แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 13 : นางงามคนนี้มีอดีตไม่ธรรมดา (2)
โดย : ณรัญชน์
แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ นวนิยายเรื่องล่าสุดจาก ณรัญชน์ ที่อ่านเอาคัดสรรมานำเสนอ กับเรื่องราวของกระจกโบราณที่สามารถทำนายอนาคตมนุษย์ทุกคนได้อย่างแม่นยำ ‘วิศรุต’ จึงใช้มันมาลิขิตชะตาชีวิตตัวเอง แม้นั่นจะหมายถึงการทำลายล้างคนรอบข้างอย่างโหดเหี้ยม ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงที่เขารัก นวนิยายออนไลน์จาก www.anowl.co
แดดอ่อนๆ ยามสายทอดตัวลงจับกลีบกุหลาบสีชมพูที่ปักอยู่ในแจกันแก้ว แต่ละดอกถูกวางลดหลั่นกันอย่างมีชั้นเชิง ตัดกับความเขียวสดของใบเฟิร์นที่แซมอยู่ด้านข้าง รพีพรรณบรรจงปักกุหลาบลงไปอีกดอกหนึ่ง ยกแจกันขึ้นหมุนพิศดูทุกแง่มุม ก่อนริมฝีปากแดงสดจะคลี่ยิ้มให้กับความงดงามอ่อนหวานที่เห็น
มันงามพริ้งพรายราวกับอยู่ในความฝัน…ไม่ผิดอะไรกับชีวิตของเธอเอง
ใครจะเชื่อว่าในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังจากเกิดข่าวฉาวในหน้าหนังสือพิมพ์ รพีพรรณจะกลายเป็นคนดังในวงสังคมของพวกผู้ดีไปได้ ต้องขอบคุณการผลักดันอย่างเต็มที่ของหม่อมภรณี หาไม่แล้วอย่างว่าแต่จะเป็นที่ต้อนรับอย่างทุกวันนี้เลย แม้แต่จะให้หนุ่มสาวที่เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติและชาติตระกูลเหล่านั้นชายตาแลเธอก็ยังยาก
นอกจากจะได้รับเชิญไปงานเลี้ยงแทบจะทุกสัปดาห์แล้ว ยังมีชายหนุ่มหลายคนที่แสดงความสนใจในตัวรพีพรรณ ทั้งหมดร่ำรวย มาจากตระกูลผู้ดีเก่า แต่เพราะรพีพรรณมีวิศรุตเคียงข้างเสมอเวลาออกงานจึงยังไม่มีใครกล้ารุกคืบเข้ามา กระนั้นสายตาหลงใหลจากลูกท่านหลานเธอเหล่านั้นก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ
น่าเสียดาย…ความสุขของรพีพรรณคงจะเพริศแพร้วสมบูรณ์ยิ่งกว่านี้หากเธอเป็นคนให้เลือดหม่อมภรณีจริงๆ หรืออย่างน้อยก็ไม่มีใครอื่นยื่นจมูกเข้ามาล่วงรู้ความลับ…
อารมณ์ผ่องใสสะดุดทันทีเมื่อความคิดดำเนินมาถึงเรื่องสำคัญ มือที่กำลังจับก้านกุหลาบกำแน่นขึ้นตามปริมาณความเครียดที่พุ่งสูงโดยไม่รู้ตัว หนามเล็กๆ แต่คมกริบจึงแทงเข้าที่นิ้วจนหญิงสาวสะดุ้ง รพีพรรณได้สติ รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเลือดพลางไตร่ตรองเรื่องราวให้รอบด้านอีกครั้ง
นอกจากตัวเธอเอง คนที่รู้ความจริงของเรื่องนี้มีด้วยกันสองคน คนหนึ่งคือวิศรุตซึ่งรพีพรรณไม่กังวล เนื่องจากเขาก็ได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าเธอ และยิ่งรพีพรรณเป็นที่รักของหม่อมภรณีมากเท่าไร ก็มีแต่จะเป็นผลดีกับชายหนุ่มมากเท่านั้น จะมีก็แต่คนที่สองนี่ละที่สร้างความหนักใจให้…
