แนะนำให้อ่าน “ทุ่งลุยลาย”
โดย :
นอกเหนือจากนวนิยายและบทความที่ผ่านการเลือกสรรและผ่านกระบวนการบรรณาธิการพิจารณาเป็นอย่างดี ทีมงานอ่านเอายังริเริ่มโปรเจ็กต์ “Anowl Showcase” พื้นที่ใหม่สำหรับคนชอบเขียนขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะให้เว็บ www.anowl.co ของพวกเราเป็นชุมชนสำหรับคนรักการอ่านและการเขียนทุกคน
*************************
เรื่อง : ทุ่งลุยลาย (ชุมแพ ภาคสอง)
ผู้เขียน : ศักดิ์ สุริยา
สำนักพิมพ์ : โชคชัยเทเวศร์
ปีที่พิมพ์ : 2521
สองเล่มจบ
จาก ‘ชุมแพ’ อาชญนิยายที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร บางกอก และประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง เรื่องราวของ ไอ้เสือเพิก ชุมแพ ซึ่งเดินทางกลับมาบ้านเกิดเพื่อแก้แค้นให้กับพ่อที่ถูกฆ่าตาย ด้วยอิทธิพลเถื่อนโดยมีผู้กองไชโย ผู้กองคนใหม่ของชุมแพ ร่วมมือกันกวาดล้าง ทำลายธุรกิจที่ผิดกฎหมายของ จ่าถม นิยมไถ ในขณะเดียวกัน เพิกก็ต้องเผชิญกับความรักของหญิงสาวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทั้งดวงพร ที่เป็นลูกสาวของจ่าถม ผู้กองแววดาว นายตำรวจสาวผู้เก่งกล้าเจ้าเสน่ห์ รวมถึงอีแพรว เด็กสาวแก่แดดชาวภูเขียว และยังมี กลุ่มเฒ่าพลอย ครูเฒ่าของไอ้เสือเพิกร่วมขบวนบู๊ไปกับชุมแพนี้ด้วย ท้ายที่สุดเสือเพิกก็สามารถจัดการจ่าถม จนต้องติดคุกด้วยคดีอุกฉกรรจ์ และเปิดเผยความจริงว่า แท้จริงแล้วเขาคือนายอำเภอคนใหม่ของชุมแพ ปลอมตัวมานั่นเอง
บัดนี้ ศักดิ์ สุริยา ซึ่งมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเขื่อนน้ำพรหม (หรือเขื่อนจุฬาภรณ์ในปัจจุบัน) ตามคำเชิญชวนของ คุณกำธน สินธวานนท์ รองผู้อำนวยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (ในเวลานั้น) และมีโอกาสบุกเข้าไปถึงชุมชนหมู่บ้านทุ่งลุยลาย ที่อยู่ห่างจากชุมแพประมาณ 30 กิโลเมตรเศษ หมู่บ้านลึกลับที่เพิ่งมีคนไปค้นพบระหว่างการสำรวจเพื่อสร้างเขื่อนนี้นั่นเอง
ณ หมู่บ้านแห่งนั้น ท่ามกลางความแห้งแล้งกันดารของบ้านป่าเมืองเถื่อน เผชิญกับกลุ่มอิทธิพลของเจ๊กโรงเลื่อย ที่มาตัดไม้และบุกรุกป่า ในขณะที่ชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่มานานกำลังถูกอำนาจนอกระบบเหล่านี้ รังแกเพื่อไล่ที่ ศักดิ์ สุริยา จึงตัดสินใจบึ่งรถไปชุมแพ เพื่อตามหาเพิก ให้มาช่วยปฏิบัติภารกิจในงานนี้
ทุกคนยังอยู่ที่นั่นเกือบครบทีม แม้ว่าผู้กองไชโยจะย้ายไปนครพนมแล้วก็ตาม เพิกตกปากรับคำกับเขาทันทีที่ทราบเรื่อง ว่าเขาพร้อมจะลงมือลุยกับพวกทรชนอีกครั้ง ที่ทุ่งลุยลาย!!
