การเดินทางของเด็กน้อยหัวใจครึ่งดวง ตอนที่ 13 : รอยยิ้ม

การเดินทางของเด็กน้อยหัวใจครึ่งดวง ตอนที่ 13 : รอยยิ้ม

โดย : อลิสา กัลยา

Loading

อ่านเอา มี นิยายออนไลน์ ให้คุณได้อ่านเพลิดเพลิน มีคอลัมน์หลากหลายให้ได้เปิดโลก และ “การเดินทางของเด็กน้อยหัวใจครึ่งดวง” เรื่องราวของคุณแม่ชาวไทยในโอซาก้าที่พบว่าลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาออกมาดูโลกนี้มีเพียงหัวใจแค่ครึ่งดวง จะเต็มไปด้วยความสุข ความทุกข์และความรู้สึกต่างๆ ที่ถาโถมจนทำให้การเดินทางครั้งนี้ประทับใจไม่รู้ลืม

…………………………………………………

-13-

 

มิอุเป็นเด็กที่ติดพ่อมาก ฉันสังเกตพฤติกรรมนี้ได้ตั้งแต่มิอุอายุย่างเข้าสองขวบ

เมื่อถึงวันหยุดของปาป๊าทีไร มิอุจะต้องทำตัวเป็นตังเม ขอมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่ปาป๊าทำด้วยเสมอ ถ้าปาป๊าอยู่บ้าน เธอแทบจะไม่สนใจไยดีฉันเลย เธอจะสนใจฉันก็ต่อเมื่อเธอหิวเท่านั้น (ขนาดเข้าห้องน้ำ เธอยังบอกให้ปาป๊าพาไป) วันหยุดของปาป๊าเลยกลายเป็นวันหยุดของหม่าม้าไปเสียนี่

ระดับการติดปาป๊าของมิอุดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุของเธอ

กลางปีเฮเซที่ ๒๖ ตอนที่ฉันเดินทางกลับมาร่วมงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องที่เมืองไทยเพียงคนเดียว เป็นครั้งแรกที่ฉันต้องอยู่ห่างมิอุ แม้ฉันจะรู้สึกตื่นเต้นเต็มประดาที่จะได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ ประหนึ่งสาวโสดอีกครั้ง แต่ลึกๆ แล้วฉันห่วงแทบสารพัดสิ่ง มิอุจะนอนคนเดียวได้มั้ย มิอุจะร้องไห้คิดถึงแม่หรือเปล่า ฯลฯ

เช้าวันถัดมา ฉันโทร.ทางไกลไปที่บ้านโอก้าซัง มิอุคุยโทรศัพท์กับฉันด้วยเสียงร่าเริง เธอไม่ร้องไห้เลย เธอคุยกับฉันเสมือนว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน แถมก่อนจะวางหู เธอยังบอกฉันว่า

“หม่าม้า อย่าลืมของเล่นมิอุนะ!!!”

เช่นเดียวกัน ตอนฉันเดินทางกลับไทยเพื่อร่วมงานศพของย่า ระหว่างอยู่เมืองไทยนั้น ฉันโทรศัพท์หามิอุแค่สามครั้ง เธอหัวเราะกิ๊กกั๊กทุกครั้งที่คุยกับฉัน ถามไถ่ว่าฉันทำอะไรอยู่ และก็จะจบบทสนทนาด้วยการทวงของฝากเสมอ ไม่มีการร้องไห้ ไม่มีการบอกคิดถึงและเรียกร้องให้กลับมาหามิอุไวๆ ทั้งสิ้น

และถึงแม้ฉันจะเดินทางกลับมาญี่ปุ่นแล้วก็ตาม เธอก็ไม่ได้แสดงออกมาว่าอยากจะมาคลอเคลียฉันให้หายคิดถึงเลยสักนิด ช่วงนั้นเป็นช่วงหยุดยาวปีใหม่ของญี่ปุ่น วันที่ฉันเดินทางกลับ ตอนบ่ายสามีต้องเข้าไปในเมืองเพื่อไปซื้อของขวัญให้กับญาติๆ และแน่นอนมิอุเรียกร้องที่จะไปกับปาป๊าด้วย ทั้งๆ ที่ฉันบอกให้อยู่บ้านใช้เวลากับฉันจะดีกว่า เพราะเราไม่ได้เจอกันมาตั้งหนึ่งสัปดาห์กว่าๆ

ญาติฝั่งสามี รวมทั้งสามีชอบหยอกล้อฉันเสมอๆ ว่าลูกสาวไม่รัก และหลายครั้งมิอุก็ชอบแสดงออกมาให้เห็นในแนวทางนั้นด้วย เวลาที่อยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก เวลาถามมิอุว่า “มิอุรักใครที่สุด?”

มิอุมักจะตอบว่า “รักปาป๊ามากที่สุดเลย” เวลาที่อยู่กันสองแม่ลูก ถ้าฉันถามว่า “มิอุรักใครมากที่สุด?”

เธอจะตอบว่า “รักหม่าม้าและก็รักปาป๊าด้วย”

มิอุไม่เคยบอกว่า “รักหม่าม้ามากที่สุด” เลยสักครั้ง

ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่เคยรู้สึกเสียใจหรือน้อยใจเลย ที่เขาว่ากันว่าสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก เป็นอะไรที่พิเศษมาก เป็นสิ่งที่ลึกซึ้งที่หาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้นั้นไม่ได้เป็นคำกล่าวที่เกินจริงเลย ฉันรับรู้ความสัมพันธ์นี้ระหว่างการผ่าตัดหัวใจของมิอุครั้งที่สามที่ผ่านมา

ตอนนั้น อีกไม่ถึงเดือนมิอุก็จะครบสามขวบ

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด มิอุก็ยังติดพ่อมากเหมือนเดิม

จนฉันเก็บไปกังวลว่า ระหว่างฟื้นตัว เธอจะเรียกร้องอยากเจอปาป๊ามากขนาดไหน เธออาจร้องไห้ฟูมฟายมาก เพราะปาป๊าไม่สามารถอยู่กับเธอได้ตลอดเหมือนฉัน แต่ฉันก็คิดผิดถนัด เพราะกลับกลายเป็นว่าคนที่เธออยากให้อยู่กับเธอมากที่สุดคือตัวฉันเอง

และถึงแม้ว่าปาป๊าและโอก้าซังจะมาเยี่ยมเธอก็ตาม แต่ถ้ามิอุไม่เห็นฉัน เธอก็ร้องไห้โวยวายเรียกร้องให้ฉันมาอยู่ด้วยตลอดเวลา ฉันเคยแอบมองมิอุจากช่องว่างระหว่างผ้าม่าน อยากเห็นหน้าตาตอนที่เธออยู่คนเดียว

แม้สายตาจะจับจ้องอยู่กับการ์ตูนบนจอทีวีอยู่ตลอดเวลา เธอดูเศร้า หม่นหมองและบึ้งตึง  แต่พอฉันค่อยๆ ปรากฏกายให้เธอเห็นเท่านั้นแหละ แววตาของเด็กน้อยกลับสดใสขึ้นมาทันตา ฉันยังคงจำรอยยิ้มสุดขีดของมิอุในตอนนั้นได้อย่างไม่มีวันลืม

บันทึกเมื่อ ๑๘ มกราคม ปีเฮเซที่ ๒๘

๑ เดือนก่อนวันเกิดครบรอบ ๔ ขวบของมิอุ

***

 

 

Don`t copy text!