ดาราอรุณ บทที่ 44 : เปลี่ยนมือ

ดาราอรุณ บทที่ 44 : เปลี่ยนมือ

โดย : กฤษณา อโศกสิน

Loading

ดาราอรุณ โดย กฤษณา อโศกสิน เรื่องของ ‘ลมเย็น’ หญิงสาวที่เกิดในช่วงเวลาที่ดาวประกายพรึกปรากฏบนฟากฟ้าและ ‘หิ้ง’ ชายหนุ่มที่โชคชะตาพัดพามาให้ได้ใกล้ชิดกัน…เมื่อดาวศุกร์ ดารายามแรกอรุณได้นำทางความรักให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ดาวศุกร์จึงพาให้ชีวิตของเธอเปล่งประกายไม่ต่างไปจากดาราอรุณและนี่คือนวนิยายที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอ

นายชัดเริ่มสบายใจขึ้นมาก เมื่อคุณปรียามักจะโทรศัพท์มาเล่าเรื่อยๆ ให้อีกฝ่ายล่วงรู้ถึงความคืบหน้าตลาดหุ้นซึ่งมีหุ้นตัวที่เธอลงทุนไว้…ว่า…กำลัง ‘ขึ้น’ ทุกวัน ราวกับจะช่วยให้เธอได้เงินเต็มที่เท่าที่เธอควรจะได้ในการแลกเปลี่ยนระหว่างที่ดินกับหุ้นสามัญในคราวนี้

“พอถึงราคาที่ดิฉันพอใจ ก็จะเทขายละค่ะ” เธอบอกกล่าวในวันต่อมา “คิดว่าราววันที่ 26 ก็จะทำโอนไว้เป็นเช็คเงินสดยี่สิบล้านกับเงินสดอีกเจ็ดแสนกว่าให้ทันทีนะคะ”

“เราจะต้องไปที่สำนักงานที่ดินกันใช่ไหมฮะ” นายชัดเอง เมื่อได้ยินจำนวนเงินที่ภรรยากำลังจะได้รับก็ถึงแก่อ้ำอึ้งอึกอัก ตอบไม่ได้ ไปไม่ถูกเอาทีเดียว

จนนึกขำตนเองมิวาย

“เป็นชื่อภรรยาคุณไงคะ…ภรรยาชื่ออะไร คุณช่วยให้หนูเย็นส่งทางไลน์มาให้ดิฉันดีกว่า จะได้ไม่พลาด”

“เอางี้ดีไหมฮะ…ผมจะมอบให้เย็นเป็นคนติดต่อกับคุณปรียาโดยตรงดีไหม…ไอ้ผมมันก็คนกึ่งบ้านนอกหน่อยๆ น่ะฮะ…เดี๋ยวจะดูผิดดูพลาด เขียนผิดเขียนพลาดก็ต้องมาแก้กัน…ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล่นๆ”

“ดีค่ะ…ให้อยู่เย็นทำแทนได้เลย”

“แล้วนัดกันเองละกันนะฮะ…ขอบคุณมากฮะที่ช่วยซื้อที่ผืนนี้…แล้วผมจะช่วยคุณปรียาคิดว่า น่าจะเอามาต่อดอกต่อผลให้มันคุ้มค่ายังไงดี”

“เราคงคุยกันอีกนานนะคะกว่าจะลงตัว เพราะต้องค่อยๆ คิดว่า…จะลงทุนทำอะไรดีที่จะคุ้มทุนเร็ว” คุณปรียาเองก็ห่วงใยอนาคตอีกยาวไกลของเธอเช่นกัน…ว่า…ควรจะมีที่ทางไว้ ‘เก็บกิน’ ต่อเนื่องอย่างไรบ้าง จึงจะอุ่นใจได้ว่าไม่จนยากยามชรา

“เชิญเลยครับ…ผมกับยาใจยินดีที่สุดที่คุณปรียามาอยู่ใกล้ๆ เรา…ไม่เป็นญาติก็เหมือนเป็น ปวดเมื่อยเมื่อไหร่…มาเลยนะฮะ…ผมนวดให้ฟรี ดูดวงฟรี” ว่าพลางเจ้าตัวก็หัวเราะเบาๆ อย่างสุขใจ สดชื่นแกมตื่นเต้นในวันที่ทุกคนจะได้ไปโอนโฉนดที่ดินหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าตารางวาด้วยกัน ณ สำนักงานที่ดินประจำเขต

