เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 9 : Kinky Malibu Barbie Shots  ประหลาด พิลึก

เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 9 : Kinky Malibu Barbie Shots ประหลาด พิลึก

โดย : ขวัญอินทร์

Loading

เปลือกมุกสีชมพู โดย ขวัญอินทร์ นวนิยายดราม่าเข้มข้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอาจไม่เคยมองเห็นเนื้อแท้ของใครได้เลย ถ้าเราเลือกมองแค่เพียงเปลือก ความสำเร็จ ความล้มเหลว และภาพจำที่ผู้อื่นตีกรอบให้ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใคร เพราะสุดท้ายผลกรรมจะเปิดโปงทุกอย่างไม่ช้าก็เร็ว

 

รัมมะพร้าว (โคโคนัตรัม) พีช รสหวานเป็นเหล้าของยายตัวแสบ

ตลาดท่าพรุเวลาเจ็ดโมงเช้า พลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่มาซื้อของในตลาด สองข้างทางมีรถเข็นขายของกินมากมาย ต้นบุญค่อยพารถคืบให้ผ่านความจอแจนั้น เพื่อตรงไปยังบ้านของมุกอันดาตามที่นัดไว้

หลังจากเห็นวีรกรรมของเธอเมื่อคืนนี้แล้ว เขาบอกตัวเองว่าให้รีบจัดการธุระที่พ่อฝากฝังให้เสร็จเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับมุกอันดาอีก

“ตื่นหรือยังก็ไม่รู้” ตอนนี้เขาชักกังวล ตอนแรกจะแกล้งเธอ แต่ตอนนี้ชักกลัวโดนเธอเท เป็นฝ่ายเขาเองที่ตื่นเช้ามาคอยเก้อ ทั้งที่ช่วงบ่ายเขามีธุระเรื่องย้ายไปอยู่คอนโดฯ แต่มาถึงพบว่าเธอยืนรออยู่ก็โล่งใจ

“ตรงเวลาใช้ได้” ต้นบุญพูดกับตัวเอง วันนี้เธออยู่ในชุดกางเกงยีนส์ขายาว แจ็กเก็ต ฮูดสีดำ พร้อมหมวกแก๊ป รองเท้าผ้าใบ สะพายเป้สีดำ แต่งหน้าบางๆ ดูเหมือนเด็กนักศึกษากำลังไปเข้าค่ายต่างจากบาร์เทนดี้ผมสีชมพูเมื่อคืนนี้ ถ้าไม่ใช่สีผมเหมือนกันก็คงคิดว่าเป็นคนละคน ทันทีที่ก้าวขึ้นรถก็ยกมือไหว้สวัสดีเขาแล้วก็ควักยาดมขึ้นมาสูดฟอดใหญ่

“ไม่เคยตื่นเช้าละสิ” ต้นบุญแซวเสียงเยาะ สะใจเล็กๆ ที่ได้เอาคืนเด็กปากกล้า

“รู้แล้วยังจะนัดเช้าอีก” มุกอันดาพูดพลางหาวหวอดๆ

“กินอะไรมาหรือยัง” ต้นบุญถาม

“ยังค่ะ กินไม่ลง เลยเอาข้าวเหนียวหมูทอดคดห่อมาด้วย เผื่อคุณด้วยนะ” ฝ่ายนั้นตอบยกห่อใบตองพวงใหญ่ขึ้นมาชูให้เห็น กลิ่นหอมอบอวลชวนหิวขึ้นมาทั้งที่กินอาหารเช้าที่โรงแรมมาแล้ว

“ขอบใจ” เขาตอบสั้นๆ ไม่พูดอะไรด้วยอีก ต่างคนจึงต่างเงียบกันไปตลอดทาง เขาเห็นมุกอันดาถ่ายรูปตลอดเส้นทาง และใช้สมุดจดไปพร้อมกัน

เมื่อวานเขาเห็นฟ้าพราวใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่กว่าเขาเสียอีก แต่มือถือของมุกอันดาเป็นรุ่นธรรมดา ราคาไม่ถึงสามพันกระมัง เขาประเมินฐานะจากสิ่งของนอกตัวตามเคยชิน แต่ก็เพื่อให้รู้ว่าไม่ใช่คิดดูถูกใคร

จะว่าไปเธอก็เพิ่งจบมหา’ลัยไม่ถึงปี เงินเดือนก็ไม่กี่พันไม่ใช้ของเกินตัวน่ะดีแล้ว และดูเหมือนฝ่ายนั้นจะไม่ยี่หระกับการไม่มีของตัวเอง ยังคงสนุกกับสเกตช์ภาพเส้นทางสลับกับถ่ายภาพกันลืม ท่าทางชำนาญ ลายเส้นน่ารัก แสงแดดยามเช้าทะลุกระจกเข้ามาทำให้เห็นแสงเจิดจ้าตรงที่เธอนั่ง ใบหน้านั้นดูสงบ ใครจะคิดว่ามีพิษสง

