แนะนำให้อ่าน “หัวใจนั้นอ่อนนุ่ม”

แนะนำให้อ่าน “หัวใจนั้นอ่อนนุ่ม”

โดย :

Loading

นอกเหนือจากนวนิยายและบทความที่ผ่านการเลือกสรรและผ่านกระบวนการบรรณาธิการพิจารณาเป็นอย่างดี ทีมงานอ่านเอายังริเริ่มโปรเจ็กต์ “Anowl Showcase” พื้นที่ใหม่สำหรับคนชอบเขียนขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะให้เว็บ www.anowl.co ของพวกเราเป็นชุมชนสำหรับคนรักการอ่านและการเขียนทุกคน

*************************

 

เรื่อง : หัวใจนั้นอ่อนนุ่ม

ผู้เขียน :  ศรีฟ้า ลดาวัลย์

สำนักพิมพ์ : ดอกหญ้า

ปีที่พิมพ์ : พ.ศ. 2537 (พิมพ์ครั้งที่ 2)

เล่มเดียวจบ

เห็นชื่อเรื่อง ‘หัวใจนั้นอ่อนนุ่ม’ ครั้งแรก ผมคิดว่าน่าจะเป็นนวนิยายรักเบาๆ ที่ผ่อนคลาย แต่เมื่อเห็นชื่อของผู้ประพันธ์ ศรีฟ้า ลดาวัลย์ แล้ว ก็เชื่อแน่ว่า เนื้อหาภายในชื่อเรื่องที่ดูอ่อนหวาน ละมุนละไมเรื่องนี้ คงจะไม่เบาหวิวอย่างแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เสียด้วย

เรื่องราวชีวิตของ ‘นุช’ ตัวละครเอกในเรื่องนี้ เป็นเด็กสาวกำพร้าทั้งพ่อและแม่ แต่โชคดี ที่เธอได้รับการอุปการะจากคุณลุงมุนีและคุณป้า… คุณหญิงทิพยา ให้อยู่ในครอบครัวของท่าน ซึ่งมีบุตรสองคน คือ ดร. มุทิตา ที่แต่งงานกับธเรศ และมีบุตรชายวัยรุ่นชื่อธงไทย กับมุทา หรือพี่ต๊ะ ซึ่งไปเรียนต่อปริญญาเอกที่อเมริกา ถึงนุชจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ก็นับว่ามีชีวิตที่อบอุ่น มีเพื่อนที่น่ารักอย่างแจ๋น ติ๊ก และนิด คอยอยู่เคียงข้าง ซ้ำยังเมื่อจบมัธยม ก็สอบติดอักษรฯ จุฬาฯ ได้พร้อมๆ กัน นอกจากนี้ นุชยังมีกรวิก เพื่อนชายนักศึกษาแพทย์มาติดพันและดูเหมือนว่านุชเองก็คิดว่านั่นคือความรัก

ภายในหัวใจที่อ่อนนุ่ม มองโลกในแง่สวยงาม แท้จริงแล้ว ทุกอย่างมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซับซ้อนไปกว่านั้น เมื่อพี่ต๊ะหรือดอกเตอร์มุทา เรียนจบกลับมาจากเมืองนอก และถูกคุณหญิงพยายามจับให้เขาแต่งงานกับนุช เพื่อให้เด็กสาวแสนซื่อสามารถเบิกรับเงินมรดกที่ได้รับมาจากบิดามารดาก่อนเสียชีวิตมาใช้ได้ ท่านต้องการนำเงินจากนุชเพื่อมาหมุนทำธุรกิจและเข้าสู่วงการเมือง นุชเพิ่งมีโอกาสรู้จักพี่ต๊ะอีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่าเขาเองไม่ได้รักนุชอย่างคู่รัก เพราะเขามีคนรักอยู่แล้วคือนินี่ หรือวารุณี สาวเปรี้ยวทันสมัย ที่ถูกอกถูกใจเขาทุกอย่างทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย รวมถึงรสนิยมบนเตียงนอน!