คนคนนั้นคือรุ่งรัตน์ นางพยาบาลผู้เป็นห่วงโซ่สำคัญของแผนการนี้ ทว่าพยาบาลสาวไม่ใช่คนซื่อ แม้จะได้เงินค่าตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อไปแล้ว รพีพรรณก็ยังนึกหวั่นอยู่ลึกๆ ว่ารุ่งรัตน์จะนำความลับที่กุมไว้มาข่มขู่ให้ลำบากใจ
แล้ววันนั้นก็มาถึงจริงๆ ซ้ำยังมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เสียด้วย
นายจำนง สามีของรุ่งรัตน์เป็นข้าราชการอยู่ในกระทรวงแห่งหนึ่ง หลังจากรพีพรรณมารับใช้หม่อมภรณี คอยดูแลประจบประแจงจนผูกใจเธอไว้ได้อยู่หมัดแล้ว รุ่งรัตน์ก็มาขอให้รพีพรรณช่วยเหลือให้นายจำนงได้เลื่อนขั้นขึ้นไปรับตำแหน่งแทนหัวหน้าคนเก่าที่ลาออกไป
“พี่จำนงควรจะได้นั่งตำแหน่งนี้มาตั้งนานแล้ว เขาทำงานเก่งแต่ถูกพวกมีเส้นสายกีดกัน คุณรพีช่วยขอร้องหม่อมให้ไปพูดกับเจ้านายของพี่จำนงทีนะคะ แล้วพี่จะไม่ลืมบุญคุณเลย” รุ่งรัตน์ว่า
พยาบาลสาวก็พูดจาอ่อนน้อมคุณรพีคะคุณรพีขาดีอยู่หรอก แต่รพีพรรณรู้ว่าลึกลงไปใต้รอยยิ้มหวานแฉล้มนั้นมีนัยของการข่มขู่แฝงอยู่ และแน่นอนว่ารพีพรรณไม่โง่พอที่จะไปขอร้องหม่อมภรณีจริงๆ จึงเลี่ยงไปใช้วิธีติดสินบนเจ้านายของนายจำนงแทน อาศัยบารมีของหม่อมภรณีบังคับซ้ำลงไปอีกขั้น นายจำนงก็ได้เลื่อนขึ้นไปทำงานในตำแหน่งที่เขาต้องการในที่สุด
แต่การเรียกร้องไม่ได้ยุติลงเพียงเท่านั้น ต่อมาพี่ชายของรุ่งรัตน์ซึ่งทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกับน้องสาวแอบดื่มเหล้าในเวลางาน พอถูกจับได้และเห็นทีว่าคงไม่แคล้วต้องถูกไล่ออกเป็นแน่ รุ่งรัตน์ก็มาอ้อนวอนให้รพีพรรณช่วยอีก
“หม่อมภรณีบริจาคเงินสร้างตึกให้โรงพยาบาลครั้งละตั้งหลายแสน เครื่องมือแพทย์อีกไม่รู้เท่าไร ผู้อำนวยการเกรงใจเธออย่างกับอะไรดี ขอแค่เธอเอ่ยปากไม่มีใครกล้าขัดหรอกค่ะ”
อีกฝ่ายพูดเอาแต่ได้โดยไม่คำนึงถึงความลำบากใจทางฝ่ายเธอ ได้ยินแล้วรพีพรรณก็แทบเก็บอารมณ์ฉุนเฉียวไม่อยู่ แน่นอนว่าหญิงสาวไม่กล้าขอร้องหม่อมให้ออกหน้าช่วยคนผิด ขืนทำอย่างนั้นก็รังแต่จะทำให้หม่อมคลายความเอ็นดูในตัวรพีพรรณน่ะสิ
รพีพรรณต้องวิ่งเต้นเจรจาด้วยตัวเอง อาศัยเงินจากวิศรุตบริจาคเป็นค่าอุปกรณ์การแพทย์ เหน็ดเหนื่อยวุ่นวายอยู่หลายวันกว่าจะเปลี่ยนบทลงโทษพี่ชายรุ่งรัตน์ จากการไล่ออกเหลือเพียงภาคทัณฑ์ได้สำเร็จ
หลังผ่านมรสุมไปได้อีกระลอก หญิงสาวก็ตระหนักว่าเธอจะต้องแบกรุ่งรัตน์และเครือญาติต่อไปไม่รู้จบ และวันหน้ายิ่งรพีพรรณรุ่งเรืองขึ้นจากการสนับสนุนของหม่อมภรณี โอกาสที่รุ่งรัตน์จะข่มขู่และกอบโกยจากเธอได้ถนัดมือก็มากตามไปด้วย
จะมีวิธีไหนคลายบ่วงรัดคอนี้ออกไปได้ไหมหนอ…
ราวกับเทพเจ้าผู้กุมชะตากรรมของมนุษย์ปรารถนาจะทดสอบความอดทนของหญิงสาว ผ่านไปยังไม่ถึงเดือน รุ่งรัตน์ก็มาพบรพีพรรณอีก คราวนี้อีกฝ่ายหน้าดำคร่ำเครียด แววตาขมขื่นทุกข์ร้อนยิ่งกว่าครั้งใดๆ พอรพีพรรณปรากฏตัวในห้องรับแขกยังไม่ทันทักทายกันตามมารยาท รุ่งรัตน์ก็โพล่งออกมาทันที