ภารกิจสำคัญในครั้งนี้ แม้ว่าทุกคนจะรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่เสือเพิกโจรร้าย หากแต่เป็นนายอำเภอเพิกก็ตาม แต่เมื่อเพิกตัดสินใจเดินทางไปยังหมู่บ้านที่ทุงลุยลาย เขาก็พบว่าที่นั่นมีกลุ่ม ไอ้แหลว ลุยลาย สมุนของ จ่าถมนั่นเอง ไปสร้างอิทธิพลเถื่อนเอาไว้ หัวใจของเพิกในเวลานั้นก็กำลังหวั่นไหว เพราะได้รับจดหมายจากแววดาว หญิงคนรัก ที่เขาตั้งใจจะร่วมชีวิตด้วยในมิช้า
แววดาวขอตัดความสัมพันธ์จากเขาทั้งน้ำตา เพราะครอบครัวของเธอเป็นหนี้สินนับล้านบาท เนื่องจากบิดามารดาติดการพนันเล่นม้า และนำโฉนดที่ดินพร้อมบ้านไปจำนองกับดอกเตอร์ประเทศ ภายหลังอีกฝ่ายยื่นเงื่อนไขว่า ถ้ายอมให้ตนกับแววดาวแต่งงานกัน จะยอมยกหนี้สินให้ทั้งหมด ด้วยความกตัญญู แววดาวจึงจำต้องรับปาก
ชื่อของดอกเตอร์ประเทศ เสี้ยนหนามหัวใจเพิก กลับมาปรากฏอีกครั้งเมื่อเขามาถึงทุ่งลุยลาย แท้จริงแล้ว ไอ้แหลว ลุยลาย และ เดี่ยว ดงลาน คือสมุนเอกที่ทำงานตามคำสั่งของดอกเตอร์ประเทศนั่นเอง ดอกเตอร์หนุ่มใหญ่ผู้นี้เป็นเจ้าของธุรกิจโรงเลื่อย และต้องการขยายที่ดินต่างๆ ภายในชุมชนแห่งนี้ ก่อนที่ความเจริญต่างๆ จะมาถึง ชาวบ้านล้วนหวาดกลัวและยอมให้พวกมันเอาเปรียบ ยกเว้นครอบครัวของเฒ่าคูนกับลูกสาวสองคนคือ สีแพรและศรีนวล เมื่อเพิกมาถึงรับรู้ความทุกข์ยากของตาเฒ่า และพยายามยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ในคืนนั้นเอง ครอบครัวของเฒ่าคูนก็ถูกถล่มจนเสียชีวิต ส่วนสองสาวหนีรอดมาได้ ด้วยความช่วยเหลือของเพิก เขาจำต้องอุปการะสองสาว ศรีนวลประทับใจความเป็นลูกผู้ชายของเพิกจนเกิดความรัก แม้ว่าจะรู้ว่า นายอำเภอผู้นี้มีหญิงสาวคนอื่นเข้ามาเกี่ยวพันอยู่แล้ว ทั้งแววดาว ดวงพร และอีแพรว สาวน้อยที่เป็นนางสงกรานต์ภูเขียวของปีนี้ก็ตามที
หล่อนจึงไม่ชอบใจที่เห็นแววดาว คนรักของเพิก มาปรากฏตัวอีกครั้งที่เขื่อนน้ำพรหม ความจริง หญิงสาวและเพื่อนๆ เดินทางมาที่นี่ตามคำเชิญของดอกเตอร์ประเทศที่เป็นว่าที่คู่หมั้น แววดาวเองไม่ได้รักดอกเตอร์ประเทศเลยสักนิดเดียว แต่ต้องการมาพบเพิกเพื่อปรับความเข้าใจ ในขณะที่ประเทศก็มีหญิงสาวมากมาย เสนอตัวให้เขา เพราะล่วงรู้ในอำนาจเงินตราและบารมี รวมถึงเนตรนภา เพื่อนแววดาวเอง ก็ยอมทรยศหล่อน ส่วนประเทศนั้นต้องการแววดาว ซึ่งมียศนายตำรวจ สำหรับใช้เป็นเครื่องมือป้องกันตัวเอง เวลาทางการจะมาตรวจสอบเท่านั้น เขาพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้หล่อนประทับใจ แต่ก็ไม่เป็นผล
