เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 21 : Sweet Sorrow ความโศกเศร้าอันหอมหวาน

เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 21 : Sweet Sorrow ความโศกเศร้าอันหอมหวาน

โดย : ขวัญอินทร์

Loading

เปลือกมุกสีชมพู โดย ขวัญอินทร์ นวนิยายดราม่าเข้มข้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอาจไม่เคยมองเห็นเนื้อแท้ของใครได้เลย ถ้าเราเลือกมองแค่เพียงเปลือก ความสำเร็จ ความล้มเหลว และภาพจำที่ผู้อื่นตีกรอบให้ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใคร เพราะสุดท้ายผลกรรมจะเปิดโปงทุกอย่างไม่ช้าก็เร็ว

 

รัม น้ำ ผลเบอร์รี เครื่องเทศของทางแขก

ต้นบุญแวะไปหามุกอันดาที่ร้านก็พบว่า เธอกับพี่ป้อมกำลังคุยกับช่างรับเหมา และปัญหาของเธอตอนนี้คือต้องย้ายออกเพื่อความสะดวกในการก่อสร้าง

“หรือแกจะย้ายไปอยู่กับพี่” ป้อมชัยเอ่ยปากชวน เป็นห่วงศิษย์เอกก็เป็นห่วง แต่เขาก็ยังเอาตัวไม่รอด

“มุกไปหาห้องเช่าดีกว่าค่ะ” มุกอันดาเกรงใจ แค่ที่พี่ป้อมไม่ไล่ออกก็ดีแค่ไหนแล้ว

“ประหยัดได้ก็ประหยัดเถอะวะ พี่คงจ่ายเงินเดือนให้มุกแค่ครึ่งเดียว” ป้อมชัยบอกศิษย์เองตรงๆ นี่ถ้าไม่กลัวว่าจะเสียมือดีไป เขาคงเลิกจ้างไปก่อน

“ไม่เห็นจะยากเลย มุกไปอยู่กับพี่ที่คอนโด เดี๋ยวพี่บอกพ่อให้” ต้นบุญอดทนฟังมุกอันดาปรึกษาพี่ป้อมอยู่นาน เมื่อเห็นเธออ้ำอึ้งเข้าตาจน จึงรีบเสนอตัว โชคดีที่คนเช่าคอนโดฯ หมอบุญเพิ่งย้ายออก เขาจะได้ให้มุกมาอยู่แทน คิดว่าหมอบุญพี่สาวคงไม่ขัดข้อง

“ไม่เอาหรอกค่ะ มุกไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าหรอก มุกไปหาหอพักราคาถูกแถวหน้ามอก็ได้” มุกอันดาบอก น้ำเสียงไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะหาได้หรือเปล่า

“นึกแล้วเชียว งั้นรอเดี๋ยว” ต้นบุญบอกเสียงฉุน ก่อนโทรศัพท์หาพ่อ ลุงภูวดลของมุกอันดา เพื่อให้พ่อช่วยพูดกับเธอ

ตอนเด็กๆ ลุงเกือบจะได้ไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ย่ามุกหยิบยื่นที่ซุกหัวนอนให้ มาตอนนี้ลูกหลานท่านลำบาก ใจคอมุกจะไม่ให้ลุงตอบแทนท่านบ้างหรือ

คำพูดของทำภูวดลทำให้เธอใจอ่อน ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่ห้องหมอบุญ ซึ่งเจ้าตัวอนุญาตให้อยู่ฟรีขอแค่ช่วยรักษาความสะอาด แล้วยังฝากบอกมาว่าคราวหน้าถ้าเธอลงมาต้องจ่ายค่าห้องเป็นค็อกเทล จนมุกอันดาต้องแอบกระซิบถามต้นบุญว่า ไม่ยักรู้ว่าหมอดื่มเหล้าด้วย ต้นบุญหัวเราะขำพร้อมกับบอกว่า

บรั่นดีแค่หนึ่งเอ็มแอลก็ไม่รอดแล้วมุก

คนที่ไม่พอใจและไม่เต็มใจจะให้มุกอันดาอยู่ที่นี่คือสองพี่น้องรัตนากับลีลาวดี หรือแม่กับน้าลีของต้นบุญ

