ชมา 5 ชีวิต บทที่ 15.1 : จับตาจับตาย

ชมา 5 ชีวิต บทที่ 15.1 : จับตาจับตาย

โดย : คีตาญชลี แสงสังข์

Loading

ชมา 5 ชีวิต เรื่องราวของลูกแมวขาวดำทักซิโด้ที่ได้ไปเจอเจ้าของในชาติที่แล้วและชาติที่สอง รวมถึงชาติที่หนึ่ง แถมยังพบว่าแขกที่มาเที่ยวฟาร์มเสตย์ก็ดันเป็นเจ้าของตัวมันในชาติที่สาม! ชมารู้ทันที่ว่าเรื่องไม่ธรรมดากำลังจะเกิดขึ้น! พบกับนวนิยายเรื่อง ชมา 5 ชีวิต โดย คีตาญชลี แสงสังข์ ที่อ่านเอานำมาให้ทุกคนได้อ่านใน anowl.co

ผมรู้ว่าเป้จับตาดูโอ แต่เมื่อไม่มีเบญจมินทร์ให้โอได้แสดงพิรุธ ทุกอย่างจึงไม่มีอะไรผิดปกติ โอยังยิ้มแย้มแจ่มใส บริการทั้งแขกที่เข้าพักและให้ความช่วยเหลือทุกคนในฟาร์มที่ต้องการเธอ

ส่วนโตนั้นเขาทำทุกวิธีที่จะเอาชนะใจโออย่างที่เคยลั่นปากบอกเป้ไว้ ดังนั้นเป้จึงเห็นการกระทำเฉิ่มๆ อย่างเช่นการแวะเด็ดดอกหญ้าข้างทางก่อนกลับบ้าน แอบมองเมียตัวเองตาแป๋ว และปลื้มอย่างออกหน้าออกตาเวลาที่โอตักอาหารให้

คนเราหนอ…พอรู้สึกว่าของสิ่งนั้นไม่ใช่ของเราก็ดิ้นรนไขว้คว้า แต่พอได้มาแล้วก็มักจะหลงลืม

สิ่งที่โอทำให้โตไม่ได้ต่างจากก่อนหน้าที่โอจะความจำเสื่อม แต่โตกลับหน้าบานกว่า ปลื้มกว่า ทั้งๆ ที่มันก็คือการกระทำเดียวกันจากคนคนเดียวกันนั่นแหละ

“เป็นไงๆ” โตยื่นดอกไม้กำหนึ่งส่งให้เป้ดู มันเป็นดอกหญ้าสีขาวเกสรสีเหลือง ดอกกระจุ๋มกระจิ๋ม

เวลานั้นพวกเขาเสร็จงานและกำลังชวนกันเดินกลับอาคารส่วนกลาง ระหว่างทางเดินมีหญ้าขึ้น ระหว่างต้นหญ้าก็มีดอกไม้เล็กๆ หลายชนิดแทรกอยู่ในนั้น

“นี่น่ะเรียกว่าต้นปืนนกไส้ มีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง แก้ไอ แก้ท้องร่วง แก้จุกเสียด ใช้ห้ามเลือดแบบต้นสาบเสือก็ได้ แถมยังช่วยจีบผู้หญิงได้ด้วยนะโว้ย” โตคุยโว

“สวยดีครับ” เป้ตอบ มองดอกไม้ในมือโตเลื่อนลอย ผมว่าเป้ไม่มั่นใจว่ามันจะใช้จีบผู้หญิงได้ดีกว่าเจ้าของนิ้วยาวเรียวและเสียงสุภาพของหมอต่อมไร้ท่อไปได้หรอก

“อาเก็บเอาไปทุกวัน เดี๋ยวคอยดูนะ อาโอจะรีบเอาไปใส่แจกันเลย”

“อาโอชอบดอกไม้อยู่แล้วนี่ครับ” เป้ออกความเห็น โตมองด้วยสายตาแบบหนึ่ง แล้วส่งเสียงจิ๊จ๊ะเหมือนอยากจะจัดการคนที่มาขัดคอ

“มันเกี่ยวกับคนที่ให้ดอกไม้ด้วยโว้ย…” โตว่า แล้วเปลี่ยนเรื่อง “อ้อ…เดี๋ยวปีใหม่อาว่าจะจ้างเขามาจุดพลุให้แขกในฟาร์มดู คุยกับบุญรอเอาไว้แล้วว่าจะจัดงานออกร้าน ให้คนงานเอาของมาขายแล้วเปิดให้ชาวบ้านแถวนี้มาเที่ยว เป็นตลาดนัดกลางคืนเล็กๆ บรรยากาศสบายๆ จะติดไฟประดับให้วิบวับไปให้ทั่วเลย โรแมนติกแบบนั้น โอคงชอบ” เขายักคิ้วอย่างมีความหมาย ตอนนั้นเองที่ต้นกล้าซึ่งเพิ่งกลับจากโรงเรียนวิ่งเข้ามาสมทบ

“แล้วงานคริสต์มาสอีฟไม่จัดหรือครับ” เป้ถาม แน่นอนว่าเขามีเจตนาแอบแฝง ต้นกล้ามองโตอย่างลุ้นระทึก แต่โตซึ่งไม่เคยรู้อะไรเลยก็ยังคงไม่รู้ เขาพูดขึ้นว่า “เยอะไปๆ” ถึงแม้ต้นกล้าจะเสริมว่า งานคริสต์มาสอีฟเป็นงานที่น่าสนุกแต่โตก็ยังคงไม่เห็นด้วย

