ลูกไม้เกี่ยวรัก บทที่ 10 : คนที่ถูกมองข้าม

ลูกไม้เกี่ยวรัก บทที่ 10 : คนที่ถูกมองข้าม

โดย : นวาภัส

Loading

ลูกไม้เกี่ยวรัก โดย นวาภัส นวนิยายโรแมนติกคอมเมดี้ (เล็กๆ) เรื่องราวของหญิงสาวสุดแกร่งที่ชีวิตนี้ขอมีลูก โดยไม่ต้องมีสามี แล้วใครเล่าจะเข้าใจเธอ พบกับความอลหม่านของสองแม่ลูกคู่ป่วนใน “ลูกไม้เกี่ยวรัก” ได้ในเพจอ่านเอา และ เว็บไซต์อ่านเอา anowl.co

ในที่สุดอคิราห์ก็มายืนตรงหน้าบ้านของปัณฑารีย์จนได้ แม้ในใจจะไม่ได้อยากมาสักนิด แต่ก็ทนเสียงเรียกร้องและสายตาเว้าวอนของโอโซนไม่ไหว ชายหนุ่มปลอบใจตัวเองให้ทนๆ ทำไป อีกแค่ไม่กี่วันภารกิจประหลาดนี้ก็จะจบลง จากนั้นเขาก็ไม่ต้องอดทนทำอะไรที่ฝืนใจตัวเองอีกแล้ว

“พ่อคับ!” โอโซนดีใจที่เห็นอคิราห์ รีบวิ่งเข้าไปกอดขาเขาไว้แน่น ตอนนี้อคิราห์เริ่มชินกับการถูกเด็กน้อยกอดขาจนไม่รู้สึกขนลุกขนพองอีกแล้ว

“ทำการบ้านเสร็จหรือยังเรา” เขาแกะมือโอโซนออกแล้วจูงมือเข้าบ้าน

“ยังคับ โอโซนรอพ่อมาสอน” เด็กน้อยยิ้มร่ามีความสุข

ป้าวรรณีมองสองพ่อลูกด้วยสายตาเอ็นดู ถึงแม้คู่นี้จะไม่ใช่พ่อลูกกันจริงๆ แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน ความรักสะอาดที่ไม่ต้องให้บอกให้เตือน โอโซนจะรีบวิ่งไปล้างมือทันทีที่กลับถึงบ้าน ก่อนที่จะมากินข้าว หรือหลังจากเล่นของเล่น อคิราห์เองเมื่อมาถึงก็ต้องเข้าไปล้างมือให้สะอาดก่อน เห็นฝุ่นตรงไหนก็จะเช็ดทันที ป้าวรรณีเคยชินภาพที่ทั้งคู่เดินจูงมือหรือไม่ก็วิ่งแข่งกันไปล้างมือหลายรอบต่อวัน ซึ่งเป็นภาพที่คนเห็นก็ยิ้มตามกับความน่ารักของทั้งคู่

“กินข้าวกันได้ค่ะพ่อลูก” เสียงป้าร้องเรียกสองหนุ่มที่กำลังเล่นบอร์ดเกมอย่างเคร่งเครียด

หลังๆ มานี้ อคิราห์กับโอโซนดูสนิทสนมและเข้ากันได้ดี ตอนแรกที่เขาเข้ามาสวมบทพ่อของเด็กน้อย เธอยังคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่พิลึกพิลั่นของปัณฑารีย์ ชายหนุ่มเองก็ดูเหมือนฝืนใจทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีความรู้สึกเอ็นดูโอโซนเลยแม้แต่น้อย เธอลุ้นว่าอย่าให้ความแตกจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ โอโซนเป็นเด็กฉลาดและอ่อนไหวง่าย ถ้ารู้ว่าตัวเองถูกหลอกจะต้องเสียใจมากและอาจจะปิดกั้นตัวเองจากแม่ หญิงสูงวัยได้แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูเปลี่ยนไป ชายหนุ่มที่เคยถอยห่างทุกครั้งที่โอโซนเข้าใกล้ กลับเปิดใจใกล้ชิดสนิทสนม ไม่มีความฝืนอีกแล้ว อาจจะเป็นความคุ้นเคยหรือไม่ก็เป็นความผูกพันที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในหัวใจของชายหนุ่มโดยที่เขาไม่รู้ตัว

