กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 7 : เล่ห์ร้ายผกากรอง (1)
โดย : ชีวาพร
กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว โดย ชีวาพร เรื่องราวของสองพี่น้องที่ชีวิตแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนหนึ่งใบหน้างดงามโดดเด่นเป็นที่ปรารถนาของผู้คน อีกคนใบหน้าสามัญและยังมีชะตากาลกิณีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ชีวิตของทั้งคู่จะดำเนินไปในทิศทางใด อ่านเรื่องราวของพวกเธอได้ในเว็บไซต์อ่านเอา anowl.co และเพจ anowldotco
ร่วมเจ็ดวันแล้วที่ผกากรองเข้ามาเป็นทาสที่เรือนเศรษฐีเพชร ในทุกวันสิ่งที่ผกากรองต้องพบเจอก็คือการถูกเย็นคุกคาม แน่นอนว่าผกากรองเองก็มิได้งอมืองอเท้าให้อีกฝ่ายรังแก ตรงกันข้ามกลับโต้ตอบได้อย่างดุเดือดไม่แพ้กัน และอีกหนึ่งในวิธีการที่เธอคิดใช้โต้ตอบเย็นก็คือ…ก้อน!
ยามที่ตะวันตกดิน ทาสในเรือนแยกย้ายกันพักผ่อนเพื่อเอาแรงไว้ลงงานในวันพรุ่ง ผกากรองเดินออกมาจากเรือนทาสหลบซุ่มอยู่ที่หลังต้นไม้ใหญ่ เมื่อสายตาเห็นก้อนกำลังเดินมาที่ท่าน้ำก็แสร้งเดินไปนั่งบนริมท่าน้ำตักน้ำอาบให้เปียกชุ่มไปทั้งตัวจนผ้านุ่งแนบกาย
ก้อนที่กำลังเดินมาพลันหยุดชะงักเท้า หากแต่ยามที่กำลังจะหันหน้าหลบภาพที่มิควรมอง ผกากรองก็ดึงรั้งชายผ้านุ่งขึ้น เผยเรียวขาเหลืองนวลเย้ายวนตา ก่อนจะใช้ขมิ้นลงขัดถูด้วยท่าทางยั่วยวนอย่างเป็นธรรมชาติ
ลำคอของก้อนแห้งผาก ร่างกายเกร็งจนมือสั่น ไล่สายตาไปตามฝ่ามือเรียวที่ลูบผ่านผิวกายไปตามเรือนร่างผ่านผ้านุ่งที่แนบเนื้อของผกากรอง ดวงตาคมจดจ้องก้อนเนื้ออวบอิ่มที่ล้นขอบผ้ากระโจมอกออกมา แล้วเผลอขยับตัวเข้าไปหาแม่ผกากรองโดยไม่รู้ตัว
“อุ๊ย! พี่ก้อน!”
ผกากรองแสร้งร้องอย่างตกใจ ก้อนที่เพิ่งรู้ตัวพลันรีบหันหลังหลบ มุมปากของผกากรองยกขึ้นเย้ยหยันอยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะทนได้สักเท่าไรกัน
“ขออภัยด้วย ข้าไม่รู้ว่าเอ็งจะมาอาบน้ำเวลานี้”
ปกติแล้วทาสในเรือนจะมาอาบน้ำตั้งแต่เย็นย่ำก่อนตะวันตกดิน น้อยนักที่จะมาอาบน้ำกลางดึกเยี่ยงนี้ ทว่าก้อนเป็นบ่าวคนสนิทของท่านเศรษฐีเพชร ดังนั้นต้องรอจนท่านเศรษฐีเข้าหอนอนจึงสามารถกลับมาอาบน้ำเข้านอนได้
“เมื่อเย็นคนมาอาบน้ำกันมากนัก ฉันก็เลย ว้าย!”
