พลิกรักทำนายใจ บทที่ 17.1 : ความรักครั้งใหม่ของดวงศิริ

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 17.1 : ความรักครั้งใหม่ของดวงศิริ

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

เป็นอีกครั้งที่เรื่องเดิมเกิดซ้ำๆ มีคนเข้ามาในโลกอันสดใสของดวงศิริ และเขา…ภูริสได้แต่มองและเป็นห่วงอยู่ห่างๆ ศิระแชตมาสมน้ำหน้าเขาทันทีที่เห็นรูปคู่ของดวงศิริกับเทพทัตในเฟซบุ๊กของหญิงสาว ซ้ำเติมจนหนำใจแล้วค่อยปลอบ ชวนเขาไปทำงานที่ออสเตรเลียเช่นเคย

ภูริสตอบปฏิเสธไป แล้วถมความเจ็บช้ำอ่อนแอในใจด้วยการโหมงานหนัก กล่องลังงานซ่อมเอฟเฟกต์และอุปกรณ์ดนตรีที่กองหน้าห้องทำงานเริ่มลดและหมดไปด้วยฝีมือซ่อมรวดแบบลืมเวลา

แต่มีอีกงานหนึ่งที่ปลอบใจว่าเขาไม่ได้ถูกโลกใบนี้มองข้ามไปซะหมด สี่ทุ่มวันจันทร์ พุธ และศุกร์ จะมีเสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มสดใส

คุณมายด์ นักเรียนคลาสกีตาร์เบื้องต้นของเขานั่นเอง

ยามช่วยจัดเรียงนิ้วเธอบนคอกีตาร์โปร่ง เขาถามขึ้นว่า

“เจ็บนิ้วใช่ไหม”

“เจ็บแต่ทนได้ค่ะ” มนชิดายิ้ม ดวงตาสวยมีแววสงสัย “พี่ภูมองแบบนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ”

ความสนิทสนมที่มากขึ้นได้เปลี่ยนสรรพนามระหว่างกันไปโดยปริยาย

“เปล่า พี่แค่สงสัยว่าทำไมมายด์ถึงมานั่งเรียนกีตาร์อยู่กับพี่ได้ ตลกไหม”

เขาขยับออกห่างเล็กน้อย มองนักเรียนสาวที่กลายมาเป็นน้องสาวอีกคนเต็มสายตา

“ทั้งที่มีงานประจำ เลิกงานแล้วไปไลฟ์ขายเสื้อผ้าต่ออีก เหลือเวลาพักผ่อนน้อยมากเลยนะ ทำไมถึงยังมาเรียนกีตาร์ล่ะทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเลย”

มนชิดาพักมือ เกาะกอดกีตาร์โปร่งไว้หลวมๆ

“มายด์เป็นพวกตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ค่ะ ตอนนี้อยากเล่นกีตาร์เป็น ต้องกลับดึกหน่อย พักผ่อนน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร แค่นี้สบายมาก”

“เราดูลุยกว่าที่พี่คิดไว้เยอะเลยนะ”

หญิงสาวลูบแขนไปมาไร้ความหมาย

“หลังจากพ่อกับแม่แยกทางกัน ไม่มีธุรกิจครอบครัวแล้วก็ต้องทำงานเก็บเงินเองค่ะ ที่มายด์ได้ไปเรียนที่อิตาลีก็เพราะชิงทุนมานะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีวันนี้เพราะขยันอดออมเอาเอง จริงอยู่ว่าพื้นฐานบ้านเดิมของมายด์มีฐานะดี แต่ถ้าเราไม่หาเติมส่วนที่พร่อง วันหนึ่งมันก็หมดได้ งานออกแบบเป็นงานที่มายด์รัก ส่วนไลฟ์ขายเสื้อผ้ามายด์ถือว่าได้ช่วยเจ๊เป้ปั้นเพจ ได้ประสบการณ์ มีรายได้เสริมด้วย ส่วนกีตาร์…”

นิ้วบอบบางที่มีรอยกดเป็นเส้นแดงลูบไล้กีตาร์เบาๆ

“มายด์สนใจเองค่ะ”

ภูริสยิ้มให้ ทั้งปลอบใจและชื่นใจ

“มายด์เป็นคนทัศนคติดีนะ พี่ไม่ค่อยเจอใครเข้มแข็งแบบนี้”

“ไม่ดูน่าสงสารเหรอคะ เป็นคุณหนูตกอับ ดิ้นรนเองทุกอย่างเลย”

“ไม่เลยครับ พี่ชื่นชม”

มนชิดาสบสายตาอบอุ่นอ่อนโยนของคุณครู ครู่หนึ่งก็หลบตา ทำทีเป็นซ้อมกีตาร์ต่ออย่างขยันขันแข็ง แท้จริงแล้วเพราะหัวใจเจ้ากรรมสั่นรัวจนจะคุมไม่อยู่ต่างหาก

ภูริสเป็นเหมือนบทเพลงของเขา อบอุ่นและมั่นคง เป็นความอุ่นใจว่าบนโลกนี้ยังมีใครยืนอยู่เคียงข้าง เชื่อมั่นในสิ่งที่เธอเชื่อ นั่นคือความเป็นตัวเธอ

 

ในคลาสเรียนกีตาร์เบื้องต้นภาคดึกนั้น สอนเป็นส่วนน้อย ซ้อมเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนที่มากสุดกลับเป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติ

ภูริสพบว่ามนชิดามีหลายอย่างคล้ายกับเขา ทั้งบ้านเกิดเป็นคนชุมพรเหมือนกัน รักสุขภาพเหมือนกัน ประทับใจที่สุดคงเป็นเรื่องที่เธอมุ่งมั่นทำสิ่งที่รักจนสำเร็จ สร้างตัวขึ้นมาด้วยสองมือ ไม่หวังพึ่งพาโชคชะตา ฤกษ์ยาม หรือกระทั่งทุนทรัพย์จากครอบครัวเดิมเหมือนกันกับเขา

จากที่เจอกันสามวันต่อสัปดาห์ในคลาสเรียน ทั้งสองเริ่มนัดกันในวันหยุดไปดูนิทรรศการศิลปะในหอศิลป์ ดูรูปภาพสวยๆ อาร์ตๆ แล้วแลกเปลี่ยนมุมมอง วิเคราะห์วิจารณ์งานศิลป์กัน ภูริสชวนไปฟังดนตรีสดบ้าง วงอินดี้ต่างๆ รวมทั้งวงแหวนดาวเสาร์ มนชิดาปล่อยอารมณ์รื่นเริง และไม่ลืมทวงที่เขาเคยบอกว่าจะเปิดช่องลงคลิปงานเพลงของตัวเองด้วย

ชายหนุ่มถึงคราวต้องสารภาพว่า

“ตอนแรกพี่ไม่ได้ตั้งใจจะเปิดช่องเลย เพราะมายด์มาถามนั่นแหละพี่ถึงเริ่มคิด…หน่อยๆ”

แววตาปลื้มปริ่มเปี่ยมความหวังของมนชิดาในคืนนั้น กี่วันผันผ่านก็ไม่ลบเลือน

หญิงสาวหัวเราะคิก ยุกยิกเหมือนเด็กหญิง

“ถ้างั้นมายด์จะถามอีกบ่อยๆ เลย ถามจนกว่าพี่ภูจะมีร้อยคลิปกับยอดซับสักสามหมื่น ดีไหมคะ”

คนที่กำลังจิบเบียร์กระแอมไอ

“เอาให้พี่ได้ชื่อช่องก่อนแล้วกันนะ”

 

ทั้งสองไปเที่ยววัดอารามหลวง ไหว้พระทำบุญกันด้วย ภูริสถามว่าหญิงสาวมีความเชื่ออย่างไรในเรื่องการขอพรหรืออธิษฐานหลังทำบุญ มนชิดาตอบว่า

“มายด์ขอให้เงินของมายด์ได้สร้างประโยชน์แก่ผู้อื่นค่ะ ส่วนขอพรหลวงพ่อ มายด์ขอให้มายด์เข้มแข็ง ทำงานสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ ขอให้มีสติ มีความคิดตั้งมั่นในสิ่งที่ถูกที่ควร ไม่เชิงขอหลวงพ่อหรอกค่ะ เรียกว่าสัญญามากกว่า สัญญากับหลวงพ่อและกับตัวเองด้วยค่ะ”

ภูริสยิ้มอย่างชื่นชม ไม่แปลกใจเลยที่เธอเป็นคนเข้มแข็งสง่างามอย่างที่เขารู้จักมากขึ้นทุกวัน

พอคุยถึงว่า เขาเคยอยู่ชมรมทำอาหารขนม และเป็นศิษย์เก่าสถาบันสอนทำอาหารที่ใครๆ ก็คุ้นชื่อ มนชิดาก็ตื่นเต้นเพราะไม่เคยเจอผู้ชายชอบทำอาหาร จากนั้นก็พาเขา ‘ตระเวน’ กินของอร่อยรอบเมืองกรุง

ข้าวต้มปลาและลวกจิ้มทะเลร้านเก่าแก่ ข้าวมันไก่สูตรไหหลำที่สืบทอดจากรุ่นย่าสู่รุ่นหลาน ร้านของเชฟคนดังที่เป็นกรรมการในรายการวาไรตี้แข่งขันทำอาหารทางทีวี ร้านของเชฟผู้เข้าแข่งขันที่ชนะเลิศรายการวาไรตี้นั้น มากมายหลายร้านที่มนชิดาชวนไป ทั้งอร่อยและมีเรื่องราว

ภูริสตื่นเต้นและเพลิดเพลินเมื่อได้ร่วมกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนใหม่ แม้ว่าบางทีจะอดนึกถึงดวงศิริไม่ได้ เจ้าตัวแสบพอรู้ว่าเขาชอบทำอาหารก็ส่งตาแป๋วออดอ้อนให้ทำของอร่อยให้กิน ต่างกับผู้หญิงสาวสวยเก่งตรงหน้า เธอรู้ว่าเขาชอบอะไรก็พาไปเปิดหูเปิดตาในสิ่งนั้น

เขาได้ไอเดียดัดแปลงเมนูอาหารมากมาย ตั้งใจว่าจะฝึกทำให้ดวงศิริชิม

แต่ระยะหลังรุ่นน้องสาวตัวติดกับหลานชายประธานบริษัทจนไม่มาที่บ้านเขาแล้ว คงได้กินอาหารชั้นเลิศกว่าที่เขากำลังกินอยู่นี่อีก มนชิดาตักชิ้นสเต๊กเนื้อปรุงสูตรผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นกับเปรูมาใส่จานเขา ชายหนุ่มจึงกลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ

บางทีเมนูที่เขาตั้งใจจะฝึกทำ อาจชวนให้มนชิดาลองชิมแทน ตอบแทนที่เธอดีกับครูคนนี้มากมาย

 



Don`t copy text!