ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 20 : พระเจ้าจันทรโชติวิชัย (1)

ซ่อนรักในรอยกาล “ลวปุระ ทวารวดี” บทที่ 20 : พระเจ้าจันทรโชติวิชัย (1)

โดย : พิมพ์อักษรา

Loading

ซ่อนรักในรอยกาล โดย พิมพ์อักษรา กับผลงานนวนิยายอิงประวัติศาสตร์อ่านง่าย ว่าด้วยทฤษฎีหนึ่งในตำนานประวัติพระนางจามเทวีกับพระสวามีที่แทบไร้หลักฐาน ผ่านเกมการเมืองในอาณาจักรทวารวดี อันมีชายปริศนาแฝงตัวเข้ามาอยู่เบื้องหลังเกมชิงบัลลังก์ครั้งใหญ่นี้ ติดตามได้ในเพจ อ่านเอา และ anowl.co

วันพฤหัสบดี ขึ้นสิบสามค่ำ เดือนเจ็ด พระจันทร์จรณะเข้าเกี้ยวคาบนักขัตฤกษ์ชื่ออุตรผละคุณ ปรากฏในกนันทราศีจนถึงเมถุน เป็นยามอุทธังราชา…ละโว้ธานีแห่งทวารวดีจารึกไว้

เจ้าชายกัษษกรหรืออุปราชรามราชทรงขึ้นเสวยสิริราชสมบัติลวปุระ เฉลิมพระนามพระเจ้าจันทรโชติวิชัย กษัตริย์แห่งจันทรวงศ์ผู้โชติช่วงรุ่งโรจน์ ทรงอภิเษกเจ้าหญิงบุณฑราแห่งจันเสนขึ้นเป็นอัครเทวี เฉลิมพระยศนามบุณฑราเทวี แลแต่งตั้งเจ้าหญิงวิมุทราเป็นพระชายาฝ่ายซ้ายและเจ้าหญิงทิพกฤตาเป็นพระชายาฝ่ายขวาให้ทราบทั่วกันแล

วันพฤหัสบดี แรมหกค่ำ เดือนสิบเอ็ด บุณฑราเทวีทรงพระครรภ์

วันจันทร์ ขึ้นสิบห้าค่ำ เดือนสาม พระชายาทิพกฤตาทรงพระครรภ์

วันอาทิตย์ แรมหกค่ำ เดือนห้า พระชายาวิมุทราทรงพระครรภ์

 

พระเจ้าจันทรโชติวางแผ่นจารที่อาลักษณ์ขึ้นทูลถวายให้ทอดพระเนตรด้วยพระพักตร์เฉยเมย ในพระทัยว่างเปล่า ราชฐานะกษัตริย์ละโว้ธานีและพระเทวีทั้งสามที่ทรงพระครรภ์อยู่นั้นมิได้ก่อให้เกิดความยินดียินร้ายแต่อย่างใด ด้วยมิใช่สิ่งที่ทรงปรารถนาแต่แรก อีกทั้งทรงทราบดีแก่พระทัยว่าถึงอย่างไรพระองค์ก็หาได้มีพระราชอำนาจแท้จริงไม่

ทรงเป็นได้เพียงหุ่นเชิดของกลุ่มอำนาจที่หนุนหลังราชสตรีเหล่านั้นต่างหาก

สิ่งที่ทรงพอทำเพื่อรักษาฐานอำนาจให้มั่นคงพอที่จักมิถูกโค่นลงได้ มีเพียงทูลขอกองกำลังส่วนพระองค์จากศรีวิชัยและรักตมปุระมาเพิ่ม แลให้ราชทูตแต่งบรรณาการระหว่างอาณาจักรเป็นสัญลักษณ์แห่งพันธมิตรแน่นแฟ้น รวมถึงกล้าสถาปนาจันทรวงศ์ขึ้นเป็นสกุลสืบสันตติวงศ์แทนวงศ์พระจันทร์เสี้ยว เพื่อเป็นการปรามกึ่งคานอำนาจชาววงศ์เวหะอีกทาง

ทรงยกเหตุผลว่าทั้งวงศ์พระจันทร์และวงศ์พระจันทร์เสี้ยวต่างก็เป็นวงศ์จันทราเฉกเช่นกัน บัดนี้เมื่อพระองค์ทรงสืบราชสมบัติแล้ว เหตุใดจึงมิให้เสี้ยวจันทร์ได้กลายเป็นจันทร์เพ็ญสว่างไสวเล่า

และหากพวกเวหะฉลาดพอ พวกเขาก็จักมิร้องแรกแหกกระเชอด้วยเรื่องสายวงศ์อย่างออกนอกหน้าอีก แต่จักหาทางแทรกซึมเพื่อมีอิทธิพลในราชบัลลังก์ให้มากที่สุดต่างหาก…อันเป็นสิ่งที่กัษษกรทรงคาดการณ์ไว้แต่แรกอย่างผู้ที่เข้าพระทัยในเส้นทางชีวิตของตนดี