“คุณรพี คุณต้องสั่งให้แม่กมลเนตรเลิกกับสามีของพี่ เข้าใจไหม ไม่อย่างนั้นไม่ว่าใครหน้าไหนพี่ก็จะไม่เอาไว้ทั้งนั้น”
พยาบาลสาวข่มขู่อย่างเปิดเผย ไม่แม้แต่จะแสร้งพูดจาอ่อนหวานแต่ซ่อนความนัยอย่างเมื่อก่อน รพีพรรณต้องสะกดโทสะที่เดือดปุดๆ ขึ้นมาอย่างยากเย็น สอบถามอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ความว่ารุ่งรัตน์สงสัยมาระยะหนึ่งแล้วว่าสามีจะเมียน้อย แต่เพิ่งจะรู้ในวันนี้เองว่าคนคนนั้นคือกมลเนตร
ที่รู้ก็เพราะเธอไปพบกมลเนตรและนายจำนงอยู่ด้วยกันในห้องมิดชิด กิริยานั่งตักป้อนขนมพลางหัวเราะระริกระรี้นั้นไม่มีทางจะเข้าใจเป็นอื่นไปได้เป็นอันขาด นอกจากบอกถึงความสัมพันธ์ชู้สาวของทั้งคู่
รุ่งรัตน์ตรงเข้าเล่นงานสามีอย่างฉุนเฉียว ทว่านายจำนงไม่ใช่ผู้ชายประเภทยอมหงอให้ภรรยาเสียด้วย ถูกตบมาเขาก็ตบกลับ รอยฟกช้ำบนแก้มรุ่งรัตน์เป็นประจักษ์พยานในเรื่องนี้ พยาบาลสาวจึงต้องแบกความเจ็บช้ำมาหารพีพรรณ ทิ้งท้ายอย่างเฉียบขาดบอกถึงความมั่นใจในอำนาจที่เหนือกว่าว่า
“พี่เห็นว่าแม่กมลเนตรเป็นคนของคุณรพี พี่ถึงมาหาคุณก่อน ไม่เปิดโปงให้แม่กมลเนตรขายหน้าคนเขา แต่ถ้าคุณไม่ยอมห้ามคนของคุณไม่ให้มาวอแวกับสามีพี่อีก พี่ก็ไม่รับรองเหมือนกันว่าจะทำอะไร คุณรพีคงเข้าใจนะคะ”
รพีพรรณเข้าใจดีทีเดียวว่าคำว่า ‘จะทำอะไร’ ที่พูดมานั้นกินความไปยาวถึงเรื่องไหน นับเป็นการวางก้ามข่มขู่กันอย่างพาลพาโล ไม่คำนึงถึงเหตุผลเป็นที่สุด เพราะรพีพรรณไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุวิวาทครั้งนี้เลย…คนถูกขู่ขบฟันแน่น เตือนตัวเองไม่ให้ผรุสวาทออกมาด้วยความคับแค้นใจ
รพีพรรณมีบทเรียนจากครั้งก่อนที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวนาราถูกแม่เลี้ยงจับแต่งงานใช้หนี้มาแล้ว ก่อนรุ่งรัตน์จะลากลับเธอจึงกำชับไม่ให้บอกชื่อกมลเนตรกับใครทั้งสิ้น ป้องกันไม่ให้ความเสียหายลุกลามมาถึงตนเอง
“ถ้าคนรู้ว่าญาติสนิทของฉันไปยุ่งกับสามีคนอื่น ฉันจะต้องเป็นขี้ปากชาวบ้านไปด้วยทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย ส่วนเรื่องที่คุณขอร้อง ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจะพูดกับเนตรเอง” เธอให้ความมั่นใจกับอีกฝ่าย
เย็นวันนั้นหญิงสาวไปพบกมลเนตรที่บ้าน สั่งให้ยุติความสัมพันธ์กับนายจำนงโดยไม่บอกเหตุผลที่แท้จริง อ้างแต่ว่า
“คนเขามีเมียอยู่แล้วเธอจะไปข้องแวะด้วยทำไม ผู้ชายดีๆ กว่านายจำนงมีถมเถ เชื่อฉันเถอะ เลิกกับเขาได้มีแต่จะดีกับตัวเธอเอง”
