นิราศรักสองนครา : บทนำ

นิราศรักสองนครา : บทนำ

โดย : ปรียนันทนา

Loading

นิราศรักสองนครา โดย ปรียนันทนา เรื่องราวของโชติ หญิงสาวชาวสยาม กับทางเลือกสองทาง ความรักของชายหญิงกับความรักหวงแหนแผ่นดินเกิด เธอจะเลือกทางใด และหากไม่สามารถเลือกได้  จะมีหนทางใดที่ใจสองดวงจะมาบรรจบพบกัน ณ จุดที่ลงตัวได้หรือไม่ นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านพร้อมกันที่นี่ anowl.co

มหานทีที่ทอดยาวเนืองแน่นด้วยเรือลำน้อยใหญ่มากมายแต่สิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้ปรากฏแก่สายตาชายหนุ่มผู้มาจากแดนไกลกลับมิใช่เรือสินค้าเหล่านั้น เพราะเรือพระประเทียบที่เขากำลังนั่งอยู่นี้น่าตื่นใจในการตกแต่งอันวิจิตรบรรจงยิ่งนัก พระมหากษัตริย์พระองค์ที่หนึ่งหรือคิงมงกุฎแห่งสยามได้ส่งไปรับคณะทูตจากเรือรบซึ่งเดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อเข้าเฝ้าพระองค์ท่านหลังจากราชทูตแห่งสยามเข้าเฝ้าพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ที่ปราสาทแซงต์คลูเมื่อหลายเดือนก่อน

มิเชลทอดสายตาไปยังเรือลำข้างหน้าอันใหญ่โตโอ่อ่ากว่าลำที่เขานั่ง ฝีพายกำลังออกแรงพายเรือเข้าใกล้ฝั่งแล้ว ท่านเชนเนอ ราชทูตรวมทั้งผู้ใกล้ชิดท่านอื่นอยู่บนเรือลำนั้น ส่วนเขาในฐานะผู้ติดตามซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยจดบันทึกการเดินทางในครั้งนี้อยู่บนเรือลำเล็กหากทว่าสวยงามไม่แพ้กัน ความตื่นเต้นและจดจ่อของเขาคงแตกต่างจากคณะทูตทุกท่านเพราะสยามมิได้เป็นเมืองไกลอันไม่คุ้นเคย ด้วยว่าช่วงเวลากว่าสองปีที่เขาได้ใช้ชีวิต ณ ดินแดนแห่งนี้ เริ่มจากติดตามท่านกงสุลฝรั่งเศสมาเพื่อหาข้อมูล จากนั้นมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น และหลายเรื่องเกี่ยวเนื่องกับหญิงสยามผู้นั้น ผู้ซึ่งมีความงามตามแบบฉบับแห่งตะวันออกหากจิตใจของเจ้าหล่อนช่างกล้าหาญ ทั้งยังมีปัญญาฉลาดเฉลียว และนี่คือเหตุผลที่เขากลับมาเพื่อรับเธอกลับไปยังอีกซีกโลกเพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกันที่นั่น

 

ชายวัยหนุ่มใหญ่ท่าทีสง่าผู้มีใบหน้าคมเข้มก้าวลงจากเรือพระประเทียบลำแรก ผมสีดำตามธรรมชาติเริ่มมีสีเทาเงินแซมเล็กน้อยหากยิ่งขับให้ใบหน้าดูน่าเกรงขาม เขายืนรอให้คณะทูตเดินเข้าไปยังออฟฟิศศาลต่างประเทศหน้าวัดพระเชตุพนเพื่อให้ท่านเชนเนอ เดอ แบลกูร์ ราชทูตฝรั่งเศสส่งมอบสัญญาฉบับใหม่เมื่อคราวที่เจ้าพระยาสุรวงษไวยวัฒน์เดินทางไปเจรจาความเมืองเรื่องดินแดนเขมรที่ยืดยื้อมานานหลายปี ทั้งยังมีเรื่องกงสุลโอบาเรต์ผู้กระทำการมิบังควรต่อหน้าพระพักตร์จนเกิดเป็นคดีกับหมอบลัดเลย์ แม้เรื่องยุติไปด้วยความสงบเรียบร้อยไม่เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหากรอยหมางในพระทัยอันนั้นเป็นสิ่งที่ข้าราชบริพารไม่อาจรับรู้ได้ ด้วยเพราะความยิ่งใหญ่แห่งผู้แทนพระเจ้านโปเลียนที่ 3 ทำให้ทรงต้องโอนอ่อนด้วยทรงถือความเป็นอิสระแห่งบ้านเมืองนั้นสำคัญเหนืออื่นใด