วันแรกที่เธอไปอยู่ที่คอนโดฯ น้าลีก็หอบผ้าหอบผ่อนทิ้งลูกทิ้งสามี อ้างว่ามานอนเป็นเพื่อนเธอ หรือถ้าแปลเจตนาตรงๆ คือมากันท่าหลานชาย

ให้แกมาน่ะดีแล้ว แกจะได้เห็นไงว่ามุกของพี่น่ารักแค่ไหน แม่กับน้าลีไม่ใช่คนใจร้ายหรอกแค่หวงลูกชายไปหน่อยแค่นั้นเอง ต้นบุญปลอบใจให้เธอหายกังวล

เอาละวะ มุกอันดาบอกตัวเองคิดว่า ครอบครัวนี้อาจชอบของแปลกก็ได้ ลองดูสักตั้ง แม่กับน้าลีอาจเห็นความน่ารักเหมือนที่พี่ต้นเห็น อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยหักหลังใครเหมือนพี่ฟ้า

คืนแรกมุกอันดาอาสาจะไปนอนในห้องนั่งเล่นเพราะกลัวจะอึดอัด ตอนแรกดูเหมือนน้าลีจะตกลง แต่คงนึกขึ้นได้ว่าเธออาจแอบย่องไปหาต้นบุญก็ได้

“นอนด้วยกันนี่แหละ”

มุกอันดาซึ่งกำลังหอบผ้าห่มกับหมอนไปนอนหน้าทีวีแอบทำหน้าเมื่อย แกคงลืมไปว่า กลางวันแกต้องไปทำงาน ส่วนเธออยู่คอนโดฯ ทั้งวัน มีโอกาสอยู่ตามลำพังกับพี่ต้นตั้งหลายชั่วโมง เพียงแต่เธอไม่ทำและไม่คิดว่าจะทำ เธอไม่อยากเป็นเหมือนแม่ กลัวว่าสุดท้ายลูกต้องมารับกรรมเหมือนเธอ

“นอนด้วยกันบนเตียงนี่แหละ” น้าลีบอกเมื่อเห็นเธอตั้งท่าปูที่นอนข้างเตียง

“ได้ค่ะ” มุกอันดาตอบสั้น ก่อนนอนตัวลีบหันหลังให้กัน

“ที่ต้องมาเฝ้าเพราะกลัวว่าเธอจะเสียหาย ใครรู้เข้าจะไม่งาม” น้าลีพูดออกตัวเพื่อคลายความอึดอัด เธอไม่ใช่คนใจร้ายมากนัก ยิ่งเมื่อตั้งป้อมกำแพงสูงแล้ว หญิงสาวยอมทุกอย่างก็นึกสงสารเหมือนกัน

“เข้าใจค่ะ” มุกอันดาตอบสั้นๆ เหมือนเดิม รำพึงกับตัวเองว่า เกิดเป็นมุกอันดานี่ยากเหลือเกิน เป็นครั้งแรกที่เธอคิดว่าไม่น่าระเห็จตัวเองออกจากบ้านเลย อยู่กับป้าจีดีๆ ชั่วๆ ก็เป็นพี่น้อง และเป็นบ้านตัวเองมีปัญหามากก็ทำกำแพงกั้นเสียก็จบ

“เธอก็หน้าตาไม่เลว ทำไมไม่มีแฟน”

“ไม่ว่างจะมีค่ะ กลางคืนทำงาน กลางวันนอน ตอนค่ำก็ต้องไปเตรียมงาน”

“แล้วทำไมต้องทำงานกลางคืน ใครเค้าจะเข้าใจผิดได้ว่าเป็นคนไม่ดี”

“แล้วทำงานกลางวันคนไม่เข้าใจผิดหรือคะ” มุกอันดาตอบกลับทันควัน เธอโดนป้าจีเข้าใจผิดตั้งแต่เธอยังไม่ทำงานบาร์เสียด้วยซ้ำ

