แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฏิหาริย์ บทที่ 8 : ขวากหนามของวิศรุต (2)

แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฏิหาริย์ บทที่ 8 : ขวากหนามของวิศรุต (2)

โดย : ณรัญชน์

Loading

แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฏิหาริย์ นวนิยายเรื่องล่าสุดจาก ณรัญชน์ ที่อ่านเอาคัดสรรมานำเสนอ กับเรื่องราวของกระจกโบราณที่สามารถทำนายอนาคตมนุษย์ทุกคนได้อย่างแม่นยำ ‘วิศรุต’ จึงใช้มันมาลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง แม้นั่นจะหมายถึงการทำลายล้างคนรอบข้างอย่างโหดเหี้ยม ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่เขารัก นวนิยายออนไลน์จาก www.anowl.co

เช้าวันนี้นายปกรณ์เรียกนาราไปพบที่บ้าน เล่าสถานการณ์ยุ่งเหยิงของธิปกให้ฟัง แล้วปรารภว่าไม่รู้จะหาคนรักให้ชายหนุ่มได้อย่างไรถึงจะรวดเร็วทันสถานการณ์ พูดจบเขาก็ชำเลืองมองนารา เห็นกำลังนั่งฟังเพลินเหมือนฟังละครวิทยุ ชายชราก็หัวเราะ

‘เธอจะลองทำงานอีกสักชิ้นไหมล่ะ คราวนี้เจ้าธิปกกำลังเดือดร้อนหนัก ฉันว่าต่อให้เธอเรียกค่าจ้างแพงแค่ไหนเขาก็ยอมจ่าย’ นายปกรณ์บอก

นาราเพิ่งเข้าใจเจตนาของเจ้าของบ้านก็ตอนนั้นเอง พอเห็นโอกาสปลดหนี้ถูกจัดใส่พานมาวางถึงตักเธอก็ตาลุกวาว นายปกรณ์พูดต่อไป

‘ตอนบ่ายธิปกจะพากุลธิดาไปกินน้ำชาที่บางรัก ถ้าเธอจะตามไปอย่าลืมแต่งตัวสวยๆ ด้วย ให้สมเป็นคนรักเจ้าธิปกหน่อย’

ธิปกเองก็มองออกเช่นเดียวกับนายปกรณ์ว่าความรู้สึกที่กุลธิดามีต่อเขาไม่ได้ลึกซึ้งเฉกเช่นหญิงสาวหลงรักชายหนุ่ม แต่ถ้าเขาพูดไปตามตรงหรือแม้แต่บอกว่าไม่ได้มีใจให้ กุลธิดาที่ถูกพ่อแม่พะเน้าพะนอมาจนเคยตัวคงจะรับไม่ได้ ถ้าเด็กสาวออกฤทธิ์ออกเดชไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ย่อมจะกระทบไปถึงมิตรภาพระหว่างนายปกรณ์กับคุณนิพนธ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธิปกไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้นเลย

การดึงนารามาแสดงตัวเป็นคนรัก จึงน่าจะเป็นทางออกที่ละมุนละม่อมที่สุดแล้วในเวลานี้

“ขอบคุณมาก ผมเองก็กำลังมืดแปดด้านไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน” ธิปกยอมรับตามตรง

นารายิ้มกว้าง อยากจะล้อว่าเห็นเขาทำหน้าเฉยๆ ทั้งวัน เอาเข้าจริงก็เสน่ห์แรงเหมือนกันนะ แต่พอปะทะเข้ากับสายตาคมดุเธอก็กลืนคำล้อเลียนลงไปทันที

“ถ้าอย่างนั้นต่อไปฉันจะแสดงตัวคนรักของคุณชั่วคราว จนกว่าคุณกุลธิดาจะกลับลำปาง คุณเองก็ต้องทำตัวให้แนบเนียนอย่ามีพิรุธให้ใครจับได้ล่ะ” นารากระแอมเบาๆ ก่อนจะวกเข้าเรื่องสำคัญที่สุด

