ดาราอรุณ บทที่ 16 : อยากได้ใคร…เลือกได้เลย

ดาราอรุณ บทที่ 16 : อยากได้ใคร…เลือกได้เลย

โดย : กฤษณา อโศกสิน

Loading

ดาราอรุณ โดย กฤษณา อโศกสิน เรื่องของ ‘ลมเย็น’ หญิงสาวที่เกิดในช่วงเวลาที่ดาวประกายพรึกปรากฏบนฟากฟ้าและ ‘หิ้ง’ ชายหนุ่มที่โชคชะตาพัดพามาให้ได้ใกล้ชิดกัน…เมื่อดาวศุกร์ ดารายามแรกอรุณได้นำทางความรักให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ดาวศุกร์จึงพาให้ชีวิตของเธอเปล่งประกายไม่ต่างไปจากดาราอรุณและนี่คือนวนิยายที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอ

นายชัดรู้ดีว่าตนเองก็รักชอบสนใจในบทบาทของดาวพระศุกร์ดวงนี้มาก เพราะนับแต่ศุกร์ 6 ยาตรามาถึงราศีกรกฎ แม้จะยังเพิ่งเข้า 3 องศา 0 ลิปดา หากก็นำพามาแต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจสำหรับเขาถึงสองเรื่อง เรื่องแรกก็คือนายหันมอบแหวนเพชรน้ำงาม 2 กะรัตให้ลมเย็นเชิงจับจองหล่อนไว้ให้ลูกชายของตัว ทำเสมือนไม่เคยกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันตั้งตัวเป็นศัตรูกับเพื่อนที่เคยกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกันมายาวนาน

นอกจากนี้ก็ยังอาจหาญมาขอให้เขาช่วยดูดวงเรื่องกู้หนี้ยืมสินค้ำประกัน ทำราวกับวันเวลาที่เหินห่างเพราะความแตกร้าวเกินเยียวยาไม่หลงเหลือ

แต่นายหันจะเชื่อหรือไม่ว่า นางยาใจไม่มีวันลืม

ก็นี่ไง เพียงแต่ก้าวเข้าห้องนอนที่ทั้งคู่ยังคงนอนอยู่เคียงข้างกัน บนเตียงเดียวกัน ตั้งแต่วันเข้าหอเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน โดยไม่เคยแยกเตียง นางจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“พ่อ…ต้องใจแข็งแล้วนะ อย่าใจอ่อนกะไอ้หันเป็นอันขาด…ชะ…หนอยแน่ะ…ทำมาปะเหลาะจะเอาหนูเย็นไปเซ่นเจ้าหิ้งแล้วคงกะจะยืมเงินที่เราขายที่ได้ เอาไปเซ่นไหว้ปะเหลาะนักการเมือง นี่มันคงนึกว่าพ่อเป็นหมู ต้มได้ต้มเอาใช่ไหม”

“เฮ้อ…” นายชัดก็เลยโบกมือ “แม่ก็อย่าเพิ่งคิดล่วงหน้า มันตาถั่วหรือยังไง นึกว่าฉันโง่ไม่ทันมันละซีนะ..เฮอะ…”

“ดี…พ่อ…พูดออกมาให้ชัดๆ จะได้นอนตายตาหลับ”

“ไปโน่น” อีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่ง มีปฏิทินโหรประจำปีอยู่ในมือพร้อมกับพลิกดูทีละแผ่น ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม เรื่อยมาจนถึง 1 กันยายนว่า คุณปรียาจะถือเอาวันใดที่สมเหตุสมผลต่อการจ่ายเงินจำนวนยี่สิบล้านกว่า โดยต้องรอขายหุ้นให้ได้จนครบจำนวนที่ต้องนำมาจ่าย

อันทำให้การรอคอยที่ยิ่งใหญ่คราวนี้ กลายเป็นความร้อนรนอย่างหนึ่งเช่นกัน ก่อให้เกิดทุกข์ฉับพลันตามมา

ถ้าไม่แลเห็นดาวอาทิตย์ 1 กุม ดาวศุกร์ 6 ที่ราศีกรกฎ เขาก็คงไม่นิ่งนอนใจ

แต่นี่ดาว 6 ราชาโชคได้ยาตราเข้ามาแล้ว มาผนึกกำลังกับดาวอาทิตย์ที่มีตำแหน่งมหาจักรอันแกล้วกล้าไม่รองใคร มีหรือจะพ่ายแพ้แก่ความขัดข้องทั้งหลายในยามนี้

