ดาราอรุณ บทที่ 18 : ฤทธิ์เดชของ 27

ดาราอรุณ บทที่ 18 : ฤทธิ์เดชของ 27

โดย : กฤษณา อโศกสิน

Loading

ดาราอรุณ โดย กฤษณา อโศกสิน เรื่องของ ‘ลมเย็น’ หญิงสาวที่เกิดในช่วงเวลาที่ดาวประกายพรึกปรากฏบนฟากฟ้าและ ‘หิ้ง’ ชายหนุ่มที่โชคชะตาพัดพามาให้ได้ใกล้ชิดกัน…เมื่อดาวศุกร์ ดารายามแรกอรุณได้นำทางความรักให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ดาวศุกร์จึงพาให้ชีวิตของเธอเปล่งประกายไม่ต่างไปจากดาราอรุณและนี่คือนวนิยายที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอ

ถ้อยคำของชายหนุ่มผู้นี้เป็นประโยชน์ดึเหมือนกัน…คุณปรียานึกในใจ เนื่องด้วยได้ช่วยให้เกิดความคิดงอกงาม…อือ…ก็ถ้าเธอจะละความตั้งใจที่จะสร้างโกดังเก็บสินค้าให้เช่าหรือแม้แต่ทำที่จอดรถให้เช่า มาเป็นปลูกสมุนไพรส่งขายให้นายชัดผู้อีกมิช้าจะมีเงินยี่สิบกว่าล้านอยู่ในมือ เพียงพอที่จะต่อยอดการปรุงยาไทยโบราณอันได้สืบสานสร้างสรรค์กันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ ให้ก้าวรุดหน้าไปในโลกสมัยใหม่ที่มีแต่เทคโนโลยี ช่วยกันทวีดวงปัญญาที่เคยงอกเงียบๆ งามในทีมาเป็นศตวรรษ ให้ยิ่งงอกยิ่งงามยิ่งเพิ่มพูนความเด่นดังสู่โลกข้างหน้า…โดยมิต้องเป็นคู่ศัตรูกับปัญญาประดิษฐ์…จะมิดีกว่าหรือ

นั่นก็คือ ต่างแบบก็ต่างคิดไปด้วยกัน

ดีกว่าจะชวนกันมาจิกตี เถียงเอาแพ้เอาชนะว่าใครดีใครเด่นกว่าใคร

ดังนั้น คุณปรียาจึงรู้สึกประหนึ่งตนเองก็ปัญญาไวเหมือนกัน แม้อายุใกล้จะเจ็ดสิบแล้ว

แต่ดวงแก้วในสมองอันกลิ้งได้ ด้วยว่าเคยช่ำชองในชีวิตมายาวนาน ทั้งต่างประเทศและในประเทศ สามีเธอคือคุณแปรเป็นนักสังเกตการณ์ ความเป็นทูตประจำประเทศที่มากกว่าสองแห่งของเขา ได้ช่วยบ่มเพาะเธอให้พลอยรับเอาความช่างคิด ช่างสังเกต ช่างประนีประนอม ยอมเสียเมื่อต้องเสียมาไว้เป็นสมบัติ เลยไปถึงสันทัดเรื่องทีหนีทีไล่ที่จำต้องเป็นไปอย่างเหมาะควร

หากนาทีนี้ เธอจะยังไม่ด่วนบอกกล่าว

ด้วยเกรงนายชัดจะเปลี่ยนใจ

“ได้คุณหิ้งมาเป็นไกด์ คุณชัดก็เลยหายห่วง” เธอจึงหันไปเอ่ยกับเขาอย่างเป็นมิตรมากขึ้น “ถ้ายังไงก็ช่วยแนะแนวกันมั่งนะคะ ยิ่งตอนนี้เป็นตอนหัวเลี้ยวหัวต่อ…เงินยี่สิบล้าน อาจไม่มากสำหรับเศรษฐี แต่ก็มากสำหรับฉัน เพราะจะต้องเอามาเป็นทุนต่อชีวิตตอนชรา”

“มากสำหรับผมด้วยฮะ” ชายหนุ่มอารมณ์ดีพอที่จะคลายเดียดฉันท์แม่ของไอ้หมอนั่น

เธอดูดีกว่าลูกชายมากต่อมาก

เนื่องด้วย ‘นายนั่น’ มักชักสีหน้าเข้าใส่เขาโดยตนเองไม่รู้ตัว แต่กับลมเย็นจะกลายเป็นใครอีกคนที่นัยน์ตาฉ่ำ เตรียมเปล่งเสียงอ่อนโยนกลั้วยิ้ม

