เรื่องสยองของทำเนียบขาว

“อเมริกันคัน” เรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาในบางแง่มุมในอเมริกาที่หลายคนไม่เคยรู้หรือเคยรับรู้มาบ้าง แต่อาจมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจน เจริญขวัญ แพรกทอง บลาฮาสสกี้ เจ้าของคอลัมน์ที่เขียนลงในต่วยตูนมาถึง 10 ปี นำมาเขียนเล่าสู่กันฟังแบบสนุกๆ เหมือนการเล่าให้เพื่อนฟัง โดยคงบุคลิก “ต่วยตูน” ดั้งเดิมเอาไว้คือสาระและบันเทิง

เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักทำเนียบขาวอันเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก เพราะเป็นที่ทำการรัฐบาลและเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีของอเมริกาทุกคน  แม้ว่าจะเป็นที่ทำการของรัฐบาล   แต่ทำเนียบขาวกลับขึ้นชื่อเรื่องความเฮี้ยนและผีดุจนติดอันดับในอเมริกา

ผู้อาศัยอยู่ที่นี่มักได้ยินเสียงฝีเท้าในห้องซึ่งไม่มีคนอยู่ หรือเห็นเงาผู้ล่วงลับไปแล้วเดินอยู่ไหวๆ แม้แต่การเผชิญหน้ากับวิญญาณอดีตประธานาธิบดีแบบซึ่งหน้าก็เคยเจอนับครั้งไม่ถ้วน   เรื่องการเจอวิญญาณในทำเนียบขาวถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานชัดเจนโดยตัวประธานาธิบดีเลยทีเดียว  นั่นคืออดีตประธานาธิบดีแฮรี่ ทรูแมน ซึ่งมักได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ เสมอตอนกลางคืน

“ที่นี่มีผีสิงแน่นอน…รับรองได้”

ทรูแมนบันทึกไว้อย่างชัดเจน  วิญญาณที่พบมากที่สุดคือวิญญาณของประธานาธิบดีลินคอล์น หลายคนยืนยันว่าอดีตประธานาธิบดียังวนเวียนอยู่ในทำเนียบชาว  มีการจดบันทึกไว้ในประวัติทำเนียบขาวว่าปี ค.ศ. 1941 นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ซึ่งเป็นแขกของทำเนียบขาวถึงกับขอย้ายห้องนอน เพราะเจอวิญญาณลินคอล์นตอนอาบน้ำ

ลูกสาวของประธานาธิบดีทรูแมนเองก็เจอประสบการณ์ประหลาด   มีคนมาเคาะประตูห้องตอนกลางดึก แต่พอเปิดประตูกลับไม่พบใคร

มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า มาดามลินคอล์นผู้เป็นภรรยาของประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์นนั้นเชื่อเรื่องวิญญาณมาก มักติดต่อคนทรงเสมอ เมื่อประธานาธิบดีลินคอล์นเสียชีวิตกระทันหันเพราะถูกลอบยิง วิญญาณจึงยังวนเวียนอยู่ในทำเนียบขาว นี่คือสิ่งที่คนทรงย้ำกับมาดามลินคอล์นตลอดเวลา

ภรรยาของประธานาธิบดีลินคอล์นจึงจ้างช่างถ่ายภาพรูปวิญญาณชื่อมัมเลอร์ โดยขอให้ถ่ายรูปเธอกับรูปวิญญาณของสามี  เมื่อถ่ายภาพมาดามลินคอล์นนั่งลำพังบนเก้าอี้  ปรากฏว่ามีภาพวิญญาณอับราฮัม ลินคอล์นยืนอยู่ข้างหลัง แต่ภายหลังมัมเลอร์ถูกแฉ และจับได้ว่าเป็นนักหลอกลวงต้มตุ๋น  บางภาพพิสูจน์ได้ว่าเป็นของปลอม เรื่องวิญญาณลินคอล์นเลยกลายเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อถือ

แต่แปลกที่ว่ายังมีรายงานการปรากฏตัวของวิญญาณลินคอล์นในทำเนียบขาวเป็นระยะ เช่น สมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าแห่งเนเธอร์แลนด์ผู้เคยประทับที่ทำเนียบขาว ตกดึกได้ยินเสียงเคาะประตูห้องบรรทม เมื่อเปิดประตู พระองค์แทบล้มทั้งยืนเมื่อทอดพระเนตรเห็นร่างประธานาธิบดีลินคอล์นยืนอยู่ตรงนั้น

แม้ประธานาธิบดีรูลเวลท์จะไม่เคยพบวิญญาณของประธานธิบดีลินคอล์น แต่เล่าว่าขณะที่อยู่ลำพังในห้องสีฟ้า  มักรู้สึกว่ามีวิญญาณของลินคอล์นวนเวียนอยู่ที่นั่น ส่วนสาวใช้เคยเล่าให้ภรรยาประธานาธิบดีรูสเวลท์ฟังว่าเคยเห็นวิญญาณลินคอล์นในห้องนอน  โดยนั่งริมขอบเตียงกำลังถอดรองเท้า

