ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 12 : เขนน้อย (1)
โดย : พิมพ์อักษรา
ซ่อนรักในรอยกาล โดย พิมพ์อักษรา กับผลงานนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อ่านง่าย ว่าด้วยทฤษฎีหนึ่งในตำนานประวัติพระนางจามเทวีกับพระสวามีที่แทบไร้หลักฐาน ผ่านเกมการเมืองในอาณาจักรทวารวดี อันมีชายปริศนาแฝงตัวเข้ามาอยู่เบื้องหลังเกมชิงบัลลังก์ครั้งใหญ่นี้ ติดตามได้ในเพจ อ่านเอา และ anowl.co
เจ้าชายกัษษกรกะพริบเนตรอีกหน ทรงหวังเพียงว่าเมื่อเปิดนัยนาอีกครา ภาพเบื้องหน้าจักอันตรธานหายไป ทว่าภาพบุรุษผู้นุ่งห่มผ้าเก่าขาดมอซอกลับคมชัดขึ้นเรื่อยๆ และดูราวกับเขาเองก็ตกตะลึงไม่แพ้กันเมื่อได้เห็นพระพักตร์พระองค์ชัดขึ้น
“เขนน้อย…” พระองค์ยังทรงพึมพำเช่นเดิม ถอยพระบาทกลับไปตามสัญชาตญาณ พระดำริมากมายผุดขึ้นในหฤทัย…บรรทมอยู่แล้วทรงพระสุบิน หรือมีผู้วางโอสถเล่นตลกกับพระองค์กันหนอ
ฤๅชายตรงหน้าจักเป็นดวงวิญญาณ หาไม่แล้ว หรือพระอนุชาแฝดจักกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมากันแน่
“ก็บอกแล้วว่าไม่ใช่เขนน้อย” ชายผู้นั้นทำเสียงเหนื่อยหน่าย น้ำเสียงแลภาษาก็ฟังแปร่งแปลก ทว่านอกเหนือจากนั้น ไม่มีสิ่งใดแตกต่างไปจากรัตตกรแม้แต่น้อย
“แล้วท่านน่ะเป็นใคร ทำไมหน้าตาเหมือนผมเลย” เขากวาดตามองทั่ววรองค์กัษษกร
“ดูทีท่านคงเป็นเจ้าชายกระมัง ให้ตายเถอะ ผมคงหมดหวังแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
“ผม?” เจ้าชายทวนคำ “เจ้าพูดอันใดฟังยากยิ่ง…เขนน้อย เจ้า…เอ้อ น้องกลับมาได้อย่างไร”
“ผมหน้าตาเหมือนคนชื่อเขนน้อยนี่ใช่ไหม” เขาทำหน้าครุ่นคิด “แล้วเขนน้อยนี่ก็คงหน้าตาเหมือนท่าน ถ้าอย่างนั้นก็เป็นพี่น้องกัน”
“เจ้าเลิกแกล้งพี่เสียทีเถิด” พระองค์ทรงมองลึกไปในแววตาคนตรงหน้า…เป็นรัตตกรแน่แท้แล้ว ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม อนุชาของพระองค์ยังไม่ตายและกลับมาด้วยท่าทางไร้เดียงสาอย่างน่ากลัว
“เจ้าต้องการสิ่งใดโปรดบอกพี่เถิด…”
“ถ้าอย่างนั้นเขนน้อยก็ต้องเป็นเจ้าชายเหมือนท่าน แต่จะใช่ได้อย่างไร ในเมื่อผมเดินไปเดินมาตั้งหลายวันไม่มีใครทักผมเป็นเจ้าชายเลย”
“พอเสียที บอกสิ่งที่ต้องการมาเถิด แล้วพี่จักพิจารณาว่าจะชดเชยให้เจ้าได้อย่างไร เจ้าใคร่ครองรามนครหรือไม่เล่า”
“สิ่งที่ผมต้องการ ก็ไม่รู้ว่าท่านจะทำให้ได้หรือเปล่าน่ะสิ ว่าแต่…” บุรุษตรงหน้าเกาหัวเก้กัง แล้วก็สืบเท้าเข้ามาใกล้ พระองค์จึงถอยพระบาท กวาดพระเนตรมองทั่วร่างเพื่อหาอาวุธ แล้วกลับสะดุดเข้ากับสร้อยเหรียญดินเผาที่พระองค์สวมให้รัตตกรตอนฝังร่างเข้าเสียก่อน “ท่านชื่อ…เอ้อ มีนามว่าอันใด”