“แต่ค่าแรงคราวนี้ฉันขอสามพันบาท ราคานี้ขาดตัว ห้ามต่อห้ามขอลด ไม่อย่างนั้นคุณก็ยอมถูกคุณกุลธิดาจับมัดมือชกให้แต่งงานไปก็แล้วกัน”

นึกแล้วเชียวต้องมาไม้นี้! ธิปกนึกปลงอยู่ในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา เขาเพียงแต่พยักหน้ารับ

“ก็ได้ หักจากหนี้ที่คุณติดผมอยู่ แต่ว่าคุณต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ทำร้ายจิตใจคุณกุลธิดาเกินไปนัก ถึงอย่างไรเธอก็ยังเด็กแล้วที่บ้านก็คงตามใจกันมามาก ผมไม่อยากให้เธอสะเทือนใจ”

นารายิ้มกริ่ม คิดถึงหนี้สินที่ลดลงไปหลายพันบาทแล้วแสนจะอิ่มเอมในหัวใจ แสงจากโคมบนเพดานสาดจับแก้มนวลที่กำลังเป็นสีชมพูเพราะความปราโมทย์ รับกับริมปากอิ่มเคลือบสีทับทิมสดใส แม้จะแต่งหน้าเข้มกว่าปกติจนดูเป็นสาวเต็มตัว ทว่านัยน์ตาเป็นประกายพราวด้วยรอยหัวเราะนั้นก็ยังเป็นแววตาของเด็กซนจอมเจ้าเล่ห์คนเดิม ธิปกเผลอมองจนลืมบรรยากาศรอบข้างไปชั่วขณะ

“ฉันมีแผนเรื่องคุณชัชวาลจะบอกคุณด้วย”

คนที่กำลังมองเพลินแทบสะดุ้งเมื่อจู่ๆ คู่สนทนาของเขาก็วางแก้วน้ำชาลงบนจานรอง เปลี่ยนมาทำหน้าขึงขัง

เหตุการณ์ที่ถูกชัชวาลใส่ร้ายเป็นแผลในใจธิปกมาตลอด เมื่อครั้งที่ถูกไล่ออกจากบ้านนายมงคลใหม่ๆ เขาเคยไปพบชัชวาลเพราะยังคิดในแง่ดีว่าเพื่อนอาจจะมีความจำเป็นบางอย่าง ที่ไม่อาจพูดออกมาต่อหน้าวิศรุต แต่อดีตเพื่อนตอกกลับมาอย่างไม่แยแส

‘ชีวิตแกสุขสบาย ได้คุณมงคลช่วยอุปถัมภ์ ไม่มีทางเข้าใจคนที่ต้องดิ้นรนอย่างฉันหรอก ในเมื่อไม่มีใครหยิบยื่นโอกาสให้ฉันอย่างที่แกได้รับ ฉันก็ต้องสร้างโอกาสให้ตัวเอง ผิดด้วยหรือที่ฉันจะทำทุกอย่างให้ชีวิตตัวเองและชีวิตแม่ฉันดีขึ้น’

พ่อของชัชวาลเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว นางพยอมแม่ของเขาต้องทำงานหลังขดหลังแข็งหาเลี้ยงลูกชายมาจนโต ธิปกรู้ว่าชัชวาลรักแม่ของเขามาก หวังจะเห็นนางสุขสบายกว่าที่เป็นอยู่ แต่เขาไม่เคยเฉลียวใจเลยว่าเพื่อนจะแอบเปรียบเทียบตัวเองกับเขาอยู่เงียบๆ นานวันเข้าจากความขุ่นเคือง น้อยใจในชะตาชีวิต ก็เปลี่ยนเป็นริษยาที่เห็นเขามีนายมงคลยื่นมือมาเกื้อหนุน

‘แกจะเกลียดฉันก็เชิญได้เต็มที่เลยได้นะธิปก แต่ถ้าฉันมัวแต่ยึดถือความซื่อสัตย์เมื่อไรฉันกับแม่จะสบายเสียที โลกมันก็เป็นอย่างนี้ละ มือใครยาวสาวได้สาวเอา ไม่มีที่ว่างให้คนใจอ่อนหรอก’

