ลูกไม้เกี่ยวรัก บทที่ 6 : พ่อผมเป็นหมอ

ลูกไม้เกี่ยวรัก บทที่ 6 : พ่อผมเป็นหมอ

โดย : นวาภัส

Loading

ลูกไม้เกี่ยวรัก โดย นวาภัส นวนิยายโรแมนติกคอมเมดี้ (เล็กๆ) เรื่องราวของหญิงสาวสุดแกร่งที่ชีวิตนี้ขอมีลูก โดยไม่ต้องมีสามี แล้วใครเล่าจะเข้าใจเธอ พบกับความอลหม่านของสองแม่ลูกคู่ป่วนใน “ลูกไม้เกี่ยวรัก” ได้ในเพจอ่านเอา และ เว็บไซต์อ่านเอา anowl.co

“อะไรนะ! แม่ไปบอกโอโซนว่าพ่อเค้าทำงานอยู่เมืองนอกเหรอ” ปัณฑารีย์ตาโตตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่เล่าให้ฟัง

“ก็แม่ไม่รู้จะทำยังไงนี่ โอโซนเอาแต่ถามไม่หยุด แม่ก็เลยต้องโกหก เรื่องจะได้จบๆ” คนเป็นแม่เสียงอ่อย รู้สึกผิดที่พูดอะไรไม่คิด แต่ตอนนั้นเธอก็คิดไม่ทันนั่นแหละ การโกหกเพื่อให้รอดตัวจึงง่ายที่สุด

“แล้วมันจบมั้ยล่ะคะ แม่ไม่น่าโกหกแบบนั้นเลย” หญิงสาวกุมขมับ แล้วทีนี้เธอจะทำยังไง ครั้นจะบอกกับลูกว่ายายโกหกก็คงไม่ใช่ทางออกที่ดี

โอโซนเป็นเด็กที่เมื่อฝังใจเชื่ออะไรแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้ ถ้าผู้ใหญ่พยายามที่จะไปเปลี่ยนสิ่งที่เขาเชื่อ จะต้องหาเหตุผลที่น่าเชื่อถือกว่ามาลบล้าง ครั้งหนึ่งปลาที่โอโซนเลี้ยงเอาไว้ตายไป เธอบอกเขาว่าปลาตัวนั้นขึ้นไปว่ายน้ำเล่นอยู่บนสวรรค์แล้ว โอโซนเซ้าซี้ให้เธอซื้อตั๋วเครื่องบินไปสวรรค์ทุกวันเพื่อไปหาปลาของเขา แม้เธอจะพยายามอธิบายว่าเราไม่สามารถไปสวรรค์ได้ด้วยเครื่องบิน แต่ต้องทำความดีแล้วสักวันเราถึงจะได้ขึ้นสวรรค์ แต่โอโซนก็ไม่เข้าใจ เธอจึงต้องแอบซื้อปลาตัวใหม่ที่เหมือนกันมาใส่ไว้ในโหล ลูกถึงได้เลิกเซ้าซี้ให้พาไปสวรรค์ แต่สำหรับเรื่องนี้มันใหญ่กว่านั้นมาก เธอจะไปตามหาพ่อที่ไหนมาให้ลูก ถ้าการหาพ่อง่ายเหมือนซื้อปลาตัวใหม่ ก็คงไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจแบบนี้

“แม่ว่าแกหาพ่อให้ลูกเลยก็ดีนะ คนที่หล่อๆ ทำงานที่เดียวกัน ชื่ออะไรนะ เดย์ใช่มั้ย แม่ก็ว่าเข้าท่านะ หน้าตาก็ดี หน้าที่การงานก็ดี แล้วท่าทางเขาก็ชอบแกกับโอโซนด้วยสิ” อารีย์แนะนำ

อารีย์รู้สึกถูกชะตากับอชิระตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน เธอเห็นเขาเฝ้าดูแลโอโซนอย่างดี เอาอกเอาใจ อยากได้อะไรก็รีบจัดการให้ทันที แล้วเท่าที่สังเกตเธอมั่นใจว่าเขาชอบปัณฑารีย์ เอาใจใส่ดูแลจนผิดวิสัยเพื่อนร่วมงาน ถ้าลูกสาวได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ก็จะหมดปัญหาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องหาพ่อให้หลาน และเรื่องหาสามีให้ลูกสาว อย่างน้อยเธอจะได้อ้างกับชาวบ้านได้ว่าปัณฑารีย์มีสามีเป็นตัวเป็นตน ไม่ใช่ท้องลมกับใครก็ไม่รู้ ตัวเธอเองจะได้หลุดพ้นจากเสียงนินทาของเพื่อนบ้านเสียที