ขับรถห่างจากมหา’ลัยชื่อดังประมาณสิบกิโลเมตร เข้าสู่ชุมชนมีบ้านคนสลับกับไร่นา ห่างจากชุมชนไม่เกินห้ากิโลสองข้างทางก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสวนยางพาราผืนใหญ่ มีร่องรอยถนนลาดยางใหม่ๆ เส้นทางเป็นเนินสลับขึ้นลง

“โห นี่ เค้าตัดถนน ลาดยางกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” มุกอันดาอุทาน เธอเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งตอนอาจารย์ให้มาดูการทำเหล้าชุมชนของชาวบ้าน จำได้ว่าตอนนั้นยังเป็นทางลูกรัง

ต้นบุญอธิบายเพิ่มว่าถ้าดูตามจีพีเอส แยกข้างหน้านี้จะทะลุไปยังอำเภอเมืองของจังหวัดได้

“ของเราต้องเลี้ยวขวา” เขาชี้บอกเมื่อถึงทางแยก เธอมองตามทำเสียงจุ๊ๆ ในลำคอ พอใจกับความเจริญ “ต่อไปแถวนี้น่าจะเจริญเป็นเมืองใหม่” เขาอธิบายเพิ่ม

“น่าขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว” มุกอันดาไม่ได้คิดถึงเรื่องความเจริญ นอกจากเส้นทาง วิวสวย ถนนเรียบรถน้อย ถนนแบบนี่ละที่น่าขี่รถเที่ยว

“อันตราย ทำไมไม่ซื้อรถยนต์คันเล็กๆ สักคัน”

“ไม่เอาหรอกค่ะ ผ่อนมอเตอร์ไซค์แต่ละเดือนก็แทบอ้วก”

เป็นอีกครั้งที่เขาแปลกใจ ฟ้าพราวขับรถหรูรุ่นใหม่ราคาหลายล้าน แต่มุกอันดาบอกว่าต้องผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ ฐานะหลานสาวคุณนวลพรรณต่างกันเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อว่าความผิดพลาดของพ่อจะทำให้ลูกลำบากได้ขนาดนี้

“ถ้าจะมาก็ชวนเพื่อนมาด้วย เป็นผู้หญิงอันตราย” เขาบอกน้ำเสียงอ่อนโยนลงเล็กน้อย

มุกอันดาชะงักมือที่กำลังสเกตช์ภาพ ก่อนพึมพำว่า ‘ค่ะ’ ในลำคอจนเขาแทบไม่ได้ยิน ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นปีกหมวกแก๊ปขยับขึ้นลงก็คงไม่รู้ว่า เธอรับทราบคำเตือนของเขา

ต้นบุญขับรถมาจนถึงหลักกิโลเมตรตรงตำแหน่งที่ดินของมุกอันดาพอดี ต้นบุญบอกให้เธอจดหลักเสากิโลและถ่ายรูปเก็บเอาไว้ มาวันหลังจะได้ไม่หลง จากนั้นก็ให้เธอดูสำเนาโฉนดที่ดิน เขาอธิบายว่าที่ดินแปลงนี้ทั้งหมด 100 ไร่ซึ่งหน้ากว้างติดถนน 20 ไร่ลึกลงไป 50 ไร่ เป็นเหมือนรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ต้นยางอายุกว่าสามสิบปี ไม่มีคนกรีดนานแล้ว

“ถ้าจะขายไม้ยางก็ได้หลายล้านอยู่นะ” ต้นบุญบอก รู้สึกดีใจกับเธอด้วยจากใจจริง ต่อไปเธอคงไม่ต้องลำบากเรื่องเงิน

“ขอบคุณคุณย่านะคะ ที่นึกถึงหลานระยำคนนี้” มุกอันดายกมือไหว้ทั่วทิศท่วมหัว ต้นบุญทั้งฉิวทั้งขำในเวลาเดียวกัน แทนที่เธอจะพูดอะไรให้ซาบซึ้งกว่านี้กลับไม่พูด

“ที่ดินแบ่งเขตด้วยรั้วสายหนามเรียบร้อยแล้วทั้งสองด้าน ส่วนท้ายสวนมีลำธารเล็กๆ เป็นแนวกั้น แต่ต้องเดินเข้าไปลึกหน่อย เดินไหวมั้ย” เขาหันมาถามเด็กสาวซึ่งเมื่อใส่หมวกแก๊ป สะพายเป้ที่หลัง

มุกอันดาพยักหน้าแทนคำตอบ พร้อมสูดยาดมในมือฟอดใหญ่ ต้นบุญเผลอหัวเราะเบาๆ อยู่กับมุกอันดาก็ดีไปอย่าง เธอไม่ค่อยวางท่าว่าตัวเองเก่งไปซะทุกอย่างจนทำให้คนอยู่ใกล้พลอยอึดอัด เพราะต้องพยายามทำตัวให้เก่งตาม

