กินแคลเซียม…ดีหรือเปล่านะ

กินแคลเซียม…ดีหรือเปล่านะ

โดย : นพ. พงศกร จินดาวัฒนะ

Loading

นอกจาก อ่านเอา จะอยากให้ทุกคนมีความสุขกับนิยายออนไลน์สนุกๆ แล้ว เรายังอยากให้ทุกคนมีสุขภาพกายที่ดีควบคู่ไปกับสุขภาพใจที่ยอดเยี่ยม จึงผุดคอลัมน์ “สุขภาพดีกับหมอโอ๊ต” โดย นพ. พงศกร จินดาวัฒนะ มาให้ทุกคนได้อ่านและดูแลตัวเองและคนที่รัก เพื่อการใช้ชีวิตที่ดี เปี่ยมไปด้วยคุณภาพเกรดเอ

…………………………………………..

“เธอ เธอ…อายุเข้าสู่วัยทองแล้ว เธอกินแคลเซียมหรือเปล่า ไม่กลัวกระดูกพรุนเหรอ”

“วันนี้ไปหาหมอมา หมอแนะนำให้ฉันกินแคลเซียมเสริม”

“ให้ลูกเธอดื่มนมเยอะๆนะ ร่างกายจะได้มีแคลเซียม ตัวจะได้สูง”

เคยได้ยินประโยคเหล่านี้กันไหมครับ หรือที่จริงแล้วคุณเป็นคนพูดประโยคพวกนี้เสียเอง

หลายปีมานี้ บรรดาผู้รักสุขภาพทั้งหลาย มีกระแสตื่นตัวเรื่องการรับประทานแคลเซียมเสริมกันมาก เพราะรู้มาว่าแคลเซียมจะช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ข้อมูลพวกนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่านะ แล้วเราควรต้องซื้อแคลเซียมมากินกันหรือเปล่า การจะตอบคำถามเหล่านี้ได้ เราต้องมารู้จักกับสารอาหารที่ชื่อแคลเซียมกันก่อนครับ

แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีอยู่ในร่างกายของคน โดยเฉพาะในมวลกระดูก คนที่มีแคลเซียมสมบูรณ์ดี กระดูกก็จะแข็งแรง แต่คนไหนมีแคลเซียมน้อย กระดูกก็จะบางกว่าคนปกติ นอกจากแคลเซียมจะมีความสำคัญต่อมวลกระดูกแล้ว ยังมีหน้าที่ช่วยการทำงานของหัวใจ กล้ามเนื้อ และเส้นประสาทอีกด้วย หากขาดแคลเซียมไปนอกจากกระดูกจะบางแล้ว การทำงานของระบบต่างๆ ก็อาจจะมีปัญหาได้

แม้ว่าร่างกายเราจะสร้างแคลเซียมขึ้นมาเองไม่ได้ก็ตาม แต่ความโชคดีของมนุษย์เราก็คือ แคลเซียมมีอยู่ในสารอาหารที่เรารับประทานกันอยู่เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว เช่น นม ปลาเล็กปลาน้อย กุ้ง หอยนางรม ผักใบเขียวที่เป็นก้านแข็ง เช่น คะน้า ใบยอ ชะพลู รวมไปถึงธัญพืชจำพวกงาดำอีกด้วย

นั่นหมายความว่า ถ้าหากเราสามารถรับประทานอาหารได้เพียงพอ ในปริมาณปกติ รับประทานอาหารที่หลากหลายครบถ้วนทุกหมู่ ร่างกายก็จะได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องรับประทานเสริมแต่อย่างใด แต่ถ้าในแต่ละวันเรารับประทานอาหารไม่ครบหมู่ หรือในบางวัย เช่น วัยเด็กที่กำลังต้องการแคลเซียมปริมาณสูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ เพื่อการเจริญเติบโตของร่างกายและส่วนสูง อาจจำเป็นต้องเน้นรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพิ่มกว่าปกติ รวมถึงสตรีที่ตั้งครรภ์ด้วยที่มีความต้องการแคลเซียมสูงเป็นพิเศษ เพราะต้องแบ่งบางส่วนไปให้กับลูกน้อยในครรภ์

สำหรับในสตรีวัยหมดประจำเดือนก็เช่นกัน เมื่อหมดประจำเดือน ฮอร์โมนในร่างกายมีความเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการสลายแคลเซียมจากมวลกระดูกมากกว่าวัยปกติ แบบนี้การรับประทานแคลเซียมเสริมก็มีความจำเป็นเช่นกันครับ

เล่าถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะอยากรู้ว่า…แล้วเราต้องรับประทานแคลเซียมวันละมากน้อยเท่าไร จึงจะเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เว็บไซต์สุขภาพของโรงพยาบาลกรุงเทพประมาณคร่าวๆ ไว้ว่าปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละช่วงอายุ มีดังนี้ครับ

  • อายุน้อยกว่า 40 ปี ต้องการแคลเซียมวันละ 800 มิลลิกรัม เทียบได้กับการดื่มนมวันละ 3 – 4 แก้ว
  • อายุ 40 ปีขึ้นไป จนถึงช่วงวัยทอง ต้องการแคลเซียมวันละ 1,000 mg  เทียบได้กับการดื่มนมวันละ 4 – 5 แก้ว
  • สำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือผู้สูงวันอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ต้องการแคลเซียมมากเป็นพิเศษ คือวันละ 1,200 มิลลิกรัม เทียบได้กับดื่มนมวันละ 6 – 7 แก้ว

แต่จะว่าไป การดื่มนมวันละมากๆ นี่ไม่ค่อยตรงกับนิสัยของคนไทยสักเท่าไรนัก ต่างจากฝรั่งที่แทบจะดื่มนมแทนน้ำกันเลยทีเดียว แถมคนไทยจำนวนไม่น้อยที่แพ้นม ดื่มแล้วท้องเสีย ถ่ายเหลว แบบนี้ก็ยังมีทางเลือกอื่นๆ อีกเช่น รับประทานแคลเซียมเสริมแบบเม็ด หรือบางคนไม่ชอบทานยาก็สามารถทานอาหารจำพวกปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง กุ้งกรอบ ผักใบเขียวได้เช่นกัน

การรับประทานของว่างจำพวกกุ้งกรอบพร้อมทั้งเปลือก นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว ยังได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอด้วยเช่นเดียวกัน

เห็นไหมครับว่าชีวิตในปัจจุบันของเรามีทางเลือกมากมายในการดำเนินชีวิต การจะมีสุขภาพที่ดี มีมวลกระดูกที่แข็งแรง ที่สำคัญมากๆ นอกจากการรับประทานอาหารแคลเซียมสูงแล้ว การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน

รู้อย่างนี้แล้ว เรามาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงไปด้วยกันเถิดนะครับ

 

อ้างอิงข้อมูล : เว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ

สบับสนุนโดย “โอคุง กุ้งกรอบ” ผลิตจากกุ้งสดทั้งตัว ไซส์ใหญ่บิ๊กเบิ้ม มีให้เลือก 3 รสชาติ  ออเดอร์กันได้ที่ >> Line : OkungFood

Don`t copy text!