“เขี่ยแคร์รอตทิ้งอีกแล้ว คุณหมอช่วยบอกโอโซนให้กินแคร์รอตหน่อยสิคะ กินแล้วแก้มจะได้แดงๆ” ป้าวรรณีหันไปขอความช่วยเหลือจากอคิราห์ แต่ต้องหน้าเหวอเมื่อเห็นคุณหมอรูปหล่อกำลังตั้งใจเขี่ยแคร์รอตสีส้มในจานสปาเกตตีของตัวเองออกเหมือนกัน หญิงสูงวัยกุมขมับแล้วคิดในใจถ้าบอกว่าผู้ชายสองคนนี้เป็นพ่อลูกกันจริงๆ เธอก็คงเชื่อ

โอโซนกินข้าวเสร็จก็ออกไปวิ่งเล่นที่สนาม อคิราห์อยากให้เด็กได้ออกกำลังกายมากกว่านั่งติดจออยู่ในบ้าน ระหว่างที่กำลังเตะบอลส่งให้กันไปมา อยู่ๆ โอโซนก็วิ่งไปที่ราวตากผ้าที่ป้าวรรณีตากเสื้อผ้าเอาไว้

“อ้าว จะไปไหนล่ะโอโซน” หนุ่มหล่อขมวดคิ้วมองตามเด็กน้อย

โอโซนหยิบผ้าที่ตกอยู่กับพื้นขึ้นมาแขวนที่ราวตากผ้า แต่ตัวที่เล็กกระจิ๋ว เขย่งเท่าไรก็ไม่สามารถจับผ้าตากให้เรียบร้อยได้ เด็กเจ้าระเบียบยืนมองอย่างขัดใจ จนอคิราห์เดินเข้าไปแล้วขึงผ้าตากจนเรียบร้อยสวยงาม โอโซนถึงได้ทำหน้าพึงพอใจ

“เพอร์เฟกต์” เจ้าตัวเล็กพยักหน้าหงึก สบายใจที่ทุกอย่างได้ดั่งใจ ไม่ขัดหูขัดตา

“เจ้าระเบียบเหมือนกันนี่เรา เห็นอะไรไม่เข้าที่เข้าทางก็ต้องจัดการให้เรียบร้อย ดีมาก” หนุ่มหล่อชมจากใจ จากที่ได้ใกล้ชิดกับโอโซนมาระยะหนึ่ง เขาได้เห็นความเป็นระเบียบเกินเด็ก ห้องนอนของหนูน้อยสะอาดสะอ้าน ไม่มีสิ่งของหรือของเล่นวางกระจัดกระจาย ทุกอย่างเข้าที่อย่างที่ควรเป็น ต่างจากห้องของปัณฑารีย์ที่เขาเคยมีโอกาสเข้าไปเห็นครั้งหนึ่ง เสื้อผ้าวางระเกะระกะไปทั่ว ทั้งบนเตียง บนเก้าอี้ หรือแม้แต่ที่พื้นห้อง สิ่งของอื่นๆ ก็อยู่ไม่เป็นที่ จึงไม่แปลกใจเลยที่โอโซนจะเจอรูปภาพที่แม่เก็บซ่อนไว้อย่างง่ายดาย

เขาเองก็เป็นคนเจ้าระเบียบจนเรียกได้ว่าจู้จี้จุกจิกจนคนที่บ้านบ่น โดยเฉพาะอชิระที่ค่อนข้างทำอะไรตามใจตัวเอง ทิ้งของทุกอย่างไม่เป็นที่จนถูกเขาเอ็ดบ่อยๆ ชายหนุ่มอยากให้น้องชายมาเรียนรู้ความเป็นระเบียบจากโอโซนเสียจริง เผื่อจะรู้สึกอายเด็กบ้าง