เขาพาเธอตามรั้วสายหนาม พ่อเพิ่งสั่งคนให้มาถางป่าแนวรั้วก่อนเปิดพินัยกรรมไม่กี่วัน ทำให้เดินสะดวกซึ่งถูกตัดจนโล่งสามารถเดินได้สบาย เส้นทางช่วงแรกเป็นทางเรียบไม่ลำบาก แต่เมื่อเดินไปได้สักระยะ ก็เริ่มเป็นทางชันขึ้นลง

“สวนข้างๆ ของใครคะ” มุกอันดาถาม ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นสวนยางมีร่องรอยการกรีดเหมือนกันกับแปลงนี้

“คุณลุงสัมพันธ์ เป็นข้าราชการเกษียณ ก็ได้คุณลุงนี่แหละที่ช่วยหาคนงานถางป่าให้ ส่วนอีกด้านของลุงภูพ่อผมเอง” เขาบอกพูดติดตลกในตอนท้าย

“มิน่า คุณย่าถึงฝากพินัยกรรมไว้กับลุงภู เพราะที่ดินติดกันนี่เอง”

“คงงั้นครับ”

ทั้งสองเดินตามกันไปเงียบๆ มุกอันดาดูเพลิดเพลินกับสิ่งรอบตัวจนเขาไม่ต้องกังวล ยิ่งเดินลึกเข้าไปก็พบว่ายิ่งรก ทำให้เดินลำบากขึ้น

“สงสัยว่าคนงานจะลักไก่ซะแล้วมั้ง” ต้นบุญบ่น เพราะตอนที่เขากับพ่อมาตรวจงานไม่ได้เดินลึกขนาดนี้ ทั้งสองเดินจนกระทั่งมาถึงลำธารก็ทรุดนั่งที่โขดหินพักเหนื่อย น้ำในลำธารแห้ง แต่ก็พอมีสายน้ำใสพอให้เห็นกรวดทรายสีแดงด้านล่าง ทุกอย่างดีหมดยกเว้นยุงที่รุมตอมจนรู้สึกคันไป

มุกอันดาถอดหมวกออก หยิบน้ำในเป้ ส่งห่อข้าวเหนียวหมูทอดและน้ำให้เขาหนึ่งขวด เธอจัดการทุกอย่างเรียบง่าย หน้าแดงก่ำเพราะโดนแดด ผมหน้าม้าเปียกชุ่มแน่นหน้าผาก

ต้นบุญทำตามเธออย่างง่ายดาย ความจริงเขาทานอาหารเช้ามาแล้ว แต่ข้าวเหนียวหมูห่อใบตองก็ส่งกลิ่นหอมยวนใจ ประกอบกับได้บรรยากาศแคมปิง เขาจึงเปิบกินด้วยความรู้สึกอร่อย

“ซื้อร้านไหน อร่อยดี”

มุกอันดายิ้มรับ ขี้เกียจบอกว่าทำเอง ปั้นหมูกับข้าวเหนียวช้าๆ ท้องหิวก็จริง แต่ก็กินไม่ลงเมื่อคิดถึงย่านวล ถ้าเทียบกับสมบัติที่ปู่ย่าเคยมี ที่ดินแปลงนี้ก็แค่กระผีกเดียวอย่างที่ฟ้าพราวว่า เธอคิดเรื่องพินัยกรรมคุณย่ามาตลอดทาง ท่านคงรู้ว่าถ้าให้ป้าจีดูแลเธอคงไม่เหลืออะไรแม้แต่ที่ซุกหัวนอน

“ตอนนั้นคุณย่าซื้อมาเท่าไหร่คะ” มุกอันดาถามเพราะไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี

“ผมก็ไม่แน่ใจ แต่รู้ว่าตอนนี้ถ้าจะขาย ก็น่าจะหลายล้านแล้วละ”

“โห ขนาดนั้นเลยหรือคะ อยู่ในเขาในควนเนี่ยนะ” มุกอันดาตาโต

“ก็อย่างที่บอกไงว่าที่นี่กำลังเป็นเมืองใหม่ อย่าเพิ่งรีบขายเสียล่ะ รอให้ราคาดีกว่านี้แล้วค่อยขาย”

“ไม่ขายหรอกค่ะ ที่ดินแปลงนี้เป็นของขวัญที่คุณย่ามอบให้ ลำบากยังไงมุกก็ไม่ขายหรอก ไม้ยางก็ไม่โค่นด้วย เอาไว้เป็นป่าให้ร่มรื่นแบบนี้แหละดีแล้ว วันหลังจะชวนพี่ป้อมกับเด็กบอยมาตั้งแคมป์กินเหล้าที่นี่”มุกอันดาบอก รู้สึกปลอดโปร่งใจมากขึ้นเมื่อคิดว่าจะชดเชยความผิดที่มีต่อคุณย่าได้อย่างไร