เจ้าชายหรี่พระเนตร…เขนน้อยจักมาไม้ไหนกันหนอ
“กัษษกร”
“นึกว่าจะชื่อเขนใหญ่อะไรแบบนี้เสียอีก”
“เขนหลวง”
“อ้อ…เขนหลวงกับเขนน้อย” ชายหนุ่มพยักหน้า “แปลว่าอะไรหรือ”
“หยุดเล่นลิ้นเสียทีเขนน้อย” ทรงกดสุรเสียงต่ำเช่นผู้หมดความอดทน “หากยังยียวนเช่นนี้ก็คงต้องจัดการกับเจ้าสักทาง เช่นนั้นจงไปพบพระฤๅษีกับข้าเสียบัดนี้”
“เดี๋ยวก็พี่ เดี๋ยวก็ข้า…แสดงว่าท่านกำลังโมโห” อีกฝ่ายหัวเราะแห้งๆ “แต่เอาเถอะ ผม…เอ้อ…ข้าจะตามท่านไปพบฤๅษีก็แล้วกัน บางทีฤๅษีอาจจะช่วยข้าได้ก็ได้”
เหตุใดรัตตกรจึงต้องแกล้งทำเป็นชายแปลกหน้า พูดจาภาษาประหลาด…หรือเขาอาจวิปลาสไปแล้วก็เป็นได้ ทว่ากัษษกรยังมิใคร่วางพระทัยนักจึงให้ชายผู้นั้นเดินนำหน้าไปก่อน ส่วนพระองค์ก็ทรงจับตามองอย่างเข้มงวด
“ท่านคล้ายคนที่ผมเห็นในฝัน…” เขาว่า “ก็ไม่เชิงฝันหรอก บอกไม่ถูก”
อากาศค่อยเย็นลง ม่านเมฆค่อยคลี่คลายแง้มให้เห็นจันทราสุกสว่างที่เริ่มเว้าแหว่งลงเกือบถึงครึ่ง และดาวกลุ่มเล็กกระจุกตัวอยู่ตามมุมนภากาศอันมืดมิด บุรุษสองนายผู้มีใบหน้าเหมือนกันทุกประการหากแต่งกายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเดินตามกันบนพื้นดินปนทราย ความคิดคำนึงกระจัดกระจายไปคนละทาง…
ทรงเคยขออย่างลมๆ แล้งๆ ว่าหากเพียงมีโอกาสได้ชดใช้แก้ตัวกับเขนน้อยอีกครั้งมิใช่หรือ…
บัดนี้ อนุชาแฝดฟื้นคืนจากความตายได้อย่างน่าอัศจรรย์ พระองค์ควรจักปราโมทย์ยินดี ที่จักได้รับโอกาสแก้ไขความผิด…แต่เหตุใดกลับทรงหวาดหวั่น หนาวเยือกไปทั้งกายา แลหวาดระแวงได้มากมายเพียงนี้
พระองค์ควรเข้าไปสวมกอด พร่ำพูดความในพระทัยทั้งปวงมิใช่หรือ ทว่ากลับทรงนิ่งเงียบแลเย็นชาต่อพระอนุชาดุจดั่งที่ทรงเคยเป็นมาตลอดพระชนม์
เมื่อถึงกระโจมของสุกกทันตฤๅษี ก็ทรงรีบรุนชายผู้นั้นเข้าไปก่อนจะมีผู้พบเข้าเสียก่อน
ครั้นดาบสชราได้เห็นผู้มาเยือนยามวิกาลก็ถึงกับหน้าถอดสี ร้องครางเสียงสั่นพร่า
“เจ้าชายรัตตกร…”
“ชื่อจริงของเขนน้อยน่ะหรือ” บุรุษผู้นั้นปะติดปะต่อว่องไว พลางมองสำรวจฤๅษีทั่วตัว “เพิ่งเคยพบฤๅษีตัวเป็นๆ แบบนี้ ไม่เหมือนที่จินตนาการไว้เลย” จากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เห็นอย่างนี้แล้วผม…ข้า ก็คงหมดหวังจริงๆ ไม่ได้ฝันไป ไม่ได้บ้า อาจจะตายไปแล้ว หรือไม่ก็…”