ที่ซึ่งคุณปรียาจะยื่นแคชเชียร์เช็คกับซองเงินสด

นางยาใจมอบโฉนดที่ดิน

กลิ่นหอมหวานแห่งชีวิตของสองครอบครัวดูราวจะเริ่มโปรยปลิวอยู่ในกระแสลมและสายแดดของวันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ และ…วันที่มีนัดพร้อมหน้า

คือวันใดวันหนึ่งซึ่งไม่นานเกินรอ

แต่เปรียวยังคงออกความเห็นต่อไป

“แม่ครับ…เอาอย่างนี้ดีไหม…ถ้าจะให้มั่นใจทุกอย่าง…ผมว่า เราน่าจะจ้างทนายความซักคนให้เขามาช่วยดูแลการซื้อขายการโอนอะไรต่อมิอะไรที่เราจะต้องทำตามกฎหมายสักหน่อยจะดีกว่าไหมฮะ…คงต้องเสียค่าทนายอีกนิดนึง แต่จะช่วยให้ทุกอย่างคล่องตัวขึ้นไงแม่ ดีกว่าเราไปเงอะงะที่ที่ดิน”

“ก็ดีเหมือนกันนะ…แล้วลูกคิดจะจ้างใคร”

“อาวสันต์ดีไหมฮะ…สำนักงานแกก็อยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง”

“ก็ดีเหมือนกัน” คุณปรียานิ่งคิดถึงชายสูงวัยใกล้ๆ เจ็ดสิบปีที่ดูเหมือนนายจ้างของเปรียวจะเรียกหาเป็นประจำจนรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อของเขาราวกับเธอเคยจ้างเอง

“ผมจะได้เชิญเขามาคุย…วันไหนล่ะฮะที่แม่ว่าง”

ดังนั้น วันรุ่งขึ้น เปรียวจึงขับรถของมารดาไปหาตัววสันต์จากสำนักงานทนายความที่อยู่ไม่ไกล…มาพบปะพูดคุยกันถึงการโอนโฉนดและทำแคชเชียร์เช็คกับว่าเงินสดให้นางยาใจ ณ สำนักงานที่ดิน

แต่นอกจากวสันต์แล้ว ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งตามมาด้วย โดยทนายความสูงวัยแนะนำว่า

“หลานชายชื่อพันศรครับ…จบกฎหมายแล้วเลยชวนพามาอยู่ด้วยกัน”

ครั้นคุณปรียาและเปรียวชวนกันเล่าถึงการซื้อขายที่ดินที่ผู้ขายมีนามว่า นางยาใจ คำนวณปรางค์ กับนางปรียา ลิขิตเดช วสันต์ก็ได้แต่พยักพเยิดตามไป

“ไม่ยากอะไรครับท่าน” อีกฝ่ายตอบคำอย่างยกย่อง ฝ่ายพันศรแค่ฟังพร้อมยิ้มๆ “ผมไปเดินเรื่องไว้ก่อนเลยก็ได้…วันไหนท่านสะดวก….ผมก็ไปวันนั้นเลยละครับ”

“กำลังหาวันขายหุ้นอยู่น่ะค่ะ…หุ้นตัวนี้ขึ้นดีซะด้วย เลยยังเสียดาย ยังโลภอยากได้เพิ่มอีกซักนิดหน่อยก็ยังดี”

วสันต์กับลูกน้องได้แต่ยิ้มๆ

“เป็นธรรมดาครับ ใครๆ ก็เสียดายทั้งนั้น ถ้าเทขายแล้วพรุ่งนี้มันขึ้นไปอีก”

“เล่นกับหุ้นนี่ เป็นโรคหัวใจไม่ได้นะคะ” คุณปรียาก็เลยพูดขำๆ “ขึ้นก็หัวใจวาย ตกก็หัวใจวาย”

“เหมือนทุกสรรพสิ่งนั่นละครับ…ได้หรือเสียก็มีอันตรายตามมา” ทนายความตอบอย่างคนเห็นโลกเห็นคนมามาก ทั้งโลกดีโลกเสีย ทั้งคนเลวคนซื่อ “ยิ่งเดี๋ยวนี้ยิ่งเผลอไม่ได้ ต้องระวังตัวทุกยิบตา…แต่ตอนนี้ท่านยังไม่คิดจะเทขายใช่ไหมครับ”

“ก็ยังเสียดายอย่างว่าละค่ะ”