จากเด็กสาวไร้เดียงสาที่หัวอ่อน เชื่อฟังอยู่ในโอวาทผู้ใหญ่อย่างนุช จึงจำต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคันเพื่อมาแต่งงาน โดยคาดหวังว่านั่นจะเป็นความสุขสมหวังในชีวิต แม้ว่า ‘เจ้าชาย’ คนนั้น จะไม่ใช่ กรวิก หรือเพื่อนชายต่างคณะ ที่เคยเข้ามาติดพัน อย่างอุกกาก็ตามที โดยไม่รู้ตัวแม้แต่นิด ว่าสิ่งที่เผชิญหน้าในอนาคต คือความเจ็บปวด ขมขื่น ยิ่งกว่า

ดร. มุทิตา เองก็ไม่ต่างกัน เธอมีลูกกับธเรศ หนุ่มใหญ่ที่พรั่งพร้อมด้วยวัยและฐานะ แม้ว่าจะมีลูกด้วยกันคือธงไทย แต่เขาก็ไม่เคยหยุดอยู่กับเธอเลย เขามีผู้หญิงอื่นเข้ามาในชีวิต รวมถึงวรรศิกา พี่สาวของวารุณี ที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ทำให้มุทิตาต้องทะเลาะกับสามีทุกวัน และทุกครั้งเขาก็จะออกจากบ้านไปหาความสำราญใจจากที่อื่น ปล่อยให้เธอต้องเจ็บช้ำอยู่เพียงลำพัง

มุทิตารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับนุชเป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถยับยั้งบิดากับมารดาได้ เธอเห็นใจชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับนุช โดยเฉพาะในช่วงที่ วารุณีไปคบหากับแจ็ก กัปตันสายการบินหนุ่มเพลย์บอย แล้ว สลัดรักมุทาจนเขาบ้าคลั่งขึ้นมา แล้วหันมาลงที่นุช แม้แต่การข่มขืนเธอเพื่อประชดผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ทำให้นุชต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่ในสภาพเบี้ยล่างนั้นมาตลอด หากเมื่อใดก็ตามที่ วารุณี อกหักจากผู้ชายคนอื่น ก็จะหันกลับมาหามุทา เพื่อใช้เป็นเครื่องบำบัดความเหงาของหล่อนแทน

 

แจ๋นไม่ปฏิเสธว่านุชสวยขึ้นมาก แต่แจ๋นกลับรู้สึกใจหายมากกว่าชื่นชม

แจ๋นมีความรู้สึกเหมือนนุช เพื่อนผู้เคยน่ารักบริสุทธิ์สดใส มีอันตกลงไปในกระป๋องย้อมสี ดูเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งตัว… และอาจจะทั้งหัวใจด้วยก็ได้

นุชเคยบอกว่า หัวใจนุชนั้นอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นและเต็มไปด้วยความรัก แจ๋นสงสัยว่า เดี๋ยวนี้ หัวใจของนุชจะยังคงอ่อนนุ่มหรือแข็งกระด้างไปทั้งดวงแล้วก็ไม่รู้…

 

และในที่สุด นุชก็มาถึงจุดสิ้นสุด หญิงสาวเองพยายามขอหย่าขาดจากมุทา ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคุณป้าและคุณลุงที่ไม่ต้องการเสียผลประโยชน์ นุชมีโอกาสรู้จักกับหนุ่มใหญ่นามปรมัตถ์ ที่เข้ามาติดพัน ทั้งที่เขาเองก็มีกุหลาบ สาวใหญ่หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่และอายุมากกว่า เป็นภรรยาอยู่แล้วทั้งคน น่าแปลกที่กุหลาบกลับเพิกเฉย ไม่ว่าสามีของเธอจะหว่านเสน่ห์กับสาวคนอื่นๆ มากสักเพียงใด

หล่อนไม่เคยหลอกตัวเองว่าปรมัตถ์แต่งงานกับหล่อนเพราะความรัก หล่อนรู้ตัวของหล่อนดีว่า ไม่มีรูปสมบัติพอที่จะทำให้ผู้ชายรักรูปได้ เพราะหล่อนไม่เคยหลอกตัวเอง หล่อนจึงไม่เคยเดือดร้อนกับความกังวลว่าเขาจะเบื่อหน่ายหล่อน กุหลาบขอเพียงแต่ให้หล่อนได้รักเขา และ ‘มี’เขา หล่อนก็พอใจแล้ว