ป้าวรรณีกลับไปแล้ว ก่อนกลับก็เอาแต่กำชับว่าอย่าให้โอโซนนอนดึก แล้วต้องให้กินนมก่อนนอนด้วยจะได้หลับสบายไม่ตื่นกลางดึก ชายหนุ่มรับปากว่าจะจัดการทุกอย่างตามที่ป้าสั่งให้เรียบร้อย ป้าวรรณีถึงได้ยอมกลับ เมื่อโอโซนอาบน้ำเรียบร้อยก็พาไปนอนแล้วอ่านนิทานให้ฟังจนหลับไป เขาลงมารอปัณฑารีย์ข้างล่าง หนุ่มหล่อมองดูนาฬิกาที่เวลาล่วงเลยมาจนสี่ทุ่ม เขาชะเง้อคอรอว่าเมื่อไหร่เจ้าของบ้านจะกลับมาเสียทีด้วยสีหน้าหงุดหงิด พลางคิดในใจว่าดึกป่านนี้ทำไมถึงยังไม่กลับบ้าน สักพักแสงไฟจากหน้ารถปัณฑารีย์ก็สาดส่องเข้ามาภายในบ้านแล้วดับลง

หญิงสาวเดินเข้าบ้านอย่างอ่อนแรง แปลกใจที่เห็นรถของอคิราห์จอดนิ่งอยู่ที่หน้าบ้าน ทั้งที่คิดว่าน่าจะกลับไปนานแล้ว เมื่อเย็นที่เขาโทร.มาหาแล้วบอกว่าลูกชายตัวดีวิดีโอคอลอ้อนให้ไปอยู่เป็นเพื่อนเพราะเธอต้องทำงานดึก เขาต่อว่าเธอที่เอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้ลูก ตอนนั้นหญิงสาวกำลังยุ่งอยู่กับงาน จึงออกอาการหงุดหงิด เผลอเสียงแข็งใส่ชายหนุ่มและบอกให้เขาไม่ต้องสนใจเพราะไม่ใช่หน้าที่ จนอคิราห์เองก็คงหงุดหงิดเหมือนกันจึงวางสายใส่เธอ

“ทำไมเพิ่งกลับ” น้ำเสียงขุ่นเขียวของเขาดังออกมาทันทีที่เจอหน้ากัน

“เคลียร์งานเสร็จ ฉันก็ไปส่งน้องชายคุณที่บ้านก่อนแล้วก็รีบกลับมาเลยค่ะ” ไม่รู้ทำไมต้องรีบอธิบายในเมื่อไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

“ทำไมต้องไปส่งด้วย นายเดย์ขับรถไปไม่ใช่เหรอ” เขาหงุดหงิดกับเหตุผลที่เธอบอกมา

“รถคุณเดย์หม้อน้ำรั่วต้องเอาเข้าอู่ ฉันก็เลยไปส่ง…แล้วพี่ซันจะมาซักไซ้ปันทำไมคะเนี่ย ปันเหนื่อยแล้ว ขอเข้าไปดูลูกก่อน ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์ฝืนใจมา” เธอพูดประชดออกไปเพราะคิดว่าเขาคงไม่พอใจที่ต้องมาดูแลลูกให้เธอ ถ้าไม่อยากมาทำไมปฏิเสธตั้งแต่แรก

“โอโซนหลับไปแล้ว คราวหน้าก็อย่ากลับดึกแบบนี้อีก ลูกต้องการพ่อแม่ไม่ใช่พี่เลี้ยง นี่แหละนะที่เขาบอกว่ามีลูกเมื่อพร้อม ไม่ใช่นึกสนุกอยากมีก็มี” พูดจบก็เดินเฉียดตัวหญิงสาวออกไปด้วยสีหน้าปั้นปึ่ง ปัณฑารีย์เบี่ยงตัวหลบแทบไม่ทัน มองตามด้วยสายตางุนงง คิดในใจว่าโชคดีแค่ไหนที่เธอไม่มีสามี ถ้ากลับมาแล้วเจอสามีตีหน้ายักษ์ใส่แบบนี้ คงได้ทะเลาะกันบ้านแตก

 

อคิราห์ขับรถถึงบ้านด้วยอาการหัวเสียอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ได้โกรธที่ต้องไปดูแลโอโซน แต่ไม่ชอบใจที่หญิงสาวกลับบ้านดึกดื่น แล้วเมื่อได้ยินว่าต้องมาส่งอชิระที่บ้านก็ยิ่งพลุ่งพล่านกว่าเดิม เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องหัวร้อนขนาดนั้น ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านเห็นน้องชายกำลังนั่งดูโทรทัศน์อย่างสบายอารมณ์ ยิ่งเห็นก็ยิ่งขวางหูขวางตา

