุยกับคนกลุ่มนี้ บางทีความเชื่อมั่น มันก็ไม่ได้เกิดจากการที่เราทำทุกอย่างสำเร็จแล้วเสมอไป แต่มันต้องเริ่มจากความเชื่อในตัวเอง ถ้าเชื่อว่าทำได้ ต่อให้มีอุปสรรคพวกเขาก็มั่นใจว่าจะผ่านไปได้
จนกระทั่งตีสองทุกคนต้องแยกย้าย เด็กบอยขอนอนที่ร้าน ตรงโชฟายาว มุกอันดาก็มีห้องของตัวเอง มีเพียงเขาที่ต้องกลับคอนโดฯ ซึ่งก็อยู่ไม่ไกล
“กลับดีๆ นะคะ” มุกอันดาบอก มือง่วนกับการเก็บขวดเก็บแก้วไปล้าง พรุ่งนี้เธออยากนอนตื่นสายจึงต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนนอน
“พี่นอนที่นี่ดีกว่า ขับรถกลับไม่ไหว” ต้นบุญตาปรือฉ่ำ นั่งเท้าคางมองเธอที่เก้าอี้บาร์
“เมาแล้วหรือคะ มุกว่ามุกชงจางๆ นะ” มุกอันดาหันกลับมามองประเมินอาการว่าควรจัดเครื่องดื่มอะไรให้เขาสร่างเมาดี
“ไม่รู้ละ บอยยังนอนได้ พี่ต้องนอนด้วย พี่หวงน้องสาว” ต้นบุญโน้มตัวชะโงกหน้ามาจับใบหน้าเธอไว้เต็มอุ้งมือทั้งสอง ตอนแรกคิดจะแกล้งด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่เมื่อได้สัมผัสใกล้ชิดจนได้กลิ่นอายลมหายใจของกันและกัน อารมณ์บางอย่างจู่โจม อ้อยอิ่งอบอวล จนอยากสัมผัสริมฝีปากบางนุ่มนั้น จนต้องรีบเปลี่ยนอารมณ์ จับเธอส่ายหน้าไปมาเหมือนแกล้ง
“โอ๊ย ปล่อยค่ะ ท่าจะเมาจริงๆ ด้วย คออ่อนจริง” มุกอันดาสบถ กลบเกลื่อนความรู้สึกหวาบหวิวจนใจสั่นรัว รีบหันหลังให้แสร้งว่าไปจัดการเครื่องดื่ม
“พี่ก็อ่อนจริงนั่นแหละ ไม่ได้เรื่องสักอย่าง” ต้นบุญคอตก เปลี่ยนโหมดเป็นเศร้าเมื่อเธอจี้ใจดำ ปล่อยมือจากมุกอันดามาเสยผมตัวเอง ท่าทางอ่อนแอของเขาทำให้เธอรู้ว่าต้นบุญต้องมีเรื่องไม่สบายใจ
“งั้นก็อย่ากลับเลยค่ะ มุกนั่งเป็นเพื่อนเอง อยากเล่าอะไรก็เล่ามา” คราวนี้เป็นมุกอันดาที่ประคองใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มปลอบใจ ทั้งสองสบสายตากันท่ามกลางความมืดสลัวของบาร์ ถ่ายทอดความรู้สึกห่วงใยลึกซึ้ง โดยที่ไม่ทันค้นหาคำตอบว่าความรู้สึกนี้เป็นแบบพี่น้องหรือคู่รัก
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 18 : Backstabber จอมหักหลัง
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 17 : Taste The Rainbow ลิ้มรสสายรุ้ง
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 16 : Glory Day วันแห่งชัยชนะ
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 15 : Trash Can ถังขยะ
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 14 : Poisoned Apple แอปเปิ้ลพิษ
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 13 : Adios Motherfucker ลาก่อน ไอ้สาระเลว
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 12 : Giggle Juice หัวเราะคิกคัก
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 11 : Sweet Betrayal การหักหลังอันแสนหวาน
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 10 : Boulevardier ขมขื่น เจ็บปวด เข้ม ร้อนแรง
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 9 : Kinky Malibu Barbie Shots ประหลาด พิลึก
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 8 : White Lies โกหกสีขาว
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 7 : Amaros And Sorryows รสขมปร่า และความเศร้าโศก
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 6 : The Last Word คำสุดท้าย คำทิ้งท้าย
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 5 : The Green Destiny โชคชะตา อิจฉา และเงินทอง
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 4 : Suffering Bastard คนเลวที่กำลังเจ็บตัว
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 3 : Loose Lips ปากมาก
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 2 : Midnight Mercy เมตตาแห่งเที่ยงคืน
- READ เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 1 : First Thing First อันดับแรกเลย