ตู้ม! เสียงคนตกน้ำทำให้ก้อนหันกลับมามอง เมื่อเห็นว่าผกากรองหายไปก็รีบกระโจนลงไปในสายน้ำรวบเอวบางมาแนบชิด ผกากรองแสร้งตีหน้าตื่นตระหนก อกอวบอิ่มที่ปะทะแนบชิดทำให้ก้อนร้อนผ่าวไปทั้งที่เนื้อตัวอยู่กลางสายน้ำเย็น ทว่ายังมิทันเอ่ยคำใดก็มีเสียงคนดังมาจากบนท่า
“พี่ก้อนจ๋า!”
อีเย็น! ผกากรองลอบยกมุมปากเจ้าเล่ห์
“แย่แล้ว หากพี่เย็นเห็นฉันอยู่กับพี่ก้อนต้องเอาฉันตายแน่ๆ”
เรื่องที่เย็นพึงพอใจในตัวเขานั้นก้อนรู้ดีกว่าผู้ใด ดังนั้นจึงเข้าใจความกังวลของผกากรอง หากแต่ยามนี้พวกเขาอยู่ในแม่น้ำ หากเย็นเดินมาย่อมยากจะหลบซ่อน
“พี่ก้อนพาฉันไปหลบที่ใต้ท่าน้ำก่อน”
ก้อนได้ยินคำของผกากรองก็ว่ายน้ำประคองผกากรองไปชิดท่า โชคดีที่ช่วงนี้น้ำลด ทำให้ใต้ท่าน้ำมีช่องว่างเพียงพอให้ผกากรองลอยคอ เพียงแต่เพื่อบังคนใต้ท่าน้ำจากสายตาของเย็น ก้อนจำต้องวางแขนทั้งสองข้างไว้บนท่า ให้ผกากรองอิงแอบกอดเอวหนาของเขาเอาไว้แทน
“พี่ก้อนจ๋า ให้ฉันอาบน้ำด้วยคนนะ”
เสียงของเย็นดังอยู่บนท่า ผกากรองยกมุมปากเย้ยหยัน ขยับตัวโอบกอดเอวหนา ทำให้ใบหน้าของเธอวางอยู่ที่กลางอกกว้าง จงใจให้ลมหายใจรินรดยอดอกของชายหนุ่ม พร้อมกับอกอวบอิ่มอยู่กับส่วนที่ตื่นตัวของบุรุษ
“เอ็งเป็นหญิงจะมาอาบน้ำกับข้าได้เยี่ยงไร กลับเรือนไปเสีย”
ก้อนเอ่ยเสียงดุจริงจัง มือที่วางอยู่บนท่ากำเข้าหากันแน่น ร่างกายเกร็งสะท้านยิ่งยามที่ลมหายใจอุ่นของผกากรองรินรดบนอกแกร่งร่างกายของเขาก็ยิ่งทวีความร้อนรุ่ม เอ่ยเสียงตวาดคนบนท่า
“แต่ฉันอยาก…”
“หากเอ็งยังดื้อดึงมิฟังคำ ต่อไปก็มิต้องมาวุ่นวายกับข้าอีก”
“พี่ก้อน!”