ท่าทางของชัชวาลในวันนั้น บอกชัดว่าไม่ละอายใจหรือรู้สึกผิดที่ทำลายชีวิตธิปกเลยแม้แต่น้อย จนเขานึกไม่ออกว่านาราจะเกลี้ยกล่อมอดีตเพื่อนได้อย่างไร

“คุณจะทำอย่างไรหรือ ชัชวาลเป็นคนใจแข็งแล้วก็เจ้าทิฐิ ไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ ผมไม่คิดว่าเขาจะยอมฟังคุณหรอกนะ”

ตรงกันข้ามกับธิปก นาราไม่มีความคิดจะหว่านล้อมชัชวาลเลยสักนิด เธอผจญกับการข่มเหงของกมลเนตรมาหลายปี ทำไมจะไม่รู้ว่าคนยกเอาความโชคร้ายของตัวเองมาเป็นข้ออ้างในการเหยียบย่ำคนอื่น เพราะเหตุนี้กมลเนตรถึงวางตัวเป็นบริวารของรพีพรรณ คอยช่วยพี่สาวรังแกนาราทุกวิถีทางทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน ก็เพื่อให้ตัวเองเป็นคนโปรดของเจ้าของบ้าน จะได้อยู่ในบ้านอย่างสุขสบายอย่างไรเล่า

ชัชวาลเองก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ผลประโยชน์ที่ล่อใจเขาเป็นเงินก้อนใหญ่กว่ากมลเนตรเท่านั้น

“คนอย่างนายชัชวาลเกลี้ยกล่อมไปก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนคนใจอ่อนอย่างคุณก็แย่พอกัน ฉันกับคุณปกรณ์เลยดำเนินการกันไปแล้ว” นาราบอก

ช่วงที่ชัชวาลตั้งร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างขึ้นมาใหม่ๆ สินค้าขายดีทำกำไรเป็นกอบเป็นกำก็เพราะได้คำสั่งซื้อจากธิปกซึ่งถูกหลอกให้สั่งเข้ามาด้วยความเข้าใจผิด แต่หลังจากวิศรุตเปิดโปงความจริงจนธิปกถูกไล่ออกจากบริษัทของนายมงคลแล้ว ใบสั่งสินค้าปริมาณมากๆ ก็ขาดหายไป

นาราเชื่อว่าถ้ามีคนสั่งสินค้าล็อตใหญ่อย่างเมื่อก่อนเข้ามาอีก ถึงแม้จะเป็นคำสั่งเร่งด่วน ให้หาของให้ได้ภายในสองสัปดาห์ คนโลภจนหน้ามืดตามัวอย่างชัชวาลจะต้องกระโจนเข้าใส่โดยไม่รั้งรอ

หลังจากชัชวาลกว้านซื้อสินค้ามาเก็บไว้ที่ร้าน เขาก็พบว่าลูกค้าที่สั่งสินค้าไว้ไม่ยอมมารับของตามกำหนด ซ้ำร้ายเช็คที่จ่ายเป็นเงินมัดจำก็เด้งไม่เป็นท่า เขาจึงขาดทุนป่นปี้ เมื่อตกที่นั่งลำบากคนที่ชัชวาลจะคิดถึงก็ย่อมเป็นคนที่เขาจะสามารถไปขอเงินมาได้

“หมายความว่าคุณหลอกล่อให้ชัชวาลไปขอเงินจากคุณวิศรุต” ธิปกถาม แล้วก็นึกคำตอบได้เอง “คุณวิศรุตคงไม่ยอมให้เงินชัชวาล ไม่อย่างนั้นก็จะถูกขู่เข็ญไปเรื่อยๆ และเอาเข้าจริงคุณวิศรุตก็ไม่ได้มีเงินส่วนตัวมากมายนักหรอก เพราะคุณมงคลยังไม่ได้แบ่งมรดก คุณวิศรุตยังกินเงินกงสีอยู่เลย”