แต่บังเอิญกมลเนตรกำลังอยู่ในระยะที่เรียกว่า ‘ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน’ นายจำนงเป็นผู้ชายหล่อเหลาแบบคมเข้ม ดวงตาหวานเยิ้ม คำพูดคำจาหรือก็แพรวพรายถูกใจกมลเนตรทุกอย่าง ถึงเขาจะมีภรรยาอยู่แล้วแต่นายจำนงก็รับปากว่าจะหย่ากับรุ่งรัตน์ในเร็วๆ นี้ อีกทั้งการงานก็กำลังก้าวหน้าเพิ่งได้เลื่อนขั้นไปหมาดๆ กมลเนตรจึงไม่เห็นเหตุผลที่ควรเลิกรากับคนรัก
“พี่จำนงเขาจะหย่าอยู่แล้ว แต่เขาเพิ่งรับตำแหน่งใหม่ได้ไม่นานเลยอยากรอจังหวะเหมาะๆ ก่อน ไม่อยากให้คนนินทาว่าได้ดีแล้วถีบหัวส่งเมียเก่า แต่หย่าเมื่อไรเขาจะมาสู่ขอฉันทันทีเลย เธอสบายใจได้”
ปกติกมลเนตรคล้อยตามรพีพรรณเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ยกเว้นครั้งนี้ที่นอกจากจะไม่ยอมแล้ว หญิงสาวยังเกิดสงสัยขึ้นมาเสียด้วยว่าเหตุไฉนรพีพรรณซึ่งวางตัวเองไว้สูงส่ง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของใคร ถึงได้ยอมเป็นธุระให้รุ่งรัตน์มาคาดคั้นในเรื่องส่วนตัวของเธอ ซ้ำพอกมลเนตรไม่รับปากอีกฝ่ายก็เป็นเดือดเป็นร้อน ต่อว่ากมลเนตรอย่างรุนแรงราวกับผู้ชายที่กมลเนตรคบหาอยู่เป็นคนรักของตนเองก็ไม่ปาน
รพีพรรณเกลี้ยกล่อมเพื่อนอยู่เกือบชั่วโมง ท่าทางจริงจังบอกให้รู้ว่าจะไม่ยุติถ้าไม่ได้คำตอบที่หวัง พอขัดไม่ได้จริงๆ กมลเนตรก็ยอมรับปาก แต่เป็นการรับปากเพื่อแก้สถานการณ์ไปอย่างนั้นเอง ใจเธอตั้งมั่นเสียแล้วหัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่เลิกกับนายจำนง ที่ดูท่าว่าจะมีอนาคตสดใสไม่เบาในกระทรวงที่ทำงานอยู่
เมื่อสามียังข้องเกี่ยวกับเมียน้อยบ้านของรุ่งรัตน์ก็ร้อนเป็นไฟ นายจำนงกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้าง หรือต่อให้อยู่บ้านเขาก็มีเรื่องทะเลาะกับภรรยาไม่เว้นแต่ละวัน พยาบาลสาวตรอมตรมราวกับถูกแผดเผาด้วยไฟนรก แต่รุ่งรัตน์ไม่ใช่ไม่ใช่ผู้หญิงหัวเก่าที่จะยอมกินน้ำตาต่างข้าวเมื่อสามีมีผู้หญิงอื่น ลงท้ายเธอก็ตัดสินใจว่าจะเลิกกับนายจำนง ทว่าจะไม่เซ็นใบหย่าให้เมียน้อยมีโอกาสมาแทนที่ แต่จะทำเรื่องขอย้ายไปทำงานในโรงพยาบาลทางภาคอีสานแล้วหายไปจากบ้านเงียบๆ แทน
พอจะอพยพไปอยู่ในแดนไกล ก็เป็นธรรมดาที่รุ่งรัตน์จะอยากได้เงินติดตัวไปสักก้อน กระนั้นหญิงสาวกลับไม่คิดจะขอเงินจากรพีพรรณอีก เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่ไปพบสามีอยู่กับกมลเนตร กมลเนตรได้ตอกหน้าเธอด้วยคำพูดของคนที่เข้าใจญาติตนเองอย่างถ่องแท้
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าทำไมรพีพรรณถึงช่วยเธอ แต่อย่าคิดว่าไปฟ้องรพีแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ อีกอย่างหนึ่ง เธอคิดว่ารพีจะยอมช่วยเธอจริงๆ น่ะหรือ ไปเซ้าซี้มากๆ เข้าเถอะ แล้วสักวันเธอจะรู้ว่ารพีพรรณเป็นคนยังไง ถึงตอนนั้นอย่ามานั่งเสียใจก็แล้วกัน”