“ถ้างั้น รออีกซักวันสองวันก็ได้ครับ…ราววันที่ 26-27 จะเป็นไปได้ไหมฮะ”

“ก็น่าจะช่วงนั้นนะคะ…เพราะถึงยังไง เขาก็ขีดเส้นตายไว้แล้วว่า วันที่ 31 คือวันสุดท้าย ขออย่าให้เลยไปถึง 1 กันยา”

“เพราะอะไรก็ไม่ทราบ” ทนายวสันต์เริ่มงง

“คือเจ้าของที่เป็นหมอดูไงคะ…เขาดูว่าดาวอะไรก็ไม่ทราบ จะมาที่ไหนก็ไม่ทราบอีก” คุณปรียาเล่าพร้อมยิ้ม “มาแค่วันที่เท่าไหร่ก็ลืมไปแล้วค่ะ จำได้แต่ว่าอย่าให้เลยวันที่ 1 กันยา ที่เป็นวันสุดท้าย”

ทนายความสูงวัยก็ได้แต่ส่ายหน้า

“ผมไม่ได้สนใจเลย…แค่ฝั่งก็ยังจำยาก…ขืนเอามาเข้าคู่กับมาตรานั้นมาตรานี้ก็ยิ่งจะดูไม่จืด” พลางเขาก็หัวเราะขำอย่างนึกไม่ออกเรื่องเรื่องโหราศาสตร์

 

แต่ นายชัด ณ บัดนี้ เริ่มกินได้นอนหลับ หลังจากเฝ้าคอยติดตามดวงดาวหนึ่ง คือ ดาวพระศุกร์ (6) ตั้งแต่เริ่มยาตราเข้าสู่ราศีกรกฏ ตั้งแต่เวลา 23.55 ของวันที่ 8 สิงหาคมจนถึงขณะนี้ วันที่ 26 ที่ดาวศุกร์อยู่ในองศาที่ 22 ของราศีกรกฎ อันดลบันดาลให้ดาวศุกร์ได้ยกระดับขึ้นมาสู่ความเป็น ‘ราชาโชค’ แม้มีเสาร์ (7) กับเกตุเล็งอยู่ในราศีมังกร เล็งดาวศุกร์ รวมทั้งดาวอังคาร (3) และดาวมฤตยู (0) เล็งลัคนา แต่นายชาติก็หาได้วิตกใดใดไม่ เนื่องด้วยรู้ดี

ทันทีที่ได้เงินมา…เขาผู้ต่อไปจะกลายเป็นประธานบริษัท มีผู้ถือหุ้นอีกสี่คน จะต้องเริ่มดำเนินการอย่างสุขุมแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยใช้จ่ายเงินที่ได้มานี้อย่างรอบคอบคุ้มค่า

โดยดาวพุธ (4) ที่จรมาเป็นเกษตรและมหาอุจในราศีกันย์ รวมทั้งพฤหัส (45) ตำแหน่งเกษตรในราศีมีนบ่งบอก

นับแต่นี้ต่อไป ครอบครัวเขาจะค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่พ่ายแพ้ผู้ใหญ่ในโลกกว้างอันแวดล้อมไปด้วยการแข่งขัน

“พ่อตอนนี้นั่งเฉยๆ ก็อยู่หน้ายิ้ม”

หิ้งกับลมเย็นยังคงมีเรื่อง ‘ชื่อบริษัท’ อยู่ในสมอง

ชายหนุ่มยังคงอาศัยรถเหินมาโดดลงตรงประตูบ้านหญิงสาวทุกเช้า…ตอนค่ำก็รอน้องชายให้แวะรับจนนายหันถามไถ่แกมแดกดัน

“ที่จริง แกก็น่าจะนอนนั่นซะเลยเป็นไง…ใกล้จะไปทำงานแล้วก็ไม่นึกขวนขวายไปหาเพื่อนเก่าที่เขาไม่ได้ไปชุบตัวซะมั่ง จะได้คุยกับคนที่เขาอยู่นี่ จะได้รู้ว่าเราควรทำตัวยังไง”

“ไม่ต้องก็ได้พ่อ…เรื่องการทำตัววางตัวนี่ก็แค่เป็นตัวเรานี่ละ ใช้ได้แล้ว” หิ้งบัดนี้ ตั้งใจไว้อย่างดีแล้วว่าจะไม่ขัดขืนเสียงแข็งกับบิดาอีกต่อไป หลังจากพูดจากันหมดจดวันก่อน “คือผมยังมีงานอีกมาก พ่อก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ งานพลังงานกับงานสมุนไพรที่จะลงทุนกับอาชัดจะเข้ามาให้เราไม่ว่างตั้งสองงาน”

