ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 5 : คลื่นใต้น้ำ (3)

ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 5 : คลื่นใต้น้ำ (3)

โดย : พิมพ์อักษรา

Loading

ซ่อนรักในรอยกาล โดย พิมพ์อักษรา กับผลงานนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อ่านง่าย ว่าด้วยทฤษฎีหนึ่งในตำนานประวัติพระนางจามเทวีกับพระสวามีที่แทบไร้หลักฐาน ผ่านเกมการเมืองในอาณาจักรทวารวดี อันมีชายปริศนาแฝงตัวเข้ามาอยู่เบื้องหลังเกมชิงบัลลังก์ครั้งใหญ่นี้ ติดตามได้ในเพจ อ่านเอา และ anowl.co

นักบวชที่มีบทบาทในราชสำนักมีหลายจำพวก ตั้งแต่พราหมณ์ จำแนกไปสู่โหร ไปจนถึงฤๅษี โยคี โดยมากผสมปนเปวัตรปฏิบัติกันจนแยกได้ยาก จึงมักเรียกรวมกันว่านักพรตหรือดาบส ซึ่งล้วนแต่สร้างธรรมเนียมนิกายของตนขึ้นมา แลหาทางเข้ามามีบทบาทในกลุ่มผู้ปกครองให้ได้มากที่สุด ทั้งในคราบปุโรหิต ที่ปรึกษา อาจารย์ ไปจนถึงโหร

รุธีนั้นจัดอยู่ในกลุ่มพราหมณ์แต่สมัครใจให้คนเรียกตนเป็นฤๅษี ขึ้นชื่อเชี่ยวชาญเรื่องการพยากรณ์ แลมายาศาสตร์ มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นคนใหญ่คนโตในราชสำนักจำนวนมาก เมื่อรุธีเริ่มล้มเจ็บ ‘สำนัก’ ของเขาจึงระส่ำระส่าย ฤๅษีเฒ่าจึงต้องหาตัวแทนเพื่อรักษาอำนาจของตนไว้

รัตตกรมิได้ตอบความพราหมณ์ผู้นั้น ยังคงสงวนถ้อยคำให้มากที่สุดตามลักษณะของไอ้มืดที่ไม่ต้องการให้ใครจดจำได้ จะอยู่หรือจะไปก็ไร้คนสังเกตให้ค่า เพื่อตัวตนใหม่ที่มีค่ายิ่งกว่า

เขาเลี่ยงกลับที่พำนักตนอย่างเงียบเชียบ หากมิได้ขึ้นเรือนไปทันที กลับลัดเลาะต่อไปถึงอาศรมใหญ่ เฝ้ารุธีฤๅษีผู้กำลังนอนนิ่งไม่ไหวติง มีเพียงดวงตากะพริบกลอกไปมาเท่านั้น เขาทำความเคารพนักบวชชราตามธรรมเนียมเคยชิน สังเกตจนแน่ใจว่ารุธีได้รับอาหารแล้ว ก็ค่อยปลดผ้าคลุมหน้ากับเครื่องแต่งกายอย่างบ่าวออกจนหมด ชำระคราบผงถ่านและน้ำยางที่พอกหน้าพอกกายเป็นสีเข้มอย่างบรรจง เผยให้เห็นผิวเนื้อแท้จริงอันเกลี้ยงเกลาแล้วจึงแต่งตัวอีกครั้งด้วยผ้าสีขาว คลุมหนังเสืออีกชั้น ก่อนจะโพกศีรษะและคลุมหน้าด้วยผ้าสีขาวสะอาดอีกหน เหลือให้เห็นเพียงดวงตาคมกริบดังเดิม

“พิธีอภิเษกพ้นไปได้เจ็ดทิวาแล้วนาท่าน” เขาปรายตามองร่างชรายับย่น สีหน้าเรียบเฉย “ไม่ต้องห่วง ข้าจักทำหน้าที่รัตติฤๅษีอย่างดีที่สุด ให้สมกับที่ท่านไว้ใจฝากฝังให้ ‘ใครๆ’ มาพบข้าแทนหากท่านเป็นอะไรไป ขอบพระคุณยิ่งนักที่เชื่อใจข้า บุญคุณใหญ่หลวงนี้ข้าจักมิมีวันลืม”