เย็นกระทืบเท้าอย่างขัดใจ หมุนตัวเดินกลับเรือนนอน ก้อนรีบถอยออกจากท่าน้ำ พร้อมกับดึงผกากรองให้ห่างตัว
“ขออภัยด้วย”
ใบหน้าของก้อนร้อนผ่าว เอ่ยเสียงเบาอย่างละอายใจ เมื่อครู่เขาไม่อาจควบคุมความต้องการของตัวเอง ผกากรองที่อยู่แนบชิดย่อมสัมผัสได้
“ให้ข้าช่วยพี่ดีหรือไม่” ก้อนตวัดสายตามองคนตรงหน้าด้วยความตื่นตกใจ
“เอ่อ…ฉัน…ฉันกลับเรือนน่าจะดีกว่า” ผกากรองคิดว่าตนเองรีบร้อนเกินไปจนไก่ตื่น ก็แสร้งเขินอายหมุนตัวไปจับท่าน้ำเพื่อจะปีนขึ้น ทว่าไม่ทันได้ยกตัวขึ้นจากสายน้ำ เอวบางก็ถูกโอบรัดจากด้านหลัง ลำคอขาวถูกซุกไซ้สูดดม
“เอ็งพูดจริงรึ ผกากรอง”
มุมปากของผกากรองยกขึ้นเย้ยหยัน ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าก้อนจะเป็นผู้ชายที่แตกต่างจากผู้อื่น ที่แท้ก็มิต่างกัน
“พี่ก้อน…อะ…”
เสียงครวญแผ่วเบาของผกากรองปลุกเร้าอารมณ์ที่พยายามอดกลั้นของก้อนจนมิอาจควบคุมได้อีก มือหนากระชากปมผ้ากระโจมอกของผกากรองจนหลุดลุ่ย ก่อนจะวางฝ่ามือหนาทาบทับอกอวบอิ่มบีบเคล้นจนผกากรองปวดร้าวไปทั้งสองเต้า
“พะ…พี่ก้อนฉันเจ็บ”
ก้อนมิได้สนคำร้องของผกากรอง ปลดผ้านุ่งของตนโยนวางบนท่าน้ำ จับร่างอวบอิ่มของผกากรองหันมาเผชิญหน้า ผกากรองกอดรัดต้นคอหนาพร้อมกับยกเรียวขาขึ้นโอบเอวสอบของเขาอย่างช่ำชอง ขณะที่ก้อนใช้มือจับท่าน้ำยึดเป็นหลัก ก่อนจะขยับเอวสอบสอดประสานเกี่ยวกระหวัดแนบชิดกายสาวอยู่ในสายน้ำ
“อ่า…ผกากรอง เอ็งเก่งยิ่งนัก”
เสียงทุ้มครวญต่ำแผ่วเบาที่ข้างหูผกากรอง เมื่อเอวบางขยับโยกเข้าหาเขา ริมฝีปากเล็กกดแนบที่ลำคอแกร่งจงใจดูดดึงฝากรอยรักเอาไว้อย่างเด่นชัด
“เราไปต่อกันที่เรือนข้าได้หรือไม่”
หลังจากที่ปลดปล่อยความสุขสมคราแรกไปแล้ว ก้อนก็เอ่ยร้องขอเสียงแหบพร่า เพราะสถานที่ไม่อำนวยเขาจึงบรรเลงบทรักได้อย่างไม่เต็มที่ ร่างกายจึงคล้ายยังไม่อิ่มเอม ไม่รอให้ผกากรองตอบรับก็จับเธอยกขึ้นจากสายน้ำแล้วทาบทับกายลงบนท่า
“หากเอ็งมิไปข้าก็จะรักเอ็งเสียตรงนี้”
“ว้าย! พี่ก้อนอย่าจ้ะ! ประเดี๋ยวมีคนมาเห็น”
“เยี่ยงนั้นเอ็งก็ไปที่เรือนกับข้า”
ผกากรองแสร้งเม้มริมฝีปากอย่างเขินอาย ก้อนเร่งนุ่งผ้าแล้วช้อนร่างอวบอิ่มเข้าแนบอก ก้าวเท้าอย่างรวดเร็วกลับเรือนของตน ก่อนจะตักตวงรสรักจากกายสาวอย่างหนักหน่วงทั้งคืน จวบจนฟ้าสางจึงได้ยอมลุกขึ้นจากเสื่อนอน
“ข้าต้องเร่งไปรับใช้ท่านเศรษฐี เอ็งลุกไหวหรือไม่ หากไม่ไหวข้าจะไปบอกที่โรงครัวว่าเอ็งไม่สบาย”
“ผู้อื่นจะมิว่าฉันเอาหรือจ๊ะ”
“หากมีใครว่าเอ็งข้าจะออกหน้าให้ งานใดข้าก็จะรับทำแทน”
เมื่อมีโอกาสได้พักไม่ต้องทำงานหนักเช่นวันก่อนๆ ผกากรองก็รีบคว้าเอาไว้ในทันที เอนกายลงนอนบนเสื่อหยาบด้วยความอ่อนแรง
บุรุษล้วนเหมือนกันทั้งสิ้น ยามได้ลิ้มรสสวาทก็หลงใหลมัวเมา สั่งการใดก็ล้วนยินยอมแต่โดยดี
“อีผกากรอง!”