นาราพยักหน้า “ใช่ เมื่อคุณวิศรุตไม่ยอมให้เงิน นายชัชวาลก็ไม่มีความจำเป็นต้องปกป้องคุณวิศรุตอีกแล้ว พอเขาหมดหนทาง ถ้าคุณไปต่อรองให้นายชัชวาลไปสารภาพความจริงกับคุณมงคล แล้วคุณจะยอมจ่ายเงินค่าสินค้าที่เขาซื้อมาตุนไว้ นายชัชวาลนั่นกลัวหมดตัวอย่างกับอะไรดี จะต้องยอมแน่ๆ”

ธิปกถอนหายใจ เนื้อแท้ของเขาเป็นคนใจดี ไม่ชอบบีบคั้นใครและไม่ชอบใช้เล่ห์อุบายอย่างที่นารากำลังทำอยู่ แต่เมื่อผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมาแล้ว ชายหนุ่มก็จำต้องยอมรับว่าในโลกที่สลับซับซ้อนเต็มไปด้วยคนคดใบนี้ ยากเหลือเกินที่จะดำรงความตรงไปตรงมาได้ตลอดรอดฝั่ง

“เอาเถอะ หวังว่าแผนของคุณจะสำเร็จด้วยดีก็แล้วกันนะ”

เวลานี้ไม่มีอะไรที่จะทำได้นอกจากรอให้แผนการของนาราผลิดอกออกผล ธิปกจึงปัดความกังวลใจเรื่องชัชวาลทิ้งไปชั่วคราว เขาหันไปเรียกพนักงานให้คิดเงินค่าขนมและน้ำชาของนารา

“ผมสั่งให้ช่างทำเล็บให้คุณกุลธิดาด้วย กว่าจะทำผมทำเล็บเสร็จยังไงก็ใช้เวลามากกว่าชั่วโมง ผมมีที่หนึ่งอยากจะพาคุณไปก่อน”

รถของธิปกแล่นไปจอดหน้าร้านขายเครื่องประดับบนถนนบ้านหม้อ เขาดับเครื่องยนต์แล้วลงมายืนรอข้างรถ นึกแปลกใจที่นารายังนั่งเฉยไม่ยอมขยับตัว

“ไม่ลงมาหรือคุณ นั่งรออะไรอยู่” เขาเดินมาถาม

นารามองชายหนุ่มด้วยสายตากระหยิ่มยิ้มย่อง “ตอนนี้ฉันเป็นคนรักของคุณอยู่นะคุณธิปก แล้วเวลาผู้ชายมากับคนรักก็ต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ คอยดูแลให้คนรักสะดวกสบายไม่ใช่หรือ”

ธิปกคิดอยู่อึดใจก็เข้าใจเจตนาของอีกฝ่าย เขาวางหน้าปั้นยากแต่ก็ยอมทำหน้าที่สุภาพบุรุษเปิดประตูรถให้หญิงสาวก้าวลงมาโดยดี รอยยิ้มของนาราแจ่มกระจ่างแข่งกับแสงแดดในบริเวณนั้น

“ต่อไปอย่าลืมเอาใจฉันมากๆ นะคะที่รัก คิดซะว่าฝึกซ้อมไว้ก่อนที่คุณจะไปมีคนรักจริงๆ ไง”

หญิงสาวสะบัดผมก่อนจะก้าวฉับๆ เข้าไปในร้าน ด้านในไม่กว้างนัก ตั้งตู้กระจกใสตลอดความยาวของห้อง ภายในตู้จัดวางเครื่องประดับเพชรพลอยหลากหลายแบบ ธิปกที่เดินตามมาดันข้อศอกนาราเบาๆ ให้นั่งลงบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์

“ผมอยากได้แหวนสวยๆ สักวง” เขาบอกพนักงานขาย

พนักงานสาวส่งยิ้มให้อย่างผู้ชำนาญในการดูแลลูกค้ากระเป๋าหนัก ขณะหยิบแหวนสองสามวงขึ้นมาให้เลือก นารากระซิบถามธิปกเบาๆ