ฤๅษีผู้ล้มเจ็บกะพริบตาถี่ๆ

“มิต้องห่วงอันใด ไม่มีผู้ใดใส่ใจนำพาไอ้มืดอีกแล้ว มันจะค่อยๆ หายตัวไปจากละโว้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเสียด้วยซ้ำ รัตติฤๅษี ศิษย์เอกของท่านจักได้ปรากฏเต็มตัวตนสักที มิต้องหลบซ่อนทำครึ่งๆ กลางๆ เยี่ยงนี้อีกแล้ว หมดวาระของผู้ชราแล้ว ถึงเวลาของคนหนุ่มสักที มายาอาคมอันอ่อนด้อยไร้พิษสงของท่านใช้มิได้มานานเกินไปแล้ว ที่ยังอยู่ได้ก็ด้วยอุบายลวงขุนนางพวกนั้น แต่ข้าจักสำแดงให้พวกเขาเห็น ว่ารัตติฤๅษีเก่งกล้ากว่าท่านมากนัก” เขาพิศร่างแก่หง่อมยับย่นบนที่นอน น้ำเสียงยังราบเรียบไม่บ่งอารมณ์

“ข้าทำได้ดีเชียวละท่าน เจ้านาย ขุนนางมากมายต่างก็เวียนมาพบข้ามิได้ขาด พวกเขาล้วนหาหนทางกำจัดเจ้าหญิงชวาลาทั้งสิ้น แต่ข้าน่ะหรือจักทำลายจอมนารีเลอลักษณ์เช่นนั้นได้ลงคอ ข้าไม่ทำกับผู้ที่มีน้ำใจให้ข้าวให้น้ำข้าหรอก…ข้ามีวิธีของข้า ที่จักสัมฤทธิผลได้ในที่สุด เพียงต้องใช้เวลาเท่านั้น”

รัตตกรก้มลงแทบชิดหน้าเหี่ยวย่นของรุธีฤๅษี

“ที่ผ่านมา มิใช่เพราะท่านเอาชนะสุกกทันตฤๅษีแลวาสุเทพฤๅษีมิได้หรอกหรือ ทั้งสองพระองค์จึงยังมีพระชนม์รอดถึงวันอภิเษกได้” เขาถอนหายใจอีกครั้ง “แต่ข้ามิโทษท่านเสียทีเดียวหรอก ดาบสสองตนนั้นวิชาแก่กล้า แม้ข้าก็มิอาจหาญเผชิญหน้าสู้โดยตรงได้ จำต้องวางแผนอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด”

ฤๅษีเฒ่ากลอกตาไปมา ริมฝีปากแห้งผากขยับเล็กน้อยหากไร้เสียง

“ทั้งจันเสน ศรีเทพ อู่ทอง ที่ร้อนใจกันนักก็ยอมใจเย็นฟังข้าว่าให้อดทนให้การอภิเษกผ่านพ้นไปก่อน เพราะอย่างไร ทางวิชาอาคมนั้น ฤๅษีทั้งสองก็ต้องป้องกันลูกศิษย์แข็งขันอยู่แล้ว ทางความปลอดภัย ข้างในก็กวดขันกันเข้มแข็ง ไม่มีช่องโหว่ใดให้ผิดพลาด…แผนของข้าหาใช่ฉาบฉวยตื้นเขินอย่างเรื่องทำเสน่ห์ไม่” ชายหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ ดุจระอา “อย่างเจ้าหญิงทิพกฤตานั้นปะไร ดึงดันจักให้ทำเสน่ห์ผูกใจเจ้าชายให้ได้ เพราะเอาตัวเข้าไปเสนอ กราบกรานอ้อนวอนกี่ครั้ง บุรุษก็มิเหลือบแล วิชาพวกนั้นทำอันใดเจ้าพี่…หมายถึงเจ้าอุปราชมิได้หรอก เอาละ”

เขายืดตัวลุกขึ้น ถูมือไปมา ประกายตายินดีจุดขึ้นแวบหนึ่ง

“มี ‘อีกฝ่าย’ ต้องการพบข้าโดยเร่งด่วน ดูจากข้าหลวงแล้ว ชะรอยจักมิใช่ธรรมดาเสียแล้ว ใคร่รู้เช่นกันว่าจักเป็นผู้ใด”

ผู้มาเยือนเป็นสตรีชั้นสูงฝ่ายในอย่างมิต้องสงสัย ด้วยแม้ไร้เครื่องประดับเพชรนิลจินดาใด หากแต่งองค์ด้วยแพรพรรณชั้นเลิศสีน้ำเงินเข้มที่มีใช้จำเพาะราชนารีสูงศักดิ์เท่านั้น พระนางห่มผ้าโปร่งสองชั้นคลุมพักตร์ไว้มิดชิดเหลือเพียงนัยเนตรมิต่างจากเขา ทว่าแม้ล่วงเข้าสู่ที่รโหฐานแล้วก็ยังมิยอมปลดผ้าคลุมพักตร์ลงเหมือนเจ้านายองค์อื่นที่มาเฝ้ารัตติฤๅษี ถ้อยรับสั่งระมัดระวังอย่างผู้ที่ไตร่ตรองทุกอย่างรอบคอบเสมอ กระนั้นก็ปิดบังสุรเสียงแห่งความร้อนใจและเด็ดขาดไว้ไม่มิด