รุ่งรัตน์รู้ว่ากมลเนตรเย้ยหยันไปอย่างนั้นเอง ไม่ใช่ว่ารู้ความลับของเธอกับรพีพรรณ แต่ที่อีกฝ่ายพูดมาใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย อย่างน้อยก็เตือนสติให้รุ่งรัตน์สำนึกขึ้นมาบ้างว่าภายใต้เปลือกนอกงดงามละมุนละม่อม รพีพรรณน่าจะเป็นคนร้ายกาจเอาเรื่องเลยทีเดียว
แน่ละสิ ถ้าเป็นผู้หญิงซื่อๆ ไม่มีพิษสง จะสวมรอยเป็นคนบริจาคเลือดให้หม่อมภรณีได้หน้าตาเฉยหรือ…
รุ่งรัตน์ไม่ควรเรียกร้องจากรพีพรรณจนเกินไปนัก เพราะไม่มีใครหรอกจะยอมถูกข่มขู่ไปตลอดชีวิต โดยเฉพาะกับคนร้ายลึกอย่างรพีพรรณ ถ้าหมดความอดทนขึ้นมาเมื่อไร หญิงสาวจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้หลุดพ้นไปจากบ่วงบาศที่รัดคออยู่เป็นแน่
หรือต่อให้รุ่งรัตน์อยู่เฉยๆ ไม่เรียกร้องเงินทองก็เถอะน่า หากลองมองในมุมกลับ เปลี่ยนรุ่งรัตน์เป็นรพีพรรณดูบ้าง เธอจะนอนใจปล่อยให้คนที่กุมความลับสำคัญอยู่สุขดีมีสุขได้ละหรือ
ฉะนั้นตราบใดที่รพีพรรณยังเป็นคนโปรดของหม่อมภรณี มีชีวิตหรูหราอยู่ในสังคมชั้นสูง รพีพรรณก็มีเหตุจูงใจให้กำจัดรุ่งรัตน์ไปได้ตลอดนั่นละ
พยาบาลสาวคิดทบทวนกลับไปกลับมาหลายตลบ ในที่สุดก็ตัดสินใจทำสิ่งที่คิดว่าฉลาดและเป็นประโยชน์ต่อตัวเองมากที่สุด วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะทำเงินให้อย่างน่าพอใจ ยังจะปลิดหนามแหลมที่ชื่อรพีพรรณไปได้โดยเด็ดขาด นับจากนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนรุ่งรัตน์ก็จะปลอดภัย ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรพีพรรณตามเล่นงานอีกแล้ว
ในฐานะนางพยาบาล รุ่งรัตน์รู้มาว่าจงกลนี น้องสาวของหม่อมภรณีมีนัดหมายจะมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพียงแค่รุ่งรัตน์ไปพบ ต่อรองว่าจะบอกความจริงว่าใครกันแน่คือคนที่บริจาคเลือดให้พี่สาวของเธอ แลกกับเงินค่าเปิดปากก้อนใหญ่ๆ สักก้อน จงกลนีคงไม่ปฏิเสธ
หลังจากจงกลนีรู้ความจริง แน่นอนว่าเธอจะต้องรีบไปบอกพี่สาว ทีนี้รพีพรรณก็จะตกสวรรค์ ไม่มีอำนาจเงินทอง รวมถึงไม่จำเป็นต้องเก็บงำความลับใดๆ ที่เป็นเหตุให้ต้องมุ่งร้ายรุ่งรัตน์อีก
รุ่งรัตน์เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง พอนึกอุบายได้เธอก็ลงมือทำตามแผนทันที แรกสุด พยาบาลสาวก็ไปขอแลกเวรกับรุ่นน้องที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลจงกลนี ทำใจเย็นรอจนจงกลนีตรวจร่างกายเสร็จ เข้าไปรอฟังผลในห้องที่โรงพยาบาลเตรียมไว้สำหรับแขกพิเศษ รุ่งรัตน์ก็เข้าไปหา
“ดิฉันมีความจริงเกี่ยวกับคนให้เลือดหม่อมภรณีในวันที่เธอประสบอุบัติเหตุมาบอก คุณจงกลนีพอจะมีเวลารับฟังไหมคะ” เธอเข้าเรื่องโดยไม่อ้อมค้อม
ท่าทางพยาบาลสาวดูมีลับลมคมในจนจงกลนีอดสงสัยไม่ได้