“รถนายเสียเหรอ” คำถามห้วนๆ ของพี่ชายทำให้คนเป็นน้องแปลกใจ

“พี่ซันรู้ได้ยังไง ผมยังไม่ได้บอกใครเลย”

“รออยู่นี่นะ อย่าเพิ่งไปไหน” แทนที่จะตอบคำถาม เขากลับออกคำสั่งแล้วก็เดินหายไปในห้องของตัวเอง สักพักก็ออกมาโยนกุญแจรถยุโรปสุดหรูคันโปรดที่เขาหวงมากให้น้องชาย อชิระมองกุญแจรถด้วยความรู้สึกงุนงง

“เอาไปใช้ระหว่างรอซ่อม จะได้ไม่ต้องรบกวนใครมาส่งบ้านอีก แล้วอย่าให้มีร่องรอยเด็ดขาด ไม่งั้นนายตายแน่” ชายหนุ่มมองกุญแจรถสุดหวงในมือน้องชายแล้วตัดใจเดินจากไป

“เดี๋ยวสิพี่…จะให้ผมใช้น้องสโนว์ไวต์จริงๆ เหรอ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ” อชิระตะโกนถามพี่ชายเพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป

“เออ…” คนเป็นพี่ฝืนใจกัดฟันตอบ แล้วรีบสาวเท้าเข้าห้องไปทันที ก่อนที่จะเปลี่ยนใจ

อชิระดีใจยิ้มจนปากแทบฉีก รถคันนี้พี่ชายรักและหวงมาก ถึงขนาดตั้งชื่อให้ว่าน้องสโนวไวต์ เพราะเป็นรถออฟโรดสีขาวที่ราคาเฉียดยี่สิบล้านบาท ถึงแม้รถคันนี้จะรองรับการขับขี่แบบออฟโรด แต่เขาก็ไม่เคยเห็นพี่ชายเอาไปบุกป่าฝ่าเขาที่ไหนเลย นานๆ จะขับไปต่างจังหวัดสักที เขาเคยขอลองขับครั้งหนึ่งและไปเฉี่ยวชนกับขอบกำแพงจนเป็นรอย ตั้งแต่นั้นมาอคิราห์ก็ไม่เคยให้เขาแตะต้องน้องสโนว์ไวต์อีกเลย ถึงจะแปลกใจกับท่าทางประหลาดของพี่ชาย แต่การได้ขับรถหรูไปอวดอาจารย์สาวๆ ที่มหาวิทยาลัยก็ทำให้อชิระลิงโลด อยากให้ถึงวันใหม่เร็วๆ

คืนนั้นอคิราห์เข้านอนด้วยความรู้สึกวุ่นวายใจ กว่าจะหลับได้ก็เกือบตีหนึ่ง เขาฝันว่าตัวเองมีครอบครัวที่น่ารัก ลูกตัวเล็กๆ กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสนามกับภรรยาที่เขามองไม่เห็นหน้า ชายหนุ่มยืนดูทั้งคู่หยอกล้อกันด้วยความรู้สึกอิ่มใจ ครอบครัวที่แสนอบอุ่นมีความสุข แต่เมื่อทั้งคู่หันหน้ามาหา อคิราห์ตกใจตื่นทันทีที่เห็นว่าภรรยาและลูกของเขาคือ ตีรณากับโอโซน

 

ผลการเลือกตั้งตำแหน่งรองคณบดี ชัยชนะตกเป็นของปัณฑารีย์ หญิงสาวดีใจมากที่ได้รับความไว้วางใจจากบรรดาคณาจารย์เลือกให้เธอดำรงตำแหน่งสำคัญ แม้เพิ่งกลับมาทำงานได้ไม่นานแต่เธอก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและมีความตั้งใจจริงในการทำงาน เธอรับปากกับทุกคนว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ให้สมกับที่ทุกคนเลือก อชิระหอบดอกไม้ช่อใหญ่มาแสดงความยินดีจนเพื่อนร่วมงานพากันกระเซ้าว่าชายหนุ่มดีใจจนออกนอกหน้าเหมือนตัวเองได้ตำแหน่งเสียเอง