น้าลีขยับตัวปิดไฟหัวเตียงคงคร้านจะคุยด้วย ไม่นานก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ มุกอันดาถอนหายใจยาว นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหา คืนนี้เธอคงนอนไม่หลับเพราะเสียงกรนของน้าลี และคงนอนตื่นสายจนโดนตำหนิจนได้

เช้าวันต่อมาหลังจากผ่านคืนแรกในคอนโดฯ ไปแล้ว ทั้งต้นบุญและลีลาวดีต้องแปลกใจเมื่อเห็นมุกอันดากำลังเตรียมข้าวต้มอยู่ในครัว

“ซื้อเจ้าไหนมาน่าทานเชียว” น้าลีอุทาน เมื่อเธอยกข้าวต้มวางอยู่บนโต๊ะ กลิ่นหอมโชย หน้าตาน่าทาน จนน้าลีลืมจับผิดมุกอันดา

“ฝีมือมุกครับ น้าลีชิมดู อร่อยใช้ได้เลยละ” ต้นบุญเคยไปฝากท้องที่ร้านบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นมื้อดึก หลังปิดร้าน

“ตื่นเช้าเหมือนกันนะเธอ” น้าลีเริ่มตั้งแง่เมื่อเห็นหลานชายเอ่ยชมเธอ

“นอนไม่หลับค่ะ ทานเสร็จก็กะว่าจะไปนอน” มุกอันดาบอกตามตรง ถ้าจะให้ตรงกว่านี้ คือเมื่อคืนน้าลีกรนจนมุกไม่ได้นอน

“ต้นล่ะ ไปไหนบ้าง”

“ไปที่ดินครับ นัดกับลุงสัมพันธ์เอาไว้เรื่องโอนที่”

น้าลีลอบมองหลานชายสุดโปรดที่กำลังซดข้าวต้มท่าทางถูกใจเสียเต็มประดา จะว่าไปข้าวต้มชามนี้ก็อร่อยจริงๆ แสดงว่ามุกอันดาทำกับข้าวเป็นประจำ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อสร้างภาพเอาใจเธอ

ทานมื้อเช้าเสร็จทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำงาน ยกเว้นมุกอันดาที่ยังอยู่ที่ห้อง แต่ยังไม่ทันที่ต้นบุญออกจากคอนโดฯ ลุงสัมพันธ์ก็โทร.มาขอคืนเงินมัดจำที่ดิน ทั้งที่กำลังจะนัดโอนเงินกันวันนี้ เพราะมีคนให้ราคาดีกว่า เขาหลอกล่อถามจนรู้ว่าคนที่มาซื้อตัดราคาคือใคร

“เห็นใจผมเถอะคุณ คุณฟ้าให้ราคาสูงกว่าเกือบเท่าตัว เป็นใครใครก็ขาย ประเดี๋ยวผมโอนเงินมัดจำให้”

“เกือบเท่าตัว! ถ้าอย่างนั้นคุณลุงก็ขายเถอะครับ ผมยินดีด้วยแล้วกัน” ต้นบุญบอกแบบไม่รู้จะพูดอะไรดีไปกว่านี้ แม้จะเสียดายแต่เขาคงไม่สู้ราคา หลังจากวางสายจากลุงสัมพันธ์แล้วเขาก็โทร.ไปรายงานเรื่องนี้กับพ่อทันที

“ฟ้าพราวปั่นราคาสูงกว่าราคาประเมินมาก มุกจะคิดยังไงถ้าเราซื้อถูกกว่าฟ้าพราว”

“ต้นก็คุยกับน้องตรงๆ พ่อว่ามุกเข้าใจ แต่ถ้าน้องไม่เต็มใจขาย ก็ไม่ต้องไปบังคับ เรื่องโครงการมหาลัยก็เหมือนกัน ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องเอา” คุณภูวดลบอกลูกชายก่อนวางสาย

“ครับ ฝากบอกแม่ด้วยนะครับว่า เป็นไงล่ะ คนดีของแม่”