“หมายความว่าอย่างไรคะ คนที่ให้เลือดคุณพี่ก็คือรพีพรรณไม่ใช่หรือ ทุกวันนี้คุณพี่ก็ตอบแทนอย่างดีอยู่แล้ว รพีพรรณก็อ่อนน้อมฝากเนื้อฝากตัวกับคุณพี่ ยังมีอะไรที่ฉันจะต้องรู้อีกหรือ”
“คุณรพีพรรณต้องอ่อนน้อมฝากเนื้อฝากตัวอยู่แล้วละค่ะ เธอได้ประโยชน์มากแค่ไหนจากการช่วยหม่อมก็รู้ๆ กันอยู่ แต่คนให้เลือดที่ดิฉันพูดถึงไม่ใช่คุณรพีพรรณหรอกค่ะ เป็นอีกคนหนึ่ง คุณจงกลนีอยากรู้ชื่อไหมล่ะคะ” รุ่งรัตน์ทำหน้าราวกับเป็นแม่ค้าเขี้ยวลากดินสักคนมากกว่าจะเป็นนางพยาบาล “แต่เรื่องสำคัญอย่างนี้บอกกันเฉยๆ ไม่ได้หรอกนะคะ ต้องหมูไปไก่มาค่ะ”
พยาบาลสาวกำลังจะบอกราคาของความลับอยู่ทีเดียวเมื่อมีเสียงเคาะที่ประตูห้อง จากนั้นรพีพรรณก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับนายแพทย์ท่านหนึ่ง ดวงตาหญิงสาววาวโรจน์ขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีใครอยู่ในห้องนั้นบ้าง แต่เพียงอึดใจเดียวก็หันไปส่งเสียงสดใสทักทายจงกลนี
“รพีแวะมาหาเพื่อนที่โรงพยาบาลนี้พอดี พยาบาลบอกว่าคุณจงกลนีรอผลตรวจอยู่ เลยมาดูเผื่อว่าคุณจะต้องการอะไรเป็นพิเศษ รพีจะได้ช่วยดูแลค่ะ”
จงกลนีตวัดสายตามองรุ่งรัตน์ เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ที่เห็นว่าสีหน้าของหญิงสาวเจื่อนลง ท่าทางอ้ำอึ้งคล้ายตกใจจนตั้งตัวไม่ติด รพีพรรณเองแม้จะพูดจาอ่อนหวาน แต่ความละมุนในน้ำเสียงไม่ได้กระจายไปถึงดวงตาคมดำ กระทั่งรอยยิ้มที่ริมฝีปากก็ยังแฝงอารมณ์ประหลาดผิดไปจากทุกครั้งที่เคยเห็น
รุ่งรัตน์อึกอัก ตัดสินใจว่าคงต้องหลบไปตั้งหลักก่อนแล้วค่อยกลับมาพบจงกลนีใหม่ในวันหน้า แต่รพีพรรณฉวยแขนเธอไว้แน่น
“สวัสดีค่ะพี่รุ่ง ไม่ได้พบกันเสียนาน เมื่อกี้รพีเพิ่งถามถึงพี่กับนางพยาบาลข้างนอก เขาบอกว่าพี่รุ่งขอมาดูแลคุณจงกลนีเป็นพิเศษหรือคะ”
ท่ามกลางหัวใจเต้นระรัวและความเย็นยะเยือกที่กระจายไปทั้งร่าง รุ่งรัตน์รู้สึกคล้ายมือขาวเรียวที่จับข้อมือตนเองอยู่เป็นลำตัวหยุ่นนิ่มของนางงูกระนั้น
“เปล่านะคะ คงมีการเข้าใจผิดกันน่ะค่ะ” เธองึมงำตอบอย่างขอไปที แล้วรีบบอกลาโดยอ้างว่ามีธุระ
หากว่าหันกลับไปมอง รุ่งรัตน์จะเห็นว่าสายตาของรพีพรรณจับอยู่ที่แผ่นหลังของเธอไปจนลับตา
เย็นวันนั้นรพีพรรณโทรศัพท์ตามคนรักให้ออกมาพบโดยด่วน เล่าเรื่องที่รุ่งรัตน์พยายามพาตัวไปใกล้ชิดจงกลนีให้เขาฟัง ยิ่งไปกว่านั้นสายสืบในโรงพยาบาลที่รพีพรรณไปตีสนิทไว้ ยังบอกมาด้วยว่ารุ่งรัตน์แอบทำเรื่องขอย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลในต่างจังหวัดแล้ว
เมื่อนำสองเรื่องมาประมวลเข้าด้วยกัน ทั้งกันต์และรพีพรรณก็ลงความเห็นว่ารุ่งรัตน์น่าจะเตรียมขายความลับให้จงกลนีรู้เป็นแน่
รพีพรรณบีบมือตัวเองอย่างกระวนกระวาย น้ำเสียงทุกข์ร้อนกลัดกลุ้ม