“มากสำหรับเราด้วยค่ะ” หญิงสาวผู้พี่ที่มาลงนั่งถัดไป…ต่อคำ แต่น้องสาวยังคงยืนค้ำอยู่โดยไม่นั่งลง หากทำท่าพร้อมจะฉุดแขนบุรุษผู้เพิ่งรู้จักใหม่ด้วยแน่ใจว่า ‘นี่คือคนที่ใช่’ ออกไปเที่ยวด้วยกัน

แต่หิ้งไม่ตามใจ รวมทั้งไม่ใส่ใจ เขาทำไม่รู้ไม่ชี้พร้อมนึกในใจ ‘ฮึ่ม…รู้จักคนนี้น้อยไปซะแล้ว’

ดังนั้น จึงได้แต่โต้ตอบกับสตรีสูงวัยเพื่อไล่เรียงถึงแผนงานของเธอหลังจากซื้อขายกันเสร็จสิ้นเรียบร้อย

โดยคิดจะช่วยปูพื้นแผ้วถางที่ว่างโล่งๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้จะซื้อและผู้จะขาย

เมื่อคืน…หลังจากคุยกับมารดาเรื่องขายเพชรพลอยเพื่อนำเงินไปช่วยลูกค้าเก่า เขาก็เลยแก้อาการปวดสมองเมื่อจำใจต้องฟังเรื่องที่ไม่เข้าท่าแต่เข้าเนื้อของลูกเขยคุณหญิง ไปฟังเรื่องใหม่ๆ ในโลกกว้างที่เพื่อนเก่าโทรศัพท์มาชวนคุย

จนได้ความเกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่ช่วยให้ชายหนุ่มดีใจเป็นอันมาก

ความอยากได้ใคร่ดีของเขาในวันนี้ จึงไม่มีสิ่งใดจะเทียบเท่าการเอาใจช่วยบิดาของหญิงสาวที่เขาพลันจับใจจับตาแต่แรกเห็น นับเป็นแม่แรงเสน่หาผูกพันอันมีโยงใยมาแต่เดิม หากเพิ่งได้รับการรินเติมจนครบครันทันทีทันใดเมื่อไม่กี่วันก่อน

“ถ้างั้น คุณปรียาก็คงต้องชั่งใจให้ดีๆ แล้วละครับว่า…ซื้อที่ได้แล้ว จะเอาที่มาทำอะไรถึงจะได้ประโยชน์สูงสุดที่สามารถจะเก็บกินไปได้ตลอดชีวิต”

“เช่น ทำอะไรมั่งคะ” มารดาของเปรียวหันมาถาม ขณะที่นายชัดดูดวงเธอจบสิ้นแล้วพอดี โดยไม่มีห่วงใดหลงเหลือเรื่องเชื่อได้หรือมิได้ว่าอีกฝ่ายจะซื้อจริง

เพราะดวงชะตาหญิงสูงวัยบ่งบอก

ภายในไม่เกิน 1 กันยายน เธอจะได้ครอบครองที่ดินผืนงามตามความปรารถนาแต่ก่อนเก่าโดยไม่มีเค้าใดๆ ว่าจะเปลี่ยนมือในวันข้างหน้า

นั่นก็เนื่องด้วยดาวเสาร์ 7 ของเธอเป็นมหาอุจกุมจันทร์ 2 เจ้าเรือนลัคนาราศีกรกฏ ในชีวิตเธอนั้นมิพ้นความรันทดว่าต้องตกเป็นแม่ม่าย ด้วยว่าเสาร์ 7 คือดาวคู่ กุม 2 คือเจ้าเรือนลัคน์ของเธอพอดี

ไม่มีผู้ใดสามารถจะหลีกเลี่ยงความโศกตรมอันเนื่องด้วยฤทธิ์เดชของ 27 นี้ได้

แม้ดาวศุกร์ 6 จะเป็นมหาอุจ สถิตราศีมีน กุมอาทิตย์ 1 อันเป็นดาวกฎุมภะก็ตาม

ศุกร์ก็มาจากราศีตุลย์ ภพพันธุอยู่ดี

ถึงอย่างไร ครอบครัวก็ต้องมีเรื่องเศร้า

แต่ประโยคที่ทิ้งท้ายก่อนบอกลาของเธอก็คือ

“หวังว่าเราคงเจอคุณหิ้งวันไปโอนที่ด้วยนะคะ”