เสียงของเย็นตวาดก้องที่หน้าเรือนนอนของก้อน ก่อนที่ประตูเรือนจะเปิดออก ผกากรองที่เพิ่งเอนกายลงได้ไม่นานค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นอย่างเกียจคร้าน ช้อนดวงตามองใบหน้าถมึงทึงของเย็นอย่างเย้ยหยัน
“ว่าอย่างไรจ๊ะพี่เย็น”
น้ำเสียงและสีหน้าเยาะเย้ยของผกากรองทำให้โทสะในใจของเย็นพุ่งทะยาน ยิ่งเห็นมือขาวจงใจลดผ้าคลุมไหล่ลงเหลือเพียงผ้าแถบคาดอกเผยรอยรักบนเนื้อตัวขาวผ่องความริษยาในใจก็ทำให้สติของเย็นขาดสะบั้นถลาเข้าใส่หมายทุบตี หากแต่ผกากรองมิใช่ไก่อ่อนที่จะยินยอมให้ถูกรังแกอีกต่อไป แม้จะยังอ่อนเพลียจากศึกรักเมื่อคืนแต่ก็เบี่ยงตัวหลบการโจมตีของเย็นจนอีกฝ่ายเสียหลักหน้าทิ่มลงพื้น ตกเป็นรองถูกผกากรองขึ้นคร่อมตบตีแทน
“อีผกากรอง อีสันดานชั่ว อีคนจัญไร มึงแย่งพี่ก้อนของกู”
“คนเยี่ยงกูคงมิจำเป็นต้องลดตัวไปแย่งกับมึงดอกกระมัง เพราะหน้าตาเยี่ยงมึงต่อให้แก้ผ้าจนหมดตัวชายใดเขาก็มิเอา”
“อร๊าย! อีผกากรอง”
เสียงโหวกเหวกโวยวายตบตีของผกากรองและเย็นดังลั่นเรือนพักของก้อน จนทาสเรือนหลังต้องขึ้นไปรายงานคนบนเรือน ก้อนที่รู้ว่าผกากรองถูกรังแกก็เร่งรุดกลับมาที่เรือน ผกากรองที่ลอบมองเห็นร่างสูงกำยำกำลังตรงมาที่เรือนก็แสร้งผ่อนแรง จนเสียทีถูกเย็นจับพลิกลงไปนอนบนพื้น ง้างมือขึ้นตบตี หากแต่มิทันได้ลงมือข้อมือก็ถูกก้อนจับห้ามออกแรงดึงเย็นออกจากผกากรองแล้วผลักจนเย็นกระเด็นไปชนผนังเรือน
“พี่ก้อนช่วยฉันด้วย พี่เย็นเข้ามาทำร้ายฉัน”
“อีสันดานชั่ว มึงกล้ายั่วยวนพี่ก้อนของกูรึ”
ผกากรองตีหน้าเศร้าคร่ำครวญน้ำตาอาบแก้ม ก้อนที่ถูกรสรักครอบงำเป็นทุนเดิมก็ชี้นิ้วตวาดก้อง
“หยุดนะเย็น! ข้ามิใช่ของของเอ็งและมิเคยคิดอยากได้เอ็งเป็นเมีย ต่อไปอย่าได้มายุ่งกับข้าหรือรังแกผกากรองอีก”
“พี่ก้อน! นี่พี่…”
เย็นได้ยินวาจาตัดรอนไม่เหลือเยื่อใยของก้อนหัวใจก็แตกสลาย ถ้อยคำติดอยู่ลำคอ น้ำตาไหลลงอาบแก้ม กำมือเข้าหากันแน่นยืนตัวสั่นสะท้าน
“พี่เย็น ฉันกับพี่ก้อนมีใจตรงกัน เหตุใดพี่ต้องขัดขวางด้วย”
ผกากรองแสร้งบอกเสียงสั่นราวหวาดกลัว พลางขยับตัวโอบกอดซบอกแกร่งด้วยท่าทางชวนเวทนา หากแต่แววตาที่ส่งมองไปยังเย็นนั้นกลับมีแววเยาะเย้ยเหยียดหยันอยู่ในที เย็นกำมือเข้าหากันแน่น จดจ้องมองกลับด้วยความอาฆาตแค้นในอก
“แล้วพี่จะเสียใจที่หลงเชื่อคำพูดหญิงแพศยาเยี่ยงอีผกากรอง”
ก้อนมองแผ่นหลังของเย็นที่จากไปแล้วถอนหายใจยาว ก่อนจะจับตัวผกากรองมาหมุนไปมา สำรวจหาร่องรอยบาดเจ็บ
“เอ็งเจ็บที่ตรงไหนหรือไม่ผกากรอง”
ผกากรองยิ้มกว้าง ขยับเรียวแขนขึ้นโอบลำคอหนา ช้อนตาขึ้นสบสายตาคมพลางเอ่ยเสียงแหบพร่า
“เจ็บไปทั้งตัวเลยจ้ะ พี่ก้อนทายาให้ฉันหน่อยได้หรือไม่”
ก้อนมิใช่บุรุษอ่อนหัด มีหรือจะไม่เข้าใจที่ผกากรองกำลังสื่อ มือหนาเอื้อมไปปิดประตูแล้วจับร่างในอ้อมแขนกดลงบนพื้น
เย็นที่ยืนร่ำไห้อยู่หน้าเรือนของก้อน ฟังเสียงครวญหวานสอดประสานเสียงทุ้มต่ำดังแผ่วออกมาด้วยใจที่เจ็บช้ำ หลายปีมานี้เธอรักมั่นต่อก้อนมาโดยตลอด แม้อีกฝ่ายไม่มีท่าทีตอบรับแต่ก็มิได้แสดงความรังเกียจทำร้ายจิตใจกันถึงเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะผกากรองผู้เดียว