“ถ้าหม่อมภรณีรู้ความจริงเมื่อไร เธอต้องเฉดหัวฉันออกไปจากบ้าน ตัดขาดจากฉัน ทุกอย่างที่สร้างมาจะต้องพังทลายหมด”
วิศรุตลอบยิ้ม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่ารพีพรรณหลงใหลชีวิตในสังคมชั้นสูงขนาดไหน ทุกวันนี้หญิงสาวเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างนิยมยกย่อง มีคำเชิญให้ไปร่วมงานไม่ได้ขาด แต่รพีพรรณจะเลือกไปเฉพาะงานใหญ่ๆเท่านั้น เวลาที่เหลือเธอจะคอยรับใช้หม่อมภรณี คอยดูแลเอาอกเอาใจจนหม่อมเมตตาไม่ต่างจากลูกสาวแท้ๆ แม้แต่บ่าวรับใช้ในบ้านของหม่อมก็พากันเกรงใจรพีพรรณ จะใช้สอยใครก็ทำได้ไม่ต่างจากเป็นเจ้าของบ้านคนหนึ่งไปแล้ว
“ถ้ารุ่งรัตน์แฉความลับจริง ผมเป็นห่วงคุณนะรพี สังคมจะต้องหันมาโจมตีคุณหนักยิ่งกว่าตอนที่มีข่าวแม่คุณจับนาราแต่งงานใช้หนี้เสียอีก”
ชีวิตเพริศแพร้วหรูหราที่ครอบครองอยู่ทุกวันนี้จะต้องกลายเป็นอากาศธาตุ ไหนจะคำประณามจากสังคมที่จะถาโถมเข้ามากระหน่ำทิ่มแทงอย่างไม่ปรานีปราศรัยอีกล่ะ…แค่คิดรพีพรรณก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว
“ฉันยอมให้รุ่งรัตน์บอกความจริงไม่ได้เป็นอันขาด ฉันยอมตายซะดีกว่า คุณมีวิธีจัดการกับรุ่งรัตน์บ้างไหม ช่วยฉันคิดหน่อย”
กันต์ทำสีหน้าเหมือนพลอยหนักใจไปด้วย หากในใจไม่ได้กระวนกระวายอย่างที่แสดงออกเลยแม้แต่น้อย เขารู้จักความหิวกระหายและทะเยอทะยานที่ฝังตัวอยู่ในหัวใจของหญิงสาวดี
ก็ตัวเขาเองนี่ละที่ได้ลิ้มลองรสชาติของมันมาแล้ว พลานุภาพของมันยิ่งใหญ่พอจะบงการให้คนคนหนึ่งทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อน แม้ว่าเรื่องนั้นจะเหี้ยมโหดหรือเสี่ยงอันตรายเพียงใดก็ตาม
เขาไม่จำเป็นต้องโดดลงไปลุยโคลนให้เปรอะเปื้อนเลย รพีพรรณจะเป็นคนแก้ปัญหานี้ด้วยตัวของเธอเอง
“ผมไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ต่อให้คุณจ่ายเงินปิดปากรุ่งรัตน์ก็ไม่ใช่หลักประกันว่าจะหยุดเขาได้ เขาอาจจะไปบอกคนอื่นได้อีก” เขาเปรยคล้ายรำพึงไปเรื่อยเปื่อยอย่างอับจนปัญญา “คงต้องรอจนเขาตายกระมังความลับของคุณถึงจะปลอดภัย”
กันต์ดึงคนรักเข้ามากอดอย่างนุ่มนวล กดคางลงบนผมนุ่มสลวย “ผมผิดเองที่ดึงรพีเข้ามาในเรื่องนี้ เอาอย่างนี้นะ ผมจะไปคุยกับรุ่งรัตน์ ถ้าเขาอยากได้เงินอีกผมก็จะให้เขา ต่อให้ต้องให้ไปตลอดชีวิตก็ยอม ขอแค่เขาไม่ทำร้ายคุณเท่านั้น”
หัวใจรพีพรรณกระตุกวูบตั้งแต่ได้ยินคำปรารภแรกๆ ของชายหนุ่ม ความคิดบางอย่างผุดพรายขึ้นมาเงียบๆ
“ขอบคุณค่ะ คุณคนเดียวเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของรพี”
รพีพรรณตอบอย่างที่คิดว่าควรจะตอบ นึกดีใจที่ชายหนุ่มไม่เห็นสีหน้าของเธอในเวลานี้ โดยเฉพาะแววตาที่วาววับเป็นประกายกร้าวอย่างน่ากลัว!
