กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 14 : ทำหน้าที่เมีย (2)

กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว บทที่ 14 : ทำหน้าที่เมีย (2)

โดย : ชีวาพร

Loading

กรุ่นกลิ่นผกาแก้ว โดย ชีวาพร เรื่องราวของสองพี่น้องที่ชีวิตแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน คนหนึ่งใบหน้างดงามโดดเด่นเป็นที่ปรารถนาของผู้คน อีกคนใบหน้าสามัญและยังมีชะตากาลกิณีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ชีวิตของทั้งคู่จะดำเนินไปในทิศทางใด อ่านเรื่องราวของพวกเธอได้ในเว็บไซต์อ่านเอา anowl.co และเพจ anowldotco

คุณหุ่นได้ไข้อยู่ห้าราตรีอาการก็ทุเลา หากแต่ยามที่นางสายกลับเรือนมาพ่อลูกชายตัวดีกลับมีสีหน้าไม่พอใจ จนคนเป็นแม่อดที่จะฟาดมือลงบนต้นแขนอย่างหมั่นไส้มิได้

“แม่กลับเรือนมามิเพียงไม่เอ่ยถามความ ยังทำหน้าราวกับมิใคร่ให้กลับมันน่าตีนัก”

“มิใช่ว่าแม่ตีฉันไปแล้วหรือจ๊ะ”

“พ่อปราบ!”

นางสายยกมือจะตีคนอีกระลอก ทว่าแก้วกลับยกขันน้ำฝนเข้ามาขัดอย่างเอาใจเสียก่อน คนเป็นแม่จึงทำเพียงมองค้อนพ่อลูกชายตัวดีที่ขยับตัวมาแนบชิดแม่แก้วอย่างมิอายสายตาใคร

“เป็นอย่างไรบ้างแม่แก้ว อยู่เรือนถูกคนพาลรังแกเอาหรือไม่”

รังแก เมื่อได้ยินคำนี้สองแก้มของแก้วก็ร้อนผ่าว ห้าวันที่ผ่านมานี้นี่นับเป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกจากหอนอนมาทำกิจอื่นนอกเหนือจากรับอาหารแลอาบน้ำปลดทุกข์ ดวงตากลมช้อนมองไปยังคนตัวโตที่กลายเป็นคนพาลแล้วเม้มริมฝีปากเล็กอย่างเขินอาย หลบสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเขา

“ฉันแสดงความรักต่อเมีย จะเรียกว่ารังแกได้เยี่ยงไรกัน หรือว่าแม่มิอยากได้หลาน”

ดวงตาของแก้วพลันเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกเขินอาย ก่อนหลบหลีกสายตาผู้ใหญ่เดินเข้าหอนอน ปราบเห็นเมียรักเดินเข้าห้องก็เร่งลุกขึ้นเดินตามไปในทันที นางสายมองหนุ่มสาวที่ทำตัวราวกับข้าวใหม่ปลามันทั้งที่อยู่ร่วมเรือนกันมาเกือบปีแล้วส่ายหัวไปมา ก่อนจะลงเรือนไปดูผลหมากรากไม้ในสวนด้านหลัง

 

ในขณะที่เรือนของนางสายนั้นอบอวลไปด้วยความรักอันแสนอ่อนหวาน เรือนของหลวงโยธาธิบาลก็ร้อนรุ่มดังมีไฟแผดเผา ผกากรองที่ถือว่าตนเป็นคนโปรดยามลับหลังหลวงโยธาธิบาลก็วางท่าใหญ่โตราวกับตนเองเป็นเมียกลางเมือง สร้างความขัดเคืองใจให้คุณพริ้มเป็นอย่างยิ่ง

“คุณพริ้มเจ้าคะ ประเดี๋ยวนี้อีผกากรองมันกำเริบจนแทบไม่เห็นหัวคุณแล้วนะเจ้าคะ คุณจักยอมให้เป็นเยี่ยงนี้หรือเจ้าคะ”

