แนะนำให้อ่าน “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ”

นอกเหนือจากนวนิยายและบทความที่ผ่านการเลือกสรรและผ่านกระบวนการบรรณาธิการพิจารณาเป็นอย่างดี ทีมงานอ่านเอายังริเริ่มโปรเจ็กต์ “Anowl Showcase” พื้นที่ใหม่สำหรับคนชอบเขียนขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะให้เว็บ www.anowl.co ของพวกเราเป็นชุมชนสำหรับคนรักการอ่านและการเขียนทุกคน

*************************

‘ฐานะมาศ’ หรือผู้มีชื่อเล่นสุดแปลกนามว่า ‘ส้วม’ เด็กสาวสลัมที่พยายามถีบตัวเองให้พ้นจากสลัมให้ได้ เพราะไม่เคยพอใจที่ครอบครัวของตนต้องตกอยู่ภายใต้การกดขี่ข่มเหงของนายประกอบผู้เป็นบิดา และส้วมไม่เคยเชื่อว่านายประกอบจะเป็นพ่อที่แท้จริงตามที่นางบุญยืน ผู้เป็นแม่บอกเพราะส้วมเชื่อว่าพ่อที่แท้จริงจะไม่ทำร้ายร่างกายลูกเมียขนาดนี้ แม้แม่และอ้อย พี่สาวส้วม จะยอมนายประกอบตลอดมาแต่ส้วมกลับสู้นายประกอบจนต้องหนีออกจากบ้านโดยได้รับความช่วยเหลือจากหนึ่งธิดา ผู้เป็นเพื่อนรัก และเอกสิทธิ์ พี่ชายของหนึ่งธิดา

แม้ส้วมจะย้ายออกจากบ้านแต่ก็ยังมาช่วยแม่ประกอบอาชีพทุจริตอยู่เป็นครั้งคราว แต่ส้วมก็ไม่เคยเห็นด้วยกับอาชีพของแม่เลยสักครั้ง แต่โชคชะตาก็พาให้ส้วมได้พบกับดนุรุจ ตำรวจหนุ่มที่มาทลายบ่อนไพ่ของแม่และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับส้วมตลอดมา ซึ่งดนุรุจเองไม่ถูกชะตากับส้วมเพราะถูกดาริกา ญาติสาวซึ่งเป็นคนรักของเอกสิทธิ์บอกว่าส้วมเป็นเมียน้อยของเอกสิทธิ์

ชีวิตส้วมพลิกผันเมื่อน้าทวน พ่อค้าขายข้าวเหนียวปิ้งที่รู้จักเป็นนายตำรวจใหญ่ โดยขอให้ส้วมช่วยเป็นสายลับเพื่อสืบหาการทำธุรกิจผิดกฎหมายของเสี่ยฮะ ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่สลัมที่ครอบครัวของส้วมอาศัยอยู่ และคอยตามสืบดนุรุจซึ่งคาดว่ามีส่วนพัวพันกับเสี่ยฮะด้วยเช่นกันเนื่องจากดนุรุจเคยคบหากับสุชาดา ลูกสาวของเสี่ยฮะมาก่อน ประจวบเหมาะกับดนุรุจเล็งเห็นความสามารถในฝีปากและความยียวนของส้วมจึงยื่นข้อเสนอให้เธอแต่งงานด้วยเพื่อช่วยรับมือกับหนึ่งธิดาและสุชาวดีซึ่งตามตื๊อเขาตลอดเวลา ส้วมจึงต้องรับสองตำแหน่งควบคู่กันทั้งตำแหน่งสายลับเพื่อสืบข้อมูลดนุรุจ เป็นภรรยาจำเป็นคอยโต้ตอบกับหนึ่งธิดา สุชาดา และดาริกาที่ตามอาละวาดอยู่บ่อยครั้ง และสืบหาข้อมูลว่านายประกอบเป็นพ่อที่แท้จริงของตนหรือไม่ไปพร้อมๆ กัน โดยมีน้าทวนและเผด็จ นายตำรวจลูกน้องน้าทวนคอยช่วยเหลือ