ที่จริง นายหันก็หาเรื่องพูดแก้เก้อไปอย่างนั้นเอง…แท้จริงแล้ว ก็เพียงแต่จะกรุยทางบางทางไว้บ้าง…นั่นก็คือ

คืนดีกับนายชัด

เนื่องจากทุกคืนในยามนี้…เรื่องครอบครัวนายชัดจะตั้งบริษัทที่ดำเนินการโดยคนในครัวเรือนล้วนๆ คือทางด่วนที่เขาเองควรสนใจ…ในเมื่อลูกชายคนโตของเขาก็ยังก้าวเข้าไปมีหุ้น…หิ้งคงแต่งงานกับลมเย็นแน่นอน…

ตนเองอยู่มานานจนป่านนี้ ‘ยังไม่เคยมีหุ้นแห้นตามกฏหมายกับใครเขา’ จะขายเพชรขายพลอยก็ขายลอยๆ ล้วนๆ ไม่เคยจดทะเบียนใดใด ถ้ามิใช่ลูกค้าตัวจริงก็ยิ่งยากจะติดตาม นอกจากลูกค้าเคยผ่านร้านใหญ่ของคุณอรุณผู้เป็นเพื่อนเกื้อหนุนกันมากกว่ายี่สิบปี

ครั้นมาถึงบัดนี้ ลูกคนโตจะ เข้าไปมีหุ้นกับเพื่อนเก่า

 

เมื่อ วันที่ 26 มาถึง คุณปรียาก็ได้ฤกษ์เทขายหุ้น ได้เงินสดมาทั้งสิ้นยี่สิบเอ้ดล้าน…จ่ายค่าที่ดินให้นายชัดแล้ว ยังเหลือเงินอีกสองแสนกว่า มีพอนำไปใช้สอยส่วนตัว เช่นเดินทางไปพักผ่อนยังต่างจังหวัดที่ไม่ไกลเกินไป

เพราะถึงแม้เธอจะอยู่ในฐานะที่ไม่ต้องห่วงใยตนเองและลูกชาย แต่คุณปรียาก็ระวังระไวการใช้จ่าย มิให้ถลำตัวกลายเป็นหนี้ใครต่อใครซึ่งบางทีก็มิอาจชดใช้ได้จบสิ้น

ขณะที่ทนายความวสันต์ก็ช่วยเดินเครื่องการโอน ตั้งแต่พาคุณปรียาไปซื้อแคชเชียร์เช็คที่ธนาคารอันเธอฝากเงินไว้ รวมทั้งเบิกเงินสดเจ็ดแสนกว่าใส่ซองปิดผนึก พร้อมทำสัญญาสองฉบับที่ทนายสูงอายุจัดการให้อย่างเรียบร้อยพร้อมเพรียง

ครั้นแล้ว จึงถึงวันไปโอนโฉนดกันที่สำนักงานเขตในวันที่ 31 สิงหาคม

วันที่ดาวศุกร์ใกล้จะจรจากราศีกรกฎในวันที่ 1 กันยายนคือพรุ่งนี้

ทุกคน…มีนายชัด นางยาใจ ลมเย็น คุณปรียา เปรียว สวนสน พร้อมหน้า

ขาดเหินผู้ต้องไปทำงาน

ขาดลมโชย เพราะเป็นวันที่ต้องไป ‘เดินแบบ’ วันเกิดเจ้าสัวกับฟุ้ง

แต่พันศรก็ต้องมากับทนายสูงวัยในฐานะผู้ช่วย

มานั่งสลอนกันอยู่ในห้องใหญ่ที่มีผู้คนมาทำกิจเกี่ยวกับการซื้อขายโอนทรัพย์สิน ทั้งจำนำจำนอง ขายฝาก ขายผ่อน ขายสด

นายชัดนั่งเคียงข้างนางยาใจ เปรียวนั่งคู่กับคุณปรียา คอยระวังระไวยามเมื่อเจ้าหน้าที่ขอให้ลงนาม หลังจากหนังสือสัญญาและโฉนดที่ดินผ่านการกลั่นกรองอย่างถี่ถ้วน

เปลี่ยนจากมือเจ้าของผู้นี้ไปสู่อีกเจ้าของหนึ่ง

 



Don`t copy text!