เมื่อมีคนยินดี ก็ต้องมีคนไม่พอใจ ขวัญสุดาจัดอยู่ในบุคคลประเภทหลัง เธอแค้นใจที่ไม่สามารถโค่นปัณฑารีย์ลงได้ แม้จะใช้หลากหลายกลวิธีแต่ก็ล้มเหลว เธอถูกอาจารย์ที่เป็นคู่แข่งของปัณฑารีย์เรียกไปต่อว่าอย่างรุนแรง เพราะเธอเดินเข้ามาอาสากำจัดศัตรูให้พ้นทางแต่กลับทำไม่สำเร็จ แถมยังทำให้ปัณฑารีย์ได้รับคะแนนเลือกตั้งอย่างล้นหลาม ขวัญสุดาเจ็บใจที่พ่ายแพ้ให้ปัณฑารีย์ทุกเรื่อง แถมตอนนี้ยังต้องมาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหญิงสาวที่เธอเกลียด แต่คนอย่างเธอไม่มีวันที่จะยอมแพ้เพียงเท่านี้ ขอแค่มีโอกาสอีกครั้งเธอจะทำให้ปัณฑารีย์ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ

อีกเพียงสองวันก็จะครบกำหนดการสวมบทบาทพ่อกำมะลอ อคิราห์ควรดีใจที่จะได้ปลดเปลื้องภาระที่ไม่เต็มใจทำ แต่เขากลับรู้สึกใจหายเมื่อเวลานั้นใกล้เข้ามา หนึ่งเดือนที่ผ่านมาโอโซนทำให้ทัศนคติที่มีต่อเด็กของเขาเปลี่ยนไป แม้จะไม่มากมายแต่ก็ทำให้เข้าใกล้เด็กได้มากขึ้น ไม่หวาดกลัวเหมือนแต่ก่อน

วันนี้หลังผ่าตัดช่วงเช้าเสร็จ ชายหนุ่มไม่มีภารกิจอื่นอีกแล้ว จึงตัดสินใจไปรับโอโซนที่โรงเรียนโดยไม่ลืมที่จะโทรบอกแม่ของเด็กน้อยก่อน โอโซนวิ่งแจ้นเข้ามากอดขาอคิราห์ไว้แน่น ดีใจที่พ่อมารับ สองหนุ่มพากันไปกินไอศกรีมที่ห้างสรรพสินค้าและซื้อของเล่นก่อนกลับบ้าน

“พ่อคับๆ มาดูนี่เร็ว ตัวอะไรน่ารักจัง” โอโซนเห็นตัวการ์ตูนมาสคอตกำลังเต้นประกอบเพลงอยู่บนลานกิจกรรมชั้นล่าง จึงตะโกนเรียกพ่อมายืนดูด้วยกัน เด็กน้อยเกาะขอบกั้นที่เป็นกระจกใสมองลงไปด้านล่าง มาสคอตสีสันสดใสกำลังออกท่าทางอย่างสนุกสนานบนเวที

อคิราห์ชะโงกหน้ามองลงไป เขาแก่เกินกว่าจะสนใจตัวการ์ตูนพวกนั้นจึงหันหลังกลับมา ตั้งใจว่าจะหาร้านขนมซื้อไปฝากปัณฑารีย์ก่อนกลับ แต่สิ่งที่รอเขาอยู่เบื้องหน้าคือ อชิระ ที่กำลังจ้องมองมาทางเขากับโอโซนด้วยสายตาตกตะลึง อ้าปากค้าง คนเป็นพี่สะดุ้ง รู้ในทันทีว่าความลับที่ปกปิดเอาไว้ถูกเปิดเผยเสียแล้ว เขาจึงรีบดึงน้องชายออกมาให้ห่างจากโอโซน เพื่อไม่ให้เด็กน้อยได้ยินเรื่องที่พวกเขาสองคนจะต้องคุยกัน

“ทำไมพี่ซันถึงมาอยู่กับลูกชายของปัน แล้วทำไมโอโซนถึงเรียกพี่ว่าพ่อ นี่ผมหูฝาด ตาฝาด หรือว่าผมหลอนไปเอง” ชายหนุ่มสีหน้าสับสน เร่งเร้าพี่ชายให้ช่วยอธิบายให้กระจ่าง

“เรื่องมันยาวน่ะ” อคิราห์น้ำเสียงหนักใจ

“ยาวแค่ไหนผมก็ขอฟังครับ” น้องชายทำหน้าจริงจัง เรื่องนี้เขาต้องรู้ความความจริงให้ได้ ก่อนที่จะอกแตกตายเพราะคิดว่าปัณฑารีย์กับพี่ชายแอบไปมีลูกด้วยกัน