ตอนนี้เขารู้สึกหนักหน่วงในใจ เป็นอีกครั้งที่ฟ้าพราวปาดหน้าแย่งงานไปจากเขา ทั้งที่เพิ่งชวนกันไปฉลองความสำเร็จ แค่ชั่วข้ามคืนเธอก็หักหลังเขาเสียแล้ว เล่ห์เหลี่ยมอาจทำให้เธอได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่มันก็อาจทำให้เธอไม่เหลือใครในสักวัน

“มุก อยู่ห้องหรือเปล่าพี่อยากเมา” ต้นบุญยกโทรศัพท์หามุกอันดาทั้งที่ห้องอยู่ติดกัน ไม่ถึงนาทีต่อมาเขาก็นั่งหน้าเซ็งอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว ซึ่งตอนนี้มุกอันดาแปรสภาพเป็นเคาน์เตอร์บาร์เรียบร้อยแล้ว

เธอใช้เวลาว่างช่วงที่อยู่คอนโดฯ ถ่ายวิดีโอสอนวิธีผสมค็อกเทลสูตรต่างๆ ซึ่งมีทั้งผสมและไม่ผสมแอลกอฮอล์ลงช่องยูทูบและเฟซบุ๊ก เพิ่มจากช่องไอจีที่มีคนติดตามอยู่แล้วหลายพันคน ซึ่งดูเหมือนว่าจะไปได้สวยเพราะยอดไลฟ์กับคอมเมนต์พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทุกคลิปเธอก็จะลงพิกัดโปรโมตร้านล่วงหน้า เพื่อเรียกลูกค้าพลางๆ

“เบียร์สักป๋องก็พอมั้ง ดื่มตอนเครียด เสียดายรสชาติสุราหมด” มุกอันดาขยิบตาล้อเลียน ก่อนเดินไปหยิบกระป๋องเบียร์ในตู้เย็น

ต้นบุญคว้าเธอมากอด ซุกหน้าลงตรงซอกคอนิ่ง เสียงอู้อี้ถามในลำคอ จับความได้ว่า

“พี่มันอ่อนจริงๆ ด้วย”

มุกอันดาผลักเขาออกเบาๆ วางมือทั้งสองประคองหน้าชายหนุ่มไว้ มีร่องรอยท้อแท้ เสียใจ คงไม่ต่างอะไรกับเธอที่เคยหลงทาง

“เล่าสิคะ มุกรอฟังอยู่” มุกอันดาปลอบประโลม น้ำเสียงหนักแน่นจริงใจ

ต้นบุญเล่าเรื่องที่ฟ้าพราวหักหลังเขา ทั้งที่จับได้และจับไม่ได้ มุกอันดาเม้มปากแน่น โกรธน่ะโกรธมาก แต่ก็แปลกที่ส่วนลึกในใจกลับสมเพชฟ้าพราว เธอคิดว่าพี่ฟ้าฉลาดกว่า เก่งกว่าเธอมาตลอด แต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า คนฉลาดที่หลงตัวเองก็คือไก่ตาบอดดีๆ นี่เอง เพชรอยู่ตรงหน้าแท้ๆ กลับขว้างทิ้งแบบไม่ไยดี

พี่ต้นไม่ใช่ผู้ชายที่จะหาได้ง่ายๆ ไม่ใช่แค่ฐานะ หรือหน้าตา แต่เป็นนิสัยใจคอ ถึงแม้ต่อไปในอนาคตเธอจะเป็นแค่พี่น้อง แต่เธอก็จะไม่เสียใจเลยที่ได้รักผู้ชายคนนี้

“พี่ฟ้าได้ไปแค่ร้อยไร่ แต่เราสองคนรวมกันได้ตั้งหลายร้อยไร่เชียวนะคะ” มุกอันดาสรุป โดยไม่พูดถึงฟ้าพราวอีกเลย

เย็นวันนั้นน้าลีกลับมาแล้วรู้ว่าต้นบุญอยู่ห้องกับเธอทั้งวัน ก็แสดงท่าทีมึนตึงใส่ทั้งสองคน บรรยากาศภายในห้องอึดอัดขึ้นมาทันที ต้นบุญจึงเล่าเรื่องฟ้าพราวให้น้าลีฟัง