ในขณะที่ปรมัตถ์เอง เขาก็รู้สึกว่ากำลังชอบนุช ยิ่งเมื่อพรเทวัญ หลานชายของเขา เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ พร้อมวิวัฒน์ เพื่อนหนุ่มน้อยด้วยกัน และมีท่าทีชื่นชอบนุช ในขณะที่นุชก็ให้ความสนิทสนมกับเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกันอีกด้วย มันยิ่งกระตุ้นความรู้สึกอยากได้ อยากเป็นเจ้าของให้เกิดขึ้น ทุกอย่างล้วนอยู่ในสายตาของกุหลาบ แต่หล่อนก็หาได้หึงหวงไม่ หากพยายามที่จะชักนำนุชให้กับเขาแทน

 

หล่อนไม่เคยปลุกความรักใคร่ของเขาได้เลยก็จริง แต่ความดีของหล่อนทำให้เขาปฏิบัติหน้าที่สามีที่ดี สนองตอบหล่อนโดยที่เขาไม่มีเคยต้องฝืนใจเลย ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอกห้องนอน

ปรมัตถ์โอบกอดหล่อนเอาไว้แน่น สัมผัสบอกตัวเองถึงความเคลื่อนคล้อยในบางส่วน และเนื้อหนังที่มากไปในบางส่วน แต่ใจของเขาไม่ได้นึกถึงเนื้อหนังมังสาของหล่อนเหมือนทุกครั้งที่เขากอดหล่อนเอาไว้ในอ้อมแขน เขานึกถึงแต่ว่าหล่อนคือคุณกุหลาบ คนดีของเขา ตั้งแต่เขาเพิ่งจะรุ่นหนุ่มจนกระทั่งอายุเข้าสี่สิบห้าบัดนี้

แต่ให้ตายเถอะ แม้ว่าจะเคยผ่านผู้หญิงมามากมายหลายคน หน้าตาสวยงามเย้ายวน ทว่าหล่อนเหล่านั้น ก็ไม่เคยผ่านเข้ามาในใจเขาเลย ในขณะที่เขาเสพสมอยู่กับภรรยา

 นี่มันอะไรกันหนอ หน้าตาของสาวน้อยคนนั้น ทำไมจึงได้ผ่านแวบเข้ามาในมโนสำนึกของเขาตอนนี้… นุช!

นุชมีปากเสียงกับดร. มุทา และเป็นข่าวที่พูดถึงในวงสังคม ด้วยความอิจฉาของวิวัฒน์ เพื่อนเกย์หนุ่มของพรเทวัญ ที่เคยมีความสัมพันธ์กับพรเทวัญมาก่อน ร่วมกับวารุณี ทำให้นุชตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อหลีกหนีปัญหาไปก่อน โดยไม่คิดว่า ณ ดินแดนยุโรปตะวันออกที่เดินทางไปนั้นเอง เธอจะได้พบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่เคยผูกพันกันมาในสมัยเรียนจุฬาฯ… นายอุกกา!

เขาเติบโตขึ้นมาก และแตกต่างจากนิสิตหนุ่มน้อยในอดีตโดยสิ้นเชิง ความผูกพัน สนิทสนมก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง นุชก็พบว่า ความรู้สึกนั่นแหละ คือความรัก

สำหรับ พี่ต๊ะ หรือ ดร. มุทา การแต่งงานที่เกิดขึ้นคือความต้องการของผู้ใหญ่ ในขณะที่ความรู้สึกที่มีต่อพี่ต๊ะไม่ต่างกับเป็นพี่ชายเพียงคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนปรมัตถ์ ความอบอุ่นอ่อนโยนของเขาไม่ต่างกับความรู้สึกที่มีต่อผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ และพรเทวัญนั้น เด็กหนุ่มวัยเดียวกับเธอ แต่นุชก็ให้ความสนิทสนม เพียงแค่ความเป็นเพื่อน หล่อนรู้ดีว่า พรเทวัญกับวิวัฒน์นั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งมาก่อน