“โอ๊ย แม่ก็พูดไปเรื่อย คุณเดย์เป็นแค่รุ่นน้องที่ทำงาน แม่จะเที่ยวจับคนโน้นคนนี้มาเป็นสามีปันไม่ได้นะ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะแม่” ลูกสาวโวยวาย การที่เธอจะแต่งงานกับใครสักคนไม่ใช่แค่เขาคนนั้นหน้าตาดี หรือมีหน้าที่การงานมั่นคง แต่สิ่งสำคัญสำหรับเธอ คือความรัก

“ถ้างั้นแกก็ไปหาวิธีตอบคำถามลูกเอาเองก็แล้วกัน ฉันก็หมดปัญญาแล้ว” เมื่อไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง อารีย์ก็หนีกลับต่างจังหวัด ปล่อยให้ลูกสาวเผชิญหน้ากับปัญหาโลกแตกของคนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเพียงลำพัง

หลังจากวันนั้น ปัณฑารีย์ก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดคำถามเรื่องพ่อ เมื่อไหร่ที่โอโซนแสดงท่าทางอยากรู้ เธอก็จะรีบหันเหความสนใจไปเรื่องอื่นทันที ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ใช้ได้ แต่ก็ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว ซึ่งตัวเธอเองก็รู้อยู่แก่ใจ

“แม่คับ พ่อทำงานอะไรเหรอ เป็นนักบิน นักวิจัย FBI หรืออยู่นาซาคับ” อยู่ดีๆ เด็กน้อยก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ขณะที่กำลังดูซีรีส์เกาหลีอย่างเพลิดเพลิน ทำเอาเธอแทบสำลักน้ำส้มที่กำลังดื่มอยู่

ปัณฑารีย์อ้ำอึ้งคิดหาทางรอด จะบอกว่าเป็นนักบินก็ไม่ดี เดี๋ยวจะมีคำถามอีกว่าทำไมไม่บินมาหาลูกบ้าง FBI ก็ไม่เข้าท่า หรือบอกว่าอยู่นาซาดี ทำงานนอกโลกไปเลย ก็ไม่เลวนะ

“พ่อโอโซนเป็นหมอน่ะ” สมองคิดจะตอบว่าน่าซ่าแต่ปากเจ้ากรรมกลับพาไปคนละทาง หญิงสาวตกใจคำตอบของตัวเอง ผีตนไหนมาดลใจให้ตอบแบบนั้น หรือเป็นเพราะฉากในซีรีส์ตอนนี้ที่คุณหมอรูปหล่อกำลังหันมาสบตาจนนางเอกเคลิ้ม และเธอก็ดันมโนเห็นเป็นภาพอคิราห์กำลังยิ้มให้ ปากเธอเลยไวกว่าสติ

“พ่อโอโซนเป็นหมอเหรอคับ ดีจังเลย” เด็กน้อยตาโตตื่นเต้น “พ่อหน้าตาเป็นยังไงเหรอคับ โอโซนอยากเห็นจัง” เด็กน้อยทำหน้าอ้อนวอน ตาใสแจ๋วจ้องมาที่แม่อย่างมีความหวัง

“แม่ไม่มีรูปพ่อหรอกครับ ตอนย้ายกลับมาแม่ลืมเอากลับมาด้วย” หญิงสาวกลั้นใจพูดปดออกไป แต่ก็เจ็บไปถึงหัวใจเมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของลูก

โอโซนไม่ถามอะไรอีก วันนี้เขาได้คำตอบที่ต้องการจากแม่แล้ว วันเปิดเรียนจะได้กลับไปบอกบิ๊กบอมได้ว่าพ่อของเขาเป็นหมอ เพื่อนๆ จะได้เลิกคิดว่าเขาโกหกเรื่องพ่อเสียที หลายวันมานี้เพื่อนๆ เอาแต่เซ้าซี้ถามว่าพ่อของเขาเป็นใคร ทำงานอะไร เมื่อตอบไม่ได้ก็หาว่าเขาเป็นเด็กเลี้ยงแกะ แต่เมื่อแม่บอกแบบนี้เขาก็มั่นใจว่าแม่ไม่ได้โกหก พ่อของเขาคือหมอที่ต้องทำงานหนักเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น จนไม่มีเวลากลับมาหาเขากับแม่

และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อบอกเพื่อนๆ ว่าพ่อของเขาเป็นหมอ ทุกคนก็ตื่นเต้นพากันชื่นชมที่พ่อของโอโซนมีอาชีพที่คอยช่วยชีวิตผู้อื่น เพื่อนผู้หญิงต่างเดาว่าพ่อของเขาน่าจะหล่อเหมือนดาราเกาหลีที่แสดงเป็นหมอ เหมือนที่แม่ๆ ของพวกเธอคลั่งไคล้ โอโซนเองถึงแม้ไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลยสักครั้ง แต่ก็เคยวาดภาพพ่อเอาไว้ในใจว่าจะต้องเป็นคนที่หล่อและใจดีมากๆ

 

วันนี้เป็นวันหยุด ปัณฑารีย์ต้องออกไปทำงานครึ่งวัน จึงให้ป้าวรรณีมาอยู่ดูแลลูก โอโซนเห็นแม่ทำงานหนักจึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระเท่าที่ทำได้ จึงเข้าไปในห้องนอนของแม่ ช่วยเก็บที่นอนและห้องที่รกไปด้วยกองเสื้อผ้าระเกะระกะ

“โอโซน เดี๋ยวป้าทำเองลูก หนูไปดูทีวีข้างล่างเถอะ” ป้าวรรณีชะโงกหน้าเข้ามาบอกเมื่อแอบเห็นเด็กน้อยกำลังพับผ้าให้แม่อย่างตั้งใจอยู่บนเตียง

“โอโซนอยากทำให้แม่คับ แม่จะได้ดีใจ” โอโซนยิ้มเห็นฟันขาวซี่เล็กๆ ที่เรียงกันสวยงาม

“น่ารักจังลูก หิวก็บอกนะ ป้าจะทำข้าวผัดให้” หญิงสูงวัยมองเด็กน้อยอย่างเอ็นดู โอโซนรักแม่มาก เวลาจะกินหรือทำอะไรก็มักนึกถึงแม่อยู่เสมอ ถ้าได้กินของอร่อยก็จะแบ่งไว้ให้แม่กินด้วย เมื่อแม่ออกไปทำงานก็ช่วยป้าวรรณีทำงานบ้านทุกครั้ง ทั้งที่เธอพยายามห้ามปรามแต่ก็ไม่เคยสำเร็จ

โอโซนอุ้มผ้าเช็ดตัวที่พับเสร็จแล้วไปเก็บที่ชั้นในตู้เสื้อผ้า แต่ชั้นอยู่สูงกว่าตัวเองทำให้ต้องใช้เก้าอี้มาต่อขึ้นไป เมื่อยัดผ้าเข้าชั้นแล้วเด็กน้อยก็เตรียมก้าวลงจากเก้าอี้ แต่มือของเขาพลาดไปโดนกล่องใส่ของใบหนึ่งของแม่ที่วางอยู่ใกล้ๆ หล่นลงมา ของต่างๆ ในกล่องร่วงกระจัดกระจาย โอโซนตกใจรีบลงมาเก็บของใส่กล่องเหมือนเดิม ตอนนั้นเองที่เห็นรูปใบหนึ่งอยู่ที่พื้น เด็กน้อยหยิบรูปใบนั้นขึ้นมาดู เป็นรูปของชายหญิงนักศึกษาคู่หนึ่งที่ยืนเคียงข้างกัน โอโซนจำได้ทันทีว่าเด็กสาวในชุดนักศึกษาที่ยิ้มอย่างมีความสุขคือแม่ของเขา และผู้ชายหล่อๆ หน้านิ่งคนนั้นคือคุณลุงหมอหน้าดุ แต่สิ่งที่สะดุดตามากกว่าคือสติกเกอร์รูปหัวใจสีชมพูเล็กๆ ที่ติดเอาไว้ในรูป เสมือนบอกว่านี่คือรูปของคู่รักที่กำลังหวานชื่น

ความคิดน้อยๆ ที่ไร้เดียงสาตัดสินทันทีว่านี่คือรูปพ่อกับแม่ของเขาไม่ผิดแน่ เพราะแม่บอกว่าพ่อของเขาทำงานเป็นหมอ แล้วผู้ชายในรูปก็คือคุณลุงหมอคนนั้น แต่สิ่งที่เด็กน้อยคิดไม่ตกคือทำไมแม่ถึงไม่บอกว่าลุงหมอคือพ่อของเขา เมื่อขบคิดจนสมองน้อยๆ แทบระเบิด โอโซนก็คิดได้ว่าพ่อคงเดินทางกลับมาเมื่อรู้ข่าวว่าเขาป่วย แต่ที่ไม่บอกความจริงเพราะกลัวว่าเขาจะเสียใจเมื่อต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิม โอโซนหัวใจพองฟูที่ได้รู้ว่าใครเป็นพ่อของตัวเอง