“ไม่กลัวเหรอ เป็นสาวเป็นนาง มานั่งกินเหล้ากับผู้ชายกลางป่า หรือว่าเค้าไม่ถือสากับเรื่องแบบนี้แล้ว”ต้นบุญลืมตัวตำหนิเสียงขุ่น

มุกอันดาเลิกคิ้วเล็กน้อยเป็นเชิงถามว่าทำไมต้องกลัว แต่ต้นบุญกลับคิดไปว่าเธอไม่พอใจที่เขาเตือน

“พี่เห็นเราเป็นน้องเป็นนุ่ง แล้วพ่อก็ฝากให้ดูแลมุก ก็เลยเตือน” ต้นบุญพูดพลางตีหน้าขรึมจนมุกอันดาหัวเราะคิก ยิ่งทำให้เขานึกฉุนคิดว่าเธอหัวเราะที่เขายกตนเป็นพี่ชาย

“จริงสินะ ผู้หญิงสมัยนี้เค้าไม่ถือสา เรื่องกินเหล้าเมายากับผู้ชายแล้วนี่”

“ตรรกะมั่วแล้วคุณ คนละเรื่องเดียวกันเลย คุณพูดว่า ‘ไม่กลัวหรือที่ว่าดื่มเหล้ากับผู้ชายกลางป่า’ มุกก็จะถามว่า กลัวเรื่องอะไร พี่ป้อมกับเด็กบอยน่ะมุกสนิทกว่าคุณอีก กับคุณ มุกยังไม่กลัว แล้วจะไปกลัวอะไรกับสองคนนั้น อีกอย่างถ้าจะมาเมียพี่ป้อมก็มาด้วย แฟนบอยก็มาด้วย” มุกอันดาชักฉุนที่เขาพูดเหมือนดูถูก

ต้นบุญหน้าเหวอ คำอธิบายเธอมีเหตุผล แต่คำขึ้นต้นเหมือนเขาเพิ่งถูกเด็กด่าไปหยกๆ

“ก็ไม่บอก เห็นหัวเราะคิก นึกว่าดูถูกความคิด” ต้นบุญหน้าคว่ำ ส่งสายตาเข้มดุ กะจะปราบเด็กให้อยู่หมัด มุกอันดาสบตาสีหน้าเรียบเฉย ไม่พูดแก้ตัวใดๆ จนเขานึกฉุนหนักกว่าเดิม เธอควรต้องขอโทษเขาที่ทำให้เข้าใจผิดสิ ชายหนุ่มคิดในใจ

“เฮ้อ! คุณอย่าห่วงมุกเลย ปวดหัวเปล่าๆ ที่มุกหัวเราะคือ ขำจริงอะไรจริง อคติทำให้คุณคิดว่ามุกต้องมาเที่ยวกับผู้ชายตามลำพัง แต่ก็ช่างเถอะคุณเจอมุกแต่ละครั้ง มีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น เข้าใจแบบนี้ก็ไม่แปลก มุกเลยขำไง”

คำอธิบายเรียบง่ายตรงไปตรงมา ทำให้เขารู้สึกจุกลึกๆ ในใจ เป็นเขาเองที่รู้สึกเสียใจ จริงของมุกอันดา เขาอคติและด้อยค่าเธออยู่ก่อนแล้ว ที่น่าละอายคือเธอเองก็รู้ตัวตลอดเวลา

ขากลับเขาพาเธอเดินทางด้านที่ติดกับสวนของเขาซึ่งเป็นสวนยางแก่พอกัน เพื่อสำรวจเส้นทางว่าสามารถทะลุไปตรงไหนได้บ้าง มุกอันดาไม่ใช่ผู้หญิงจุกจิกคิดเล็กคิดน้อย เธอจึงไม่พูดถึงประเด็นที่ผ่านมาพากันผจญภัยเดินสำรวจเส้นทางจนเกือบเที่ยงเขาจึงได้พามุกอันดามาส่งที่บ้าน

“ขอบคุณนะคะ เอาไว้จะเลี้ยงเหล้าเป็นการตอบแทน” มุกอันดายกมือไหว้ขอบคุณก่อนลงจากรถ

ต้นบุญอ้าปากจะแย้งว่าเขาไม่ใช่พวกขี้เหล้า แต่เธอก็ผลุบหายเข้ารั้วบ้านไปแล้ว จึงได้แต่ส่ายหน้าระอาและอมยิ้มกับตัวเอง นี่เขาโดนเด็กคนนี้ถอนหงอกกี่เส้นแล้วนะนี่

 

 



Don`t copy text!