“ยินดีอย่างยิ่งครับ” ชายหนุ่มเลยกลายเป็นตัวแทนโดยไม่ทันคาดหมาย

จึงมียิ้มพรายแทนความกังวลบนริมฝีปากของสตรีสูงวัย

 

ทันใดที่หิ้งและลมเย็นลุกขึ้น พาอาคันตุกะออกไปส่ง ลมโชยก็ออกเดินเคียงขนาบอีกข้างไปพร้อมเขา คุณปรียาก็เลยจำต้องหันไปทักทายขณะนึกถึงถ้อยคำของลูกชายคนเล็ก

‘คุณชัดแกมีลูกสาวสองคน ก็เป็นโมฆะไปซะคนแล้วละแม่’

‘โมฆะยังไง’ เธอยังเคยถามขำๆ เพราะพบปะกันแล้วทั้งสองสาว

‘พอไปได้กับของเรา…แต่ถึงยังงั้นของเราก็ยังดีกว่า’

ครั้นได้เข้ามาใกล้ในวันนี้ ที่ได้พบหญิงสาวสูงโปร่งเรือนร่างดี สวมกางเกงขาสั้นสีขาว เสื้อแพรดอกสีเขียวขาว แขนเว้าลึก แลเห็นเนื้อสาวเนียนนวลเปล่งปลั่ง ดวงหน้ากลมแป้น ไม่คล้ายลมเย็นผู้ถอดเอาดวงหน้าท่าทางนางยาใจมาไว้เป็นสมบัติ คุณปรียาจึงตัดสินใจได้ทันทีว่า ถึงอย่างไรเธอก็ชอบคนพี่มากกว่า

“ขอหนูขับรถไปส่งคุณป้าถึงบ้านเลยนะคะ” หญิงสาวกุลีกุจอเดินข้ามไปนำรถในโรงออกมาจอดบนถนนคอนกรีต เชื้อเชิญคุณปรียาให้ขึ้นนั่งด้านหลัง โดยหิ้งนั่งคู่กับหล่อน พลางพยักหน้าให้ลมโชยนั่งเคียงกับแขกพิเศษ มีนายชัดยืนส่งอยู่หน้าบันได

ลมโชยทำหน้าบึ้ง สะบัดคอไปมานิดหนึ่งจึงก้าวขึ้นไป

“หนูหวังว่าที่ของเราจะรับใช้คุณป้าได้ดีมากถึงดีที่สุดนะคะ…เท่ากับทำให้หนูได้เงิน คุณป้าได้ที่ดินที่จะทำประโยชน์อะไรก็ได้ทุกอย่าง“ ครั้นแล้วคนขับก็เอ่ยขึ้น

“หนูคิดว่า ควรจะเอาไปทำอะไร ถึงจะดีที่สุดสำหรับคนปูนนี้ล่ะคะ…เนี่ย…พอคุณหิ้งแนะนำ…ฉันก็เลยต้องเริ่มคิดแล้วละค่ะ” เธอบอกกล่าวอย่างกันเอง พลางสูดลมหายใจ “อือ…น้ำหอมหนูลมโชยหอมชื่นใจจัง”

แต่พี่สาวเกรงว่าอีกฝ่ายได้ที…จะพาเรื่องราวที่กำลังหารือเข้ารกเข้าพงไปจนอาจกู่ไม่กลับ

แล้วก็จริงดังคาด เพราะลมโชยเอ่ยขึ้น

“คุณป้าใช้น้ำหอมกลิ่นไหนล่ะคะ…โคโลญธรรมดา หรือลาเวนเดอร์หรือ…”

“ไม่ได้ใช้อะไรเลยค่ะ สบู่ดีๆ ก็พอ” คุณปรียาเลยตัดบท ด้วยขณะนี้สมองของเธอเริ่มไม่ว่าง

มีโครงการหลายอย่างเลื่อนเข้ามาเติมชั่วโมงที่เคยว่างให้เต็มขึ้นมา

นั่นก็คือ หนึ่ง นำที่ดินที่ซื้อใหม่มาสร้างเป็นสำนักงานทันสมัยให้เช่า สอง ให้บริษัทใหญ่เข้ามาสร้างร้านค้าทำสัญญารัดกุม โดยฝ่ายนั้นเป็นผู้บริหาร สาม ให้เช่าทำเป็นที่จอดรถ สี่ สร้างโกดังเก็บสินค้าให้เช่า ห้า คือเรื่องที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาให้เลือกในวันนี้ นั่นก็คือทำที่สำหรับปลูกพืชสมุนไพรส่งขาย