วันต่อมาเขาเอารูปใบนั้นไปอวดเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ทุกคนต่างมารุมล้อมดูรูปพ่อของโอโซน ลูน่าบอกว่าพ่อโอโซนหล่อเหมือนโอปป้า โอโซนภูมิใจที่ทุกคนชื่นชอบพ่อของเขา แม้แต่บิ๊กบอมก็บอกว่าพ่อของเขาเท่ ตั้งแต่วันนั้นโอโซนก็ไม่ถูกบิ๊กบอมแกล้งเรื่องพ่ออีกเลย โอโซนมีความสุขที่ได้คุยอวดพ่อของตัวเอง โรงเรียนกลับมาเป็นสถานที่ที่ทำให้เขามีความสุขอีกครั้ง

 

กาแฟดำควันกรุ่นและทอฟฟี่เค้กชิ้นเล็กวางลงตรงหน้าปัณฑารีย์ เธอยกกาแฟร้อนขึ้นจิบ กลิ่นหอมและรสขมทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นอีกครั้งหลังจากเหนื่อยล้าจากการยืนบรรยายนานเกือบหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลาพักระหว่างที่ผู้บรรยายท่านอื่นกำลังทำหน้าที่บนเวที หญิงสาวหลับตาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ช่วงเวลาพักผ่อนสั้นๆ ระหว่างรอคือความสุขอย่างหนึ่งที่หาได้ง่ายๆ สำหรับเธอ

“ขอนั่งด้วยคนนะคะ” เสียงหวานใสของใครบางคนดังขึ้น ปัณฑารีย์ลืมตาขึ้นมาเห็นตีรณานั่งลงฝั่งตรงข้าม จิบกาแฟอย่างสบายใจ หญิงสาวยิ้มเป็นมิตรทั้งที่ในใจขุ่นเคืองที่ถูกขัดความสุขแสนสั้น

“ท่าทางเหนื่อยนะคะ งานที่มหา’ลัยคงเยอะสิคะ”

“ค่ะ ช่วงนี้ใกล้สอบ” หญิงสาวตอบตามมารยาท

“เมื่อวานฉันไปกินข้าวกับซันมาค่ะ ก็เลยได้คุยเรื่องงานแต่งงาน” จู่ๆ สาวสวยก็พูดถึงเรื่องแต่งงานด้วยรอยยิ้มละไม แต่สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงแค่ส่วนเดียว ที่ไม่ได้เล่าต่อคือ เมื่อเริ่มพูดเรื่องการแต่งงานขึ้นมาก็เกิดการถกเถียงกัน เพราะคู่หมั้นหนุ่มยังไม่อยากแต่งงานในตอนนี้ ยิ่งเรื่องมีทายาทยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขายืนยันหนักแน่นว่าไม่ต้องการมีลูกแต่ตีรณารักเด็กและอยากมีลูกหลายๆ คน ในที่สุดเรื่องราวก็จบลงที่ทั้งคู่ต่างเมินหน้าหนีและแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน ทิ้งรอยขีดข่วนเล็กๆ ไว้ในใจของทั้งคู่

แม้ปัณฑารีย์จะบอกตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้ช่างไม่รู้กาลเทศะ เวลานี้ไม่เหมาะที่จะพูดเรื่องส่วนตัวกับคนที่ไม่สนิทอย่างเธอ แต่ในใจของอาจารย์สาวกลับรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนถูกเข็มทิ่ม เมื่อได้ยินว่าอคิราห์จะแต่งงาน

“ยินดีด้วยนะคะ” เธอฝืนยิ้มและแสดงความยินดีอย่างมีมารยาท ทั้งที่รู้สึกอึดอัดเหมือนคนกำลังจมน้ำ

“ฉันหวังว่าเมื่อถึงวันนั้น คุณจะมาเป็นแขกในงานของเรานะคะ เพราะยังไงคุณก็เหมือนเพื่อนร่วมงานของฉัน และเคยเป็นคนรู้จักของเจ้าบ่าวฉันด้วย” ตีรณาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องจงใจพูดจาทิ่มแทงอีกฝ่ายแบบนั้น อาจเป็นเพราะสายตาที่อคิราห์มองปัณฑารีย์ มันเหมือนมีบางอย่างที่แอบซ่อนอยู่ลึกๆ ทำให้รบกวนจิตใจของเธอเรื่อยมา ทั้งที่ความจริงอาจจะไม่ได้มีอะไรเลย เป็นแค่ความหึงหวงไร้สาระของเธอเองก็ได้