ร่องรอยความหมองเศร้ายังปรากฏในแววตาของหลวงภูบดินทร์พิทักษ์ เนื่องจากเพิ่งเสร็จสิ้นงานพระบรมศพสมเด็จพระปิ่นเกล้าผู้เป็นเจ้านายโดยตรง และด้วยความสามารถเมื่อคราวรับใช้ใกล้ชิดพระองค์ทำให้ท่านเจ้าคุณกลาโหมเสนอให้เขาเข้ามาช่วยงานด้านทหารเรือที่สมเด็จฯ ทรงปูทางไว้ก่อนหน้านี้ แม้เขาเพิ่งได้เข้ามาช่วยงานราชการในสังกัดวังหลวงแต่ความจงรักภักดีก็เปี่ยมล้นเพราะถือว่าได้ทำคุณประโยชน์เพื่อนบ้านเกิดเมืองนอนโดยแท้

ชายหนุ่มผู้มีผมสีน้ำตาลเข้มประกายทองยามสะท้อนแสงแดดสบตาเขาเมื่อยามเดินผ่าน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนวูบไหวอย่างยินดี ริมฝีปากบางสีแดงอมชมพูราวจะเอื้อนเอ่ยบางคำหากก็ยั้งไว้ด้วยเจ้าตัวคงรู้ว่ามิใช่เวลาอันสมควร หนุ่มใหญ่ก้มศีรษะเพียงเล็กน้อยแสดงอาการรับรู้ในถ้อยความของมิเชลหากก็ไม่ได้เอ่ยคำใดออกไปดุจเดียวกัน เขาเดินตามเข้าไปในออฟฟิศศาลต่างประเทศหลังจากคณะทูตและผู้ติดตามเข้าไปทั้งหมดแล้ว เสี้ยววินาทีที่ในใจประหวัดถึงหญิงสาวคนหนึ่งผู้ซึ่งเขาเคยคุ้นมาตั้งแต่หล่อนรุ่นเยาว์ แต่เพียงแค่ชั่วสายลมปะทะผ่านพัดเลยไปจิตใจของเขาก็กลับมาจดจ่อกับการงานเรื่องบ้านเมืองซึ่งอยู่ตรงหน้า ระยะเวลาเพียงอีกไม่กี่วันนับจากนี้คณะราชทูตต้องอยู่ที่สยามและเขาต้องดูแลให้ทุกอย่างราบรื่นดีที่สุด

เพราะเรื่องความบ้านความเมืองเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไหวยากที่ใครจะรู้ได้

 

เด็กหญิงผมจุกหน้าตาสดใสเนื้อตัวสะอาดหากก็มีรอยมอมแมมจากการวิ่งเล่นในสวนนั่งเรียงกันบนชั้นสองของเรือนใหญ่ไม่ไกลจากวัดอรุณราชวรารามอันเป็นที่พำนักของหมอเฮาส์และภรรยาผู้เป็นมิชชันนารีชาวอเมริกัน แม้ดูภายนอกอากัปกิริยาจะเรียบร้อยหากเมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นอาการยุกยิกไปมาประหนึ่งกำลังอยู่ในท่าทรมานตนก็ไม่ปาน หญิงสาวตาคมผมแสกกลางยาวประบ่าผู้ซึ่งนั่งมองเงียบๆ ได้แต่ลอบถอนใจพลางลอบยิ้มอย่างนึกเอ็นดู เจ้าของนิ้วมือเรียวงามเอื้อมมือไปช่วยจับผืนผ้าที่ย่นให้เรียบตึงเพื่อเด็กหญิงจะได้ตัดผ้าได้สะดวกเพื่อนำไปเย็บเป็นชุดนักเรียนชายสำหรับเด็กนักเรียนชายโรงเรียนสำเหร่บอยส์คริสเตียนไฮสคูล กิริยาคล่องแคล่วแต่นุ่มนวลเป็นธรรมชาติเมื่อชายสไบสีเขียวตองขยับไหวแล้วเจ้าตัวจับให้เข้าที่

เพียงครู่เดียวแววตาสุกใสเริ่มหม่นลงเมื่อละจากงานตรงหน้า จิตใจไพล่คิดถึงบางคนเมื่อยามที่ทอดสายตาไปยังริมน้ำ แม้อยู่ในระยะไกลจนมิอาจมองเห็นว่าเรือรบจากแดนไกลแล่นอยู่ ณ ที่ใด เพราะเบื้องหน้าเต็มไปด้วยเรือน้อยใหญ่กลางลำน้ำ หากใจก็นึกรู้ด้วยเวลาล่วงเลยเข้าค่อนวันไปแล้ว ถึงอย่างไรขบวนเรือพระประเทียบย่อมต้องถึงจุดหมายปลายทางฝั่งพระนครอย่างแน่นอนแล้ว

แม้ตัวอยู่ที่นี่หากแต่จิตใจของโชติราวกับกำลังรอคอยใครสักคนผู้ซึ่งมาจากแดนไกล เธอรอเพื่อจะพบและบอกกล่าวบางสิ่งหลังจากครั้งสุดท้ายที่ริมแม่น้ำแซนหญิงสาวบ่ายเบี่ยงเมื่อเขาขอคำตอบ แม้รู้ว่ายากเย็นสักปานใดแต่เธอคงต้องมอบคำตอบให้เขาในอีกไม่นานนี้

แล้วทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

 



Don`t copy text!