“ฟ้าอาจไม่รู้ก็ได้นะต้น ว่าต้นตกลงซื้อขายกันแล้ว เหลือแค่ไปโอนที่”

“ต่อให้ไม่ใช่พี่ต้น พี่ฟ้าก็ไม่ควรทำแบบนี้นะคะ” มุกอันดาตอบกลับไปตรงๆ ตามนิสัย เหตุผลของเธอทำให้ลีลาวดีอึ้งไป ก็ถูกของเธอ เธอมัวแต่หลงเปลือกฟ้าพราวจนลืมความจริง ผิดก็คือผิด ไม่ว่าจะทำกับใคร

ตั้งแต่นั้นมาน้าลีดูจะคลายการจับผิดลงบ้าง แต่ก็ยังไม่วางใจให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง และตอนนี้เธอกลายเป็นนักชิมค็อกเทลแบบไร้แอลกอฮอล์ให้เธอ แต่เรื่องที่ทำให้เธอไม่สบายใจคือเรื่องลูกสาวคนเล็กซึ่งอยู่ในวัยมัธยมของน้าลี

มุกอันดารู้มาว่าตอนแรกน้าลีตั้งใจมาอยู่ตอนที่ต้นบุญอยู่เท่านั้น แต่เขาก็ดันติดงานไม่ได้กลับกรุงเทพฯ เสียที เธอจึงต้องอยู่ที่นี่หลายวัน ลูกสาวน้าลีเริ่มมีปัญหาอยากให้แม่กลับบ้าน มุกอันดาสงสาร เธอจึงตัดสินใจขอย้ายไปอยู่ที่อื่น

“มุกสงสารน้องค่ะ กำลังวัยรุ่นห่างแม่แบบนี้ไม่ดีแน่ ไม่ต้องห่วงนะคะ มุกพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ตอนนี้เงินจากยูทูบก็เริ่มเข้ามาแล้ว ถึงจะไม่มากแต่ก็พอจ่ายค่าอพาร์ตเมนต์ไหวค่ะ ฝากบอกลุงภูด้วยนะคะ แค่นี้ก็เป็นพระคุณมากแล้ว” มุกอันดาบอกโดยไม่ฟังคำทัดทานจากต้นบุญ หรือแม้แต่น้าลีเองก็นิ่งอึ้งไม่รู้ตัดสินใจอย่างไรดี เพราะที่มุกอันดาพูดมาก็ถูก เธอทิ้งลูกมาเฝ้าหลานชายหลายวันแล้ว จนสามีเองก็เริ่มเคือง

ต้นบุญจึงต้องโทร.มารายงานพ่อ

“ถ้าน้องไม่สบายใจก็ปล่อยน้องไปเถอะต้น เป็นพ่อก็ไม่อยู่หรอก” คุณภูวดลพูดประชดปรายตาไปทางภรรยาซึ่งมีสีหน้าไม่สู้ดี เธอเองก็เพิ่งรู้จากน้องสาวเมื่อตะกี้ว่า มุกอันดาเอากุญแจมาคืน

ถ้าเพียงแต่เธอจะย้ายออกเพราะไม่พอใจที่โดนกีดกัน เธอจะไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด แต่นี่เด็กสาวที่เธอมองว่าเหมือนสก๊อย ขอย้ายออกเพราะเป็นห่วงลูกสาวลีลาวดี

“บอกต้น ขอแม่คุยกับมุกอันดา” รัตนาอยากบอกลูกชายว่า ให้เธออยู่ต่อได้

“อย่าเลยคุณ เราลงไปแก้ปัญหาระยะยาวเลยดีกว่า”

ซึ่งการแก้ปัญหาระยะยาวของคุณภูวดลคือ บอกให้มุกอันดาขายไม้ยางพารา แล้วเอาเงินไปซื้อบ้านเป็นของตัวเอง จะได้ไม่ต้องระเห็จระเหเร่ร่อนไปอยู่บ้านใครอีก

 

 



Don`t copy text!