เพิกพยายามกระชากหน้ากากชั่วร้ายของประเทศ โดยที่แววดาวพยายามช่วยเหลือลับๆ แต่กลุ่มของไอ้แหลวและไอ้เดี่ยวก็ถูกสั่งมาให้ขัดขวาง เขาถูกลอบยิง ลอบทำร้าย แม้กระทั่งถูกจับตัวไปเพื่อข่มขู่ แต่เพิกก็สามารถเอาตัวรอดออกมาได้ทุกครั้ง ในขณะที่ดวงพรเองก็มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัย เมื่อเพิกเห็นหล่อนออกไปกับ ไอ้ทรชนทั้งสองตัวที่เคยเป็นลูกน้องจ่าถม พ่อของหล่อนมาก่อน ซ้ำยังมีจดหมายขู่ลึกลับส่งมายังเขา บอกว่า บัดนี้จ่าถมแหกคุกออกมาได้สำเร็จแล้ว และถ้าไม่ต้องการมีปัญหาอีก ให้เขาแต่งงานกับดวงพร
ศึกรบก็หน่วงหนัก ศึกรัก ก็ยังไม่ว่างเว้น เมื่อ ศรีนวลริษยาแววดาว ซึ่งเป็นรักเดียวของเพิก หล่อนวางแผนชวนเพิกกินเหล้าตามคำแนะนำของเฒ่าพลอย และเมื่อเพิกมึนเมา หล่อนก็มุดมุ้งเข้าไปนอนกับเพิกในห้องอย่างมีความสุข เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ทุกคนก็เข้าใจว่าเพิกเป็นผัวของศรีนวลไปเรียบร้อยแล้ว
แววดาวรับรู้เรื่องนี้ จากคำบอกเล่าของศรีนวลที่ประกาศตัวชัดเจนว่าหล่อนเป็นเมียของเพิก แต่หญิงสาวก็พยายามข่มใจ เพราะเชื่อมั่นในตัวของชายที่หล่อนรัก เพิกเดินทางไปพบพ่อแม่ของแววดาวที่กรุงเทพฯ เมื่อรู้ว่า กำหนดหมั้นหมายของหล่อนกับดอกเตอร์ประเทศกำลังจะมาถึง และล่วงรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นของครอบครัวแววดาว เขาอาสาที่จะหาทางช่วยจนสำเร็จ แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความแค้นแทบกระอักเลือดให้กับดอกเตอร์ประเทศที่ต้องสูญเสียแววดาวไป
การปรากฏตัวของชายจีนสูงวัยผู้เป็นปริศนา และหลานสาวคนสวย ซึ่งมีนามว่ารินไหล ทำให้เพิกต้องเข้าไปพัวพันอย่างไม่มีทางเลี่ยง เขาถูกควบคุมตัวมาขังไว้ที่โรงเลื่อยของประเทศ และจำต้องใช้อุบายเสน่ห์ของตัวเองเพื่อทำให้รินไหลตายใจ รินไหลหลงใหลเขามาก และยั่วยวนให้เพิกลุ่มหลง โดยไม่รู้ว่าเพิกเองก็กำลังแสดงบทบาทอยู่เช่นกัน เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของกันและกัน
หลังจากนั้นไม่นาน เพิกก็สามารถหลบหนีออกมาได้ แต่ก็มีภาพข่าวของเขากับรินไหลปรากฏว่ามีความสัมพันธ์กัน เพิกพยายามหาหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาได้ในที่สุด และคนทั้งสองก็หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อเพิกพาพรรคพวกบุกกลับไปที่โรงไม้นั่นอีกครั้ง