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 14 : นารา...นางงามฆาตกร (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 14 : นารา...นางงามฆาตกร (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 13 : นางงามคนนี้มีอดีตไม่ธรรมดา (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 13 : นางงามคนนี้มีอดีตไม่ธรรมดา (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 12 : คนโปรดของหม่อมภรณี (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 12 : คนโปรดของหม่อมภรณี (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 11 : จุดเริ่มต้นของความรัก (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 11 : จุดเริ่มต้นของความรัก (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 10 : ใครกันแน่ที่มีเลือดกรุ๊ปพิเศษ (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 10 : ใครกันแน่ที่มีเลือดกรุ๊ปพิเศษ (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 9 : เหตุเกิดในงานเลี้ยง (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 9 : เหตุเกิดในงานเลี้ยง (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 8 : ขวากหนามของวิศรุต (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 8 : ขวากหนามของวิศรุต (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 7 : เจ้าสาวอยู่ไหน (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 7 : เจ้าสาวอยู่ไหน (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 6 : ไว้ใจได้ไหมนายหน้าหนวด (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 6 : ไว้ใจได้ไหมนายหน้าหนวด (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 5 : ไขฟู่... กระจกพยากรณ์ (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 5 : ไขฟู่... กระจกพยากรณ์ (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 4 : คนหลอกลวงเลี้ยงไม่เชื่อง (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 4 : คนหลอกลวงเลี้ยงไม่เชื่อง (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 3 : ที่แท้ก็สิบแปดมงกุฎดีๆ นี่เอง (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 3 : ที่แท้ก็สิบแปดมงกุฎดีๆ นี่เอง (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 2 : วิศรุตและธิปก (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 2 : วิศรุตและธิปก (1)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 1 : โลกใบเล็กของนารา (2)
- READ แรมสิบห้าค่ำนี้มีปาฎิหาริย์ บทที่ 1 : โลกใบเล็กของนารา (1)