อคิราห์หันไปมองโอโซนที่กำลังเพลิดเพลินกับมาสคอตด้านล่าง เขาตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้น้องชายฟังว่าทำไมจับพลัดจับผลูมาเป็นพ่อของโอโซน อชิระฟังอย่างตั้งใจจนจบเรื่อง ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมปัณฑารีย์ถึงไม่เลือกตัวเองเป็นพ่อของลูก ถึงจะเป็นพ่อปลอมๆ แต่เขาก็เต็มใจและมั่นใจว่าทำได้แนบเนียน แต่กลับไปเลือกพี่ชายที่แสนเย็นชา หน้าตาไร้ความรู้สึกเหมือนกับหุ่นยนต์ ที่สำคัญใครๆ ก็รู้ว่าอคิราห์ไม่ชอบเด็ก

“นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ทำไมปันไม่เลือกผม ไปเลือกคนที่ไม่รักเด็กอย่างพี่ไปเป็นพ่อของลูกเนี่ยนะ ต่อให้เป็นพ่อปลอมๆ ก็เถอะ เธอไม่กลัวว่าพี่จะกินหัวลูกเธอบ้างหรือไง” อชิระโวยวายหัวเสีย เขาเคยเสนอตัวจะช่วยดูแลลูกยามที่เธองานยุ่ง แต่หญิงสาวก็ไม่เคยรับข้อเสนอ มองข้ามเขาไปแล้วให้พี่ชายตัวดีมาทำหน้าที่นั้นแทน ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดหัวใจ

“เบาๆ หน่อยเดี๋ยวเด็กได้ยิน” อคิราห์รีบเอามือปิดปากน้องชายที่กำลังลืมตัวโวยวายเสียงดัง “แล้วฉันก็ไม่ใช่เอเลี่ยน ไม่กินหัวเด็กหรือหัวใครทั้งนั้น” ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยแววตาขุ่นเคืองที่ถูกกล่าวหาคล้ายกับว่าเขาเป็นคนใจร้าย

“ไม่รู้ละ ผมจะไปถามปันให้รู้เรื่อง ว่าทำไมเลือกคนใจหินอย่างพี่แทนที่จะเลือกผม” อชิระยังไม่ยอมง่ายๆ เขาไม่ดีตรงไหนทำไมเธอถึงไม่เลือก

คนเป็นพี่มองน้องชายสายตาเอือมระอา ตั้งแต่เด็กจนโตอชิระก็ยังทำตัวเป็นเด็กดื้อเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้ ถ้าไม่ได้ก็จะงอแงไม่เลิก ญาติๆ เคยบอกว่าเพราะอชิระเป็นลูกคนเล็กที่เติบโตมาโดยไม่เคยรู้จักความรักจากแม่ พ่อจึงรู้สึกว่าต้องดูแลน้องเป็นพิเศษ ทดแทนความรักของแม่ที่อชิระขาดไป พ่อตามใจน้องชายมากกว่าเขาที่เป็นพี่ แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกน้อยใจหรือคิดว่าพ่อรักน้องมากกว่า อาจจะมีบ้างตอนที่เป็นเด็ก แต่เมื่อโตขึ้นก็รู้ด้วยตัวเองว่าพ่อรักลูกทั้งสองคนเท่าๆ กัน และพยายามทำให้พวกเขาสองพี่น้องมีความสุขที่สุด

“พ่อคับ พ่อคับ โอโซนมีขนมด้วย” โอโซนวิ่งเอาขนมมาอวดพ่อด้วยความดีใจ และมองหน้าอชิระคุ้นๆ ว่าเคยเห็นที่ไหน

“โอโซนจำอาได้มั้ยครับ อาเดย์เพื่อนแม่ไง” ชายหนุ่มรีบเตือนความจำของเด็กชายเพื่อหวังทำความสนิทสนม

“จำได้แล้วคับ คุณอาหล่อๆ ที่ไปเยี่ยมโอโซน” เด็กน้อยยิ้มสดใสให้กับเพื่อนแม่ อชิระดีใจที่เด็กน้อยจำได้ ถ้าเขาเอาใจโอโซนดีๆ ความฝันที่จะเป็นพ่อของเด็กคนนี้อาจเป็นจริงขึ้นมาได้สักวัน