ศรีนวลและสีแพรถูกไอ้แหลวและไอ้เดี่ยวจับตัวไป เพิกตามไปช่วยสองสาวออกมาได้ แต่ก็ช้าเกินไป เมื่อทั้งสองต่างถูกสมุนของทรชนทั้งสองรุมโทรมอย่างอำมหิต ศรีนวลกลายเป็นคนสติไม่ดี แต่สิ่งที่หล่อนยังมีอยู่คือความรักและความหวังว่าเพิกจะรักหล่อนได้เหมือนกับที่หล่อนรัก ชายหนุ่มอดสงสารศรีนวลไม่ได้ เขาพยายามคิดที่หักใจจากแววดาว เพื่อตอบแทนความรักของศรีนวลที่เขาสงสารหล่อนจับหัวใจ
ผู้กองไชโยเดินทางมาจากนครพนมเพื่อช่วยเหลือเพิกร่วมกับผู้กองคนใหม่ ที่เพิ่งเข้ามาบรรจุที่ชุมแพ และเล่าประวัติของเขากับเสือเพิกในอดีตให้ฟัง
“เมื่อก่อนผมกับเขาล่อกันอาน ซัดกันแทบรากเลือด เพราะชุมแพนี่มีประวัติ ผู้กองคนไหนๆมามักเป็นผู้กองของพ่อค้า ผู้กองของรถเมล์ ผู้กองของพวกเล่นการพนัน ไม่เคยมีผู้กองของประชาชนเลย นายอำเภอเขาดำดินมาในนามของเสือเพิก… ผู้กองเอ๋ย ผมเป็นผู้กอง แค้นสุดแค้นที่ปราบเสือเพิกไม่ลง กระทั่งตำรวจหญิงเอาเสียอยู่หมัดนั่นแหละ เราถึงได้ดื่มเหล้าด้วยกัน เป็นเหล้ามื้อแรกที่มีรสชาติที่สุด อร่อยที่สุด เพราะอันธพาลเมืองชุมแพถูกปราบเรียบ”
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับดวงพรในอดีตนั้น ไชโยบอกกับเพิกว่าเป็นเพียงพี่กับน้อง เพราะดวงพรยังรักเพิกไม่เคยเปลี่ยน แม้ว่าเพิกจะมอบหัวใจให้กับแววดาวแล้วก็ตาม
การขอความช่วยเหลือจากทางราชการเองก็ประสบกับปัญหาอยู่ไม่น้อย เขาเป็นเพียงนายอำเภอชุมแพ อำนาจในการดูแลช่วยเหลือชาวบ้านทุ่งลุยลาย ซึ่งอยู่ในเขตคอนสาร ก็ยังไม่อาจทำได้เต็มที่
เพิกถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
มันเป็นกิริยาเอือมระอา พวกที่ทำงานตามชนบทเป็นอย่างนี้ น้อยนักจะทำงานเพื่องาน ส่วนมากเพื่อความร่ำรวย รายไหนรายนั้น คิดถึงกระเป๋าตัวเองมากกว่าความสงบสุขของบ้านเมือง
ยากนักที่จะหาคนทำงานเพื่อประเทศชาติ มีแต่คนเอาประเทศชาติบังหน้าแล้วสวาปามอย่างตะกละตะกลาม
เหตุการณ์ที่ทุ่งลุยลายกำลังเดือดพล่าน เมื่อพวกไอ้เดี่ยวและไอ้แหลวยกคนเข้าบุกทุ่งลุยลาย ขับไล่ชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นให้ออกไปเพื่อขยายฐานอำนาจของพวกมัน เพิกและพรรคพวกบุกเข้าไปต่อสู้กันอย่างดุเดือด ศรีนวลแค้นใจที่ไอ้แหลวกับไอ้เดี่ยวเคยข่มเหง จึงออกไปต่อสู้จนเสียชีวิตในที่สุด