คุณพริ้มกำมือแน่น แม้บนเรือนเธอจะมีอำนาจทว่าก็ยังเป็นรองหลวงโยธาธิบาล เพราะเหตุนี้ทาสเช่นผกากรองจึงได้กล้ากำเริบตีตัวเสมอตน

“กูไม่ยอมแล้วมึงจะให้ทำเยี่ยงไร คุณหลวงท่านโปรดของท่านนัก กูแตะนิดแตะหน่อยหาได้ไม่”

หัวอกคนเป็นเมียกลางเมืองเจ็บปวดเหลือคณาเมื่อนึกถึงภาพในวันวานที่ถูกคนเป็นผัวกระทำอย่างไม่ไว้หน้า

“แต่บ่าวคิดว่ามีวิธีหนึ่งเจ้าค่ะ ที่จะจัดการอีผกากรองมันได้”

“วิธีใดของมึง”

ขวัญ ทาสสาวที่เคยถูกโบยตีจนล้มป่วยเป็นแรมเดือนเพราะผกากรอง ขยับมาประชิดคุณพริ้มแล้วเอ่ยเสียงเบา

“ตอนกลางดึกบ่าวมักเห็นไอ้ทวนมันมาหลบๆ ซ่อนๆ ที่พงหญ้าฝั่งหน้าต่างหอนอนคุณหลวงเจ้าค่ะ”

“ไอ้ทวนมันเป็นคนสนิทคุณหลวง จะมาเฝ้าระวังข้างหอนอนก็มิเห็นแปลกกระไร”

“แปลกตรงที่อีผกากรองมันชอบมาเปลือยกายที่ริมหน้าต่างหอนอนคุณหลวงอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

“เปลือยกาย!”

คุณพริ้มยกมือทาบอกอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะตรึกตรองคิดแผนการบางอย่างได้

“มึงไปรายงานคุณหลวงว่าช่วงนี้กูฝันร้ายบ่อยๆ พระท่านให้หาบ่าวชายที่มีชื่อเป็นอาวุธมาเฝ้าหน้าหอนอน”

“เจ้าค่ะ”

ผกากรองได้ยินว่าทวนถูกคุณพริ้มเอาตัวไปเฝ้าหน้าหอนอนตามคำทำนายของพระก็ขบกรามแน่น กวาดตามองทั่วทั้งเรือนหลวงโยธาธิบาลบ่าวชายที่มีรูปร่างชวนมองก็มีเพียงนายทวน คุณพริ้มที่แห้งเหี่ยวเพราะคุณหลวงไม่สนใจคงต้องการหาคนไปเติมรสรักให้เป็นแน่

ทำตัวสูงส่ง ยกตนว่าเป็นบุตรีขุนนาง ที่ไหนได้ก็ร่านไม่เลือกเหมือนกัน

ริมฝีปากแดงสดยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างเย้ยหยัน เรื่องรสสวาทยากนักที่ใครจะต้านทานไหว เพียงแต่ทวนเป็นทาสชายที่เธอหมายตาเอาไว้จะยอมให้ถูกแย่งชิงไปง่ายๆ เยี่ยงนี้ได้อย่างไรกัน

“คืนนี้ข้ามีงานราชการต้องไปเจรจาที่เรือนพระยาสมบัติยาธิบาล แลอาจจะค้างคืนเสียที่เรือนท่าน คุณพริ้มมิต้องรอรับมื้อเย็น”

“เจ้าค่ะ”

ริมฝีปากของคุณพริ้มยกขึ้นยิ้มอย่างพึงพอใจ หันไปส่งสายตากับบ่าวคนสนิท ก่อนจะปรายมองไปยังทาสสาวที่นั่งบีบนวดให้หลวงโยธาธิบาล หึ!…ในที่สุดแผนการที่เตรียมไว้ก็จะได้ลงมือเสียที



Don`t copy text!