เจตนาของพระนางมิได้ต่างจากเจ้านายแลขุนนางฝ่ายต่างๆ ที่มาพบเขาเท่าไร คือการกำจัดเจ้าหญิงชวาลาให้พ้นทางเพื่อให้เจ้าหญิงของพรรคพวกตนมีสิทธิ์เป็นใหญ่ ต่างกันตรงที่ราชสตรีผู้นี้มิได้เอ่ยอ้างถึงเจ้าหญิงพระองค์ใดด้วยซ้ำ เมื่อเขาพิศวรองค์บอบบางแลฉวีขาวนวลก็ประเมินได้ว่าพระนางอาจมิใช่ดรุณีแรกแย้มผลิบาน หากก็มิได้สูงวัยจนเกินไปนัก แต่มีชันษาเท่าไรแน่แลเป็นคนพวกใด เขายังไม่แน่ใจ บางทีพระนางอาจต้องการชิงตำแหน่งจากชวาลาเพื่อตนเองก็เป็นได้

“ขอเพียงกำจัดพวกแขกจามไปให้พ้นทาง ข้ายินดีร่วมมือทั้งสิ้น”

“แขกจาม?” ฤๅษีหนุ่มสะอึก “ท่านหมายถึง…ชาวทะเลใต้กระนั้นหรือ”

พระนางตวัดเนตรคมกริบเป็นเชิงหมิ่นหยาม “จักเป็นผู้ใดนอกจากชาวทะเลนอกคอกนั้นเล่า ทั้งรักตมปุระหรือศรีวิชัยก็ล้วนแต่ป่าเถื่อนไร้อารยะทั้งสิ้น จักให้ครองบัลลังก์ทวารวดีหาได้ไม่”

“พวกเรา…หมายถึง พวกเขาไม่ใช่แขกจาม” รัตตกรอดแก้มิได้ “แคว้นทางทะเลใต้นั้นคือพวกมลายู พวกจามเป็นชาวเรือก็จริง หากก็อยู่ห่างไกลจาก…พวกนั้นมาก”

“สำหรับข้านั้นมิเห็นต่าง อย่างไรก็เป็นชนเถื่อนที่นิยมการสู้รบอย่างลอบกัด เป็นชนชั้นต่ำ” พระนางจ้องตาเขม็งไม่กะพริบ “ข้าทนเห็นคนนอกคอกขึ้นมามีอำนาจเหนือพวกเราต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว”

ชายหนุ่มสะดุ้ง หากพระนางหมายรวมไชยาเป็นคนนอกที่มีอำนาจ ก็ย่อมหมายถึงต้องการกำจัดเจ้าชายกัษษกรด้วยเช่นกัน…สตรีผู้นี้เป็นใครกันแน่

ราวกับรู้เท่าทัน พระนางชิงรับสั่งขึ้นเสียก่อน “แต่ก็ใช่ว่าข้าต้องหมายชีวิตองค์อุปราช เป้าหมายของข้าคือเจ้าหญิงชวาลา!” ยังทรงจ้องเขาด้วยสายพระเนตรคมกริบไม่กลัวเกรง “ดูทีหรือท่านก็ยังมิใช่คนเฒ่า แต่รุธีฤๅษีกลับมั่นอกมั่นใจในตัวท่านยิ่งนัก”

“อันจะโค่นอำนาจรักตมปุระของพระนางชวาลามิใช่เรื่องง่าย เรื่องลอบกัดหรือใช้มายาศาสตร์ใดแทบเป็นไปมิได้เลย ต้องใช้วิธีต่างออกไป…แลมิอาจหวังผลสัมฤทธิ์ได้ในไม่กี่เพลา อยู่ที่ว่าจักอดทนรอได้หรือไม่” เขาสบพระเนตรไม่หลบเลี่ยงเช่นกัน “การกำจัดแขกจามของท่านนั้นเดิมพันสูงยิ่งนัก ท่านพร้อมจักเสี่ยงหรือไม่…เจ้าข้า”

“สูงเช่นไรกัน ข้าใคร่ได้ทราบเสียก่อน”

รัตตกรลดเสียงลงกระซิบยาวเหยียด ก่อนลงท้ายว่า

“ทุกฝ่ายที่มาพบกระหม่อม ล้วนลงเดิมพันด้วยชีวิตกันทั้งนั้นเจ้าข้า”

 



Don`t copy text!