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว : บทส่งท้าย
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 15 : สิ้นรักไร้สวาท (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 15 : สิ้นรักไร้สวาท (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 14 : ทำหน้าที่เมีย (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 14 : ทำหน้าที่เมีย (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 13 : เล่ห์มารยา (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 13 : เล่ห์มารยา (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 12 : มีเงินท่วมหัว มิเท่ามีผัวพระยา (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 12 : มีเงินท่วมหัว มิเท่ามีผัวพระยา (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 11 : ยวนสวาท (3)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 11 : ยวนสวาท (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 11 : ยวนสวาท (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 10 : ยั่วราคะ (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 10 : ยั่วราคะ (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 9 : เปื้อนราคี (3)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 9 : เปื้อนราคี (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 9 : เปื้อนราคี (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 8 : กลรักดอกแก้ว (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 8 : กลรักดอกแก้ว (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 7 : เล่ห์ร้ายผกากรอง (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 7 : เล่ห์ร้ายผกากรอง (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 6 : เพลิงริษยา (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 6 : เพลิงริษยา (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 5 : ไฟรัญจวน (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 5 : ไฟรัญจวน (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 4 : อวลกลิ่นดอกแก้ว (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 4 : อวลกลิ่นดอกแก้ว (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 3 : กรุ่นกลิ่นผกากรอง (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 3 : กรุ่นกลิ่นผกากรอง (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 2 : ดวงบริพัตร (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 2 : ดวงบริพัตร (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 1 : ดวงกาลกิณี (2)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 1 : ดวงกาลกิณี (1)
- READ กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว : บทนำ