ดังนั้น เขาจึงลองนำเอาคัมภีร์ดาวพระศุกร์ออกมา ชั่งน้ำหนักเชิงทบทวน

พลางหวนระลึกถึงครูบาอาจารย์ที่พร่ำบอก

‘ดาวศุกร์เป็นดาวยอกย้อนซ้อนกล แกมดั้นด้น ค้นหารัก ทั้งดึงเข้ามาแล้วผลักออกไป ร่อนไปหาที่อื่นที่ชื่นใจใหม่ๆ ถนัดนัก จึงมิอยากให้ทึกทักเรื่องรักใคร่มากเกินขนาดจนใจป่น…อันว่าหัวใจของคนเรา หากป่นปี้เสียแต่ยังไม่ถึงไหนมันก็ซากศพเราดีๆ นี่เองนา’

จริงของท่านอาจารย์ไม่มีผิด รวมทั้งไม่มีวันจะผิดได้ เพราะมิว่าคัมภีร์ฝรั่ง อินเดีย หรือไทย ต่างก็ยกให้ดาวพระศุกร์เป็นดาวทั้งดีและร้าย มีทั้งฤทธิ์และเดช จะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายก็ย่อมให้ร้ายทั้งๆ รักไม่ไกลกัน

ครั้นเมื่อนำมาใคร่ครวญในคืนนี้ ก็ยิ่งทวีความแปลกใจเมื่อคำนึงถึงบทบาทของนายหัน นายชัดก็ได้แต่แน่ใจนักหนาว่า ต่อแต่นี้เป็นต้นไป เขาและครอบครัวก็คงหนีไม่พ้นมิตรเก่าที่เป็นทั้งเพื่อนและศัตรู

คนผู้นี้กำลังจะย้อนกลับมาอยู่บนเส้นทางชีวิตของนายชัดก็ด้วย ลูกชายหนึ่งคน กับแหวนเพชรหนึ่งวง

ง่ายดายปานนี้ทีเดียวหรือ

อ้าว…ก็แล้ว เหินกับลมโชยเล่า เอาไปทิ้งไว้ไหน

หนุ่มสาวทั้งคู่เกี้ยวพาราสีกัน ทะเลาะกัน ดีกันมากี่ปีแล้ว เขาเองก็ไม่ได้นับ นางยาใจก็ไม่มีเวลา น้าเยี่ยมเยือน ลมเย็น…ก็นำเวลาอันมีค่าไปดูแลการกินอยู่หลับนอนของคนสี่ห้าคนหลังจากสาละวนทำยาไทย ดูแลนายชัดให้ต้อนรับแขกที่ติดใจฝีมือ เวลาแต่ละวันแต่ละชั่วโมงอันมีค่า ก็ลิ่วละล่องลับหายไปกับพระอาทิตย์ขึ้นและตก ไม่มีแม้สักนาทีที่จะหันมาถามไถ่วิ่งไล่กันทะเลาะกันตีกันของคู่เวรคู่กรรมสองบ้าน

“พ่อน่าจะบอกให้เย็นเอาแหวนนั่นไปคืนเขา” ในที่สุด นางยาใจก็ย้ำคำ “กับหิ้ง…เขาก็ดี…แต่ฉันเกลียดพ่อมัน ไม่อยากให้เย็นเกี่ยวข้องด้วย”

นายชัดไม่มีคำตอบ…เขามักจะตรึกตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจตลอดมา ดังนั้นจึงพึมพำ

“แต่ลูกมันดีกว่าพ่อร้อยเท่า”

“ก็จริง…แต่ถึงยังไง เขาก็พ่อลูกกัน”

อีกฝ่ายก็ได้แต่พยักหน้า ล่วงรู้ตื้นลึกในนิสัยของเพื่อนเก่าเป็นอย่างดี

นายหันเป็นคนเด็ดเดี่ยว รักที่สุด เกลียดที่สุด ขี้หึง ขี้อิจฉา รวมพลังตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์ของตนเองตลอดมา

ตรงกันข้ามกับนายชัดผู้หลงคนง่าย ใครปะเหลาะประโลมสักนิดสักหน่อย ก็มักจะเคลิบเคลิ้มตามไป

แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างตรงที่บัดนี้ เขาไม่มีเวลาเพียงพอจะคบใคร จึงเสมือนได้กลับมาเป็นตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น

นั่นก็คือ หมอยา หมอนวด หมอดู ผู้สืบทอดศาสตร์ดั้งเดิมของบรรพบุรุษมาได้อย่างดีเยี่ยมครบครัน

 