“เราคนไทย เอาแค่ปีใหม่ก็พอ อีกอย่างโอก็มีงานเลี้ยงรุ่นด้วย” คราวนี้ไม่มีใครกล้าเถียง

“วันไหนหรือครับ” เป้ถามทั้งๆ ที่รู้

“จำไม่ได้แฮะ ปลายๆ เดือนนี่แหละ”

“อาโตไปด้วยไหมครับ”

“ต้องไปสิ อาไปทุกปี ไปส่งเค้าเฉยๆ แล้วไปรอรับ ไม่ได้เข้างานหรอกอยากให้โอไปสนุกกับเพื่อนๆ ไม่ต้องคอยพะวงกับอา” โตพูดเรื่อยๆ ตายังจดจ้องอยู่กับดอกไม้ในมือ เป้หันไปสบตากับต้นกล้า แม้ไม่มีคำพูดหรือปฏิกิริยาใดๆ แต่ดวงตาของทั้งคู่ก็เคลื่อนไหวราวกับกำลังพูดคุยกัน

ระหว่างความเงียบที่ไม่เงียบ ในที่สุดโตก็พูดขึ้น “…อ้า เสร็จแล้ว”

โตอวดช่อดอกไม้ที่เขาเอาต้นหญ้ารัดเป็นกำเอาไว้ เป้และต้นกล้ายิ้มเฝื่อน ซึ่งโตที่สมาธิอยู่ที่ดอกปืนนกไส้ของเขาก็ไม่รับรู้สิ่งใดอยู่ดี

ใจของเขาอยู่ที่ดอกไม้ในมือ และคงลอยไปถึงสีหน้าดีใจของโอเมื่อได้รับดอกไม้ช่อนี้

 

เมื่อกลับไปถึงอาคารส่วนกลางโตก็ยื่นช่อดอกไม้ให้โอ และเป็นไปตามที่คิด โอบอกขอบคุณแล้วรีบเอาไปใส่แจกันใบเล็ก โตหันมายักคิ้วให้เป้ ทำนองว่า –เป็นไปตามที่พูดไหมล่ะ เป้ยิ้มหน้าแห้ง มองโตด้วยสีหน้าเหมือนผู้ใหญ่มองเด็กน้อย ทั้งๆ ที่โตนั้นอายุเป็นพ่อของเป้ได้ด้วยซ้ำ

แต่เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวกับอายุ ในวัยที่บางคนร่วงโรย โตไม่เคยสูญเสียความบริสุทธิ์สดใส เมื่อก่อนผมมองว่าเป็นข้อดีของการมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยแน่ใจเสียแล้ว

ความระแวงนั้นอาจะทำให้เรามองโลกในแง่ร้าย แต่มันก็ช่วยให้เราไม่ประมาทและรอบคอบขึ้น ซึ่งโตไม่มีคุณสมบัติข้อนี้อยู่ในตัวเลย

“รับของว่างเลยนะคะ” โอหันมาถาม โตพยักหน้ารับเหมือนเด็ก โอจึงร้องเรียกแอนให้ยกของว่างมาเสิร์ฟ

พวกเขานั่งลงบนโต๊ะยาวกินขนมกลีบลำดวนกับชาร้อน ซึ่งเข้ากับบรรยากาศหน้าหนาวจนผมนึกอยากชิมบ้าง

ระหว่างมื้อย่อยๆ ของพวกเขา โอซึ่งดูแลโตด้วยท่าทีเอาอกเอาใจ ก็เริ่มเกริ่นเรื่องงานเลี้ยงรุ่น ตอนนี้เองที่ผมเห็นเป้และต้นกล้านิ่งและออกอาการเครียด

“วันที่ยี่สิบสี่เหรอ ใช่เหรอ” โตว่า ซดชาร้อนเสียงดัง

“ใช่สิคะ โอก็บอกพี่โตไปแล้ว”

“บอกแล้วเหรอ พี่คงจะยุ่งเรื่องงานที่จะจัด เลยลืมไปเลย วันที่ยี่สิบสี่ทางอำเภอจะเข้ามาชุดใหญ่ อย่างนี้พี่ก็ไม่ได้ไปส่งโอในเมืองน่ะสิ”

“บุญรอไงคะ ไปส่งแล้วก็กลับได้เลย โอจะออกเช้าหน่อย ไม่ต้องรอรับเดี๋ยวโอกลับเองเพราะว่า…” โอเว้นจังหวะหายใจ “เพื่อนๆ ไม่ได้เจอกันนาน พวกเราเลยนัดกันว่าจะกินเลี้ยงแล้วนอนค้างคืนกันเลย จะได้ดื่มได้เต็มที่”

“ค้างเลยเหรอ” โตมีสีหน้าประหลาดใจ ดีเหมือนกัน หัดระแวงเสียบ้าง…

“คงสนุกกันน่าดู เสียดายจังน่าจะเป็นวันอื่น” แล้วเขาก็ว่าซื่อๆ ออกมา ต้นกล้าถึงกับเป่าปาก คงจะลุ้นแต่ลุ้นไม่ขึ้น

“โธ่…ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่โตทำงานให้เต็มที่เถอะค่ะ ไม่ต้องห่วง หรือระแวงอะไรนะคะ ค้างคืนเดียวเอง”

“จ้า…ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง” โตส่งเสียงเอาใจ ตกหลุมการดักคอของโอชนิดใครก็ช่วยอะไรไม่ได้

ผมลอบมองปฏิกิริยาของเป้กับต้นกล้า

สองคนนั่นมองหน้ากันอีกแล้ว แต่ไม่มีใครช่วยอะไรโตได้

 

 



Don`t copy text!