ปัณฑารีย์ไม่ตอบอะไร มีเพียงรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมสาวสวย การศึกษาและชาติตระกูลดีอย่างตีรณา ต้องแสดงท่าทีเหมือนเป็นปฏิปักษ์กับเธอ หรือเพราะทั้งคู่ดูเหมือนคู่แข่งในเรื่องงาน หรือตีรณารู้ว่าเธอเคยหลงรักอคิราห์มาก่อน จริงสิ! อคิราห์อาจจะเล่าเรื่องราวในอดีตให้คู่หมั้นฟัง และทั้งคู่ก็คงจะสมเพชที่คนธรรมดาอย่างเธอกล้าเงยหน้าหมายปองเครื่องบินที่อยู่สูงสุดเอื้อม หญิงสาวยิ้มหยันตัวเอง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนเธอก็เป็นได้แค่ผู้หญิงธรรมดาที่อคิราห์ไม่เคยมอง

 

ปัณฑารีย์ทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ลืมเรื่องรบกวนหัวใจ แต่กลับไม่สำเร็จ โดยเฉพาะประโยคที่ตีรณา บอกว่ากำลังจะแต่งงานกับอคิราห์ วนเวียนดังแว่วอยู่ในหูทั้งยามตื่นและยามหลับ บางคืนถึงกับฝันร้าย ทำให้เธอเครียดโดยไม่รู้ตัว ไม่นานปัณฑารีย์ก็มีอาการเครียดลงกระเพาะ จนต้องลากร่างที่อ่อนแรงไปโรงพยาบาล โอโซนเกาะแม่แจเพราะกลัวแม่จะเป็นลม

เด็กน้อยนั่งรอแม่หน้าห้องตรวจใจจดจ่อ ภาวนาให้แม่หายป่วยไวๆ ตั้งแต่เกิดมาเขามีเพียงแม่ที่อยู่เคียงข้างเสมอ โอโซนไม่เคยเห็นแม่ป่วยหนักเลยสักครั้ง อย่างมากก็แค่เป็นหวัดเล็กๆ น้อยๆ วันก่อนเด็กน้อยใจเสียเมื่อเห็นแม่นอนขดตัวกุมท้องร้องครวญครางด้วยความปวดทรมาน เขาใจไม่ดีกลัวว่าแม่จะหนีไปสวรรค์เหมือนปลาที่เคยเลี้ยง ขนาดปลาตัวนั้นหายไปอยู่สวรรค์ไม่กี่วันก็กลับมา เขายังร้องไห้เสียใจแทบแย่ และถ้าแม่ต้องหนีไปสวรรค์แล้วไม่กลับมา เขาจะอยู่ได้ยังไง

ระหว่างรอ เด็กน้อยมองสังเกตไปรอบๆ บริเวณโรงพยาบาล ที่นี่มีคนไข้มากมาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โอโซนเห็นเด็กคนหนึ่งอายุน่าจะใกล้เคียงกับตัวเอง ร้องไห้จ้าอยู่ในอ้อมกอดของพ่อที่คอยปลอบใจ แม่ของเด็กคนนั้นเอาแต่เดินไปเดินมา สีหน้าเป็นกังวล ถ้าเป็นเขาจะไม่ร้องไห้และทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงอย่างนั้นเด็ดขาด

โอโซนมองไปอีกทางเพราะไม่อยากเห็นเด็กขี้แยที่เอาแต่ร้องไห้อ้อนพ่อแม่ ดวงตากลมโตปะทะกับร่างสูงของอคิราห์ภายใต้เสื้อกาวน์ กำลังเดินมาที่หน้าเคาน์เตอร์พยาบาลใกล้ๆ โอโซนหรี่ตามอง พินิจพิจารณาจนแน่ใจว่านี่คือลุงหมอ คนเดียวกับที่เห็นในรูปถ่าย เขาดีใจกระโดดผลุงลงจากเก้าอี้อย่างลืมตัว

“พ่อคับ!” เด็กชายตะโกนเรียกพ่อสุดเสียง วิ่งเข้าไปกอดขาอคิราห์แน่นด้วยความดีใจ สายตาที่แหงนมองชายหนุ่มเจิดจ้าระยิบระยับ หัวใจดวงน้อยเปี่ยมล้นด้วยความสุขจนแทบระเบิดออกมา



Don`t copy text!