ส่วนไอ้เดี่ยวสมุนเอกก็ถูกยิงตาย และไอ้แหลวก็ถูกจับ ก่อนที่ความจริงและหลักฐานทุกอย่างจะเปิดเผย ดอกเตอร์ประเทศเองเมื่อล่วงรู้ว่าแผนการของตัวเองล้มเหลว จึงจับตัวแววดาวเป็นตัวประกัน ทำให้เพิกและผู้กองไชโยต้องขับรถไล่ตามไปอย่างไม่ลดละ ท่ามกลางชุมชนพลุกพล่าน ประเทศวางแผนจะพาแววดาวหนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่สนามบิน แต่เพิกรู้ทันเสียก่อน เขาตัดสินใจขับรถชนเฮลิคอปเตอร์จนพังพินาศ และตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส
ประเทศสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถูกยิงเสียชีวิต ส่วนจดหมายลึกลับที่ส่งมาแต่แรกว่าจ่าถมแหกคุกออกมานั้น เป็นเพียงจดหมายปลอมที่ประเทศสร้างสถานการณ์ขึ้นเพื่อหวังให้เพิกแยกจากแววดาวเท่านั้นเอง ในที่สุด แผ่นดินเดือดที่ทุ่งลุยลายก็กลับคืนสู่ความสงบร่มเย็นอีกครั้ง
เพิก ชุมแพ ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาล ขณะที่แววดาวบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย นายตำรวจหญิงยิ่งรู้สึกเป็นห่วงเพิกและหวนคิดถึงห้วงเวลาที่รู้จักกับเขาตั้งแต่ยังเป็นเสือเพิกโจรร้าย จนกลายมาเป็นนายอำเภอ เจ้าหัวใจของหล่อนในเวลานี้ แววดาวได้แต่ภาวนาให้เพิกปลอดภัย
และคำอธิษฐานของหล่อนก็สัมฤทธิ์ผลในเวลาต่อมา พร้อมกับข่าวดี ที่บัดนี้เมื่อการเปิดโปงแผนการร้ายของเหล่าทรชนสำเร็จลง เพิกก็ได้รับปูนบำเหน็จหน้าที่ เลื่อนขั้นเป็นรองผู้ว่าฯ ท่ามกลางชาวบ้านทุ่งลุยลาย ที่ต่างมาร่วมแสดงความยินดีกับนายอำเภอของพวกเขา
ผู้กองไชโยแต่งงานกับดวงพร เมื่อทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้สำเร็จ ส่วนเพิก เมื่อเขาอ้าปากจะถามเธอ แววดาวก็ชิงตอบเสียก่อนว่า…
“ห้ามพูดมากค่ะ หมอห้าม จะดีหรือเลวคุณหายเรียบร้อย คุณพ่อกับคุณแม่บอกให้รีบแต่งงานเสีย ขืนปล่อยให้นายเพิกเป็นโสดเดี๋ยวไม่มีโอกาสได้ลูกสืบสกุล”
“คุณพ่อคุณแม่คุณว่ายังงั้นหรือ?”
หญิงสาวพยักหน้า ใบหน้าระเรื่อด้วยความรู้สึกขวยเขิน
“ท่านไม่รังเกียจผมแล้ว”
“ถ้ารังเกียจท่านจะมาเยี่ยมหรือคะ ท่านชม เกิดมาจนแก่เฒ่าจะเข้าโลง ไม่เคยเห็นใครบ้าบิ่นดีอย่างนี้ อยากจะเอาไว้ทำแนว แน่ะ … ท่านพูดภาษาอีสานเป็นนะคะ ท่านว่า ทำแนว ฟังเพราะกว่า ทำพันธุ์ ยังไงพิกล”
เพิกหัวเราะขันแล้ว คว้ามือหญิงสาวไปหอมตรงหลังมือ
และแล้วทุ่งลุยลาย ก็ดำเนินมาถึงบทอวสานอย่างสมบูรณ์!