“ตัดสินพระทัยได้ชาญฉลาดยิ่งนักเจ้าข้าที่เลือกพระนางบุณฑราขึ้นเป็นมเหสีเอก” สุกกทันตฤๅษีกราบทูล “พระนางทรงสืบสายเลือดครึ่งหนึ่งของพระเจ้าจักวัติวิราช นับว่าชอบธรรมสูงสุดรองจากพระนางชวาลาแล้วเจ้าข้า”

ได้ยินพระนามชวาลา หฤทัยก็วับหวำสั่นไหว

“สงครามแท้จริงยังมิเริ่มหรอกอาจารย์ พวกนางมีประสูติกาลเมื่อไรนั้นแล คงได้เริ่มขับเคี่ยวกัน” ทรงนึกถึงพระชายาทั้งสามแล้วเหนื่อยหน่ายอย่างยิ่ง “ข้าก็จักกลายเป็นหุ่นเชิดโดยสมบูรณ์แบบ”

“อย่าเพิ่งสิ้นหวังเช่นนั้นเลยเจ้าข้า” พระฤๅษีทูลอย่างเห็นใจ “อย่างน้อยโอรสหรือธิดาจากทั้งสามพระนางก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฝ่าบาท น่าจักทรงพอพระทัยอยู่บ้าง”

“ต่อให้ข้ารักลูกเพียงใด ก็ใช่ว่าพวกเขาจักให้ข้าได้เลี้ยงดูลูกกระนั้นละ” รับสั่งแล้วก็อดรำพึงถึงพระชายาผู้นิราศจากไปมิได้ “ป่านนี้วาน้อยจักถึงนครลำพูนหรือยังหนอ ยังมิทราบข่าวคราวสักนิด”

“ตามกำหนดน่าจักเสด็จถึงแล้วแต่หนทางกันดารลำบากยิ่ง อาจล่าช้ากว่านั้นหากก็ยังประมาณมิได้เจ้าข้า”

“ครรภ์นางก็คงแก่เต็มทน…จักปลอดภัยดีหรือไม่หนอทั้งแม่ทั้งลูก” ความอาดูรเข้าเกาะกุมหฤทัยเมื่อทรงจินตนาการว่าพระชายาจักได้รับความทุกข์ยากลำบากเพียงใด “ข้าจักได้โอรสหรือธิดากันหนอ…แล้วลูกข้าจักหน้าตาเป็นเช่นไร ดูทีคงจักคมคายเหมือนข้าและวาน้อยนั้นแล”

รับสั่งแล้วก็ทรงตระหนักได้ว่า…พระองค์ก็ไร้โอกาสจักเลี้ยงดูโอรสหรือธิดาในพระครรภ์ชวาลา มิต่างกับที่มีพระดำรัสถึงโอรสธิดาในครรภ์ชายาทั้งสาม

“พระอาจารย์…” จันทรโชติรำพึง ขณะทอดพระเนตรไปนอกบานพระแกล “ท่านว่า ชั่วชีวิตนี้ข้าจักมีโอกาสได้พบวาน้อยกับลูกอีกหรือไม่”

ฤๅษีร่างเล็กไม่ตอบ เพราะย่อมทราบคำตอบดี

“นั่นสินะ…ข้าคงอยากแค่มีความหวังริบหรี่เล็กน้อยให้ยึดเหนี่ยวไว้กระมัง” ทอดถอนพระทัยและยืดวรกายขึ้น ดวงเนตรหรี่ลงเล็กน้อย “ท่านว่า ไอ้รัญชน์มันทำความแตกไปหรือยัง”

“อาจารย์มิกล้าคาดเดาเจ้าข้า”

“มันมีจิตปฏิพัทธ์ต่อเมียข้า” รับสั่งโพล่งอย่างอัดอั้น “ท่านว่าสุดท้ายแล้วมันจักสวมรอยเป็นข้าหรือไม่”

“ต้องถามว่าในเมื่อมิปรารถนาให้มันกลับโลกในกาลข้างหน้าเพื่อให้มันดูแลองค์หญิงชวาลา เช่นนั้นแล้วฝ่าบาทประสงค์จักให้มันเป็นใครสำหรับพระนางได้เล่าเจ้าข้า” ดาบสชราหัวเราะเบาๆ ในลำคอ

“อาจารย์รู้…ว่าฝ่าบาทเตรียมพระทัยไว้แล้ว แต่ก็ทรงคะเนได้เช่นกันว่าองค์หญิงจักต้องทรงทราบในที่สุดว่ารัญชน์มิใช่สวามีพระนาง แต่หลังจากนั้นต่างหากที่ฝ่าบาทมิกล้าคาดเดา”

“นอกจากวาน้อย ก็มีพระอาจารย์นั้นแลที่อ่านใจข้าได้ทะลุปรุโปร่งเสียยิ่งกว่าตัวข้าเอง”

วาน้อย…พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน พี่ควรต้องรู้สึกเช่นไรดีในเมื่อเป็นฝ่ายยื่นเนื้อเข้าปากเสือเสียเอง

แต่รัญชน์มิใช่เสือมิใช่หรือ…เขาเป็นผู้ที่พระองค์ไว้วางใจให้ดูแลชวาลานับจากนี้

“เมื่อตัดสินใจแล้ว ข้าก็ต้องทำใจรับผลนั้นแล”



Don`t copy text!