แม้ว่าพรเทวัญจะแสดงให้เธอเห็นว่ามันยุติลงแล้ว ในขณะที่อีกฝ่ายพยายามยื้อเอาไว้สุดชีวิตก็ตามที ตราบจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงก่อนหน้า เมื่อวิวัฒน์เกิดความเข้าใจผิด หึงหวงเธอ จนบุกเข้าไปหาพรเทวัญที่บ้านพักของเขา แล้วเอาปืนมายิงจนเด็กหนุ่มบาดเจ็บสาหัส

นุชรู้ใจตัวเอง และหล่อนสัญญากับอุกกาว่า เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย จะจัดการเรื่องหย่าขาดกับ ดร. มุทา ให้เรียบร้อย หล่อนจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเขา

 

ความรู้สึกของมนุษย์นี้ประหลาดนัก โดยเฉพาะความรู้สึกต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ที่เรียกกันว่า ความรัก

…สำหรับอุกกา มันคล้ายๆ กับต้นไม้ที่มีรากแก้ว ค่อยๆ เจริญเติบโต จนกระทั่งรากแก้วนั้นหยั่งรากลึก ทว่า บางทีลำต้นก็แห้งแล้งเหมือนกับว่ามันตายไปแล้ว อยู่ๆ ก็กลับผลิดอกออกผล แล้วก็กลับเหี่ยวแห้ง… แต่เมื่อมันมีรากแก้วหยั่งลึกลงไปในดิน มั่นคงแน่นหนานัก มันก็ตายยาก…

 

แต่แล้ว สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนุชพบว่าตัวเองตั้งครรภ์กับมุทา!

หากสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่า คือมุทาเองไม่เชื่อว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขา ซ้ำยังอ้างกับคุณหญิงทิพยาว่า เขาก็กำลังจะมีลูกกับวารุณีด้วยเช่นกัน!

หลังจากมีความสัมพันธ์กับวารุณีหลายครั้งหลายหน หญิงสาวเสเพลก็เริ่มเบื่อชีวิตที่ต้องเปลี่ยนคู่นอน จึงปล่อยตัวเองให้ตั้งครรภ์ แล้วบอกกับมุทาว่าหล่อนท้อง มุทาซึ่งหลงวารุณีจนหัวปักหัวปำเป็นทุนเดิม กลับยินดีจนออกนอกหน้า เขาต้องการแต่งงานกับวารุณีอยู่แล้ว เมื่อหล่อนเปิดช่องให้ เขาจึงก้าวเข้าสู่หลุมพรางนั้นเต็มตัว เต็มใจ และพร้อมจะหย่าขาดจากนุชอย่างไม่ไยดี อีกต่อไป

นุชหลบไปอาศัยอยู่ที่บ้านพักต่างจังหวัดเพียงลำพัง มีเพียง ดร. มุทิตา ที่เป็นห่วงจนต้องตามไปดูแล และอุกกาที่รู้เรื่องนี้ แทนที่เขาจะเป็นฝ่ายถอยออกห่างจากหล่อน มันกลับยิ่งทำให้เขา เข้ามาใกล้ชิดนุชด้วยความรักและความห่วงใยอย่างแท้จริง นุชล้มเจ็บลงด้วยความเครียดและสุขภาพอ่อนแอ จนต้องเขารักษาที่ห้องไอซียู และหมอผู้ทำการรักษาก็แจ้งข่าวร้ายให้อุกกาได้รับทราบว่า หล่อนแท้ง…

ในห้วงเวลาแห่งความทุกข์นั้น เห็นจะมีแต่อุกกาที่อยู่เคียงข้าง และมุทิตา ที่มาเยี่ยมนุช พร้อมกับกำลังใจสำคัญ คำพูดที่เตือนสติโดยเปรียบเทียบกับชีวิตของหล่อนเองกับธเรศ ที่เป็นครอบครัวก็จริง แต่มันเป็นครอบครัวที่ว่างเปล่า ปราศจากความรักบรรจุอยู่ภายในนั้น