“รับขนมจากคนแปลกหน้าไม่ได้นะคับ ใครให้มา” อคิราห์ทำหน้าดุ เขาไม่อยากให้โอโซนรับสิ่งของจากคนที่ไม่รู้จักเพราะอาจเป็นอันตรายกับตัวเอง

“พี่คนสวยให้มาคับ” นิ้วป้อมๆ ชี้ไปที่นักศึกษาสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่ยืนอยู่ไกลๆ เธอโบกมือให้เด็กน้อยอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินคล้องแขนเพื่อนสาวจากไป โอโซนมองตามนัยน์ตาวิบวับเจ้าชู้ อคิราห์มองดูพฤติกรรมของเด็กแสบแล้วถอนหายใจยาวอย่างอ่อนใจ

“เด็กคนนี้อาจจะเป็นลูกนายจริงๆ ก็ได้ แววตาหมาป่าชัดๆ” เขากระซิบเบาๆ ข้างหูน้องชายที่กำลังมองตามสองสาวนักศึกษาด้วยแววตากรุ้มกริ่มไม่ต่างกัน

อคิราห์พาโอโซนกลับบ้าน อชิระขอตามไปด้วย แม้จะออกปากห้ามเพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนเจ้าของบ้าน แต่น้องชายตัวดีไม่สนใจแถมยังชวนโอโซนให้นั่งรถไปด้วยกัน โอโซนตื่นเต้นที่เห็นรถออฟโรดคันใหญ่เป็นครั้งแรกจึงรีบกระโดดขึ้นไปนั่ง อคิราห์ปวดหัวกับความดื้อดึงของน้องชาย จึงปล่อยเลยตามเลย

ปัณฑารีย์แปลกใจเมื่อเห็นโอโซนเดินเข้าบ้านมาพร้อมกับสองพี่น้องสุดหล่อ อชิระต่อว่าปัณฑารีย์เรื่องที่ไม่เลือกเขาเป็นพ่อให้ลูกชายแล้วยังปิดเป็นความลับ หญิงสาวขอโทษที่ต้องปกปิดความจริง ถ้ามีคนรู้เรื่องมากเท่าไรก็อาจเกิดความวุ่นวายได้ เพราะอย่างไรเสียอคิราห์ก็มาทำหน้าที่พ่อเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ถึงจะเข้าใจแต่ชายหนุ่มก็ยังน้อยใจที่ไม่ใช่คนที่ถูกเลือก

“คราวต่อไปถ้าต้องการพ่อจริงๆ ให้โอโซน ต้องเป็นผมเท่านั้นนะครับ” คำพูดจริงจังของอชิระทำเอาหญิงสาวตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะคิดจริงจังขนาดนั้น

“คงไม่มีคราวหน้าแล้วละ ไปกินขนมกันดีกว่า ปันทำเองเลยนะ” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากอึดอัดใจไปกว่านี้ เธอยกไดฟุกุสอดไส้สตรอว์เบอร์รีและถั่วแดงออกมาวางบนโต๊ะ แล้วลงมือผ่าครึ่ง โอโซนร้องว้าวเมื่อเห็นสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ด้านใน ทุกคนกินอย่างเอร็ดอร่อย อชิระกินไปชมไปไม่ขาดปาก ยุให้ทำขาย เขาจะเป็นนายทุนเปิดร้านให้เอง อคิราห์หมั่นไส้น้องชายที่อวดรวย ทั้งที่เงินเดือนอาจารย์ก็แค่ไม่กี่หมื่นบาท อาจจะน้อยกว่าเงินเดือนของปัณฑารีย์ด้วยซ้ำ แต่เอาเข้าจริงพวกเขาสองพี่น้องก็ไม่ได้มีแค่รายได้จากเงินเดือนที่ทำงานเท่านั้น แต่รายได้ที่มหาศาลของพวกเขามาจากเงินปันผลของบริษัท ที่พ่อจัดสรรให้ตั้งแต่บรรลุนิติภาวะ ทำให้สองพี่น้องกลายเป็นไฮโซหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวย สาวๆ มากมายต่างหมายปองจะได้ครอบครองทั้งหัวใจและสมบัติของพวกเขา