นอกจากดาวศุกร์กำลังเดินทางควบคู่ไปกับดาวอาทิตย์แล้ว ดาวพุธก็ยังคงปักหลักมั่นนำหน้าดาวสำคัญทั้งสองดวงมาโดยตลอด ผนึกกำลัง 146 อันเป็นดาวมั่นคงทรงพลัง

เมื่อดูจากดาวของนางยาใจผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ผู้มีลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ เสาร์ 7 กาลกิณีกุมลัคน์เป็นมหาอุจ อันหมายถึงเป็นผู้มีครอบครัวเข้มแข็งมั่นคง แต่เนื่องจากเกิดวันพฤหัส 5 ที่ดินที่มีจะต้องมาโยกย้ายถ่ายเทให้กลายเป็นเงินตราซึ่งก็คือ 146 ที่นำหน้าในราศีพิจิกเรือนอังคาร ครั้นแล้วอังคารจึงไปสถิตย์อยู่ในเรือนปุตตะอันได้แก่ลูกของนางนั่นเอง

ราหู 8 คือลูกของนาง สถิตย์ราศีธนู 5

ครั้นแล้ว 5 จึงข้ามไปสถิตที่ราศีกรกฎเป็นมหาอุจกุมมฤตยู อยู่เรือนกัมมะ

เช่นนี้แล้วจักเกรงกลัวไปใยว่าทรัพย์สินทั้งสิ้นจะถูกละลายไปอย่างไม่ยุติธรรม

พฤหัสมหาอุจไม่เคยหยุดทำงานแม้ในวันนักขัตฤกษ์

ครอบครัวเขาบัดนี้จึงถึงคราวเบิกบาน

ศุกร์ราชาโชคกุมอาทิตย์มหาจักรกุมพฤหัสมหาอุจจะให้หยุดยิ้มหัวได้อย่างไร

เพราะแม้เลื่อนวันเวลาจากวันนี้ หวังไปบอกขายในปีหน้า เพื่อรอคอยที่ดินขึ้นราคา

แต่มหาโชคก็มิอาจมาได้ในเวลาที่บางคนอยากให้มา

เนื่องด้วยดวงชะตาของมนุษย์เรานั้น ขึ้นอยู่กับการเดินทางของดวงดาว

บางวันเดือนปี ดาวดวงนี้มา แต่อีกดวงยังเดินช้าโอเอ้ เพียงเท่านี้ ก็อาจทำให้โชคเคราะห์หันเหไปเป็นอื่นได้

ฉะนั้น ความพร้อมใจกันของหมู่ดาวจึงประหนึ่งความสามัคคีของปวงชนมิผิดไป

“ที่จริง…ถึงยังขายไม่ได้ ฉันก็ไม่เห็นว่าพ่อจะต้องกลัวอะไรเลย…” ในที่สุดนางยาใจก็เอ่ย หลังจากนั่งนิ่งที่ขอบเตียง…ตรึกตรองอยู่สักครู่ “เก็บไว้เอง…จะได้ปลูกสมุนไพรทำยาขายเองไง…ไม่มีเงินสดก็ยิ่งดี ไอ้เจ้าหันจะได้ไม่ฉวยโอกาสพาลูกมันเข้ามาเคลมลูกเรา”

“ถึงมันเข้ามา…ถ้าลูกเราไม่เล่นด้วย มันจะทำอะไรได้ ถามหน่อย” นายชัดตวัดเสียงอย่างรำคาญใจที่เรื่องทั้งหลายประดังกันเข้ามารบกวนมันสมองที่ควรจะผ่องใสของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องรักใครไล่ล่า…แล้วเลยลามมาถึงเงินก้อนที่กำลังจะเข้ามานอนเล่นอยู่ในธนาคาร เตรียมการต่อยอดในอาชีพสืบไป

“มีทางเดียว ให้เย็นเอาแหวนไปคืน…ช่วยบอกมันด้วยว่า ฉันไม่ให้รับ”

นายชัดก็เลยยิ้มเยาะออกมาได้

“เก่งจริงก็บอกมันเองซี”

คราวนี้ นางยาใจก็ได้แต่อึ้ง

เพราะสีหน้าแววตาลมเย็นที่ชูนิ้วนางขวามาร่อนอยู่ต่อหน้านางและน้าเยี่ยมเยือน เสมือนสายลมหนาวตกผลึกจนกลายเป็นแม่คะนิ้งเกาะอยู่ตามทุ่งพงดงดอกไม้ดูงดงามนัยน์ตา แปรรูปสาวสวยทีท่าเย็นๆ ให้กลายเป็นเทพี