 

“นุช พี่เสียใจด้วยนะเรื่องหลาน แต่ถ้าจะพูดกันตรงๆแล้ว พี่ว่าดีกว่าที่แกจะมีชีวิตอยู่ แล้วก็เป็นแบบเดียวกับธงไทย มีพ่อก็เหมือนไม่มี เพราะพ่อมันมัวเมา ไม่รู้จักหน้าที่ของพ่อ…”

เสียงมุทิตาเน้นหนัก

“แต่แกอาจจะไม่เข้มแข็งอย่างธงไทย เพราะแกเป็นผู้หญิง ลูกเธอเป็นผู้หญิง… นุช ธรรมดาเด็กผู้หญิง อ่อนแอ บอบบางกว่าเด็กผู้ชายมาก เราต้องไม่ปฏิเสธความจริงว่า ถ้าหากแกยังไม่ตาย แกอาจจะต้องโตขึ้นอย่างเด็กมีปัญหา”

นุชนอนน้ำตาซึม มุทิตาบีบมือลูกผู้น้องแน่น

“นุช พี่อยากให้นุชคิดว่า ชีวิตของนุชฝันร้ายไปชั่วคราว ซึ่งเดี๋ยวนี้มันก็สิ้นสุดลงไปแล้ว… สิ้นสุดโดยเด็ดขาด โดยไม่มีเยื่อใย นุชยังดีกว่าพี่ พี่นั้น แม้จะฝันร้าย แต่พี่ก็ต้องอยู่กับความฝันเรื่อยไป เพราะพี่มีธงไทยเป็นเครื่องเตือนความจำ เป็นเลือดเนื้อของผู้ชายที่ทำให้เราเจ็บ พี่อยากให้นุชตั้งต้นชีวิตใหม่ ลืมเรื่องร้ายๆ เสียให้หมดสิ้น…”

 

และเมื่ออุกกาเข้ามาเยี่ยมนุชอีกครั้ง หญิงสาวก็รับรู้ว่า อย่างน้อย หัวใจของหล่อนนั้นก็ยังมีความรู้สึก มีความอ่อนนุ่ม ละมุนละไม ด้วยความรัก ที่ยังเหลืออยู่จากเขา… อุกกา ผู้ชายที่นุช คิดว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ด้วยความรักอย่างแท้จริง!

การอ่านนวนิยายเรื่องนี้ นอกเหนือจากความบันเทิงในเนื้อเรื่องที่ตัวละครต้องเผชิญทั้งความรัก ความลวง และอุปสรรคต่างๆ ถาโถมเข้ามาจนถึงบทสุดท้ายแล้ว ยังทำให้ผู้อ่านได้ข้อคิด คติเตือนใจจากผู้เขียนเป็นอย่างดี ศรีฟ้า ลดาวัลย์ ได้แทรกประโยคที่คมคาย ประทับใจและสอนใจ ผ่าน ความคิดของตัวละคร โดยเฉพาะนุช ที่เราจะได้เห็นว่าค่อยๆ พัฒนาตัวเองจากหัวใจที่แสนซื่อบริสุทธิ์ สดใสในวัยเยาว์ มาเรียนรู้ความจริงของโลกที่ซุกซ่อนความเลวร้ายฉาบหน้าเอาไว้

หัวใจที่อ่อนนุ่ม เปราะบาง อาจจะต้องปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้เข้มแข็งและยืนหยัดอยู่ได้อย่างทระนงบนโลกใบนี้ หากก็มิใช่ความแข็งกระด้างที่ไม่รับรู้ร้อนหนาวใดๆ หรือยอมจมปลักกับอดีตด้วยความเจ็บปวด อ่อนล้า แต่มันคือการกล้าเผชิญหน้ากับความจริง และยอมรับต่อสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ยอมจำนนหรือพรั่นแพ้

ซึ่งนุชก็ได้พิสูจน์แล้ว กับการเดินบนเส้นทางชีวิตสายนี้ จนมาถึงเส้นชัยที่มีอุกกาอยู่เคียงข้างในที่สุด

 

Don`t copy text!