ล้วนแล้วแต่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม

เป็นรายละเอียดที่ต้องอาศัยเสียงแต่ละเสียงของลูกชายทั้งคู่เท่ากัน

วันนี้จึงเป็นวันนวดและวันดูหมอที่ช่วยให้ความอ่อนใจท้อแท้ที่มักจะผุดขึ้นมาเนืองๆ ด้วยเรื่องทั้งเก่าและใหม่หายวับไปทันที

คุณปรียาได้แต่เอนตัวพิงพนักอย่างสบาย เหลือบดูลมโชยก็เห็นหล่อนเมินหน้าไปอีกทางอย่างมิสู้แจ่มใส เธอจึงได้แต่ส่งเสียงคุยกับคนขับ

“ยังไงๆ หนูกับคุณหิ้งก็ช่วยป้าคิดนิดนึงนะคะว่า…นอกจากทำสวนสมุนไพรแล้ว เราควรทำอะไรอีกดีบนเนื้อที่ใกล้ๆ สองร้อยตารางวานี่”

“มากพอใช้เหมือนกันนะคะ” ลมเย็นส่งเสียงมา เธอได้แต่นึกในใจ…เหตุไฉนหนอ ฉันจึงไม่ได้ลูกสะใภ้น่ารักดังเช่นผู้หญิงคนนี้

“มากพอเชียวละหนู ป้าถึงได้อยากได้มาน้านนาน…แต่ช่วงที่ไม่อยู่ ไปอยู่เมืองนอกก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วค่ะ เอาแต่ภาวนา ขออย่าให้คุณชัดขายใครไปซะก่อน…ว่าแต่ว่า ทำไมถึงไม่คิดจะปลูกสมุนไพรไว้ทำยามั่งล่ะคะ”

“คือพ่อก็คิดนะคะ ก็ชั่งใจเรื่อยมาเหมือนกัน” ลมเย็นจึงบรรยายถึงเหตุผล “ว่า…จะรอที่ขึ้นราคา แล้วขาย จะได้เงินอีกกี่ร้อยกี่พันเท่าของราคาเก่า”

“ก็จริงของคุณชัดนะคะ…ตอนที่เราๆ ซื้อกันนั่นมันแค่ตารางวาละพันสามร้อยหกสิบบาทเท่านั้นเอง แล้วกลายเป็นตารางวาละแสนหนึ่ง…คิดดู”

“ติดถนน สองแสนแล้วนะคะคุณป้า”

“เอาเป็นว่า  เราคิดถูกแล้ว” อีกฝ่ายสรุป “เหลือเพียงแต่ตัดสินใจครั้งสุดท้าย ได้ที่มาแล้วควรทำอะไรถึงจะได้ประโยชน์งอกงาม เลี้ยงอายุขัยตอนปลายของเราได้”

“นั่นซีคะ” ลมเย็นพลอยช่วยคิดไปกับเธอ

“ไม่ยากเลยนี่ครับ…ในเมื่อเรามีข้อมูลแต่ละเส้นทางอยู่ในมือ…ถ้ายังไม่พอ เดี๋ยวผมช่วยหาให้”

“พี่หิ้งอยากเข้ามาลงทุนทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรด้วยกับพ่อค่ะ”

“กำลังหาข้อมูลอยู่ครับ”

“คุณพ่อพี่หิ้งเป็นเพื่อนสนิทกับพ่อค่ะ ค้าขายเพชรพลอย”

“แต่ไม่ค่อยชอบเพชรพลอยเลยครับ” หิ้งบอกกล่าวเปิดเผย “ดูยากกว่าต้นไม้เยอะเลย”

คราวนี้ คุณปรียาหัวเราะ

“ห่างกันไกลนี่คะ เหมือนคุณชัดดูหมอกับนวดกับปรุงยาก็ได้…ต่างวิชาต่างอาชีพกันเลยละค่ะ”

พอดีรถจอดเทียบหน้าประตู

คุณปรียาจึงเชื้อเชิญให้ลงไป พลางบอก

“มีเรื่องที่ป้าอยากปรึกษาต่อเยอะเลย”

 



Don`t copy text!