ขณะกำลังเพลิดเพลินกับของหวานแสนอร่อย อชิระเห็นว่าแป้งขนมสีขาวติดที่ริมฝีปากของปัณฑารีย์ เขาหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาแล้วเอื้อมไปเช็ดให้เธออย่างนุ่มนวล ปัณฑารีย์เขินดึงกระดาษจากมือชายหนุ่มมาเช็ดเอง อคิราห์อึ้ง มองน้องชายที่กำลังส่งยิ้มหวานให้หญิงสาว เขารู้สึกหงุดหงิด ไม่ชอบรอยยิ้มที่ดูขวางหูขวางตานั้น สตรอว์เบอร์รีที่ก่อนหน้านี้มีรสชาติหวานฉ่ำ ตอนนี้กลับเปรี้ยวจนกลืนแทบไม่ลง

“แม่ปากเลอะเหมือนเด็กเลย” โอโซนหัวเราะชอบใจ อชิระหัวเราะไปด้วย

ปัณฑารีย์ทำหน้าไม่ถูก เหลือบมองอคิราห์ก็เจอกับสายตาเข้มดุที่จ้องมาพอดี

“ฉันทำไว้เยอะเลย เดี๋ยวเอาใส่กล่องไปให้กินที่บ้านนะคะ” หญิงสาวหาเรื่องลุกออกจากตรงนั้น เพื่อคลายความอึดอัด เธอเอาไดฟุกุลูกใหญ่ใส่กล่องจนเต็ม ติดสติกเกอร์น่ารักลงบนฝากล่อง เป็นนิสัยที่ติดมาตั้งแต่เด็ก ความน่ารักมุ้งมิ้งเป็นสัญลักษณ์ที่จะเห็นได้จากสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัวของเธอ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ หรือสมุดบันทึก จะมีสติกเกอร์ตัวการ์ตูนน่ารักติดทั่วไปหมด แต่ก็แปลกที่โอโซนไม่ชอบแปะสติกเกอร์เล่นเหมือนเด็กทั่วไป เขามักจะบอกแม่ว่ามันทำให้ดูสกปรก ไม่เรียบร้อย และมักจะแอบมาแกะของเธอออกบ่อยๆ

“เพอร์เฟกต์”

หญิงสาวหันไปมองเมื่อได้ยินประโยคที่ลูกชายชอบพูดจนติดปาก เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นสามหนุ่มช่วยกันต่อจิกซอว์รูปปราสาทสีขาวบนยอดเขาที่รายล้อมด้วยต้นไม้สีฟ้า จำนวน 1000 ชิ้นเสร็จเรียบร้อย โอโซนต่อจิกซอว์ภาพนี้มาเกือบหนึ่งเดือน ได้ไปกว่า 700 ชิ้น เธอเคยแอบมาต่อตอนที่ลูกนอนหลับ หวังว่าจะได้ช่วยลูกทำให้เสร็จไวๆ แต่ผ่านไปเป็นชั่วโมงเธอหาชิ้นส่วนเจอเพียงสามชิ้น เพราะสีสันที่คล้ายกันมากและขนาดที่เล็กจิ๋วทำให้ยากต่อการค้นหาชิ้นส่วนที่จะประสานกันอย่างถูกต้องลงตัว แม้จะคิดว่าชิ้นนี้ใช่แล้ว แต่เมื่อต่อไปเรื่อย ๆ ก็มารู้ตัวทีหลังว่ามันยังไม่ใช่ ต้องรื้อใหม่อีกรอบ เธอจึงล้มเลิกความคิดที่จะช่วย แม้ว่าจะเป็นของเล่นที่เธอคิดว่ายากและทำให้เสียเวลา แต่ทำไมผู้ชายสองคนนี้ถึงได้ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถต่อภาพนี้จนเสร็จ นี่พวกเขามาจากดาวดวงไหนกันแน่

โอโซนยืนมองจิกซอว์ที่ต่อเสร็จแล้วด้วยความภูมิใจ เด็กน้อยยิ้มจนตาหยีให้สองพี่น้อง และแปะมือแสดงความเป็นทีมที่สุดยอด สำหรับโอโซน ตอนนี้พวกเขาสามคนกลายเป็นพวกเดียวกันแล้ว

 



Don`t copy text!