“เขายังไม่ตาย…หมายความว่าวิชาอาคมของเจ้าเขนน้อยคงแกร่งกล้าเกินกว่าที่เราคาดคิดไว้เสียแล้ว” สุกกทันตะจ้องผู้ที่ตนเชื่อว่าฟื้นจากความตายเขม็งราวจักเจาะลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งหทัย
“ทั้งยังพูดจาเลื่อนเปื้อนว่ามิใช่เขนน้อย” ราชบุตรละโว้ตรัสพลางทอดพระเนตรอย่างไม่ไว้ใจ
“จักว่าสติวิปลาสกลับตาลปัตรข้าก็มิกล้ากล่าวเช่นนั้น อาจเป็นแผนลวงของเขนน้อยก็เป็นได้”
“ข้าไม่ใช่เขนน้อยอะไรนั่นจริงๆ คงแค่หน้าเหมือนเท่านั้น” น้ำเสียงชายผู้นั้นเริ่มหงุดหงิด “แล้วข้าก็ไม่ใช่เจ้าชายด้วย เป็นคนธรรมดานี่ละ”
“ถ้อยวาจาก็ฟังประหลาดนัก” ฤๅษีพยักพเยิด พลางเดินวนรอบบุรุษปริศนาอย่างใกล้ชิด “ถ้ามิใช่เจ้าเขนน้อย แล้วท่านเป็นผู้ใดเล่า”
“ท่านบอกข้ามาก่อนเถิดว่าที่นี่คือที่ไหน”
เจ้าชายกับพระฤๅษีหันมาสบตากันทันใด
“ชายแดนเขื่อนขัณฑ์ ข้ามเขาอุรคาไปก็จักถึงละโว้ รุ่งเช้าออกเดินทางไม่กี่ชั่วยามก็ถึงนั้นแล”
“ละโว้!” ชายหนุ่มร้องเสียงดัง “ลพบุรีน่ะหรือ”
“ลพบุรีอันใดกัน” กัษษกรตวัดพระเนตรดุ “เจ้าชักพูดจาเหลวไหลเข้าทุกที”
เขาตบหน้าผากตัวเอง “ถ้าอย่างนั้น…พวกท่านตกเป็นเมืองขึ้นของพวกขอมกระมัง”
“ขอมอันใดของเจ้า” พระองค์เริ่มแปลกพระทัย “เรามิได้ตกเป็นเมืองขึ้นพวกใด มีแต่กลุ่มนครทั้งหลายที่ตกอยู่ใต้ปกครองเรา” ทรงหันไปทางพระอาจารย์ด้วยพระพักตร์หนักใจ
“เขนน้อยอาจวิปลาสไปจริงแท้นั้นแล”
“ผม…ข้า ไม่ได้บ้า ยังอยากให้เป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น แต่ผ่านมาหลายวันแล้วก็ยังไม่ตื่นสักที”
กัษษกรและพระอาจารย์จึงเดินเลี่ยงมาปรึกษากันอีกมุม และต่างเห็นตรงกันว่าจะเสี่ยงปล่อยชายผู้นี้ไปมิได้ อย่างไรต้องนำกลับลวปุระไปพร้อมกันโดยต้องปิดบังอำพรางหน้าตาเอาไว้ แต่มิสามารถใช้วิธีคลุมผ้าปิดหน้าดังเดิมได้อีกด้วยจะเป็นการเตือนให้กลุ่มอำนาจทั้งหลายในราชสำนักระลึกถึงรัตติฤๅษี
ทั้งสองจึงตัดสินใจว่า “คืนนี้เจ้าอยู่กับพระอาจารย์ไปก่อนแล้วกัน เผื่อจักได้ความอันใดบ้าง”
“แล้วท่านจะพาข้ากลับลพ…เอ้อ ละโว้ด้วยใช่ไหม”
เจ้าชายหรี่พระเนตรอีกหน “เจ้ามีแผนการอันใดที่ละโว้แน่แท้เชียว”
“ไม่มี” ชายหนุ่มลงเสียงหนัก “ข้าแค่อยากมีที่ไป มีคนคุ้มหัวที่มีอำนาจสักหน่อย ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าต้องเจออะไรบ้างตลอดหลายวันมานี้” เขาผายมือไปยังผ้าเก่าขาดที่พันกายอยู่ “และอย่างน้อย ข้าก็มีความหวังว่าพวกท่านอาจจะพอช่วยให้ข้ากลับบ้านไปหาพ่อแม่ หาน้องสาวได้”
“พ่อแม่ท่านเป็นคนที่ใดกันเล่า” ฤๅษีซักอย่างสนใจ
“พ่อเป็นคนลำพูน แต่แม่เป็นคนใต้ มาจากสุราษฎร์ฯ โน้น”
“ลำพูน? สุราษฎร์?”