“คุณจะซื้อแหวนทำไมไม่พาคนที่คุณจะให้มาเลือกเองล่ะ มากับฉัน ฉันจะไปรู้หรือว่าคนรับเขาชอบแบบไหน”

“ผมต้องพาคุณมาสิ ก็คุณเป็นคนใส่นี่” ธิปกตอบง่ายๆ

“หา! ฉันนี่นะจะใส่แหวนเพชรพวกนี้” นาราตกใจ

“ก็คุณบอกคุณกุลธิดาไปว่าผมซื้อแหวนให้ไม่ใช่หรือ” ธิปกพยักหน้าไปที่แหวนเงินลงยาบนนิ้วของหญิงสาว

“ถ้าเราจะแสดงตัวเป็นคนรักกัน คนรักของผมต้องได้แต่สิ่งที่ดีที่สุด ขืนใส่แค่แหวนเงินคุณกุลธิดาจะคิดว่าผมยังชอบคุณไม่มากพอ เดี๋ยวเธอจะไม่ตัดใจ”

อธิบายเสร็จธิปกก็ชี้ไปที่แหวนมรกตวงหนึ่งที่วางอยู่ในตู้กระจก

“เอาวงนี้เป็นไง แบบสวย ขนาดก็กำลังดีไม่ใหญ่เกินไป จะได้ไม่เกะกะนิ้ว” เขาบอกพนักงานให้หยิบแหวนวงที่ต้องการขึ้นมาให้นาราลองสวม

พอรู้ว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการแสดง ไม่ต่างจากเครื่องทรงที่นางละครสวมขึ้นกรีดกรายบนเวทีเท่านั้น นาราก็เลิกลังเล หยิบแหวนวงนั้นวงนี้มาลองสวมอย่างสนุกสนาน สุดท้ายแหวนมรกตที่ธิปกเลือกก็ถูกใจหญิงสาวที่สุด

“ต่อไปคุณต้องใส่แหวนนี่ติดนิ้วไว้ตลอด ห้ามถอดจนกว่าคุณกุลธิดาจะยอมกลับลำปาง” ธิปกกำชับ

นารามองพนักงานวางแหวนลงในกล่องกำมะหยี่ก่อนจะบรรจุลงถุงผ้าที่มีสัญลักษณ์ของร้านประทับอยู่ด้านบน แล้วอดหัวเราะไม่ได้

“โอ้โห! ขนาดเพิ่งเป็นคนรักกำมะลอแค่ไม่ถึงชั่วโมงคุณธิปกยังลงทุนขนาดนี้ ถ้าคบกันจนแต่งงานจะได้สินสอดมากขนาดไหน ฉันเชื่อแล้วว่าคนรักของคุณต้องได้สิ่งที่ดีที่สุด น่าอิจฉาจริงๆ”

ธิปกไม่ตอบประโยคที่เขาเห็นว่าเป็นเพียงคำล้อเลียนไม่มีสาระ เขาจ่ายเงินแล้วพานารากลับมาที่รถ แต่หญิงสาวยืนยันว่าจะนั่งรถรับจ้างกลับบ้านเอง ขณะที่ธิปกยังมีภารกิจต้องกลับไปรับกุลธิดาที่ร้านทำผมอีก

“หลังจากนี้เราต้องไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ อย่าลืมยิ้มหวานให้ฉัน แล้วก็ทำท่ารักฉันเพิ่มขึ้นมากๆ ทุกครั้งที่พบกันด้วยนะ” นาราบอกด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นเล็กน้อยเมื่อพูดต่อไป

 “ส่วนเรื่องนายชัชวาลไม่ต้องเป็นห่วง คนของคุณปกรณ์คอยจับตาดูเขาอยู่แล้ว ฉันว่าอีกไม่กี่วันคุณก็ไปเจรจากับเขาได้แล้วละ”

 



Don`t copy text!