ประธานาธิบดีแฮรี่ เอช ทรูแมนเล่าหลายครั้งว่าตกใจตื่น เพราะเสียงเคาะประตูห้องนอนในทำเนียบขาว แต่ทรูแมนไม่เคยเห็นกับตาเหมือนสมเด็จพระราชินีเฮล์มมิน่าเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ยังมีวิญญาณสุภาพสตรีหมายเลข 1 โผล่มาให้เห็นอีกด้วย   เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1800 ทำเนียบขาวอยู่ระหว่างก่อสร้าง แต่ประธานาธิบดี จอห์น อดัมส์ และสุภาพสตรีหมายเลข 1 อาบิเกล อดัมส์ ตัดสินใจย้ายมาพำนักในฐานะเจ้าของบ้านคู่แรกของทำเนียบขาว

ช่วงนั้นรั้วทำเนียบยังไม่ได้กั้น แถมฝนตกบ่อยมาก อาบิเกล อดัมส์ จึงต้องตากเสื้อผ้าในห้องตะวันออก  ซึ่งเป็นห้องที่มีลมถ่ายเทมากที่สุดและเพื่อมิให้ดูประเจิดประเจ้อจนเกินไป

ว่ากันว่าจนถึงวันนี้ วิญญาณของอาบิเกล อดัมส์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ยังแวะเวียนมาตากผ้าที่ห้องตะวันออก   โดยสวมหมวกลูกไม้คลุมผมและห่มผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่แบบที่เธอชอบ ในอ้อมแขนมีผ้าซักแล้วกองใหญ่เดินมาที่ห้อง แม้ประตูจะปิดสนิท แต่กลับเดินทะลุผ่านเข้าไปได้

บางคนยืนยันว่าหลังจากวิญญาณของเธอหายวับไปกับตาแล้ว กลิ่นผ้าชื้นๆ และกลิ่นสบู่ยังคงลอยอบอวลอยู่ในอากาศ ราวบอกให้รู้ว่าห้องนั้นเป็นห้องที่เธอใช้ตากผ้าเป็นประจำ

นอกจากวิญญาณในทำเนียบขาวแล้ว ยังมีอาถรรพ์หมายเลข 0  ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้จนกระทั่งทุกวันนี้

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1840 เป็นต้นมา ประธานาธิบดีทุกคนของสหรัฐที่ได้รับการเลือกตั้งในปีที่ ค.ศ. ลงท้ายด้วย “0” นั้น ไม่มีใครมีชีวิตรอดในขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเลยแม้สักคนเดียว

ในปี ค.ศ. 1840 วิลเลียม เฮนรี แฮริสัน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี แต่ 1 เดือนภายหลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง แฮริสันก็ลาโลกไปด้วยโรคปอดบวม

ต่อมาในปี  ค.ศ. 1860 อับราฮัม ลินคอล์นได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก และมีชีวิตยืนยาวมาจนถึงสมัยที่ 2 ซึ่งในที่สุดลินคอล์นก็ถูกลอบสังหาร

ปี  ค.ศ. 1880 เจมส์ เอ. การ์ฟิลด์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี  แต่ดำรงตำแหน่งได้เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น ก่อนถูกมือปืนลอบยิงเสียชีวิต

ปี ค.ศ. 1900 วิลเลี่ยม แมคคินเลย์ ครองตำแหน่งประธานาธิบดีและอาศัยอยู่ในทำเนียบขาวได้ไม่ถึงปี ก็ถูกคู่ปรปักษ์ทางการเมืองบุกเข้าไปจ่อยิงจนเสียชีวิตเช่นกัน

ค.ศ. 1920 วาร์เรน จี. ฮาร์ดิ้ง  พำนักในทำเนียบขาว แต่กลับล้มป่วยลง ในที่สุดฮาร์ดิ้งถึงแก่อสัญกรรมในทำเนียบขาวนั่นเอง

ค.ศ. 1940 แฟรงคลิน เดอลาโน รูสเวลท์ ทำลายประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีสหรัฐด้วยการได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่ 3  ประธานาธิบดีเป็นโปลิโอทำให้กลายเป็นคนพิการ แต่ต่อมาเป็นกาฬโรคจนเสียชีวิตในขณะดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3

ค.ศ. 1960 มาถึงยุคประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ซึ่งกลายเป็นเหยื่อของอาถรรพ์หมายเลข 0 อีกเช่นกัน  เพราะถูกลอบสังหารอย่างสะเทือนขวัญ

ปี ค.ศ. 1980 อดีตพระเอกหนังคาวบอยของฮอลลี่วู้ดที่ชื่อ โรนัลด์ ดับลิว เรแกน พลิกความคาดหมายชนะจิมมี่ คาร์เตอร์ ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 40 ของสหรัฐอเมริกา  ห่วงโซ่หมายเลขศูนย์ก็เริ่มการทำงานอีกครั้งหนึ่ง แต่หนนี้ทำไม่สำเร็จ แม้จะถูกลอบยิงแต่กลับรอดชีวิตมาได้

นั่นคือเรื่องราวที่เล่าสืบต่อกันมา  แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว เรื่องที่ผ่านมาอาจเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น  แต่ไม่ว่าจะมีผีหรือไม่มีผี ทำเนียบขาวยังคงเป็นสถานที่อันดับหนึ่งของโลกที่ใครหลายคนอยากเข้าพำนักในฐานะประธานาธิบดีทุกสี่ปีที่มีการเลือกตั้งอยู่นั่นเอง