“ลำพูนก็คือลำพูน สุราษฎร์ก็สุราษฎร์ธานีไง เกิดอำเภอไชยา แต่เฮ้อ…ข้าจะอธิบายทำไม ยังไงพวกท่านก็คงไม่เข้าใจ นี่อาจจะเป็นโลกคู่ขนานที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยก็ได้” ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก
“ไชยา…” เจ้าชายทรงพึมพำ “แม่เป็นชาวไชยากระนั้นหรือ”
สุกกทันตฤๅษีมีสีหน้าหนักใจ “อาจารย์ว่าเรื่องชักแปลกประหลาดเข้าไปทุกทีเจ้าข้า”
“เอาเถิด…เช่นนั้นลองฟังไอ้คนวิปลาสที่หน้าเหมือนข้านี้ดูสักทีเถิดว่ามันจักเล่นลูกไม้อย่างไร”
ราชบุตรละโว้ทรงจ้องอีกฝ่ายเขม็งอย่างเอาเรื่อง รับสั่งสุรเสียงเย็น “ข้าจักช่วยเจ้าได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้านั้นแล จงเล่าเสียให้หมดสิ้นความของตัวเจ้า ณ บัดนี้…เริ่มจาก หากเจ้ามิใช่เขนน้อย แล้วเจ้าเป็นผู้ใดกัน”
ชายผู้มีลักษณะดุจเดียวกับรัตตกรทุกประการมองเจ้าชายและฤๅษีด้วยท่าทางครุ่นคิดชั่งใจ ก่อนระบายลมหายใจยาวแล้วพยักหน้า
“ผมชื่อรัญชน์” เขาสบตาทั้งสองแนวนิ่ง “แล้วถ้าผมเข้าใจไม่ผิด…ผมน่าจะย้อนเวลากลับมาในโลกโบราณ ในยุคไหนผมก็ยังไม่แน่ใจ…พวกท่านเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม”
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 20 : พระเจ้าจันทรโชติวิชัย (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 20 : พระเจ้าจันทรโชติวิชัย (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 20 : พระเจ้าจันทรโชติวิชัย (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 19 : ขันทีชาวลัวะ (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 19 : ขันทีชาวลัวะ (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 19 : ขันทีชาวลัวะ (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 18 : ผู้ชายจากสายธาร (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 18 : ผู้ชายจากสายธาร (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 18 : ผู้ชายจากสายธาร (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 17 : ตะวันลับฟ้า ดาราพร่างพราย (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 17 : ตะวันลับฟ้า ดาราพร่างพราย (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 17 : ตะวันลับฟ้า ดาราพร่างพราย (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 16 : สาส์นจากวาสุเทพฤาฤๅษี (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 16 : สาส์นจากวาสุเทพฤาษี (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 16 : สาส์นจากวาสุเทพฤาฤๅษี (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 15 : เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 15 : เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 14 : ดับแสงตะวัน (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 14 : ดับแสงตะวัน (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 14 : ดับแสงตะวัน (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 13 : ผู้ชนะศึกกลับบ้าน (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 13 : ผู้ชนะศึกกลับบ้าน (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 13 : ผู้ชนะศึกกลับบ้าน (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 12 : เขนน้อย (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 12 : เขนน้อย (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 11 : นิรนาม (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 11 : นิรนาม (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 11 : นิรนาม (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 10 : จันทราสีเลือด (6)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 10 : จันทราสีเลือด (5)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 10 : จันทราสีเลือด (4)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 9 : จันทราสีเลือด (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 9 : จันทราสีเลือด (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 9 : จันทราสีเลือด (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 8 : ศึกแรก (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 8 : ศึกแรก (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 8 : ศึกแรก (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 7 : จอมทัพหญิง (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 7 : จอมทัพหญิง (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 7 : จอมทัพหญิง (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 6 : ศึกนอกมิสู้ศึกใน (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 6 : ศึกนอกมิสู้ศึกใน (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 6 : ศึกนอกมิสู้ศึกใน (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 5 : คลื่นใต้น้ำ (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 5 : คลื่นใต้น้ำ (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 5 : คลื่นใต้น้ำ (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 4 : เจ้าชายแห่งไชยา (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 4 : เจ้าชายแห่งไชยา (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 4 : เจ้าชายแห่งไชยา (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 3 : เจ้าหญิงชาวทะเลใต้ (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 3 : เจ้าหญิงชาวทะเลใต้ (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 2 : เลือกคู่ (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 2 : เลือกคู่ (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 2 : เลือกคู่ (1)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 1 : อุปราชองค์ใหม่ (3)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 1 : อุปราชองค์ใหม่ (2)
- READ ซ่อนรักในรอยกาล "ลวปุระ ทวารวดี" บทที่ 1 : อุปราชองค์ใหม่ (1)