งานสายลับสืบข้อมูลเสี่ยฮะเกิดขึ้นที่บ้านของส้วม โดยมีสมสุข เพื่อนสนิทในสลัมซึ่งเป็นตำรวจหญิงปลอมตัวมาเป็นผู้ช่วย โดยส้วมใช้ความสามารถพิเศษตามที่เคยโดนทักว่าส้วมมีองค์ ส้วมจึงเปิดสำนักทรงจนทำให้ชาวบ้านเชื่อถือและใช้เป็นหนทางในการสืบข้อมูลของเสี่ยฮะได้โดยไม่มีผู้ใดสงสัย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องระวังตัวให้รอดพ้นจากดนุรุจไม่ให้รู้ว่าเธอประกอบอาชีพเป็นร่างทรง

เรื่องราวสายลับของส้วมดำเนินไปพร้อมกับความรักของส้วมและดนุรุจที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ขณะที่เรื่องราวเข้าใกล้ความจริงเข้าไปมากขึ้นทั้งเรื่องของพ่อ เสี่ยฮะ และดนุรุจซึ่งยอมเอาตัวเข้าไปพัวพันกับสุชาวดีเพื่อเข้าไปถึงถิ่นของเสี่ยฮะให้ได้ งานนี้ส้วมและดนุรุจจะเอาตัวรอดจากอิทธิพลของเสี่ยฮะได้อย่างไร ต้องติดตามอ่านเอง

งานเขียนของพัดชามักเป็นภาษาที่อ่านได้ง่าย ประกอบกับเรื่องนี้มีความสนุกสนานในการดำเนินชีวิตของส้วมและการตามสืบเสี่ยฮะทำให้อ่านนิยายเล่มนี้จบอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน เขาวานให้หนูเป็นสายลับ เป็นเรื่องที่มีครบทุกอารมณ์ทั้งตลก การสืบสวน ปมชีวิตของส้วม และความเชื่อในการเข้าทรง ซึ่งพัดชาสามารถนำมาผูกรวมกันได้อย่างดี แม้จะเป็นนิยายที่เขียนมานานแต่ก็อ่านไม่น่าเบื่อ บางครั้งก็ตกใจกับการกระทำของส้วมบ้างในแง่ของความบ้าดีเดือด (เช่น การบุกเดี่ยวถึงถิ่นเสี่ยฮะ) แต่เมื่อทำความเข้าใจในตัวส้วมแล้วก็พอยอมรับได้

ในส่วนนิยายค่อนข้างหนาแต่ตัวหนังสืออ่านง่าย จึงสามารถอ่านต่อเนื่องได้นาน บวกกับการดำเนินเรื่องที่สนุกสนานจึงแทบไม่อยากละสายตาไปจากการหยิบขึ้นมาอ่านแต่ละครั้งได้เลย

นิยายเล่มที่อยู่ในมือผมนี้พิมพ์เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ประกอบกับการถูกหยิบมาทำเป็นละครหลายครั้ง (ในปี 2562 นำแสดงโดย เกรท วรินทร และ เก้า สุภัสสรา ทางช่อง 33) จึงเป็นข้อยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เขียนได้ดี แต่การนำเสนอในละครและนิยายอาจมีความแตกต่างกัน เมื่อสัมผัสความสนุกจากหน้าจอโทรทัศน์แล้ว อยากให้ลองหยิบนิยายเรื่องนี้มาอ่านดูบ้าง แล้วจะพบว่าความสนุกที่ได้จากการอ่านหนังสือและการดูจากจอโทรทัศน์แตกต่างกัน

นิยายเรื่อง เขาวานให้หนูเป็นสายลับ ฉบับพิมพ์ครั้งนี้เป็นของสำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร ราคารวมทั้ง 2 เล่ม 450 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงมากนัก สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป แต่ในกรณีที่อยู่ต่างจังหวัดแบบผมและหนังสือหาได้ค่อนข้างยาก สามารถสั่งได้จากร้านซีเอ็ด หรือเว็บไซต์ของร้านก็ได้ครับ ใช้เวลารอไม่เกิน 1 สัปดาห์ก็จะได้อ่านนิยายที่สนุกเรื่องนี้แล้ว อยากให้ลองอ่านจากหนังสือกัน แล้วจะรู้ว่าตัวอักษรสร้างจินตนาการได้สนุกมากกว่าที่คิดครับ

– ศุภโชติ ไชยโย –