 

นางพริ้งบรรจงเสียบแหวนเพชรและพลอยจำนวน 4 วงลงในถาดสี่เหลี่ยมกำมะหยี่สีน้ำเงินอย่างใจเย็น แว่นขยายทั้งที่เป็นขาตั้งและมือถือทั้งใหญ่และเล็กวางพร้อมเพรียงอยู่ตรงหน้า มีห้องเล็กๆ อยู่ติดกับห้องนอนให้นางเป็นส่วนตัว ด้วยว่าแท้จริงแล้ว นางคือกุญแจเซฟของสามี นายหันใช้สายตาอันมีแววเฉลียวฉลาด เลือกนางมาจากถาดเลือกคู่ของเขาเช่นเดียวกับเพชรพลอย ด้วยถือว่าเมียไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมโลก แต่เป็นเพื่อนร่วมชีวิตกับเขา เขาผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ใกล้เคียงเศรษฐี จะพลาดพลั้งเรื่องเลือกสตรีหาได้ไม่ เนื่องด้วยนายหินผู้บิดาเคยสั่งนักสั่งหนาเรื่องมีคู่ ‘มึงต้องเลือกผู้หญิงให้รอบคอบเหมือนเลือกเพชรพลอย ลูกผู้หญิงก็เหมือนกัน ต้องเลือกผัวให้ได้คนดีเหมือนเลือกวิชาความรู้…ถ้าเลือกดี…เหมาะกับตัวเอง ก็จะได้ใช้มันมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวด้วย…ฉะนั้น ก็อย่าได้เลือกวิชาที่พาตัวเองไปเป็นโจร’

นายหันเชื่อบิดา ดังนั้นจึงจับตารายละเอียดของทุกสตรีที่ผ่านหน้า จนกระทั่งได้นางพริ้งมาแต่งงานอยู่กิน มีลูกชายคู่หนึ่งทั้งพึ่งได้และมิได้

หลายหน เขาได้แต่นึกท้อใจ ปรารภกับคู่ชีวิต

‘ไม่นึกเลยว่าเหิน มันจะตาถั่วไปติดลูกไอ้ชัด นังลมโชยแสนจะไม่เอาไหน’

นางพริ้งได้แค่ฟัง หากก็ไม่พลอยพยักพเยิดไปกับเขา ด้วยว่านางรักลูกคนเล็กยิ่งกว่าสิ่งใด

เพชรพลอยเงินทองนากนางดูได้ รอบรู้ถ้วนถี่ คุณสมบัติดีปรีชากว่าหญิงทั้งหลายในเรื่องนี้ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน

แต่ลูกชายคนเดียว นางดูไม่ได้ สั่งสอนไม่เป็น แลเห็นแต่ความน่าเอ็นดู ตั้งแต่เป็นเด็กชายเล็กๆ จนบัดนี้เติบใหญ่

งานที่สอบเข้าได้ นางก็เห็นเป็นงานสำคัญที่ผ่านยาก แต่ลูกสุดที่รักของนางผ่านได้ เล่าให้ใครต่อใครฟังอย่างปลาบปลื้มข้ามคืนข้ามวัน

แต่ลูกชายคนโตเป็นนักเรียนทุน จบปริญญาโทกลับมา นางก็แค่ยินดีกับเขาในฐานะลูกคนหนึ่ง

ในบ้านนี้นางจึงมีนายแค่สองคน

สามีหนึ่ง ลูกคนเล็กอีกหนึ่ง

งานคัดเพชรพลอยคืองานอดิเรกที่ช่วยให้นางพริ้งไม่ตึงเครียดเกินไป

แต่การเลือกของมีค่าจากเซฟไปขายเพื่อนำเงินมาช่วยลูกเขยคุณหญิงเป็นสิ่งที่นางต้องจำทน

‘มันเป็นเจ้าบุญนายคุณอะไรนักหนา’

นางส่องไฟไปบ่นในใจไปพร้อมกัน ขณะใช้แว่นกรองแสง สำหรับพิสูจน์เพชรพลอยโดยเฉพาะ ส่องไล่ไปมา

เพชรพลอยแท้กับเพชรพลอยสังเคราะห์จะต่างกัน

กว่านางจะตรวจสอบจนแน่ใจก็กินเวลา เพราะจะไม่นำเพชรพลอยชั้นเลิศออกไปขายเป็นอันขาด โดยเฉพาะขายเพื่อเอาใจลูกค้า…แม้ลูกค้าผู้นั้นจะอุดหนุนสินค้าราคาแพงของสามีตลอดมา