สำหรับ ประวัติของ ศักดิ์ สุริยา จากข้อเขียนของ คุณเจนอักษราพิจารณ์ พบว่า ศักดิ์ สุริยา หรือ อ้อย อัจฉริยกร หรือ ดาวไสว ไพจิตร มีชื่อจริงว่า ฉัตร บุณยศิริชัย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2466 ที่อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ สำเร็จการศึกษาระดับ ม.ต้น ด้านเกษตรกรรม บวชเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม เปรียญ 6 ประโยค ศึกษาต่อที่โรงเรียนสากลการบัญชี และสำเร็จวิชาการประพันธ์และหนังสือจาก อาจารย์เปลื้อง ณ นคร
ชีวิตในวัยหนุ่มก่อนที่จะเข้าสู่วงการนักเขียน ได้พักอาศัยอยู่ที่วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ จากนั้นเริ่มเข้าสู่วงการหนังสือพิมพ์ โดยฝากตัวเป็นลูกศิษย์ อาจารย์เปลื้อง วรรณศรี นักคิด นักเขียน นักหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสุรินทร์เหมือนกัน โดยระยะเริ่มแรกใช้นามปากกาว่า ‘จารึก ชมพูพล’ เขียนบทความและเรื่องสั้นในแนวเพื่อชีวิต
ที่ ‘เพลินจิตรายวัน’ นับเป็นจุดเริ่มต้นของนามปากกา ‘อ้อย อัจฉริยกร’ ด้วยผลงานเรื่อง ‘คำฟ้า’ ซึ่งต่อมาได้มีการสร้างเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดย เสกสรร สัตยา คู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ ได้รับความนิยมและทำรายได้ดีในยุดนั้น ต่อมาจึงเขียนเรื่องที่สองคือ ‘ขุนดง’ ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน และได้เขียนนวนิยายในนาม ‘อ้อย อัจฉริยกร’ ในนิตยสารมีชื่อในยุคนั้นเรื่อยมา เช่น ผดุงศิลป์, ดาราไทย, สกุลไทย, สตรีสาร สำหรับ ผลงานในนามปากกานี้ ปัจจุบันหลายท่านคงคุ้นเคยกับละครโทรทัศน์ เรื่อง ‘กาเหว่า’ ที่เพิ่งออกอากาศทางช่อง 7 HD ซึ่งเป็นผลงานในนามปากกา อ้อย อัจฉริยกร เช่นกัน
ภายหลังที่นามปากกา ‘อ้อย อัจฉริยกร’ โด่งดัง จึงเริ่มต้นใช้นามปากกา ‘ศักดิ์ สุริยา’ ที่นิตยสาร ‘บางกอก’ โดยการชักชวนของอรชร (ศรี ชัยพฤกษ์) ด้วยนวนิยายเรื่อง ‘ชุมแพ’ ทำให้ผู้อ่านติดตามผลงานอย่างต่อเนื่อง และได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในแนวระเบิดภูเขาเผากระท่อม ท่านได้เขียนนิยายภาคต่อ คือ ‘ทุ่งลุยลาย’ ซึ่งได้นำมารีวิวไว้ ณ ที่นี้ รวมถึงในแนวดังกล่าวอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ดงเย็น, แควเสือ, เขาใหญ่, ไผ่กำเพลิง, ศาลปืน, สู้สั่งเมือง ฯลฯ รวมทั้งนวนิยายเรื่อง ‘ขัง 8’ ในนิตยสาร ดวงดาว ในนามปากกา ‘ดาวไสว ไพจิตร’ สำหรับผมเอง สมัยวัยเยาว์ เคยติดตามผลงานของท่านในนิตยสาร บางกอก ด้วยเช่นกัน จำได้ว่า ตอนนั้นอ่าน เพลิงภูหลวง และ เพชรภูเรือ อย่างสนุก จนต้องคอยติดตามอ่านทุกสัปดาห์ และประทับใจจนติดตามไปชมภาพยนตร์ทั้งสองเรื่องที่สร้างจากนิยายทั้งสองเรื่องดังกล่าวในเวลาต่อมา ส่วน ทุ่งลุยลาย นั้น ก็มีการนำไปสร้างภาพยนตร์ โดยใช้ตัวละครชุดเดียวกับ ชุมแพ เช่นกัน ในปี พ.ศ. 2521 นำแสดงโดย สมบัติ เมทะนี, นาท ภูวนัย และ ปิยะมาศ โมนยะกุล