นางก็ไม่สู้จะสบอัชฌาสัยกับคุณหญิงระวีฉายสักเท่าใด

คุณหญิงเคยใช้สายตามองดูนางอย่างหมิ่นๆ

‘อ้อ…คนนี้ เมียคุณหันงั้นหรือ ดูซึมๆ ไงไม่รู้’ นางพริ้งเคยรู้สึก

นางจึงไม่เคยออกมาสมทบคุย

รวมทั้งคราวนี้ที่ต้องมาหมกมุ่นจนถึงค่ำคืนก็เนื่องด้วย….ผู้ที่ ‘รู้เรื่อง’ เพชรพลอยอย่างลึกซึ้ง…นอกจากสามีนางแล้วในบ้านก็ไม่มีใคร…มีจำเพาะลูกมือเก่าแก่สามีภรรยาผู้ช่วยงานเจียระไนเพชรพลอยค่อนข้างช่ำชองเท่านั้น…ส่วนคุณสมบัติที่เลิศก็คือดีงามประเสริฐเรื่องซื่อสัตย์สุจริตที่ทั้งนายหันและนางคิดเหมือนกันว่า…การที่เขากับนางเจริญในงานอาชีพมาจนทุกวันนี้ ก็ด้วยมีแต่ลูกค้านับถือไว้ใจว่าเพชรพลอยที่ออกไปจากถาดจากกล่องเล็กกล่องใหญ่บ้านนายหัน ย่อมพิสูจน์ได้ว่าคือของแท้ร้อยพันเปอร์เซ็นต์

ดังเช่นเพชรเม็ดนี้ ที่นางกำลังใช้แว่นขยายส่องดูทุกเหลี่ยมทุกมุมด้วยไมโครสโคป…เครื่องมือชิ้นสำคัญที่สามารถใช้ค้นหารอยตำหนิทั้งภายในและภายนอกของอัญมณีได้โดยง่าย ด้วยว่าสามารถแผ่กำลังขยายได้ถึง 10-30  เท่า

ทำให้แลเห็นอย่างชัดเจนว่าเพชรเม็ดนี้คือเพชรอัฟริกาใต้ที่นายหันรับจำนำไว้นานหลายปี ในราคาที่ต่ำกว่าปัจจุบันนี้อย่างน่าพิศวง แม้กระนั้น เจ้าของก็ปล่อยให้หลุดจำนำเนื่องด้วยท้ายที่สุด เจ้าตัวก็เลื่อนไหลลงสู่ฐานะอันตกต่ำ ไม่มีปัญญามาไถ่คืน

ส่วนพลอยราคาย่อมเยาที่วางอยู่ถัดกันไปอีกสองสามเม็ดคือ  ทับทิม มรกต ทัวร์มาลีน…แดง เขียว น้ำเงิน

ทับทิมนั้นเป็นทับทิมพม่า…นายหันรับซื้อมาจากเจ้าประจำนำส่งเพชรพลอยตั้งแต่สิบปีที่แล้ว ด้วยเห็นว่าคือ ทับทิมที่มาจากเมืองโมก๊อกอันมีคุณภาพดีที่สุดในโลก ทับทิมเม็ดนี้สีดังหนึ่งเลือดนกพิราบ อันเป็นที่ปรารถนาที่สุดของผู้นิยมเล่น

ส่วนแซฟไฟร์ที่เรียกว่า ‘ทัวร์มาลีน’ สีน้ำเงินเข้มหรือ ‘มหาน้ำเงิน’ ซึ่งมีสีน้ำเงินแกมม่วงอ่อนๆ แตกต่างจากพลอยแคชเมียร์ ซึ่งก็คือพลอยของพม่าอีกเช่นกันนั้น เมื่อกระทบกับแสงไฟ สีอันดูสะดุดตาคราสัมผัสใหม่ๆ จะจางหายไป กลายเป็นสีขุ่น ช่วยให้นางพริ้งตัดใจได้ว่าจะขายวงนี้

ส่วนมรกตนั้น เป็นมรกตรัสเซียที่นายหันได้มาโดยไม่คาดฝัน

ดังนั้น นางจึงกำลังชั่งใจอย่างหนักที่จำต้องเข้ามาคัดเพชรคัดพลอยเพื่อนำไปขาย ปะเหลาะใครบางคนที่เป็นเป้าหมายใหญ่ทั้งการเมืองและการบ้าน

‘หนูแสงจันทรากับลมเย็นอยากได้ใคร เลือกได้เลยนะ’ สามีนางทิ้งท้าย 

 



Don`t copy text!