สำหรับในด้านครอบครัวนั้น ศักดิ์ สุริยา ได้แต่งงานครั้งแรกกับ แขไข เทวินทร์ นักเขียนนวนิยายเช่นกัน มีบุตร 1 คน คือ อ.แขไฉไล พุทธิแพทย์ และแต่งงานครั้งที่สองกับ คุณสุรภี ภูมิบริรักษ์ มีบุตร 3 คน คือ นายสุริยา, นายอารยะ บุณยศิริชัย และนางปิยะธิดา คันธสร
ฉัตร บุณยศิริ ชัยเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2533 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว สิริอายุได้ 67 ปี นับได้ว่า ปี พ.ศ. 2563 นี้ เป็นวาระครบรอบ 30 ปี แห่งการเสียชีวิตของท่านพอดีครับ อนึ่ง บทรีวิว ‘ทุ่งลุยลาย’ ในครั้งนี้ ได้เขียนขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงผลงานของนักเขียนที่ได้รับฉายาว่าสุภาพบุรุษนักเขียนจากที่ราบสูง ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
หมายเหตุ : ข้อมูลและรูปผู้เขียนอ้างอิง จาก แฟนเพจ ศักดิ์ สุริยา แฟนเพจ Thai Movie Poste และบทความจากเจนอักษราพิจารณ์ ในเว็บไซต์ http://oknation.nationtv.tv ครับ
– สามปอยหลวง –
- READ แนะนำให้อ่าน ‘แม่รักยักษา’
- READ แนะนำให้อ่าน “ถนนสายเสน่หา”
- READ แนะนำให้อ่าน "หัวใจนั้นอ่อนนุ่ม"
- READ แนะนำให้อ่าน "ทัณฑ์อารักษ์"
- READ แนะนำให้อ่าน "ม่านบังใจ"
- READ แนะนำให้อ่าน "พลับพลึงซ่อนพิษ" ปอกเปลือกอารมณ์ดิบของผู้ชาย ผ่านนวนิยายของ หมอกมุงเมือง
- READ แนะนำให้อ่าน "ทุ่งลุยลาย"
- READ แนะนำให้อ่าน "ศีรษะมาร"
- READ แนะนำให้อ่าน "รหัสริสยา"
- READ แนะนำให้อ่าน “คดีรักข้ามเวลา”
- READ แนะนำให้อ่าน “วาสนาชะตารัก”
- READ แนะนำให้อ่าน “พยากรณ์ซ่อนรัก”
- READ แนะนำให้อ่าน “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ”
- READ แนะนำให้อ่าน “มนตร์เบญจรงค์”
- READ แนะนำให้อ่าน “ไผ่ต้องลม”
- READ แนะนำให้อ่าน “นายกหญิง”
- READ แนะนำให้อ่าน “มนุษย์สังเคราะห์”
- READ แนะนำให้อ่าน “ไพรพิสดาร” การข้ามเวลาเพื่อค้นหารากเหง้าทางจิตวิญญาณ
- READ แนะนำให้อ่าน “เกลียวกระซิบ”
- READ แนะนำให้อ่าน “เคหาสน์ดาว”
- READ แนะนำให้อ่าน "แผ่นดินของเรา"
- READ แนะนำให้อ่าน "แสงดาวฝั่งทะเล"
- READ แนะนำให้อ่าน "ดาราจันทร์"
- READ แนะนำให้อ่าน "ความรักใดจะไม่ปวดร้าว"
- READ แนะนำให้อ่าน "ฤกษ์สังหาร"
- READ แนะนำให้อ่าน "พักตร์อำพราง"
- READ แนะนำให้อ่าน "โศกนาฏกรรมอำพราง"
- READ แนะนำให้อ่าน "เอกเทพ"
- READ แนะนำให้อ่าน "มะงุมมะงาหรา"
- READ แนะนำให้อ่าน "ลูกสาวฤษี"